World domination system – ตอนที่ 161
161 การนัดพบ ตอนที่ 1
หลังจากเข้าไปภายใน ชายชราก็ได้รับการต้อนรับจากกองอัญมณีเคอร์ที่ถูกวางอยู่บนพื้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
แทนที่จะเป็นหมอกสีขาวเหมือนดั่งภายในห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงานตามธรรมชาติของแดนีล ภายในห้องโถงนี้กลับเต็มไปด้วยหมอกสีแดงกึ่งโปร่งใส
แม้จะมีอัญมณีเคอร์ในห้องมากกว่า 100 เม็ดอยู่ตรงหน้า แต่ชายชราก็ยังคงถอนหายใจออกมา ก่อนที่เขาจะสั่นสะท้านและล้มลงกับพื้นในฉับพลัน
ขณะที่เป็นเช่นนั้น เขาก็หยิบอัญมณีเคอร์ขึ้นมาและดูดซับมัน หลังจากนั้นไม่กี่นาที เขาก็กลับมาเป็นปกติ
เขาขมวดเมื่อเห็นว่า อัญมณีเคอร์ในมือได้กลายเป็นฝุ่นผงไปแล้ว จากนั้น เขาก็นั่งลงและหยิบอีกเม็ดขึ้นมาแล้วเริ่มดูดซับต่อไป
หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ภายในห้องก็หลงเหลือเพียงฝุ่นผงเท่านั้น แม้แต่หมอกก็ดูเจือจางลง ราวกับมันจะสลายไปได้ทุกเมื่อ
ถอนหายใจออกมา เขาหยิบเครื่องประดับเวทมนต์ออกมาจากกระเป๋าและกล่าวว่า “ความเข้มข้นลดลงไปอีกแล้ว วิธีฟื้นฟูดินจะต้องถูกค้นพบในไม่ช้า ถึงตัวเอง : เพิ่มจำนวนสายลับที่สังเกตการณ์ในราชอาณาจักรแลนธานอร์”
หลังจากบันทึกข้อความแล้ว ชายชราก็นำมันกลับเข้าไปในกระเป๋า แล้วกลับออกไปหลังจากที่ล็อกห้องและประตูกลด้วยคาถาลับ
เดินไปยังห้องบัลลังก์ เขาภาวนาว่า ที่ราชาแห่งแลนธานอร์ยังไม่ทำอะไร มันเป็นเพราะเขายังไม่ค้นพบผลกระทบ
จับที่ร่างของตัวเอง เขาสาบแช่งคนที่สร้างบาดแผลนี้ให้แก่เขาเมื่อหลายร้อยปีก่อน และเขาได้มาหาสถานที่อย่างราชอาณาจักรกาดำเพื่อปักหลัก
ตอนนี้ ร่างของเขาเริ่มที่จะทรุดลง เขาจึงต้องการที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า ทุกสิ่งที่เขาสร้างขึ้นจะไม่ถูกทำลาย ไม่ว่าจะต้องสังเวยชีวิตผู้คนมากมายเพียงใดก็ตาม
………………………………………………………………………………
หลังจากพบกับชายคนนั้นแล้ว เอลดร้าก็กลับไปยังห้องของเธอพร้อมกับไตร่ตรองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้
ขณะที่เธอทำเช่นนั้น เธอก็ตระหนักได้ว่า เธอรู้สึกถึงบางสิ่งขณะที่ชายคนนั้นสะดุดล้มมาทางเธอ
เนื่องจากความรังเกียจกลิ่นอันน่าสยดสยองที่ฟุ้งออกมา เธอจึงไม่ได้ตระหนักถึงบางสิ่ง
ตรวจสอบกระเป๋าของเธอ หยิบกระดาษธรรมดาที่ถูกพับเอาไว้ออกมา
เปิดมัน ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่เขียนไว้ภายใน
‘การนัดพบจะเริ่มขึ้นในอีก 2 วัน นับจากที่ผู้ส่งสารบอกกับเจ้า หากเจ้าเป็นเหมือนพวกเรา ต้องการที่จะเปลี่ยนผู้นำ จงมาคนเดียว’
ในทันที เอลดร้าพับกระดาษแผ่นนี้อีกครั้งและใส่มันลงกระเป๋าของเธอ ก่อนจะตะโกนออกไปว่า “องครักษ์ จับกุมคนที่เพิ่งจะมาให้ข้อมูลในทันที ติดต่อองครักษ์ที่ไปพร้อมกับเขาเร็วเข้า”
ภายในพระราชวังของเอลดินอร์ องครักษ์จะประจำการอยู่ตลอดเวลา สำหรับมีกรณีฉุกเฉินใดๆเกิดขึ้น ได้ยินเสียงตะโกนของเธอ องครักษ์ที่อยู่ด้านนอกก็รีบใช้เครื่องประดับเวทมนต์ของเขา เพื่อติดต่อนายกององครักษ์ที่สามารถจะติดต่อได้ในทันที
รีบเดินไปยังองครักษ์นายนั้น เอลดร้ารอข่าวขณะที่เธอเคาะเท้ากับพื้น
ไม่กี่นาทีต่อมา การแสดงออกที่ซีดขาว ก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าขององครักษ์ ก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “ชายคนนั้น…หายไปในฝูงชน องครักษ์พยายามหาตัวเขาแล้ว แต่หาไม่พบ ท่านต้องการประกาศจับหรือไม่?”
ได้ยินคำตอบ เอลดร้าก็บ่นกับตัวเองอย่างหงุดหงิดที่ไม่สังเกตเห็นให้เร็วกว่านี้ หลังจากนั้น เธอก็ใคร่ครวญอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตอบกลับไปว่า “ ไม่ มันอาจจะเป็นแค่คนหิวเงินที่หลอกว่ามีข้อมูลมาขาย เห็นว่าพวกเราไม่จ่ายล่วงหน้า เขาจึงหนีไปทันที มันไม่คุ้มค่ากับความพยายามใดๆ”
ในความเป็นจริง สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งผิดปกติภายในพระราชวัง ดังนั้น องครักษ์จึงเพียงแค่พยักหน้าและกลับไปทำหน้าที่ของเขา
เดินกลับเข้ามาในห้อง เอลดร้าอดไม่ได้ที่จะหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาอ่านอีกครั้ง
การเปลี่ยนแปลงผู้นำ มันคืออะไรกัน?
ในขณะที่ความคิดของเธอกำลังแปรปรวน เธอก็ก้าวเดินไปจนถึงทางแยก ซึ่งเมื่อเงยหน้าขึ้น เธอตระหนักได้ว่าเธออยู่ที่ไหน
หากเธอเดินไปข้างหน้า เธอจะไปถึงห้องบัลลังก์ที่เธอสามารถจะบอกกับแม่ของเธอได้
หากเธอเดินไปทางขวา เธอก็จะกลับไปยังห้องของเธอและลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้
มองไปยังทิศทางทั้งสองด้วยการแสดงออกถึงความเจ็บปวดบนใบหน้า เอลดร้าพยายามตัดสินใจว่าจะเลือกเส้นทางไหน
เธอรู้ดีว่า เส้นทางที่เธอจะเลือกในครั้งนี้ มันจะตัดสินอนาคตของเธอ ดังนั้น เธอจึงจำเป็นจะต้องคิดอย่างหนักและเป็นเวลานาน ก่อนที่จะตัดสินใจ
……………………………………………………………………………..
ในเวลาเดียวกันนั้น ภายในห้องบัลลังก์ของราชอาณาจักรแลนธานอร์
ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีการประชุมหลายครั้งเกิดขึ้นภายในห้องโถงของราชา แดนีลจึงเหนื่อยหน่ายกับมัน เพราะเขาต้องใช้เวลาอยู่กับกำแพงจืดชืดเดิมๆเป็นเวลานาน ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจย้ายไปประชุมที่ห้องบัลลังก์ซึ่งว่างเปล่าอยู่เกือบจะตลอดเวลา
“ฝ่าบาท พวกเราได้รับข้อความจากโอลแฟกซ์ว่า การส่งข้อความสำเร็จแล้ว”
ครั้งนี้ มีเพียงเคลเลอร์เท่านั้นที่อยู่ในห้องกับเขา ลูเธอร์และโรเบิร์ตกำลังยุ่งอยู่กับการจัดการงานที่เขามอบให้กับพวกเขา และเขาก็ไม่ได้เรียกแฟกซัลมา เพราะเขารู้ว่า เขาไม่ได้ให้เวลาอย่างเพียงพอกับสหายของเขา ไม่ว่าอย่างไร นอกเหนือจากการทำงานแล้ว แฟกซัลก็ต้องการเวลาที่จะฝึกฝนด้วยเช่นกัน
แม้เขาจะมีความเร็วในการฝึกฝนเพิ่มขึ้นเนื่องจากเทคนิคการพัฒนาที่แดนีลมอบให้แก่เขา แต่ก็ยังคงมีความจำเป็นสำหรับเวลาในการฝึกฝนและใช้มัน
“ดี เคลเลอร์ ท่านและข้าจะเดินทางไปยังเอลดินอร์”
ได้ยินน้ำเสียงที่มั่นใจของราชา เคลเลอร์ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจในฉับพลัน
ราชาจะออกไปจากพระราชวังที่ปลอดภัย?
นอกจากความจริงที่ว่า สิ่งนี้มีความเสี่ยงในตัวเองแล้ว ไม่มีการรับประกันใดๆว่า เอลดร้าจะไม่ส่งข้อความถึงราชินี และจัดตั้งหน่วยซุ่มโจมตีใครก็ตามที่ต้องการนำการเปลี่ยนแปลงผู้ปกครองของเอลดินอร์
“ฝ..ฝ่าบาท มันคงจะไม่…”
“เคลเลอร์ ท่านจำวันนั้น ที่ท่านเข้ามาในห้องของข้าได้หรือไม่?”
เคลเลอร์รู้สึกประหลาดใจที่แดนีลได้ถามถึงในช่วงเวลานั้น ในความเป็นจริง เขารู้สึกตกตะลึงอย่างมากขณะที่เขารู้ว่า แดนีลสามารถใช้เทคนิคร่างโคลนได้ อย่างไรก็ตาม หลังจากวันนั้น เขากลับนิ่งเงียบและไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับมัน เพราะเขาคิดว่า อาจารย์ลึกลับที่อยู่เบื้องหลังแดนีลเป็นคนจัดการให้
“ดี เช่นนั้น ข้าจะใช้ร่างโคลนเข้าร่วมการนัดพบแทนตัวข้า และข้าต้องการจะให้ท่านช่วยปกป้องร่างดั้มเดิมของข้าในขณะที่การนัดพบดำเนินไป”
เคลเลอร์อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวของเขาเพื่อผละจากความคิดที่ว่า คนที่สามารถจะลอกเลียนคาถาระดับนักรบ และทำให้มันกลายเป็นคาถาระดับมนุษย์ผู้น่ายกย่องได้นั้น จะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากเพียงใด
………………………………………………………………………………
2 วันถัดมา ชาย 2 คน ได้นัดพบกับชายที่ได้รับความนิยมจากเหล่าองครักษ์ เนื่องจากเขาได้กระทำสิ่งที่เป็นการเสียสละ ซึ่งก็คือ การทำความสะอาดท่อระบายน้ำของพระราชวัง ในก่อนหน้านี้ แม้ว่าจะเคยมีการประกาศหาคนมาทำงานหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีใครเลยที่ต้องการจะทำงานนี้ ดังนั้น เหล่าทหารจึงต้องผลัดกันทำความสะอาดด้วยตัวเอง
ด้วยความนิยมนี้เอง มันจึงไม่มีปัญหาใดๆในการนำพาคนด้านนอกเข้าเมืองหลวง หลังจากที่บอกกับองครักษ์ว่า ทั้งสองเป็นคนในครอบครัวของเขา
ด้วยวิธีนี้ ราชาแห่งแลนธานอร์จึงได้เข้าสู่เอลฟาเวนโดยที่ไม่มีใครรู้ ซึ่งในขณะนั้น ราชินีแห่งเอลดินอร์อยู่ภายในพระราชวัง กำลังรอฟังข่าวที่จะผลักดันเธอให้ขึ้นไปอยู่เหนือคู่แข่งและรับประกันชัยชนะในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
แฟนเพจ : WDS แปลไทย
คอมเม้นต์