Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1347 แย่งชิงมังกร

อ่านนิยายจีนเรื่อง Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร ตอนที่ 1347 แย่งชิงมังกร อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

  ทั้งหลงฮ่าวเฉียนและหลงเทียนซินต่างต้องการที่จะลงไปตามจับมังกรด้วยตนเองเพราะโอกาสดีๆเช่นนี้ยากนักที่จะพานพบสักครั้ง
  โดยเฉพาะหลงฮ่าวเฉียนที่เวลานี้อยู่ในระดับสูงสุดขั้นชีเฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-7) รูปร่างผอมบางในชุดเสื้อผ้าสีเขียวพุ่งปราดลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว จนดูคล้ายกับดาวตกสีเขียวก็ไม่ปาน
  หลงฮ่าวเฉียนพุ่งลงไปด้านล่างด้วยความเร็วสูงสุดโดยมีหลงเทียนซินตามหลังไปติดๆ และเวลานี้ก็ไปปรากฏตัวอยู่เหนือร่างของเจ้าสีนิลไปเพียงแค่สิบเมตรเท่านั้น พร้อมกับซัดฝ่ามือออกไปกลางอากาศ
  เวลานี้แม้ว่าเจ้าสีนิลจะสามารถเปิดจิตหยั่งรู้ของตนได้แล้วแต่ก็แข็งแกร่งเทียบเท่าผู้บ่มเพาะตนระดับสูงสุดขั้นซานเฉิงชี่ (ขั้นพลังชี่-3) เท่านั้น ถึงแม้มันจะสามารถหนีรอดจากการไล่ล่าของหลงเทียนฟางมาถึงทะเลสาบผอหยางแห่งนี้ได้ แต่ก็รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของตน เป็นที่ซ่อนตัวเพียงชั่วคราวเท่านั้น จึงไม่กล้าดำลงไปในบ่อมังกรลึกมาก
  ความจริงแล้วเจ้าสีนิลต้องการที่จะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ก็เพื่อรักษาบาดแผลตามร่างกายของมันให้หายเสียก่อน จากนั้นจึงจะว่ายเข้าสู่ทะเลจีนตะวันออกต่อไป และตราบใดที่มังกรสามารถเข้าสู่ท้องทะเลได้ ก็จะสามารถฝึกฝนตนจนกลายเป็นมังกรที่แข็งแกร่งได้
  แต่กลับคิดไม่ถึงว่าหลิงหยุนจะต่อสู้กับหลงเทียนฟางมาจนถึงทะเลสาบแห่งนี้ได้ สำหรับเจ้าสีนิลแล้ว หลิงหยุนเปรียบเสมือนเจ้านายผู้สูงส่งของมัน และทันที่เจ้าสีนิลรับรู้ได้ถึงลมหายใจของหลิงหยุน มันเองก็มีความสุขอย่างมากเช่นกัน และแม้จะรู้ว่าการที่มันปรากฏตัวขึ้นในครั้งนี้อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ แต่มันก็ไม่รีรอ และรีบพุ่งออกจากบ่อมังกรทันที!
  ตระกูลหลงนั้นสืบสายเลือดมังกรมานานมากกว่าสองพันปีและวิชาประจำตระกูลก็คือวิชาบัญชามังกรยู่หลงเจี๋วย สิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับมังกร ไม่ว่าจะเป็นปราณมังกร โลหิตมังกร กระดูกมังกร หรือแม้แต่เกล็ดมังกร ตระกูลหลงก็จะต้องนำมาครอบครองให้จงได้ จึงแทบไม่ต้องพูดถึงเจ้าสีนิลซึ่งเป็นมังกรมีชีวิตจริงๆ
  หากสามารถจับมังกรสีดำตัวนี้กลับไปตระกูลหลงได้ไม่ว่าจะจับเป็นหรือว่าจับตาย ก็ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อตระกูลหลงทั้งสิ้น เช่นเดียวกับการที่หลิงหยุนสามารถนำอีกาสีทองที่มีพลังหยางบริสุทธิ์กลับไปด้วยนั่นเอง
  ฝ่ามือสีเขียวขนาดใหญ่กว่าสิบเมตรของหลงฮ่าวเฉียนพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของเจ้าสีนิลที่อยู่ในน้ำอย่างรวดเร็ว!
  “รีบดำลงไปใต้น้ำเร็วเข้า!”
  หลิงหยุนเคยพบเห็นหลงฮ่าวเฉียนที่ค่ายกลกักมังกรหยินมาก่อนจึงสามารถรับรู้ได้ถึงพลังที่น่ากลัวของเขา และหากหลงฮ่าวเฉียนต้องการที่จะจับมังกรแล้วล่ะก็ มันเป็นเรื่องที่ง่ายและเล็กน้อยมากสำหรับเขา
  หลังจากที่ประเมินแล้วว่าต่อให้เจ้าสีนิลหนีลงน้ำไป ก็ยังยากที่จะรอดพ้นฝ่ามือของหลงฮ่าวเฉียนไปได้แน่ หลิงหยุนจึงตัดสินใจสะกัดฝ่ามือนั้นไว้ทันที
  หลิงหยุนรีบเดินพลังลับหยิน–หยางและในมือของเขาก็ปรากฏโซ่หยินหยางขึ้นพุ่งปะทะกับฝ่ามือของหลงฮ่าวเฉียนได้อย่างทันท่วงที!
  โซ่หยิน–หยางของหลิงหยุนนั้นไม่แตกต่างจากงูยักษ์ขนาดสองสามร้อยเมตรเพียงแค่พริบตาเดียวก็สามารถรัดรึงฝ่ามือของหลงฮ่าวเฉียนไว้ได้
  และในระหว่างนั้นหลิงหยุนก็ได้ควบคุมกระบี่เหินเงาธนูและกระบี่กังฉีของตนให้บินฉวัดเฉวียนกลับไปกลับมา และเพียงแค่พริบตาเดียวกำแพงน้ำแข็งที่แข็งแกร่งรอบตัวเขาก็พังทะลายลง
  “มังกรทะยานสู่สรวงสวรรค์!”   หลิงหยุนร้องตะโกนออกมาและร่างสง่างามของเขาก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับคลื่นลูกมหึมา ก่อนจะพุ่งตัวดำดิ่งลงไปหาเจ้าสีนิลใต้น้ำอย่างรวดเร็ว
  สำหรับหลิงหยุนเวลานี้เรื่องอื่นใดก็ไม่สำคัญเท่ากับเจ้าสีนิลอีก เขาจำเป็นต้องช่วยมันให้รอดพ้นจากอันตรายครั้งนี้ไปให้ได้ก่อน!
  หลิงหยุนทำหน้าที่ปกป้องเจ้าสีนิลต่อหน้ายอดฝีมือตระกูลหลงทั้งสามคนอย่างไม่นึกหวั่นเกรง!
  ระหว่างนั้นหลงเทียนซินเองก็ซัดพลังปราณออกมาหนึ่งฝ่ามือเช่นกัน พลังปราณจากฝ่ามือของหลงเทียนซินหมุนวนด้วยความรวดเร็ว และพุ่งปะทะเข้าใส่หัวไหล่ของหลิงหยุนอย่างรุนแรง พลังปราณของหลงเทียนซินไม่เพียงรุนแรงและทรงพลัง แต่ยังแหลมคมยิ่งกว่าคมกระบี่เสียอีก มันสามารถแทงทะลุเกราะกำบังของหลิงหยุนเข้าไปได้ และตัดชุดผ้าแพรไหมดำของเขาจนเป็นรู สร้างบาดแผลที่หัวไหล่ให้กับหลิงหยุนหนึ่งแห่งในทันที!
  ครืน…
  หลิงหยุนโมโหอย่างมากเขาเรียกตราหยกจักรพรรดิออกมาอีกครั้ง และมันก็ขยายใหญ่ขึ้นขนาดสามเมตร พร้อมกับเคลื่อนที่เข้าไปสะกัดพลังของพัดมังกรที่หลงเทียนซินสะบัดใส่ตามมาได้อย่างทันท่วงที
  ทางด้านหลงเทียนฟางก็ปรากฏตัวขึ้นบนยอดคลื่นสูงใหญ่อย่างรวดเร็วก่อนจะกระโจนดำดิ่งลงไปหาเจ้าสีนิลที่อยู่ใต้ผืนน้ำด้านล่างทันที โดยไม่สนใจหลิงหยุนอีกเลยแม้แต่น้อย..
  และเวลานี้ก็เป็นการต่อสู้แย่งชิงมังกรระหว่างตระกูลหลงกับตระกูลหลิง!
  “หลงเทียนฟางเจ้าอย่าได้หวังว่าจะทำสำเร็จเลย!”
  และเพียงแค่พริบตาเดียวร่างของหลิงหยุนก็ว่ายไปอยู่ใกล้กับร่างของเจ้าสีนิลอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสร้างหอกมังกรทองขึ้นมาล้อมร่างของเจ้าสีนิลไว้ และปลายหอกสีทองก็ชี้ไปทางร่างของหลงเทียนฟางอย่างพร้อมเพรียง
  หลงเทียนฟางเห็นหอกมังกรทองก็ถึงกับลังเลและหลังจากที่ใคร่ครวญดีแล้ว เขาจึงได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น และไม่กล้าเดินหน้าต่อ..
  “สีนิลเจ้าล่วงหน้าไปที่บ่อมังกรก่อน!”
  เวลานี้หลิงหยุนต้องรับมือกับยอดฝีมือทั้งสามของตระกูลหลงเพียงลำพังเขาต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างในเวลาเดียวกัน เพื่อที่จะหยุดการจู่โจมของอีกฝ่ายในแต่ละครั้งให้ได้
  “หึ!หลิงหยุน ข้าไม่เชื่อว่ามังกรดำตัวนี้จะเกี่ยวข้องกับเจ้า และในเมื่อมันปรากฏตัวที่นี่แล้ว ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะกลับไปยังบ่อมังกรได้อีก ฮ่าๆๆ”
  หลงฮ่าวเฉียนหัวเราะออกมาเสียงดังเขาไม่สนใจฝ่ามือที่ถูกโซ่หยิน–หยางของหลิงหยุนรัดรึงอยู่ และได้ซัดฝ่ามือสีเขียวขนาดใหญ่ไปที่ร่างของเจ้าสีนิลที่อยู่ด้านล่างอีกครั้งทันที!   ฟิ้ว…ฟิ้ว..
  กระบี่เหินเงาธนูและกระบี่กังฉีของหลิงหยุนพุ่งตรงเข้าฟันใส่ฝ่ามือยักษ์สีเขียวนั้นทันทีแต่ผลปรากฏว่าฝ่ามือของหลงฮ่าวเฉียนนั้นไม่เพียงแข็งแกร่ง แต่ยังมีพลังป้องกันที่สูงมาก แม้แต่กระบี่ทั้งสองของหลิงหยุนยังไม่สามารถทำอันตรายอะไรได้เลยแม้แต่น้อย
  เมื่อหลิงหยุนเห็นเจ้าสีนิลกำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นนั้นเขาทั้งโกรธและร้อนใจยิ่งนัก และกำลังคิดที่จะใช้วิชาหยางพิสุทธิ์รับมือกับหลงฮ่าวเฉียน เพราะพลังหยางที่บริสุทธิ์น่าจะทำลายพลังปราณที่แข็งแกร่งของหลงฮ่าวเฉียนได้
  เคร้ง!
  แต่ในวินาทีนั้นเองแสงสีเขียวของกระบี่เหินเฟยเจี้ยนก็พุ่งฝ่าท้องนภาลงมาอย่างรวดเร็ว และตรงเข้าสะกัดกั้นพร้อมกับกระหน่ำฟันฝ่ามือสีเขียวใหญ่นั้นอย่างไม่ปราณี และในที่สุดฝ่ามือใหญ่ยักษ์นั้นก็แตกสลายเป็นเสี่ยงๆ  “ฮึ่ม..”
  จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงประณาม“ตระกูลหลงช่างไร้ยางอายสิ้นดี! การประลองที่เป็นธรรมควรจะเป็นการประลองหนึ่งต่อหนึ่งมิใช่รึ แต่พวกเจ้ากลับใช้วิธีสามต่อหนึ่งรุมหลิงหยุนเช่นนี้ ไม่รู้สึกละอาจใจบ้างเลยรึ?”
  เป็นเย่ชิงซินที่ลงมือช่วยหลิงหยุน..
  และในเวลาเดียวกันนั้นเองกระบี่เหินเฟยเจี้ยนสีม่วงก็พุ่งฝ่าท้องนภาเข้ามาทำลายพลังจากพัดมังกรของหลงเทียนซินที่สะบัดลงมาเป็นระลอกสองไว้ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นฝีมือของเย่เทียนตูนั่นเอง!
  ตระกูลเย่ไม่เคยนึกหวาดกลัวตระกูลหลงเลยแม้แต่น้อยในเมื่อเย่ชิงซินลงมือเช่นนี้ เย่เทียนตูจึงไม่อาจนิ่งเฉยได้เช่นกัน
  ในเมื่อเย่ชิงซินรับมือหลงฮ่าวเฉียนเย่เทียนตูจึงเลือกที่จะลงมือกับหลงเทียนซิน ส่วนเย่เทียนสุ่ยนั้นกำลังรอดูท่าทีอยู่นิ่งๆ  ความช่วยเหลือจากตระกูลเย่ทำให้หลิงหยุนคลายความกดดันในใจลงทันที..
  ครืน..
  ตราหยกจักรพรรดิเคลื่อนกลับและตรงเข้าบดขยี้ร่างของหลงเทียนฟางแทน!
  “หึ!”
  แม้หลงเทียนฟางจะหวาดกลัวต่อหอกมังกรทองของหลิงหยุนแต่ก็หาได้หวาดกลัวตราหยกจักรพรรดิของเขาไม่ และได้ยกฝ่ามือขึ้นซัดใส่ตราหยกจักรพรรดิให้กระเด็นออกไปทันที
  แต่หลิงหยุนหาได้คิดที่จะใช้ตราหยกจักรพรรดิสังหารหลงเทียนฟางไม่เพราะจุดประสงค์ของเขาอยู่ที่การใช้วิชามังกรทองคะนองต่างหากเล่า!
  และเวลานี้หอกมังกรทองก็ได้พุ่งตรงเข้าหมายปักร่างของหลงเทียนฟางด้วยความรวดเร็ว!
  แต่หลงเทียนฟางเองก็ได้เตรียมการไว้แล้วเช่นกันร่างของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และพุ่งหนีลงไปในน้ำทันที
  ในที่สุดหลิงหยุนก็สบโอกาสเขากระโดดขึ้นไปยืนอยู่บนศรีษะของเจ้าสีนิล พร้อมกับร้องตะโกนสั่งว่า
  “สีนิลเจ้ารีบย่อตัวให้เล็กลงเร็วเข้า!”
  สำหรับลูกมังกรก่อนที่จะเติบใหญ่เป็นมังกรที่แท้จริงนั้นสิ่งหนึ่งที่พวกมันทำได้นั้น นอกจากสร้างคลื่นในน้ำแล้ว ยังสามารถย่อขยายขนาดตัวได้ แต่พลังของมันก็หาได้ใหญ่ตามตัวไม่ แต่เพราะเจ้าสีนิลจำเป็นต้องต่อสู้ มันจึงขยายร่างของตนให้ใหญ่ยิ่งๆขึ้น
  รูปร่างที่ใหญ่โตของมันนั้นอาจสามารถสร้างความหวาดกลัวให้ยอดฝีมือต่ำต้อยได้แต่หาใช่กับยอดฝีมือที่เก่งกล้าทั้งสามของตระกูลหลง และยิ่งมันตัวโตมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งกลายเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น และยากต่อการป้องกัน หลิงหยุนจึงสั่งให้มันย่อขนาดให้เล็กลง
  หลังจากที่ถูกไล่ล่ามาไกลถึงที่นี่เมื่อเจ้าสีนิลได้กลับมาอยู่กับหลิงหยุนอีกครั้ง มันจึงตื่นเต้นและดีใจยิ่งนัก เพราะรู้ว่าหลิงหยุนจะสามารถปกป้องคุ้มครองมันได้ มันคำรามออกมาเสียงดัง ในขณะเดียวกันร่างของมันก็ค่อยๆหดลง จนเหลือความยาวเพียงแค่ห้าหรือหกเมตรเท่านั้น
  “นั่นล่ะ..เก่งมาก!”
  จากนั้นหลิงหยุนก็กระโดดไปยืนอยู่บนแผ่นหลังของเจ้าสีนิลพร้อมกับสร้างโล่ลมปราณขึ้นครอบร่างของเจ้าสีนิลไว้ และกำชับว่า
  “จากนี้ไปเจ้าไม่ต้องต่อสู้แค่ว่ายตามข้ามาเท่านั้นก็พอ”
  จากนั้นหลิงหยุนก็ได้สร้างหอกมังกรทองล้อมรอบร่างของเจ้าสีนิลไว้เพื่อป้องกันไม่ให้หลงเทียนฟางเข้าใกล้ได้
  ในเวลานั้นหลิงหยุนก็สังเกตเห็นบาดแผลมากกว่าสิบแห่งตามลำตัวของเจ้าสีนิล บางแห่งเป็นแผลลึกจนถึงกระดูก และบางแห่งก็ยังมีเลือดไหลซึมออกมาอยู่ตลอดเวลา  หลิงหยุนรู้สึกเศร้าใจยิ่งนักจึงถามขึ้นว่า “สีนิล.. เจ้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไรกัน แล้วผู้ใดกันที่ทำร้ายเจ้าเช่นนี้?”
  เจ้าสีนิลร้องคำรามออกมาเสียงดังจากนั้นจึงหันศรีษะของมันไปทางหลงเทียนฟางที่อยู่ใต้น้ำ และเฝ้าร้องคำรามอยู่เช่นนั้น
  หลงเทียนฟางงั้นรึ
  ความรู้สึกภายในใจของหลิงหยุนที่สงบนิ่งก่อนหน้านี้เริ่มเปลี่ยนเป็นความรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที!
  หลิงหยุนเป็นคนเฉลียวฉลาดมากเพียงใดทุกคนย่อมรู้ดี..และเพียงแค่เขาเชื่อมโยงเรื่องราวระหว่างตระกูลหลง ป่าเสินหนงเจี๋ย และทะเลสาบผอหยางเข้าด้วยกัน เขาก็สามารถเข้าใจเรื่องราวต่างๆได้อย่างกระจ่างชัดทันที
  หลิงหยุนคาดเดาได้ว่าตระกูลหลงน่าจะได้รับรายงานลับเรื่องเจ้าสีนิล จึงได้ส่งหลงเทียนฟางออกมาค้นหาหม้อเสินหนง และตามจับเจ้าสีนิลกลับไปด้วย จึงได้ไล่ล่ามันมาจนถึงทะเลสาบผอหยางแห่งนี้
  “การที่ตระกูลหลงในปักกิ่งยังคงสงบนิ่งเพราะได้วางแผนเปิดศึกนอกเมืองหลวงนี่เอง!”
  หลิงหยุนกำลังครุ่นคิดว่าที่ตระกูลหลงในเมืองหลวงสงบนิ่งไม่เคลื่อนไหวใดๆนั้น แท้ที่จริงแล้วก็ได้แอบสนับสนุนงานชุมนุมชาวยุทธในครั้งนี้อย่างเงียบๆ ในขณะเดียวกันก็ให้หลงเทียนฟางออกมาไล่จับเจ้าสีนิลของเขา!
  แล้วเมืองจิงฉูเล่า!
  หลิงหยุนใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งเมืองจิงฉูก็ผุดขึ้นมาในห้วงความคิดของเขาทันที!
  ตั้งแต่ที่หลิงหยุนผงาดขึ้นมาได้นั้นนอกจากปักกิ่งแล้วก็มีเพียงเมืองจิงฉูที่เขาอาศัยอยู่ และในเมื่อเวลานี้ตัวเขาอาศัยอยู่ในปักกิ่ง ตระกูลหลงจึงต้องฉวยโอกาสนี้ส่งคนไปสืบเรื่องราวเกี่ยวกับเขาในจิงฉูแทน!
  และผู้ที่หลงฮ่าวหลานจะส่งไปสืบเรื่องของเขาในจิงฉูก็คงจะต้องเป็นคนที่เขาไว้ใจได้ และผู้ที่มีคุณสมบัติตรงมากที่สุดก็คือหลงเทียนซิน!
  หลิงหยุนถึงกับหัวใจเต้นแรงเมื่อนึกถึงหินมังกรเขียวขนาดใหญ่ที่เขาโยนลงไปไว้ที่ใต้หลุมยักษ์!
  “หึ!ตระกูลหลงแสร้งทำเป็นไม่เคลื่อนไหวในปักกิ่ง แต่กลับแอบส่งหลงเทียนซินไปสำรวจรังของข้าถึงจิงฉูเชียวรึ”
  หลิงหยุนพึมพำอยู่ในลำคอในขณะเดียวกันก็เงยหน้าขึ้นมองหลงเทียนซินที่กำลังประมืออยู่กับเย่เทียนตูด้วยแววตาเป็นประกาย!
  หลงเทียนซิน!เจ้าเด็กเมื่อวานซืน คิดจะขโมยหินมังกรเขียวของข้าไปเชียวรึ

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด