Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1362 คืนสู่ท้องทะเล

อ่านนิยายจีนเรื่อง Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร ตอนที่ 1362 คืนสู่ท้องทะเล อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

  จิ่วเจียงเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของมณฑลยูนนานและเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสี่มณฑลซึ่งก็คือยูนนาน หูเป่ย ฉงชิง และหูหนาน อีกทั้งยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งปากแม่น้ำสามสายอีกด้วย..
  เมืองจิ่วเจียงตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลเจียงซีทางด้านทิศใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียงและอยู่บนพื้นที่ราบฝั่งทะเลสาบผอหยาง เมื่อแม่น้ำแยงซีเกียงไหลผ่าน ผืนน้ำบริเวณนี้จึงอุดมสมบูรณ์กว้างใหญ่ไพศาล มีคลื่นกระทบฝั่งเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่ง..
  หลิงหยุนและเย่ซิงเฉินต่างก็มาถึงบริเวณจุดตัดระหว่างแม่น้ำกับทะเลสาบนี้พอดีแต่มิได้ข้ามตรงเข้าสู่แม่น้ำแยงซีเกียง แต่ทั้งคู่ขึ้นสู่ริมฝั่งทะเลสาบ และเข้าไปอยู่ในป่าบนเขาแห่งหนึ่งข้างทะเลสาบ
  แม้ว่าทั้งคู่จะเดินอยู่ใต้ผืนน้ำมาเป็นระยะทางไกลกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตรแต่ด้วยอานุภาพของแก้วจ้าวสมุทร ทำให้ร่างกายของทั้งคู่ไม่เปียกน้ำเลยแม้แต่น้อย
  “เหตุใดเจ้าจึงไม่เข้าไปทางแม่น้ำแยงซีเกียง”เย่ซิงเฉินเอ่ยถามหลิงหยุนทันทีที่ขึ้นฝั่ง
  หลิงหยุนตอบกลับไปทันที“มังกรทั้งสองกำลังรอคอยข้าอยู่ที่แม่น้ำด้านหน้านั่น ข้าสัมผัสได้ถึงปราณมังกรของพวกมัน!”
  ดูเหมือนมังกรแดนใต้กับมังกรดำจะสัมผัสถึงการมาของหลิงหยุนได้เช่นกันพวกมันจึงรีบสร้างคลื่นลูกใหญ่ขึ้นที่แม่น้ำด้านหน้า เพื่อส่งสัญญาณให้หลิงหยุนรู้ว่าพวกมันกำลังซ่อนตัวอยู่ที่ใด
  “พวกเจ้าหยุดสร้างคลื่นใต้น้ำได้แล้วอยู่กันนิ่งๆ”
  หลิงหยุนพึมพำขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นว่ามังกรทั้งสองกำลังสร้างคลื่นขึ้นมาอีก แต่เนื่องจากแม่น้ำแยงซีเกียงมีขนาดใหญ่ คลื่นนี้จึงมีลักษณะคล้ายลมที่พัดเข้าใส่ผิวน้ำเป็นระลอกเท่านั้น..   ที่หลิงหยุนต้องรีบมาถึงที่นี่โดยเร็วนั้นก็เพราะเกรงว่าหากหลงเทียนฟางมีชีวิตรอดออกมาจากบริเวณสามเหลี่ยมปีศาจได้แล้ว เขาอาจจะแอบซุ่มอยู่ในแม่น้ำแยงซีเกียง เพื่อรอดักจับมังกรทั้งสองตัวอยู่ก็เป็นได้
  ด้วยความสามารถของหลงเทียนฟางเวลานี้หากต้องการจะจับมังกรแดนใต้ แน่นอนว่าย่อมเท่ากับเอาชีวิตไปทิ้ง แต่หากเป็นเจ้าสีนิล หลงเทียนฟางนับว่าเป็นอันตรายต่อมันยิ่งนัก..
  “จุดหมายปลายทางต่อไปก็คือเมืองจิงฉู!”
  หลังจากที่สั่งให้มังกรทั้งสองสงบนิ่งลงแล้วเขาก็หันไปบอกจุดหมายปลายทางต่อไปให้เย่ซิงเฉินรู้
  ความจริงแล้วเมืองจิงฉูไม่ได้อยู่ในแผนการเดินทางของหลิงหยุนเลยแม้แต่น้อยและเขาก็ไม่คาดคิดว่าหลังจากที่ช่วยเฉิงเม่ยเฟิงกลับมาได้แล้ว และหลังสิ้นสุดงานชุมนุมชาวยุทธ เขาจะต้องมาเผชิญหน้ากับตระกูลหลงเช่นนี้ และนั่นทำให้เขานึกเป็นห่วงหินมังกรเขียวของตนเองขึ้นมา จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางอย่างกะทันหัน และกลับไปจิงฉูเพื่อนำหินมังกรเขียวมาเก็บไว้ในแหวนจักรวาลของตนเองเสียก่อน..
  เมืองจิงฉูอยู่ห่างจากทิศตะวันออกของเมืองจิ่วเจียงไปเพียงแค่สี่ร้อยกิโลเมตรเท่านั้นและด้วยความสามารถของหลิงหยุนเวลานี้ เขาสามารถเหาะไปได้โดยใช้เวลาไม่เกินสองชั่วโมง
  “แต่ก่อนจะไปที่นั่นข้าต้องจัดการหาสถานที่ซ่อนตัวให้กับมังกรสองตัวนี่เสียก่อน!”
  ทะเลสาบผอหยางแทบไม่ต้องพูดถึงส่วนแม่น้ำแยงซีเกียงย่อมไม่ปลอดภัย และเวลานี้หลิงหยุนก็กำลังปวดหัวกับปัญหาเรื่องนี้มาก จู่ๆก็มีสัตว์เลี้ยงเป็นมังกรถึงสองตัวพร้อมกันเช่นนี้ แต่กลับไม่สามารถหาสถานที่ปลอดภัยให้กับพวกมันได้ แม้หลิงหยุนจะมีความสุขที่ได้พวกมันมา แต่ก็กังวลใจเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกมันเช่นกัน  แต่ระหว่างที่ครุ่นคิดอยู่นั้นจู่ๆความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา..
  หลิงหยุนหยิบเครื่องมือสื่อสารของตนออกมาติดต่อหาหวังชงเซียวและทันทีที่หวังชงเซียวรับสาย หลิงหยุนก็สั่งไปว่า
  “หวังชงเซียวเจ้า เพียร์ซ และจอยซ์มาหาข้าโดยเร็วที่สุด..”
  หลังจากบอกตำแหน่งที่อยู่ชัดเจนให้กับหวังชงเซียวแล้วหลิงหยุนก็กดตัดสายไป จากนั้นเขากับเย่ซิงเฉินก็ได้นั่งลงฝึกวิชาดาราคุ้มกายทันที เพราะในช่วงเวลาตีห้าครึ่งเช่นนี้ เป็นเวลาที่เหมาะแก่การฝึกดาราคุ้มกายมากที่สุด
  อีกอย่างอินถานกับจิ่วเจียงก็อยู่ห่างกันราวสองร้อยกิโลเมตรได้ ต่อให้หวังชงเซียวเหาะมาเอง ก็คงต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง เพราะต้องคอยเสียเวลาหลบสายตาผู้คนด้วย บางจุดที่ผู้คนพลุกพล่านอาจต้องเหาะอ้อมไปทางอื่นแทน หลิงหยุนกับเย่ซิงเฉินจึงไม่ต้องการปล่อยเวลาให้สูญไปโดยเปล่าประโยชน์..
  จนกระทั่งเวลาเจ็ดโมงเช้าหวังชงเซียวก็มาถึงพร้อมกับเพียร์ซและจอยซ์ตามคำสั่งของหลิงหยุน
  “หวังชงเซียวคาราวะคุณชายหลิงและฮูหยิน!”
  “บริวารผู้ซื่อสัตย์เพียร์ซและจอยซ์ ทำความเคารพเจ้านาย และนายหญิง!”
  เมื่อทั้งสามมาถึงต่างคนต่างก็ทำการคาราวะหลิงหยุนและเย่ซิงเฉินในแบบของตนด้วยความเคารพนบนอบอย่างที่สุด
  และไม่มีใครกล้าถามว่าทั้งคู่เดินทางจากเขาหลงหู่มาที่แม่น้ำแยงซีเกียงด้วยเหตุผลอันใด
  เย่ซิงเฉินถึงกับชะงักไปเล็กน้อยกับการแสดงความเคารพของทั้งสามแต่ก็เพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น..
  หลิงหยุนไม่เสียเวลาและรีบสั่งงานทั้งสามทันที “เอาล่ะ ข้ามีภารกิจสำคัญจะมอบหมายให้พวกเจ้าไปทำ!”
  หวังชงเซียวตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง“ขอเชิญคุณชายหลิงสั่งมาได้เลย!”
  หลิงหยุนยิ้มออกมาอย่างนึกขันก่อนจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดพูดกับหวังชงเซียวว่า “เฮ้อ.. ข้าเกรงแต่ว่าเจ้าจะหัวเราะเยาะข้า แล้วก็หาว่าข้าพูดจาเพ้อเจ้อน่ะสิ”
  “เอ่อ..ข้าไม่กล้าคิดเช่นนั้นแน่ และยินดีทำตามคำสั่งของคุณชายหลิงทุกอย่าง!” หวังชงเซียวจ้องมองหลิงหยุนด้วยแววตาสงสัยในขณะที่ตอบกลับไป
  หลิงหยุนได้ยินเช่นนั้นจึงยกมือขึ้นชี้ไปทางแม่น้ำแยงซีเกียงพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ตอนนี้มีมังกรสองตัวอยู่ในแม่น้ำแยงซีเกียง..”
  หวังชงเซียวถึงกับตกตะลึงและนิ่งอึ้งไปทันทีเมื่อได้สติก็ได้แต่ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
  “ห๊ะ!อะ.. อะไรนะ?! มะ.. มังกรงั้นรึ?!”
  หวังชงเซียวอาศัยอยู่ที่ทะเลจีนตะวันออกมานานนับสิบๆปียังไม่เคยพบเจอมังกรเลยสักครั้ง เขาจึงไม่อยากจะเชื่อว่าหลิงหยุนที่อยู่ในผืนแผ่นดินใหญ่ กลับได้พบเจอมังกรจริงๆ อีกทั้งยังได้พบถึงสองตัวเช่นนี้ มีหรือที่เขาจะไม่ตกอกตกใจเช่นนี้ได้!
  แม้แต่เพียร์ซกับจอยซ์เองก็มีสีหน้าตกอกตกใจอย่างมากเช่นกันพวกมันต่างก็พึมพำออกมาว่า
  “มังกร..เทพเจ้ามังกรที่เป็นเพียงเรื่องเล่าต่อๆกันมาของชาวจีนน่ะเหรอ”
  หลิงหยุนเพียงแค่ยิ้มแต่คร้านที่จะอธิบายให้แวมไพร์ทั้งสองตนฟัง จึงได้ออกคำสั่งกับทั้งสามแทน
  “ที่ข้าเรียกพวกเจ้าทั้งสามมาก็เพื่อให้พวกเจ้าทำหน้าที่คุ้มครองมังกรสองตัวนี้ ว่ายไปยังปากอ่าวแม่น้ำแยงซีเกียง และให้พวกมันออกไปทางทะเลจีนตะวันออกได้อย่างปลอดภัย..”
  “หลังจากมังกรทั้งสองเข้าสู่ทะเลจีนตะวันออกได้แล้วพวกเจ้าทั้งสามมุ่งหน้าไปทางทิศใต้จนกระทั่งพบกับอ่าวจิงฉูในเมืองเมืองจิงฉู เมื่อถึงแล้วรีบแจ้งให้ข้ารู้ทันที!”
  “ระหว่างทางหากพบเจอกับศัตรูที่เก่งกาจเข้ามาขัดขวางหากสู้ได้ให้สู้ แต่หากไม่สามารถรับมือได้ก็ให้หนี แต่ไม่ว่าอย่างไร หากเผชิญหน้ากับศัตรูที่เข้ามาขัดขวาง เจ้าต้องแจ้งให้ข้ารู้ก่อนที่จะลงมือ..”
  หลังจากมอบหมายภารกิจให้แล้วหลิงหยุนก็หันมายิ้มให้ทั้งสามพร้อมกับถามขึ้นว่า “พวกเจ้ามีปัญหาอะไรหรือไม่”
  “คุณชายหลิงโปรดวางใจพวกเราทั้งสามจะนำพามังกรทั้งสองไปยังทะลจีนใต้ให้ได้อย่างปลอดภัย!”
  หวังชงเซียวและแวมไพร์ทั้งสองต่างก็น้อมรับคำสั่งของหลิงหยุนด้วยท่าทีเคารพนบนอบ..
  “เอาล่ะ..คนหนึ่งอยู่ในระดับสูงสุดขั้นลิ่วเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-6) ส่วนอีกสองเป็นแวมไพร์ขั้นแกรนด์ดยุค ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร!”   หลิงหยุนพูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มหมดห่วงเพราะด้วยอานุภาพของมังกรแดนใต้ตัวเดียวก็เหนือกว่าลูกน้องทั้งสามคนของเขาแล้ว แต่อย่างน้อยมีผู้พิทักษ์เจ้าสีนิลถึงสี่เช่นนี้ หลิงหยุนก็ยิ่งหมดห่วง!
  “คุณชายหลิงการคุ้มครองมังกรทั้งสองไปยังทะเลนั้นไม่ใช่ปัญหา เพียงแต่.. มังกรทั้งสองตัวที่ท่านพูดถึงนั้น ไม่ทราบว่าเวลานี้อยู่ที่ใด พอที่จะให้พวกเราเห็นได้หรือไม่?”
  หวังชงเซียวหันหน้ามองไปทางแม่น้ำแยงซีเกียงและเปิดจิตหยั่งรู้ของตนออกขั้นสุด แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของมังกรทั้งสองตัว จึงได้แต่หันกลับไปถามด้วยความสงสัย
  “ข้าย่อมต้องให้พวกเจ้าได้เห็นมังกรทั้งสองตัวแน่ตามข้ามา!”
  ยังไม่ทันที่จะสิ้นเสียงพูดด้วยซ้ำไปร่างของหลิงหยุนก็ไปปรากฏอยู่ที่ริมฝั่งของแม่น้ำแยงซีเกียงแล้ว และเมื่อทั้งสี่คนตามมาถึง หลิงหยุนก็เรียกแก้วจ้าวสมุทรออกมา โดยใช้พลังจิตของตนควบคุมให้ลอยอยู่บนอากาศจากนั้นจึงร้องตะโกนสั่งว่า
  “หากข้านับถึงสองพวกเจ้าทั้งหมดก็กระโดดลงไปในแม่น้ำด้านล่างพร้อมๆกับข้าทันที!”
  หลังจากที่ทั้งห้าคนกระโดดลงไปในแม่น้ำแยงซีเกียงพร้อมกันแล้วหลิงหยุนจึงได้ควบคุมรัศมีของแก้วจ้าวสมุทรให้ขยายครอบคลุมรัศมีเพียงแค่ห้าเมตรเท่านั้น
  “นี่..นี่คือ.. แก้วจ้าวสมุทรไม่ใช่รึ!”
  หวังชงเซียวถึงกับร้องถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นตกใจเขาคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะมีของวิเศษเช่นนี้ไว้ในครอบครองด้วย
  “นับว่าเจ้าตาถึงนัก!ถูกต้องแล้ว.. นี่คือแก้วจ้าวสมุทร!”
  หลิงหยุนตอบกลับด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจและใช้แก้วจ้าวสมุทรพาคนทั้งหมดเดินลงไปใต้แม่น้ำแยงซีเกียง
  เมื่อลงไปใต้น้ำลึกพอสมควรหลิงหยุนจึงร้องเรียกมังกรทั้งสองตัวทันที  “เจ้าตัวใหญ่เจ้าสีนิล ออกมาโชว์ตัวเร็วๆเข้า!”
  มังกรสีแดงหนึ่งตัวและสีดำหนึ่งตัว ตัวหนึ่งใหญ่ ส่วนอีกตัวหนึ่งเล็ก ปรากฏตัวขึ้นไกลๆ แต่แล้วจู่ๆก็ว่ายพุ่งตรงเข้ามาหาหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว
  ทั้งเย่ซิงเฉินหวังชงเซียว และแวมไพร์ทั้งสอง ต่างก็พากันตื่นตระหนกตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
  แม้เย่ซิงเฉินจะเคยพบเห็นมังกรสีดำมาก่อนหน้านี้แล้วแต่นางไม่เคยพบเห็นมังกรแดนใต้ที่มีเกล็ดสีแดงสว่างไสว และตัวใหญ่โตเช่นนี้มาก่อน จึงได้แต่ยืนตกตะลึง และพูดอะไรไม่ออก
  ปราณมังกรสีแดงลุกโชนทั่วร่างช่างเป็นมังกรที่สง่างามยิ่งนัก!
  “เจ้าตัวใหญ่เจ้าสีนิล ข้าจะให้พวกเขาทั้งสามนำทางพวกเจ้าไปยังทะเลจีนใต้! เพื่อความปลอดภัยของพวกเจ้า พวกเจ้าต้องหนีออกไปให้ไกลจากที่นี่ให้มากที่สุด!”   หลิงหยุนเชื่อว่าหากหลงเทียนซินและหลงเทียนฟางยังไม่ตายพวกเขาทั้งสองย่อมต้องหาทางจับตัวมังกรทั้งสองนี้ให้ได้ หลิงหยุนจึงจำเป็นต้องพามันหนีออกไปให้ห่างจากที่นี่ให้มากที่สุด
  หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหลิงหยุนทั้งมังกรแดนใต้ และเจ้าสีนิลต่างก็พากันว่ายกลับออกไปด้วยท่าทางที่มีความสุข!
  …..
  หลังจากนั้นภายใต้ผืนน้ำในแม่น้ำแยงซีเกียง หลิงหยุนก็พาคนทั้งห้าออกเดินทางใต้น้ำจากเมืองจิ่วเจียง และไปขึ้นฝั่งที่เมืองอันชิงซึ่งห่างจากจิ่วเจียงไปราวหนึ่งร้อยห้าสิบกิโลเมตร
  “หวังชงเซียวจำไว้ว่าตลอดการเดินทางไปจนถึงทะเลจีนตะวันออก อย่าให้คนตระกูลหลงล่วงรู้โดยเด็ดขาด”
  “จำไว้ว่าอย่าทิ้งร่องรอยไว้อย่างเด็ดขาดส่วนเพียร์ซกับจอยซ์จำไว้ว่าอย่าทำให้คนทั่วไปแตกตื่นตกใจได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะทำโทษเจ้า!”
  หลังจากกำชับทั้งสามแล้วหลิงหยุนจึงย้ำอีกครั้งว่า “ข้าจะไปคอยพวกเจ้าที่จิงฉู!”
  และในเวลาเก้าโมงเช้าทั้งหมดก็ได้แยกย้ายกันเดินทาง..

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด