World domination system – ตอนที่ 156
156 กำหนดเป้าหมายไปที่เอลดินอร์
1 เดือนต่อมา
พวกเอลฟ์และมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนถนนซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของเสียงแห่งเอลดินอร์ เกือบจะไม่ได้นอนเลยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา
เสียงดังอึกทึก สามารถจะได้ยินหลายในเวลากลางคืน ซึ่งมันได้ปลุกทุกคนจากการหลับนอน และทำให้พวกเขาโมโหอย่างถึงที่สุด เพราะพวกเขาไม่รู้ว่ามันมาจากไหน
ไม่สามารถจะทนมันได้อีกต่อไป พวกเขาตัดสินใจรวมตัวกันและฟ้องร้องไปที่องครักษ์เมือง
อย่างน่าประหลาด คืนหลังจากที่พวกเขาตัดสินใจทำเช่นนั้น เสียงดังกล่าวได้หยุดลงโดยสมบูรณ์
โดยที่คนเดินผ่านไปผ่านมารอบๆไม่รู้อะไร สำนักงานทรุดโทรมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่รู้จักในนาม ศูนย์ข่าวสารแห่งเอลดินอร์ ได้มีการติดตั้งเครื่องประดับเวทมนต์ลับซึ่งทำหน้าที่เป็นกลไกแจ้งเตือนผู้บุกรุกขึ้นที่รอบๆอาคาร
หากมีใครเข้ามาด้านในในตอนนี้ พวกมันจะต้องตกตะลึงเมื่อพบว่า โต๊ะและเก้าอี้ที่เคยเต็มไปด้วยฝุ่น ไม่มีอยู่ที่นี่อีกแล้ว พวกมันถูกแทนที่ด้วยความเรียบร้อย และกลายเป็นห้องว่างเปล่า
แหล่งที่มาของเสียงที่รบกวนผู้คนที่อยู่รอบๆ จริงๆแล้วมันการติดตั้งเป็นประตูกลลับไว้บนพื้นของสำนักงานหลัก
ชายที่มาพร้อมกับข้อมูลทั้งแอนแกเรีย ได้ออกเงินทุนใต้ดินให้แก่เสียงแห่งเอลดินอร์ เนื่องจากการเลือกตั้งใกล้จะมาถึง พวกเขาจึงเลือกที่จะทำอย่างลับๆ เพราะการอนุมัติจำเป็นจะต้องใช้เวลานาน แล้วมันยังจะมีการตั้งคำถามถึงที่มาของเงินทุน ซึ่งพวกเขาไม่ยินดีที่จะตอบอีกด้วย
แม้มันจะได้รับการดำเนินการเป็นอย่างดี และพยายามทำให้เงียบที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ แต่บางครั้ง เสียงก็ยังคงเล็ดลอดออกไป ซึ่งมันได้ก่อปัญหาให้คนที่อยู่รอบๆ หากมีการสืบสวนอย่างเป็นทางการ พวกเขาคงจะถูกพบอย่างแน่นอน
โชคดีที่งานสำเร็จก่อนที่สิ่งนั้นจะเกิดขึ้น
ใต้ประตูกลเป็นห้องขนาดใหญ่ ซึ่งมีกระดาษราว 500 แผ่น ซ้อนทับอยู่ในมุมหนึ่งของห้อง
อีกมุมหนึ่งตั้งอยู่ด้วยสิ่งของที่แปลกประหลาด มันเป็นกล่องสีดำขนาดครึ่งตัวคน ที่ดูเหมือนจะสั่นเล็กน้อยด้วยจังหวะที่ไม่ซ้ำกัน
ชาย 2 คน ยืนอยู่ที่กลางห้อง กำลังพูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งในแผงหน้าจอที่เพิ่งจะถูกติดตั้ง
“เครือข่ายแห่งแอนแกเรียมุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับเสียงแห่งเอลดินอร์ พวกเราได้ทำทุกอย่างตามที่ตกลงกันแล้ว และพวกเราหวังว่า จะได้รับลัพธ์จากมัน”
เมื่อการเชื่อมต่อถูกตัดออก เจ้าของเดิมของเสียงแห่งเอลดินอร์ ที่เคยหมกมุ่นอยู่กับการสมเพชตัวเอง จนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน เขาได้กระโดดขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความดีใจ และพยายามกอดชายที่ยืนอยู่ด้านข้างเขา
ในฐานะสายลับ โอลแฟกซ์มีบทบาทและชื่อหลากหลายในเอลฟาเวน ตอนนี้ เขาได้รับอัตลักษณ์ใหม่เป็นพ่อค้าผู้ร่ำรวย ที่รักในการลงทุนกับสิ่งที่เขารู้สึกว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
ในฐานะประเทศประชาธิปไตย ความสำคัญของการมีฟอรั่มที่สามารถจะใช้ดูเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกได้นั้น มันเป็นสิ่งที่สามารถจะเข้าใจได้
แม้ว่าจะมีสถานประกอบการข่าวใหม่ๆก่อตั้งขึ้นและล่มสลายลง แต่ก็ยังคงมี 3 แห่ง ที่สามารถยืนหยัดอยู่บนเอลดินอร์ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันได้
เสียงของเอลดินอร์ เป็นสถานประกอบการข่าวที่เคยยืนอยู่ท่ามกลางทั้งสาม ความพิเศษของมันก็คือ มันเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคนที่ติดตามข่าวซุบซิบนินทา
ขณะที่แดนีลได้ออกคำสั่งให้ค้นหาสถานประกอบการที่อาจจะถูกกดขี่ โอลแฟกซ์ก็ได้พิจารณาเลือกจาก 1 ใน 3 สถานประกอบการเหล่านั้นก่อน ด้วยทรัพยากรในมือ เขามีความมั่นใจว่า หากเขาได้รับเวลาอย่างเพียงพอ เขาจะสามารถแทรกซึมเข้าไปและดำเนินการตามคำสั่งที่เขาได้รับมาได้
น่าเศร้า เขาไม่มีเวลามากนัก
ดังนั้น เขาจึงต้องเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดในลำดับถัดไป ซึ่งก็คือ สถานประกอบการข่าวซุบซิบ ที่ล่มสลายเนื่องจากเรื่องอื้อฉาวที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน
ในเวลานั้น เนื้อข่าวที่เป็นเหตุผลในความรุ่งเรืองของเสียงแห่งเอลดินอร์ ได้กลายมาเป็นสาเหตุของการล่มสลายของมัน ซึ่งก็คือ ‘ราชินีเอลดารามีลูกสาว แต่นางเป็นสายเลือดของพระองค์หรือไม่?’
ข้อมูลนี้มาในเวลาที่เหมาะสม เพราะการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ และราชินีเอลดาราที่ปกครองราชอาณาจักรจนถึงตอนนั้นจะพ่ายแพ้
โดยคิดว่า นี่จะเป็นการตอกตะปูใส่ฝาโลง จึงได้มีการประโคมข่าวให้ดังที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผู้ก่อตั้งและผู้จัดการองค์กร บอนเดียร์ ได้เลือกที่จะเผยแพร่มัน แม้ว่าแหล่งข้อมูลจะยังไม่ได้รับการยืนยันก็ตาม
สิ่งที่ตาม เป็นเหตุการณ์ที่ยังคงสั่นคลอนบอนเดียร์มาจนถึงทุกวันนี้ ในตอนนั้น ราชินีเอลดาราได้ขึ้นเวลาพร้อมกับลูกสาวตัวน้อยของเธอ เอลดร้า เพื่อพิสูจน์ว่าเธอเป็นสายเลือดของตัวเอง เห็นได้ชัดว่า การทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่น่าอับอายอย่างมาก แม้ว่าเธอจะรู้เรื่องนี้ แต่ราชินีเอลดาราก็ยังคงกล่าวต่อไปว่า เธอทนไม่ได้กลับใครบางคนที่พยายามจะกลั่นแกล้งเธอและลูกสาวของเธอ
หลังจากนั้น ก็มีการแสดงหลักฐานว่า คู่แข่งหลักในการเลือกตั้งของเธอซึ่งถูกกำหนดให้เป็นผู้ชนะ ได้ส่งผ่านข้อมูลนี้ไปยังเสียงแห่งเอลดินอร์
ทั้งคู่แข่งของเธอและเสียงแห่งเอลดินอร์ ต่างก็ถูกประนามโดยประชาชน ในขณะที่เอลดาราได้นั่งบนบัลลังก์เนื่องจากความเห็นอกเห็นใจซึ่งส่งผลให้เธอชนะการเลือกตั้ง
แม้บอนเดียร์จะมีข้อสงสัยมากมาย แต่มันเป็นความจริงที่ว่า เขาได้เผยแพร่เรื่องนี้โดยไม่พยายามตรวจสอบมันให้แน่ชัดเสียก่อน ดังนั้น เขาจึงโทษตัวเอง และใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการดื่มและเสียใจกับอดีตในสำนักงานที่เขาซื้อมาในช่วงเวลาที่รุ่งเรือง
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในสำนักงานของเขา และได้โยนเชือกมาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ซึ่งมันได้ดึงเขาออกมาจากความทุกข์ยาก
สำหรับองค์กรข่าวใดๆ ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาก็คือ การได้รับข่าวสำหรับนำมารายงาน เนื่องจากพวกเขาเป็นเพียงองค์กรเอกชน พวกเขาจึงมีเงินทุนจำกัดและไม่สามารถใช้สายลับเพื่อค้นหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละราชอาณาจักร เหมือนอย่างแดนีลได้
นอกจากนี้ ยังมีกฎอย่างเป็นทางการว่า รัฐไม่สามารถจะลงทุนในองค์กรที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมดังกล่าวได้ ดังนั้น พื้นฐานสำคัญที่ทำให้องค์กรของพวกเขาล้มเหลวก็คือ การขาดแคลนแหล่งเงินทุนซึ่งมันทำให้พวกเขาไม่ได้รับข่าวที่เหมาะสม
ตอนนี้ ด้วยแหล่งข่าวและเงินทุนมหาศาล มันทำให้บอนเดียร์รู้ว่า ท้องฟ้าก็คือขีดจำกัดของเขา
เหนือสิ่งอื่นใด เขารู้สึกทึ่งกับกระดาษเหล่านี้ ซึ่งกล่าวได้ว่า มันเป็นการปฏิวัติการส่งข่าว
ดังนั้น NOA และเสียงแห่งเอลดินอร์ จึงได้ทำข้อตกลงกันร่วมกัน โดยที่ฝ่ายแรกจะมอบข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกให้ฝ่ายหลัง สำหรับเสียงแห่งเอลดินอร์ ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำก็คือ หันเหความสนใจไปยังข่าวที่NOAเลือกให้พวกเขาเผยแพร่ นอกจากนี้ พวกเขายังจะช่วยโฆษณา เครื่องประดับเวทมนต์วิทยุ ซึ่งเป็นของNOAอีกด้วย
หลังจากยืนแข็งทื่อรอให้บอนเดียร์ผละแขนออกจากการกอด โอลแฟกซ์ซึ่งในปัจจุบันใช้ชื่อว่า เอมมานูเอล ยิ้มออกมาก่อนจะกล่าวว่า “บอนเดียร์ ข้าบอกเจ้าแล้วว่าพวกเขาจะส่งมาให้ ตอนนี้ มันขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว ข้าต้องการจะเห็นเงินของข้าเพิ่มขึ้นมาเป็น 2 เท่า ไม่ ไม่ 3 เท่าไปเลย เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถจะทำได้หรือไม่?”
รอยยิ้มแห่งความคลั่งไคล้ปรากฎบนใบหน้าของบอนเดียร์ขณะที่เขาตอบว่า “แม้แต่ 10 เท่า ก็ไม่เป็นปัญหาใดๆ ในไม่ช้า ทั้งเอลดินอร์จะได้ฟังเสียงแห่งเอลดินอร์อีกครั้ง ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าอดทนรอที่จะหัวเราะเหล่าคนโง่เขลาที่เคยขับไล่ไสส่งข้าไม่ไหวแล้ว”
เห็นการแสดงออกบนใบหน้าของบอนเดียร์เป็นไปตามที่เขาคาดหวัง โอลแฟกซ์ก็รู้สึกปิติยินดีภายในหัวใจและคิดว่า เขาได้เลือกคนที่เหมาะสมอย่างแท้จริง
‘สายลับที่สมบูรณ์แบบ สามารถจะจัดการกับใครก็ได้โดยไม่คำนึงถึงสติปัญญาของพวกเขา’
แม้คำกล่าวนี้ของลูเธอร์ในระหว่างการฝึกอบรมจะเป็นเรื่องจริง แต่โอลแฟกซ์เรียนรู้ว่า มันง่ายที่สุดและปลอดภัยที่สุดในการกำหนดเป้าหมายไปยังคนอย่าง บอนเดียร์ ที่มีแรงจูงใจและเป้าหมายที่ชัดเจน
บอนเดียร์เป็นคนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความปรารถนาที่จะมีชื่อเสียงและเป็นเจ้าเหนือองค์กรข่าวสารขนาดใหญ่ทั้งสามที่เคยขับไล่เขาในก่อนหน้านี้ มันทำให้เขาตัดสินใจที่จะเผยแพร่ข่าวที่ได้รับมาโดยไม่ตรวจสอบใดๆ และเขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
ดังนั้น เขาจึงเป็นคนที่สามารถจะรั้งหรือผลักดันไปยังทิศทางใดก็ได้ตามที่โอลแฟกซ์ต้องการ
เดินออกไปจากสำนักงาน เขามุ่งหน้าไปยังท่อระบายน้ำหลังจากเปลี่ยนใบหน้าของเพื่อปฏิบัติการของเขาต่อ
เขาไม่รู้เลยว่า การสนทนาที่เขาจะบันทึกในวันนี้ จะเปลี่ยนชะตากรรมของเอลดินอร์ไปอย่างถาวร
คอมเม้นต์