Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1325 ประมือกับนักบวชฝ่ายชางจิงกง

อ่านนิยายจีนเรื่อง Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร ตอนที่ 1325 ประมือกับนักบวชฝ่ายชางจิงกง อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

  หลิงหยุนไว้ชีวิตนักบวชเลี่ยยื่อมาจนถึงตอนนี้ก็เพื่อที่จะใช้เขาเป็นเครื่องมือเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับไป๋เซียนเอ๋อ และทำการแก้แค้นให้กับนางเท่านั้น
  อีกทั้งในคืนที่เกิดการต่อสู้ขึ้นที่เมืองจิงฉูครั้งนั้นหลิงหยุนเองก็เกือบจะต้องตาย อีกทั้งยังต้องเริ่มต้นฝึกฝนใหม่อยู่นาน เขาไม่เคยต้องเป็นฝ่ายสูญเสียมากเช่นนี้มาก่อน จึงตั้งใจจะชำระบัญชีแค้นครั้งนี้ให้จงได้!
  ตอนนี้เขาจัดการทวงคืนความยุติธรรมให้กับไป๋เซียนเอ๋อได้แล้วและได้ทำการตบหน้านักบวชฝ่ายชางจิงกงได้สำเร็จ อีกทั้งยังทำลายภาพลักษณ์ผู้มีคุณธรรมสูงส่งของนักบวชกลุ่มนี้จนสิ้น ทำให้พวกเขาถูกเหล่าชาวยุทธทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวเดียวดายกันตามลำพัง
  ในเมื่อเวลานี้หลิงหยุนบรรลุเป้าหมายที่ต้องการแล้วนักบวชเลี่ยยื่อจึงไม่จำเป็นสำหรับเขาอีกต่อไป หลิงหยุนจึงจัดการฆ่าทิ้งเสีย!
  หลังจากทำให้เหล่าชาวยุทธแยกตัวออกจากนักบวชฝ่ายชางจิงกงได้สำเร็จแล้วและเวลานี้หลิงหยุนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีเหล่าชาวยุทธคนใดยื่นมือเข้ามาช่วยพวกเขาอีกแล้ว อีกทั้งยังไม่ต้องการกังวลว่ายอดฝีมือที่เหลือจะกล้าหนีไปอีก หลิงหยุนจึงสั่งให้หวังชงเซียว และเหล่าแวมไพร์ทั้งห้าเข้ามารับมือ..
  และเมื่อเหล่านักบวชฝ่ายชางจิงกงเห็นนักบวชเลี่ยยื่อถูกหลิงหยุนสังหารตายไปต่อหน้าต่อตาแม้จะรู้สึกเจ็บปวดใจ แต่พวกเขาก็ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากนิ่งเงียบ
  พวกเขาจะไม่เจ็บปวดใจได้อย่างไรกันเล่าในเมื่อนักบวชเลี่ยยื่อนับเป็นนักหลอมโอสถ และเป็นผู้ปลุกเสกยันต์มือหนึ่งของฝ่ายชางจิงกงแห่งเขาหลงหู่ และหากสามารถกลั่นโอสถหยางพิสุทธิ์ได้สำเร็จแล้วล่ะก็ เหล่านักบวชฝ่ายชางจิงกงจะต้องก้าวหน้ากันอย่างพร้อมเพรียงเป็นแน่..
  การที่หลิงหยุนสังหารนักบวชเลี่ยยื่อย่อมเท่ากับเป็นการทำลายพรสวรรค์ของชางจิงกงทั้งหมดด้วย!
  เวลานี้หลิงหยุนต้องการถล่มนักบวชฝ่ายชางจิงกงให้สิ้นซากเพื่อเป็นการแก้แค้นให้กับไป๋เซียนเอ๋อและตัวเอง ในขณะที่นักบวชฝ่ายชางจิงกงก็ต้องการสังหารหลิงหยุนและไป๋เซียนเอ๋อเพื่อแก้แค้นให้กับนักบวชเลี่ยยื่อ และศิษย์น้องร่วมสำนักคนอื่นๆที่ต้องตายภายใต้น้ำมือของหลิงหยุนด้วย อีกทั้งยังต้องการแก้แค้นให้กับตระกูลซันและตระกูลเฉินแห่งปักกิ่งด้วยเช่นกัน
  ฟิ้ว..ฟิ้ว.. ฟิ้ว..
  ทันทีที่หลิงหยุนตัดสินใจที่จะลงมือกับเหล่านักบวชฝ่ายชางจิงกงกระบี่เหินเฟยเจี้ยนทั้งสิบสองเล่มก็พุ่งออกมาจากฝั่งของนักบวชเขาหลงหู่ และค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นพร้อมกันทันที
  ในขณะนั้น..นอกจากนักบวชทั้งสี่คนอย่างนักบวชเลี่ยหลง นักบวชเลี่ยหู่ นักบวชเลี่ยเหลย และนักบวชเลี่ยหยางแล้ว นักบวชอีกสิบสองคนที่อยู่ในขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับห้า ต่างก็พากันหยิบยันต์สีเงินขึ้นมาแปะไว้ที่หน้าผากของตนทันที!
  ในขณะเดียวกันนั้นเองหลิงหยุนก็พบว่ากระบี่เหินทั้งสิบสองเล่มที่พุ่งเข้าใส่เขานั้น เริ่มมีอาการสั่นอย่างรุนแรงขึ้นพร้อมกัน และทันทีที่แสงสีเงินสว่างวาบขึ้น ปลายของกระบี่แต่ละเล่มก็เคลื่อนเข้าเชื่อมต่อเข้ากับด้ามกระบี่อีกเล่มอย่างรวดเร็ว และค่อยๆกลายเป็นกระบี่เหินเฟยเจี้ยนที่ทั้งยาวและใหญ่ อีกทั้งยังมีแสงสีเงินขนาดใหญ่เปล่งประกายวาบออกจากกระบี่เล่มใหญ่นั้น แสงสีเงินสว่างมากจนกระทั่งกลบแสงของดวงจันทร์บนท้องฟ้าได้อย่างมิดชิด!
  “แย่แล้ว!”
  สีหน้าของหลิงหยุนเปลี่ยนไปในทันทีปฏิกิริยาแรกของเขาก็คือต้องทำลายการรวมตัวของกระบี่เหินทั้งสิบสองเล่มเสียก่อน!   ฟิ้ว..ฟิ้ว.. ฟิ้ว.. ฟิ้ว..
  แต่แล้ว..เสียงกระบี่เหินของนักบวชเลี่ยหลง นักบวชเลี่ยหู่ นักบวชเลี่ยเหลย และนักบวชเลี่ยหยาง ก็พุ่งฝ่าอากาศเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนเพื่อสะกัดกั้นไว้ทันที
  บูม!
  หลิงหยุนไม่กล้าประมาทและรีบเผาเสินหยวนทันทีสามร้อยหกสิบหยดหยด!
  หลิงหยุนจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างมากและไม่กล้าประมาทการต่อสู้กับนักบวชสายชางจิงกง ล้วนแตกต่างจากการต่อสู้กับหลวงจีนจากวัดเส้าหลิน เพราะเป็นการต่อสู้กับนักบวชฝ่ายเต๋าที่มีทั้งพลังเหนือธรรมชาติ และยันต์ที่ทรงอานุภาพ หากเขาประมาทก็อาจพลาดท่าถึงแก่ชีวิตได้!
  และทันทีที่เผาหยดเสินหยวนแล้วหลิงหยุนก็รีบเดินพลังปราณเสกเป็นเกราะพลังชี่ขึ้นคุ้มกันร่างกายของตนเองไว้ทันที!
  ฟิ้ว..ฟิ้ว.. ฟิ้ว..  จากนั้นทั้งกระบี่เหินเงาธนูกระบี่ฉีกัง และตราหยกจักรพรรดิก็พุ่งออกมาจากแหวนจักรวาลในนิ้วของเขา แล้วจึงพุ่งออกไปต้านกระบี่เหินที่ทรงอานุภาพของเหล่านักบวชทั้งหมดไว้ทันที!
  เคร้ง..เคร้ง..
  ภายใต้พลังจิตที่แข็งแกร่งของหลิงหยุนกระบี่เหินเงาธนู กระบี่กังฉี และตราหยกจักรพรรดิ ไดัพุ่งเข้าปะทะกับกระบี่เหินของศัตรูไว้ได้อย่างแม่นยำ
  ท่ามกลางเสียงอาวุธปะทะกันดังสนั่นนั้นหลิงหยุนได้ยกมือขึ้นชกเข้ากับกระบี่เหินของนักบวชเลี่ยหยางจนเกิดเสียงดังสนั่นเช่นกัน
  และเวลานี้เหล่าชาวยุทธก็ได้แต่จ้องมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกตะลึง!
  หลิงหยุน..เด็กหนุ่มทายาทตระกูลหลิงที่มีอายุเพียงแค่สิบแปดปี แต่กลับประมือกับเหล่านักบวชฝ่ายชางจิงกงจากเขาหลงหู่ที่มีฝีมือล้ำเลิศพร้อมกันถึงสิบหกคน!   หลังจากที่หลิงหยุนจัดการกับกระบี่เหินของนักบวชเลี่ยหยางไปแล้วเขาก็พุ่งร่างตรงเข้าไปยังกระบี่ทั้งสิบสองเล่มที่กำลังรวมตัวกันทันที!
  หลิงหยุนไม่อาจปล่อยให้กระบี่เหินทั้งสิบสองเล่มรวมตัวกันได้สำเร็จไม่เช่นนั้นหากมันรวมตัวกลายเป็นกระบี่เหินเล่มใหญ่ หลิงหยุนก็คงยากที่จะสะกัดกั้นมันไว้ได้อีก!
  เพราะนั่นหมายถึงการผสานพลังของยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับห้าทั้งสิบสองคนซึ่งขุมพลังจะเทียบเท่ากับผู้บ่มเพาะพลังระดับสูงสุดขั้นปาเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-8) เลยทีเดียว!
  หลิงหยุนไม่นึกประหลาดใจเลยแม้แต่น้อยที่เมื่อครู่นักบวชเลี่ยหลงกล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจว่า พวกตนนั้นสามารถสังหารปีศาจภัยแล้งได้ในชั่วพริบตา
  “เจ้ามารน้อยชั่วช้า!คิดที่จะขัดขวางการรวมตัวของกระบี่เหินงั้นรึ เจ้าฝันไปแล้ว!”
  เมื่อเห็นหลิงหยุนกระโดดพุ่งไปทางกระบี่เหินทั้งสิบสองเล่มที่กำลังรวมตัวกันอยู่นั้นนักบวชเลี่ยหลงและนักบวชเลี่ยหู่ จึงได้กระโดดมาจากทั้งซ้ายและขวาตรงเข้าขวางหน้าหลิงหยุนไว้ทันที!
  และในขณะนั้นเองพลังปราณจากกระบี่ในมือของหลิงหยุนก็ฟันเข้าใส่ร่างของนักบวชทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว!
  ปัง!ปัง!
  นักบวชเลี่ยหลงและนักบวชเลี่ยหู่ก็ได้ยกกำปั้นทั้งสองชกเข้าใส่พลังปราณที่พุ่งออกมาจากกระบี่ในมือของหลิงหยุนทันทีเช่นกัน!
  เสียงพลังปราณจากหมัดทั้งสี่ของสองนักบวชปะทะเข้ากับพลังปราณจากกระบี่ของหลิงหยุนอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงดับสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ
  ร่างของหลิงหยุนถึงกับสะท้านไหวอย่างรุนแรง!
  นักบวชทั้งสองล้วนเป็นยอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับหกและจู่โจมหลิงหยุนพร้อมกันถึงสองคนเช่นนี้ จึงยากที่หลิงหยุนจะสามารถต้านทานไว้ได้!
  จากการประลองระหว่างหลิงหยุนกับหลวงจีนจื้อเหนิงนั้นทำให้นักบวชเลี่ยหลงกับนักบวชเลี่ยหู่รู้ว่า ใครเพียงคนใดคนหนึ่งจะไม่อาจรับมือหลิงหยุนได้เป็นแน่ พวกเขาจึงได้จู่โจมเข้าพร้อมกันเช่นนี้
  หลังจากที่หลิงหยุนลงมือสังหารนักบวชเลี่ยยื่อและประกาศกร้าวว่าจะสะสางบัญชีแค้นกับนักบวชเขาหลงหู่ฝ่ายชางจิงกงแล้ว นักบวชขั้นพลังเหนือธรรมชาติทั้งสิบสองคนก็ได้หลอมรวมกระบี่เหินเฟยเจี้ยนทั้งสิบสองเล่มเข้ารวมกัน ในขณะที่นักบวชเลี่ยหลงกับนักบวชเลี่ยหู่ก็ช่วยกันสะกัดกั้นไม่ให้หลิงหยุนทำลายการรวมตัวของกระบี่เหินทั้งสิบสองเล่มได้
  ตูม!
  จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงดังคล้ายระเบิดลูกใหญ่ของพลังปราณภายในรัศมีหกร้อยเมตรกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า เศษหญ้า และเศษหินต่างก็ลอยฟุ้งไปทั่วทั้งบริเวณ แต่กลับไม่พบร่างของหลิงหยุนอยู่ในบริเวณนั้น
  สิ้นเสียงระเบิดที่น่ากลัวนั้นทั้งเฉิงเม่ยเฟิง เสี่ยวเม่ยเม่ย ตี้เสี่ยวอู๋ และคนอื่นๆ ต่างก็พากันมายืนด้านหน้าคุ้มครองฉินตงเฉี่วยไว้ เพราะเกรงว่านางจะได้รับอันตราย
  และเวลานี้..รอบๆรัศมีหกเมตรกลางหุบเขาหลงเฟิงนั้น ก็เหลือร่างของคนอยู่เพียงแค่สองร่างเท่านั้น คนอื่นๆต่างก็พากันกระโดดหนีออกไปไกล..
  ส่วนร่างของหลิงหยุนเวลานี้กำลังบินอยู่กลางอากาศด้วยปีกหยิน–หยางพร้อมกับร้องตะโกนสั่งเสียงดัง
  “หวังชงเซียวและเหล่าแวมไพร์ที่เหลือของข้า พวกเจ้ามาที่นี่ได้แล้ว!”
  หลังจากที่ประมือกับนักบวชทั้งสิบคนไปแล้วหลิงหยุนจึงรู้ตัวว่าหากต่อสู้เพียงลำพังคงต้องพ่ายแพ้ให้แก่นักบวชเหล่านี้เป็นแน่ จึงต้องเรียกหวังชงเซียวกับแวมไพร์ให้มาช่วย  ยอดฝีมือทั้งสิบสองคนประสานพลังกันก็มีขุมพลังเทียบเท่าผู้บ่มเพาะตนขั้นปาเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-8) แล้ว แต่นี่ยังมียอดฝีมือขั้นพลังเหนือธรรมชาติระดับหกอีกถึงสี่คน หลิงหยุนไม่ได้เสียสติที่จะดันทุรังสู้ต่อไปทั้งที่เสียเปรียบเช่นนี้
  “คุณชายหลิง..พวกเรามาแล้ว!”
  “เจ้านายที่เคารพ!”
  ทันทีที่ได้ยินคำสั่งของหลิงหยุนทั้งหวังชงเซียวและเหล่าแวมไพร์ต่างก็รีบมาทันที และเมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ได้แต่ตกตะลึง
  “นักบวชชางจิงกงพวกเจ้ากล้ารุมหลิงหยุนเช่นนี้ รู้หรือไม่ว่ากำลังรนหาที่ตาย!”
  เย่ซิงเฉินเห็นหลิงหยุนถูกรุมเช่นนั้นก็อดรนทนไม่ได้ หลังจากที่มอบฉินตงเฉี่วยให้เฉิงเม่ยเฟิงดูแล นางก็กระโดดเข้าไปหาหลิงหยุนทันที!
  ในเวลานั้นไป๋เซียนเอ๋อเองก็กำลังต่อสู้อยู่กับนักบวชเลี่ยเหลยและนักบวชเลี่ยหยางอยู่และสามารถเอาชนะทั้งคู่ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
  “พวกเจ้าสี่ตนรีบไปจัดการกับนักบวชทั้งสิบสองคนที่มียันต์สีเงินบนหน้าผากก่อนเร็วเข้า!”
  หลิงหยุนซึ่งบินอยู่บนท้องฟ้ารีบสั่งการแวมไพร์ทั้งห้าตนทันที
  “เอ็ดเวิร์ด..เจ้ามีหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยของน้าหญิง!”
  “หวังชงเซียว..เจ้าเห็นกระบี่เหินที่กำลังรวมตัวกันอยู่นั้นหรือไม่ รีบทำลายมันทิ้งซะ!”
  “น้อมรับคำสั่งคุณชายหลิง!”
  หลังจากสั่งการแล้วหลิงหยุนและหวังชงเซียวก็รีบกระโดดเข้าไปจัดการกับกระบี่ยาวสามสิบหกเมตรพร้อมกันทันที!
  ตูม!ตูม!
  ทั้งสองคนช่วยกันชกเข้ากับกระบี่เหินยักษ์เล่มนั้นไปราวสิบกว่าหมัดแต่ก็ไม่อาจทำลายกระบี่เหินยักษ์เล่มนั้นได้ อย่างมากก็เพียงแค่ทำให้มันโค้งงอได้เท่านั้น
  “ดูท่าพวกเราคงแย่แล้ว!”หลิงหยุนรำพึงรำพันออกมา
  “เจ้ามารชั่วหลิงหยุน!อย่าเสียเวลาอีกต่อไปเลย ถึงอย่างไรคืนนี้เจ้าก็ต้องตายภายใต้กระบี่หยางพิสุทธิ์ของนักบวชชางจิงกงเช่นพวกข้า!”
  จากนั้นนักบวชเลี่ยหลงและนักบวชเลี่ยหู่ต่างกระโดดขึ้นไปปะทะกับหลิงหยุนและหวังชงเซียวบนท้องฟ้าเช่นกัน!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด