Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1413 หลิงหยุนช่วยฉินจิวยื่อ (6)

อ่านนิยายจีนเรื่อง Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร ตอนที่ 1413 หลิงหยุนช่วยฉินจิวยื่อ (6) อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

 ��บทที่1413 : หลิงหยุนช่วยฉินจิวยื่อ (6)
  เย่ซิงเฉินจู่โจมสำนักกระบี่เทียนซานที่อยู่บนยอดเขาปฐพีอย่างไม่หยุดหย่อน..
  ชัวะ..เคร้ง.. ฉับ..
  เหล่าศิษย์ของสำนักกระบี่เทียนซานยังคงบุกตะลุยเข้าใส่เย่ซิงเฉินอย่างต่อเนื่องเสียงกระบี่กระทบกันดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งขุนเขา ศิษย์สำนักกระบี่เทียนซานต่างก็พยายามที่จะจ้วงกระบี่ในมือของตนใส่ร่างของเย่ซิงเฉินให้ได้ แต่เพราะช่องว่างระหว่างขั้นพลังของพวกเขาห่างจากนางมากจนเกินไป กระบี่ของพวกเขาจึงไม่สามารถสัมผัสร่างของเย่ซิงเฉินได้เลยแม้แต่น้อย
  เย่ซิงเฉินบุกตะลุยไปทั่วทั้งขุนเขาจุดประสงค์ของนางคือต้องการที่จะสร้างความโกลาหลให้เกิดแก่สำนักกระบี่เทียนซานให้มากที่สุด และเวลานี้เสียงกรีดร้องของศิษย์ในสำนักก็ยังคงดังระงมอยู่ไม่หยุด
  “นับเป็นความโชคดีของพวกเจ้าที่ได้เผชิญหน้ากับข้าที่ผ่านมาข้าบุกไปถล่มสำนักของศัตรูไม่ว่าสำนักใด ข้าก็ได้สังหารศิษย์ของพวกมันตายมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คน!”
  เย่ซิงเฉินหยุดนิ่งและหันกลับไปร้องตะโกนบอกศิษย์สำนักกระบี่เทียนซานด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
  ภูเขาทั้งสามของสำนักกระบี่เทียนซานนั้นสูงมากกว่าหนึ่งกิโลเมตร แต่เย่ซิงเฉินกลับสามารถขึ้นมาถึงยอดเขาได้ในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งทุกหนทุกแห่งที่นางก้าวผ่านไป ก็จะมีศรีษะของศิษย์สำนักกระบี่เทียนซานร่วงหล่นอยู่ทั่ว และมีโลหิตสีแดงไหลเจิ่งนองราวกับธารน้ำ
  ชัวะ..ชัวะ.. ชัวะ..
  ร่างของยอดฝีมือทั้งห้าคนเหาะตรงมาที่ยอดเขาปฐพีทั้งหมดตรงเข้าสะกัดเย่ซิงเฉินไว้ และทันทีที่เผชิญหน้ากัน ยอดฝีมือทั้งห้าก็ใช้พลังจิตที่แข็งแกร่งของตนพุ่งกระบี่เหินเข้าใส่ร่างของนางทันที!
  “พวกเจ้ามาลงนรกแท้ๆ!”   เย่ซิงเฉินร้องตะโกนออกไปจากนั้นจึงใช้พลังจิตของตนบังคับดาบคู่มารสะบั้นเทวะที่เปล่งประกายสว่างวาบตรงหน้า ให้พุ่งออกไปจู่โจมใส่ร่างของยอดฝีมือสองคนทันที!
  ชัวะ..ชัวะ..
  ดาบคู่มารสะบั้นเทวะเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วอย่างยิ่งเพียงแค่พริบตาเดียวก็พุ่งไปได้ไกลกว่าพันเมตร แม้ยอดฝีมือทั้งสองจะได้ต้านทานไว้แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถหยุดดาบคู่อันทรงพลังของเย่ซิงเฉินไว้ได้ และได้พุ่งตรงเข้าตัดศรีษะของยอดฝีมือทั้งสองขาดออกจากกันทันที!
  ชัวะ!
  ศรีษะทั้งสองร่วงหล่นลงสู่พื้นดินร่างของยอดฝีมือทั้งสองกลายเป็นร่างไร้ศรีษะในทันที โลหิตสีแดงพุ่งกระจายเต็มแผ่นฟ้า ก่อนจะร่วงลงสู่พื้นดินตามไป
  ดาบคู่มารสะบั้นเทวะลอยกลับไปกลับมาอยู่กลางเวหาและสังหารยอดฝีมืออีกสองคนสิ้นใจในพริบตา เหลือเพียงแค่ยอดฝีมือคนสุดท้ายที่ถูกดวงดาวมหึมาของเย่ซิงเฉินบดขยี้จนกลายเป็นเพียงแค่เศษเนื้อ
  หากยังไม่เข้าสู่ด่านสุดท้ายขั้นพลังชี่แล้วล่ะก็ย่อมหาใช่คู่ต่อสู้ของเย่ซิงเฉินไม่ และหากเผชิญหน้ากับนางเช่นนี้ ก็มีเพียงความตายที่รออยู่
  “ศิษย์สำนักกระบี่เทียนซานพวกเจ้าล่าถอยออกมาก่อน!”
  “นางมารน้อยนี่เจ้ากล้าสังหารศิษย์สำนักกระบี่เทียนซานเชียวรึ”
  ยอดฝีมืออีกสองคนที่เพิ่งมาถึงพร้อมกันร้องตะโกนออกมาด้วยความเคียดแค้น ทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้อารักขาของสำนักกระบี่เทียนซานแห่งนี้ และพลังของทั้งคู่อยู่ในขั้นลิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-6)
  “หึ..สำนักกระบี่เทียนซานบังอาจจับผู้บริสุทธิ์ซึ่งเป็นมารดาของสามีข้ามากักขังไว้กว่าครึ่งปี ครั้งนี้พวกข้าต้องล้างแค้นคืนแน่ พวกเจ้าอย่าเสียเวลากล่าววาจาไร้สาระจะดีกว่า ไม่ว่าอย่างไรคืนนี้พวกเจ้าทั้งหมดก็ต้องตาย!”
  เย่ซิงเฉินตะโกนตอบโต้กลับไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันและนางไม่มีทางเมตตาคนของสำนักกระบี่เทียนซานเป็นแน่
  “พวกเจ้าเตรียมตัวตายได้แล้ว!”
  สิ้นเสียงพูดของเย่ซิงเฉินดาบคู่มารสะบั้นเทวะก็พุ่งออกไปอีกครั้ง หมายสะบั้นศรีษะของผู้อารักขาทั้งสองตรงหน้าให้ขาดออกจากกันในทันที!
  ฟิ้ว..
  ผู้อารักขาทั้งสองเห็นเช่นนั้นจึงรู้ว่ามิอาจใช้เหตุผลกับเย่ซิงเฉินได้ ทั้งคู่จึงใช้กระบี่ในมือฟาดฟันใส่ดาบคู่ของเย่ซิงเฉินที่พุ่งเข้ามาในทันที
  เคร้ง..
  และในเวลานั้นเองเย่ซิงเฉินก็ได้ใช้วิชาเงาลวงตาที่มีความเร็วมากกว่าเสียงถึงสี่เท่า ไปปรากฏตัวต่อหน้ายอดฝีมือทั้งสอง พร้อมกับชกกำปั้นของตนออกไปทันที!   ปัง!
  หมัดของเย่ซิงเฉินชกเข้าใส่ร่างของยอดฝีมือทั้งสองอย่างแรงทำให้พวกเขาถึงกับกระอักเลือดออกมา และสิ้นใจตายในทันที
  “วิชาดาราคุ้มกายทำให้ร่างกายทุกส่วนเปลี่ยนเป็นอาวุธอันทรงพลังได้จริงๆ!”
  เย่ซิงเฉินนึกถึงคำพูดของหลิงหยุนขึ้นมาทันทีเมื่อพบว่าร่างกายของตนนั้นแข็งแกร่ง และสามารถใช้เป็นอาวุธได้เหนือกว่าดาบคู่มารสะบั้นเทวะของตนเสียอีก แต่ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับขั้นพลังของตนด้วย
  หลังจากจัดการสังหารผู้อารักขาทั้งสองของสำนักกระบี่เทียนซานไปแล้วเย่ซิงเฉินยังคงมุ่งหน้าไปต่อ
  …..
  “เรียนอาวุโส..เวลานี้มีนางมารสาวผู้หนึ่งบุกจู่โจมยอดเขาปฐพีของสำนักเรา พลังและฝีมือของนางล้ำเลิศยิ่งนัก ศิษย์สำนักกระบี่เทียนซานถูกนางทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บและล้มตายไปมาก!”
  เวลานี้..เหล่าศิษย์สำนักกระบี่เทียนซานส่วนหนึ่ง ได้ขึ้นมารายงานเหตุการณ์บนยอดเขาปฐพี ให้เหล่าอาวุโสบนยอดเขาเทียนเฟิงทราบ
  “ท่านเจ้าสำนักผู้ที่บุกเข้ามาคงจะต้องเป็นนางมารเย่ซิงเฉินแน่ นางคงบุกมาที่นี่เพื่อช่วยหลิงหยุน พวกเราจะทำเช่นไรต่อไปดี”
  บนยอดเขาเทียนเฟิงเวลานี้หลังจากที่ยอดฝีมืออาวุโสที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของสำนักกระบี่เทียนซานได้รับรายงานเช่นนั้น จึงได้ร้องตะโกนปรึกษาหารือกับตี๋เฮ่อหมิงที่อยู่ไกลออกไปทันที
  เวลานี้ตี๋เฮ่อหมิงกำลังพยายามรักษาอาการบาดเจ็บให้กับตี๋เสี่ยวเจินอยู่สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ จากนั้นจึงร้องตะโกนตอบไปว่า
  “เทียนเฟิงมีสี่ยอดฝีมือจากคุนหลุนอยู่ท่านรีบไปยังยอดเขาปฐพีหยุดนางมารนั่นไว้ก่อน อย่าให้นางทำลายสำนักกระบี่เทียนซานของข้าได้!”
  “น้อมรับคำสั่งท่านเจ้าสำนัก!”
  ทันทีที่ได้รับคำสั่งยอดฝีมืออาวุโสผู้นั้นก็เตรียมตัวที่จะเหาะออกไปทันที แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ขยับตัว หอกมังกรทองของหลิงหยุนก็พุ่งตรงปักเข้าที่ศรีษะของเขาอย่างรวดเร็ว ยอดฝีมืออาวุโสคนสุดท้ายของสำนักกระบี่เทียนซานถูกหลิงหยุนสังหารตายในพริบตา และร่างก็ร่วงหล่นลงจากท้องนภาอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงกรีดร้อง!
  “หากเจ้าคิดจะไปช่วยพวกมันต้องถามข้าก่อนว่ายินยอมหรือไม่!”
  เสียงตะโกนเย้ยหยันของหลิงหยุนดังออกมาจากค่ายกลวราหก..
  การตายของยอดฝีมืออาวุโสคนสุดท้ายได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับศิษย์สำนักกระบี่เทียนซานที่อยู่บนยอดเขาเทียนเฟิงไม่น้อย ทุกคนล้วนแล้วแต่หวาดผวา เพราะยอดฝีมือทั้งสองที่บุกเข้ามาสำนักกระบี่เทียนซานในครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งอย่างน่าสะพรึงกลัว!
  หลังจากนั้นเสียงดังสนั่นบนยอดเขาปฐพีก็ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน เย่ซิงเฉินซึ่งมาถึงยอดเขาเริ่มที่จะจัดการทำลายล้างสำนักกระบี่เทียนซานให้ราบเป็นหน้ากอง..
  “ไม่ได้การแล้ว!”
  ตี๋เฮ่อหมิงร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเขาตระหนักแล้วว่าครั้งนี้ตนได้สะดุดเข้ากับตอขนาดใหญ่จริงๆ และหากเขายังลังเลอีกเพียงเล็กน้อย สำนักกระบี่เทียนซานจักต้องถูกนางมารทำลายจนราบเป็นหน้ากองแน่!
  “สหายคุนหลุนครั้งนี้สำนักกระบี่เทียcนซานของข้าตกอยู่ในอันตราย หากท่านช่วยสังหารศัตรูให้กับเรา ข้าจักไม่ลืมบุญคุณครั้งนี้เลย!”
  ตี๋เฮ่อหมิงไม่มีหนทางอื่นนอกจากต้องขอร้องให้ศิษย์คุนหลุนช่วยเหลือ..
  “ท่านอย่าได้เป็นกังวลไปศิษย์น้องทั้งสามของข้าอยู่ที่นี่ ข้าจักให้พวกเขาไปช่วยปกป้องสำนักกระบี่เทียนซานของท่าน!”
  จ้าวหมิงถังรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้การจับมือกับสำนักกระบี่เทียนซานจะเป็นเพียงทางรอดเดียว เขาจึงไม่ลังเล และรีบสั่งให้ศิษย์น้องผู้หนึ่งไปจัดการกับเย่ซิงเฉินในทันที
  “โฮ่วเอ๋อ..เวลานี้สำนักกระบี่เทียนซานกำลังตกอยู่ในอันตรายยิ่ง เจ้ารีบไปรายงานท่านปู่หก ขอให้ท่านออกจากการเข้าฌาน และช่วยสังหารนางมารเย่ซิงเฉินที!”
  หลังจากที่ตี๋เฮ่อหมิงร้องขอความช่วยเหลือจากคุนหลุนแล้วเขาก็หันไปสั่งตี๋ชิงโหวที่ยืนอยู่ด้านข้างทันที
  “น้อมรับคำสั่งท่านตา!”
  ตี๋ชิงโหวรับคำสั่งแล้วรีบเหาะตรงไปยังด้านตะวันตกของยอดเขาเจงิชโชกูซูอย่างรวดเร็ว..
  “ท่านพ่อข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ท่านไม่ต้องห่วงข้า รีบไปจับตัวหลิงหยุนมาให้ข้า ข้าจะต้องตอบแทนมันกลับไปเป็นพันเท่าแน่!”
  ตี๋เสี่ยวเจินได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะหลิงหยุนแต่เพราะตี๋เฮ่อหมิงช่วยทำการรักษาให้กับนางอย่างเต็มที่ เวลานี้นางจึงดีขึ้นมาก และได้เห็นหลิงหยุนกับคนของเขาถล่มสำนักกระบี่เทียนซานเช่นนี้ จึงได้แต่ขบฟันแน่นด้วยความเคียดแค้น
  “ลูกพ่อหลิงหยุนรับมือได้แม้กระทั่งศิษย์ทั้งสี่ของคุนหลุนเช่นนี้ ที่เจ้าไม่ถูกเขาสังหารตายในทันทีนั้น เป็นเพราะเขาตั้งใจให้เป็นเช่นนั้นต่างหากเล่า ข้าว่าหลิงหยุนตั้งใจจะจับเป็นเจ้า เพื่อแก้แค้นให้กับฉินจิวยื่อเป็นแน่..”
  ตี๋เฮ่อหมิงรีบร้องเตือนตี๋เสี่ยวเจินเพื่อหยุดความคิดที่คลุ้มคลั่งของนาง“เสี่ยวเจิน จำคำของพ่อไว้ให้ดี! อย่าเข้าไปในรัศมีการต่อสู้ของหลิงหยุนโดยเด็ดขาด และหากเจ้าพบว่า ข้ากับท่านลุงหกกำลังจะเสียท่าให้กับหลิงหยุน เจ้าจงรีบหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด..”
  “ฮึ่ม..”   ตี๋เสี่ยวเจินคำรามออกมาด้วยความโกรธนางขบฟันแน่นพร้อมกับผละออกจากอ้อมแขนของตี๋เฮ่อหมิงผู้เป็นพ่อ จากนั้นจึงร้องตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด
  “ท่านพ่อเหตุใดท่านต้องทำลายความปรารถนาของลูกด้วย ศิษย์ทั้งสี่ของคุนหลุนก็อยู่ที่นี่ ข้าไม่เชื่อว่าหลิงหยุนมันจะสามารถหลุดรอดจากเงื้อมือของสำนักกระบี่เทียนซานของเราได้!”
  “เจ้าไปยอดเขาปฐพีกับข้า!”
  ตี๋เฮ่อหมิงเห็นลูกสาวคนเดียวคลุ้มคลั่งเช่นนี้เขาถึงกับถอนหายใจออกมาด้วยความเหนื่อยหน่าย พร้อมกับเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของตี๋เสี่ยวเจินไว้ แล้วพาเหาะไปยังเขาปฐพีพร้อมกัน
  นับว่าเย่ซิงเฉินสร้างสถานการณ์ได้ดีทีเดียวความโกลาหลวุ่นวายส่งผลดีต่อหลิงหยุนอย่างมาก เพราะในบนยอดเขาเทียนเฟิงเวลานี้ เหลือศิษย์คุนหลุนอยู่เพียงแค่สามคนเท่านั้น  บูม!
  หลิงหยุนทำการเผาเสินหยวนทันทีและนี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะจู่โจมศิษย์คุนหลุนทั้งสาม ภายในค่ายกลวราหก หอกมังกรทอง ตราหยกจักรพรรดิ และกระบี่กังฉี ได้พุ่งตรงเข้าใส่ศิษย์คุนหลุนอย่างรวดเร็ว

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด