Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1420 ค่ายกลกระบี่สวรรค์

อ่านนิยายจีนเรื่อง Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร ตอนที่ 1420 ค่ายกลกระบี่สวรรค์ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 1420 : ค่ายกลกระบี่สวรรค์
  หลังจากที่ใช้วิชาพลังมังกรหลิงหยุนก็สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วยิ่งกว่าเดิม..
  แน่นอนว่าเวลานี้เขาสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าเดิมถึงสามเท่าทำให้ความเร็วในการเหาะของหลิงหยุนเวลานี้เพิ่มขึ้นเป็นเหนือกว่าความเร็วเสียงถึงสิบห้าเท่า
  แต่แน่นอนว่าในความเป็นจริงเขาไม่สามารถเหาะไปได้ด้วยความเร็วถึงเพียงนั้นเพราะกายเนื้อของเขาอาจถูกแรงปะทะกับห้วงอากาศจนได้รับบาดเจ็บได้ เขาจึงเหาะไปด้วยความเร็วเหนือเสียงไม่เกินแปดเท่า และความเร็วในระดับนี้ก็เพียงพอที่จะไล่ตามยอดฝีมือขั้นก่อสร้างรากฐานได้อย่างง่ายดาย
  หลิงหยุนเหาะผ่านหน้าตี๋เฮ่อหมิงไปอย่างรวดเร็วแต่กลับไม่ทำร้ายตี๋เฮ่อหมิง ตี๋เฮ่อหมิงเห็นเช่นนั้นก็สามารถคาดเดาความคิดของหลิงหยุนได้ในทันที จึงรีบส่งกระแสจิตเตือนตี๋เสี่ยวเจินผู้เป็นบุตรสาว  เวลานี้ตี๋เสี่ยวเจินอยู่ที่สำนักกระบี่เทียนซานบนยอดเขาปฐพีเสียงปังดังขึ้นบนน่านฟ้าเหนือยอดเขา และหลิงหยุนก็กำลังทำลายค่ายกลขุนเขาที่ปกป้องยอดเขาปฐพีไว้นั่นเอง
  ตี๋เฮ่อหมิงรีบบังคับกระบี่เหินของตนให้พุ่งเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนในทันทีแต่น่าเสียดายที่พลังจิตของหลิงหยุนนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก เขาบังคับตราหยกจักรพรรดิเข้าสะกัดกระบี่เหินของตี๋เฮ่อหมิงไว้ได้อย่างรวดเร็ว
  “ตาเฒ่า..เจ้าวุ่นวายมากเกินไปแล้ว!”
  ฟิ้ว..
  หลิงหยุนพุ่งหอกมังกรทองตรงเข้าใส่ร่างของตี๋เฮ่อหมิงพร้อมกับใช้วิชามังกรทองคะนองควบคู่ไปด้วย และทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
  “ห๊ะ!”
  ตี๋เฮ่อหมิงพุ่งกระบี่ลมปราณออกจากร่างเข้าสะกัดหอกมังกรทองของหลิงหยุนไว้อย่างรวดเร็ว  หอกมังกรทองพุ่งออกไปกลางอากาศในขณะที่พลังสีสองสุกสว่างก็พุ่งตามเข้าไปรัดรึงห่อหุ้มหอกมังกรทองไว้ หอกมังกรทองที่ห่อหุ้มไว้ด้วยพลังธาตุทองพุ่งปะทะกระบี่ลมปราณของตี๋เฮ่อหมิงจนแตกสลาย ก่อนจะพุ่งเข้าใส่ร่างของตี๋เฮ่อหมิงต่อไป
  หอกมังกรทองพุ่งผ่านร่างของตี๋เฮ่อหมิงไปแล้วจึงวกกลับมาพุ่งใส่ร่างของเขากลับไปกลับมาเช่นนั้นอยู่ถึงสี่ครั้ง ครั้งแรกพุ่งทะลุหน้าอกด้านขวาของเขา ตามมาด้วยบริเวณท้องน้อย และสุดท้ายคือต้นขาทั้งสองข้าง และทุกส่วนที่หอกมังกรทองพุ่งผ่านนั้น ล้วนแล้วแต่กลายเป็นรูขนาดใหญ่
  “แค่ปกป้องตัวเองเจ้ายังทำไม่ได้ยังกล้าจะไปปกป้องลูกชั่วของเจ้าอีกงั้นรึ นางจะต้องได้รับผลมากกว่าเจ้าหลายร้อยหลายพันเท่า!”
  หลิงหยุนเหาะกลับมาตรงหน้าตี๋เฮ่อหมิงและจงใจไม่สังหารอีกฝ่ายให้สิ้นใจ พร้อมกับกระซิบบอกเสียงเบา
  “หลิงหยุนข้ารู้ตัวว่าทำผิดต่อเจ้า ได้โปรดเมตตาปล่อยสำนักกระบี่เทียนซานของข้าไปสักครั้งจะได้หรือไม่”
  เวลานี้ใบหน้าของตี๋เฮ่อหมิงซีดเผือดร่างกายอาบโชกไปด้วยโลหิตสีแดง และกำลังเจ็บปวดใจอย่างที่สุด แต่ก็ยังพยายามทรงตัวเหาะอยู่กลางอากาศได้ พร้อมกับเอ่ยขอร้องหลิงหยุนด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน
  “หึ..เจ้าสำนึกในเวลานี้ก็สายเกินไปแล้ว!”
  สีหน้าของหลิงหยุนไร้ซึ่งวี่แววของความเมตตาสงสารเขาเหลือบมองจ้าวหมิงถังที่ยังคงถือธงวายุอยู่ในมือ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
  “บุตรสาวของเจ้าถือตัวว่าเป็นคนของสำนักกระบี่เทียนซานถึงกับกล้าทรมานและเหยียบย่ำท่านแม่ของข้ามานานกว่าครึ่งปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจ้ากลับมิตักเตือนบุตรสาวตนเอง เห็นชัดว่าพวกเจ้าสองคนพ่อลูก ล้วนแล้วแต่ไร้ซึ่งมนุษยธรรมไม่ต่างกันเลย!”   ระหว่างที่พูดนั้นมือของหลิงหยุนกลับมิได้หยุดนิ่งเขาใช้กระบี่ในมือตัดแขนขาของตี๋เฮ่อหมิงทั้งสี่ข้างออก และครั้งที่ห้าแทงเข้าที่ท้องน้อยทำลายจุดตันเถียนของเขาในทันที จากนั้นจึงใช้ดัชนีห้าธาตุสกัดจุดห้ามเลือดของตี๋เฮ่อหมิงไว้
  “ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าตายไปก่อนแน่เจ้าจักต้องอยู่ดูว่าข้าจะทำลายสำนักกระบี่เทียนซานของเจ้าเช่นใด”
  หลิงหยุนไม่มีเวลาที่จะพล่ามไร้สาระกับตี๋เฮ่อหมิงอีกเขากระโดดพุ่งเข้าไปเตะร่างของตี๋เฮ่อหมิงเข้าใส่ร่างของเจ้าวหมิงถังซึ่งเหาะตามมาอย่างรวดเร็ว
  แม้จ้าวหมิงถังจะอยู่ในด่านสุดท้ายขั้นก่อสร้างรากฐานแต่ก็มิอาจเหาะตามหลิงหยุนได้ทัน เขาจึงเดือดดาลเป็นยิ่งนัก และเร่งความเร็วในการเหาะตามหลิงหยุนมามากกว่าเดิม
  แต่เมื่อจู่ๆหลิงหยุนเตะร่างไร้แขนขาของตี๋เฮ่อหมิงเข้าใส่ตนเช่นนี้เขาจึงไม่อาจหลบได้ทัน จึงรีบยกธงวายุในมือขึ้นโบกสะบัดอย่างรวดเร็ว
  “ขอบคุณที่ช่วยไล่มันไปให้ข้า”
  หลิงหยุนคร้านที่จะใส่ใจตี๋เฮ่อหมิงอีกว่าจะเป็นหรือตายเช่นใดเขาเอ่ยขอบคุณจ้าวหมิงถังเป็นการล้อเลียน พร้อมกับเหาะหนีไปทันที
  “หลิงหยุนเจ้าจะหนีไปไหน”
  จ้าวหมิงถังร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้นและพุ่งตามร่างของหลิงหยุนไปโดยไม่สนใจว่าตี้เฮ๋อหมิงจะเป็นหรือตายเช่นกัน
  ตี๋เสี่ยวเจินซึ่งอยู่บนยอดเขาปฐพีได้เห็นพ่อของตนถูกหลิงหยุนทำร้ายสาหัสเช่นนั้น นางก็ถึงกับโกรธจนคลุ้มคลั่ง และได้เปิดค่ายกลทั้งหมดที่มีอยู่ภายในสำนักกระบี่เทียนซานขึ้น
  เวลานี้ค่ายกลขุนเขาที่คอยปกป้องมิให้คนนอกเข้ามาภายสำนักกระบี่เทียนซานนั้นได้ถูกหลิงหยุนและเย่ซิงเฉินทำลายลงแล้วย่อมหมายความว่าเวลานี้ศัตรูสามารถบุกเข้ามาภายในสำนักได้อย่างง่ายดายเพราะไร้เกราะป้องกัน ตี๋เสี่ยวเจินจึงทำการเปิดค่ายกลสังหารภายในสำนักกระบี่เทียนซานที่เหลือออกทั้งหมด
  ท่ามกลางเสียงดังครืนๆไปทั่วทั้งบริเวณเวลานี้ค่ายกลซึ่งอยู่รอบยอดเขาทั้งสามเริ่มทำงานแล้ว กำแพงขนาดใหญ่ที่มีกระบี่ลมปราณนับไม่ถ้วนปักอยู่เริ่มสั่นสะท้านอย่างรุนแรง จากนั้นกำแพงรอบด้านก็เริ่มแตกออกคล้ายกระจกที่แตกร้าว และปรากฏเป็นคลื่นกระบี่ลมปราณมากมายพวยพุ่งออกมา
  คลื่นกระบี่ลมปราณเหล่านั้นได้หลอมรวมเข้ากันกลายเป็นกระบี่สวรรค์เล่มใหญ่หลายเล่มกำแพงใหญ่เมื่อครู่ได้มลายหายไป เผยให้เห็นสันเขาที่ทอดยาวอย่างชัดเจน
  เพียงแค่พริบตาเดียวกระบี่สวรรค์นับพันเล่มได้ปรากฏรายล้อมยอดเขาทั้งสามไว้ แต่ละเล่มล้วนมีความยาวมากกว่าสิบเมตร และปลายกระบี่ล้วนพุ่งเป้าไปที่ยอดเขาปฐพีทั้งสิ้น
  และนี่คือค่ายกลกระบี่สวรรค์ของสำนักกระบี่เทียนซาน!
  “ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้าจะต้องมาไม้นี้!”
  หลิงหยุนร้องตะโกนออกไปพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างเย้ยหยันเวลานี้หลิงหยุนมาถึงยอดเขาปฐพีแล้ว และจ้าวหมิงถังก็ยังคงไล่ตามเขามาไม่หยุด
  ตี๋เสี่ยวเจินยืนอยู่บนยอดเขาปฐพีจ้องมองหลิงหยุนที่กำลังบุกเข้ามา นางขบฟันด้วยความโกรธแค้นใจพร้อมกับร้องตะโกนออกไปว่า
  “หลิงหยุนเจ้าสุนัขขี้เรื้อน เจ้าบังอาจทำร้ายท่านพ่อของข้า ข้าจะให้เจ้าตายโดยไร้แผ่นดินกลบหน้า!”
  กระบี่สวรรค์นับสิบๆเล่มที่อยู่นอกเขาปฐพีเริ่มขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวและความเร็วของมันนั้นก็ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทุกเล่มล้วนพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของหลิงหยุน!
  ตี๋เสี่ยวเจินเป็นเจ้าของค่ายกลกระบี่สวรรค์นี้เพียงแค่ใช้พลังจิตสั่งการ ค่ายกลทั้งหมดก็จะทำงานตามคำสั่งของนางทันที
  “ไม่ได้การ..”
  หลิงหยุนจ้องมองกระบี่สวรรค์ที่ทรงพลังยิ่งและรู้ว่าภายใต้ค่ายกลอันทรงพลังนี้ กระบี่สวรรค์ทุกเล่มสามารถพุ่งเข้าใส่ร่างของเขาได้อย่างแม่นยำและรุนแรง เขาจึงจำเป็นต้องหลบหลีกเสียก่อน
  ฟิ้ว..
  หลิงหยุนใช้วิชาเงาลวงตาพุ่งหายไปอย่างรวดเร็วและจู่ๆก็ไปปรากฏอยู่ด้านหลังของจ้าวหมิงถังแทน
  “จ้าวหมิงถังเป็นหน้าที่ของเจ้าแล้ว!”
  เวลานี้..จ้าวหมิงถังหาได้มีเกราะคุ้มกันปกป้องร่างกายไม่
  “แย่แล้ว!#¥%@……”
  จ้าวหมิงถังกรีดร้องออกมาด้วยความคั่งแค้นและตกใจเวลานี้กระบี่สวรรค์กำลังพุ่งตรงเข้าใส่ร่างของเขา แต่เพราะเขาไม่สามารถเคลื่อนที่หลบหลีกได้รวดเร็วดังเช่นหลิงหยุน ในวินาทีแห่งความเป็นความตายเช่นนี้ จึงได้แต่ยกธงวายุในมือขึ้นโบกใส่กระบี่สวรรค์ที่กำลังพุ่งตรงเข้าใส่ร่าง
  “เยี่ยม!ศิษย์คุนหลุนเจ้าทำหน้าที่ได้ดีมาก!”
  หลิงหยุนจงใจเอ่ยชมจ้าวหมิงถังเพื่อทำให้เขารู้สึกเดือดดาลมากยิ่งขึ้น
  ฟิ้ว..
  หลังจากคลื่นกระบี่สวรรค์ชุดแรกสิ้นสุดลงตี๋เสี่ยวเจินก็ได้ใช้พลังจิตของตนควบคุมกระบี่สวรรค์ชุดใหม่ให้พุ่งออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีกระบี่สวรรค์นับร้อยๆเล่ม พุ่งมาจากยอดเขาปฐพีตรงเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนที่กำลังเหาะอยู่กลางอากาศ
  “หน้าที่ของเจ้าอีกแล้ว..!”
  หลิงหยุนยิ้มเยือกเย็นและเหาะหลบกระบี่สวรรค์ด้วยการเหาะวนไปวนมาอยู่รอบตัวจ้าวหมิงถัง ทำเสมือนหนึ่งว่าเขาเป็นไพ่ใบหนึ่งในมือของตน
  จ้าวหมิงถังแทบอยากจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ไร้ซึ่งน้ำตานั่นเพราะถึงแม้ว่ากระบี่สวรรค์ของตี๋เสี่ยวเจินมุ่งหมายที่จะสังหารหลิงหยุน แต่เวลานี้หลิงหยุนกลับเหาะไปมารอบตัวเขาเช่นนี้…
  กระบี่สวรรค์เหล่านั้นควบคุมด้วยพลังจิตในขั้นปาเฉิงชี่(ขั้นพลังชี่-8) ของตี๋เสี่ยวเจิน อีกทั้งนางยังหมายที่จะสังหารหลิงหยุนให้ได้ จึงได้แต่บังคับกระบี่ให้พุ่งเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนโดยมิได้สนใจอื่นใดนอกจากนั้น
  จ้าวหมิงถังไม่มีทางเลือกเขาจึงต้องยกธงวายุในมือขึ้นโบกไล่กระบี่สวรรค์จำนวนมากมายที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า
  “ตี๋เสี่ยวเจ้านี่เจ้าจะบ้าไปแล้วรึ”
  “อาวุโสจ้าวคืนนี้ข้าต้องสังหารหลิงหยุนให้จงได้ ขอท่านอย่าได้เหาะอยู่กลางอากาศเช่นนั้นเลย รีบมาที่นี่ช่วยข้าจัดการกับมันจะดีกว่า!”
  แม้ตี๋เสี่ยวเจินจะคลุ้มคลั่งแต่นางก็ยังพอมีสติรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควร เมื่อเห็นว่าสิ่งที่ตนทำอยู่นั้นไม่เหมะสมนัก นางจึงได้ชะลอการจู่โจมหลิงหยุน พร้อมกับหันไปเอ่ยชวนให้จ้าวหมิงถังมาร่วมมือกับนางสังหารหลิงหยุน
  “เอ่อ..”
  จ้าวหมิงถังถึงอึกอักแต่เมื่อนึกถึงการตายของศิษย์น้องทั้งสามขึ้นมา ดวงตาของเขาก็แดงก่ำอีกครั้ง..
  “ตกลง!”
  จ้าวหมิงถังเหาะตรงเข้าไปยังเขาปฐพีในขณะที่ในมือก็โบกธงวายุเปิดทางให้ตนเองสามารถเหินลงสู่ยอดเขาปฐพีได้
  “ศิษย์คุนหลุนขอบใจเจ้ามากที่เปิดทางให้ข้า..”
  พรึบ..ร่างของหลิงหยุนที่เหาะตามจ้าวหมิงถังมานั้น ลอยอยู่เหนือยอดเขาปฐพีพร้อมกับเอ่ยขอบคุณจ้าวหมิงถังทันที  ขณะที่จ้าวหมิงถังได้แต่นิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออกนั้นกระบี่เหินเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว
  ปัง!
  ตราหยกจักรพรรดิของหลิงหยุนพุ่งเข้าสะกัดกระบี่เหินของจ้าวหมิงถังไว้อย่างรวดเร็วแรงปะทะของอาวุธทั้งสอง ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งบริเวณ
  เวลานี้..หลิงหยุนเหาะอยู่เหนือยอดเขาปฐพีซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักกระบี่เทียนซาน นอกจากกระบี่สวรรค์แล้ว ก็ยังมีกระบี่อื่นอีกมากมาย
  “หลิงหยุนเวลานี้เจ้าอยู่เหนือยอดเขาปฐพี ข้าก็อยากจะรู้นักว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้อีก”
  ตี๋เสี่ยวเจินแสยะยิ้มออกมาในขณะที่ร้องตะโกนขู่หลิงหยุนแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับทำให้ตี๋เสี่ยวเจินถึงกับอึ้งไป..
  ร่างของหลิงหยุนร่อนลงสู่พื้นดินริมฝีปากแสยะยิ้มในขณะที่กระบี่ในมือฟาดฟันเขาใส่กระบี่ที่พุ่งขึ้นมาจากผืนดินใต้ฝ่าเท้าอย่างไม่รีบร้อน พร้อมกับปากก็ร้องตะโกนตอบไปว่า
  “ในเมื่อข้าตั้งใจมาจับตัวเจ้าเหตุใดยังต้องคิดหนีด้วยเล่า”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด