Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1352 มังกรแดนใต้

อ่านนิยายจีนเรื่อง Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร ตอนที่ 1352 มังกรแดนใต้ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

  เวลานี้หลิงหยุนรู้แล้วว่ากระบี่โลหิตแดนใต้นั้นมีดวงจิตของมังกรแดนใต้ถูกสะกดอยู่ด้านใน เพราะเมื่อครั้งที่เขาต่อสู้กับพญางูโอโรชินั้น ดวงจิตของมังกรแดนใต้ก็ได้พุ่งออกมากลืนกินดวงจิตของพญางูโอโรชิเข้าไป ก่อนจะหายกลับเข้าไปในกระบี่ดังเดิม..
  หลิงหยุนสัมผัสได้ว่าอสูรสีแดงภายใต้บ่อมังกรแห่งนี้นั้นดูเหมือนจะดุร้ายกว่าพญางูโอโรชิหลายเท่า หลิงหยุนจึงต้องการที่จะทดสอบว่า ดวงจิตของมังกรแดนใต้ภายในกระบี่เล่มนี้ จะสามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับมังกรสีแดงตัวนี้ได้หรือไม่
  และก็เป็นดังที่หลิงหยุนคาดคิดทันทีที่กระบี่โลหิตแดนใต้ปรากฏขึ้น ลำตัวของมังกรสีแดงก็สั่นสะท้านไปจนกระทั่งถึงเกล็ดของมัน และเสียงร้องคำรามดุดันก็ค่อยๆเบาลงจนกระทั่งเงียบไปในที่สุด!
  “อ่อ..นับว่าช่วยข้าได้มากทีเดียว!”   หลิงหยุนรำพึงรำพันออกมาเมื่อได้เห็นอานุภาพของกระบี่โลหิตแดนใต้!
  จากนั้นร่างที่มีลักษณะคล้ายงูยักษ์สีแดงเข้มก็ได้พุ่งออกมาจากกระบี่โลหิตแดนใต้ และว่ายวนอยู่รอบกระบี่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ร่างของมันจะค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น และเพียงแค่พริบตาเดียวก็มีขนาดยาวกว่าสิบเมตร!
  และนี่คือดวงจิตของมังกรแดนใต้!
  เวลานี้มังกรแดนใต้เริ่มมีเกล็ดสีแดงเข้มเป็นประกายระยิบระยับปรากฏขึ้นทั่วทั้งตัวและที่หัวของมันก็มีเขางอกออกมาสองเขา ลำตัวมีเท้าสี่เท้างอกออกมา รูปร่างของมันสวยสง่า และสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่ได้เห็นเป็นแค่เงาเลือนลางเหมือนครั้งก่อน และเกล็ดรอบตัวของมันก็แวววาวราวกับเหล็กที่แข็งแกร่ง..
  “สง่างามและสวยงามยิ่งนัก!”
  สิ้นเสียงร้องคำรามของมังกรแดนใต้ร่างของมันก็ขยายใหญ่ขึ้นอีกเท่าตัว พร้อมกับส่ายศรีษะไปมา ดูช่างสง่างามและน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!
  และนี่คือร่างของมังกรแดนใต้หลังจากที่ได้กลืนกินดวงจิตของพญางูโอโรชิเข้าไปในครั้งนั้น!
  “เจ้านาย!”
  ทันทีที่มังกรแดนใต้ปรากฏตัวขึ้นดวงตาสีแดงดุดันคู่นั้นของมันก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของมังกรสีแดงที่อยู่เบื้องล่าง ในขณะเดียวกันก็ทักทายหลิงหยุนผ่านทางกระแสจิต
  “ไปได้!”
  หลิงหยุนยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมกับพยักหน้าและร้องบอกเสียงเบา..
  ดวงตาสีแดงคู่นั้นเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นดีใจจากนั้นร่างยาวใหญ่กว่าสิบเมตรของมังกรแดนใต้ ก็พุ่งฝ่าสายน้ำเข้าอยู่ใต้ต้นหลิวเทวะวิญญาณทันที!
  เวลานี้ทั้งมังกรสีแดงและดวงจิตของมังกรแดนใต้ ต่างก็ว่ายลงไปอยู่ที่เบื้องล่างของต้นหลิวเทวะวิญญาณ เมื่อครั้งที่หลิงหยุนเรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมานั้น ถึงแม้มังกรสีแดงตัวนี้จะแสดงท่าทีหวาดกลัว แต่ก็ไม่ยอมว่ายหนีไป..
  นั่นเพราะทั้งคู่ต่างก็สามารถกลายร่างเป็นมังกรได้แล้วนั่นเองและมังกรที่สง่างามตัวนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าดวงจิตของมังกรแดนใต้เลย
  มังกรสีแดงสง่างามตัวนี้รับรู้ได้ว่าดวงจิตของมังกรแดนใต้ต้องการที่จะได้ร่างมังกรของมัน ในขณะที่ตัวมันเองก็ต้องการกลืนกินดวงจิตของมังกรแดนใต้เช่นกัน
  การฝึกฝนของมังกรก็ไม่ต่างจากการฝึกฝนของมนุษย์ผู้ที่แข็งแกร่งกว่าย่อมสามารถแย่งชิงทรัพยากรในการฝึกฝนได้มากกว่า เช่นเดียวกับมังกรสีแดงตัวนี้ หากมันสามารถกลืนกินดวงจิตของมังกรแดนใต้ได้สำเร็จ มันก็จะสามารถกลายร่างเป็นมังกรที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง และไม่ต้องอาศัยอยู่แต่ในบ่อมังกรเล็กๆแห่งนี้อีก
  และตราบใดที่มังกรสองตัวเผชิญหน้ากันจะมีเพียงหนึ่งตัวเท่านั้นที่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้!
  เวลานี้หลิงหยุนกำลังตื่นเต้นอย่างมากจนกระทั่งหลงลืมหลงเทียนฟางไปเสียสนิทเขาจัดการเปิดเนตรหยิน–หยางขั้นสุด เพื่อต้องการดูการต่อสู้ของมังกรสองตัวให้เต็มตา
  หลิงหยุนพบว่ามังกรแดนใต้นั้นยังคงสงบนิ่งในขณะที่มังกรสีแดงนั้นดวงตาเบิกโตอย่างดุดัน เกล็ดสีแดงขนาดใหญ่รอบลำตัวของมันนั้นเปิดออก ในขณะที่ลำตัวส่วนหัวก็ชูชันขึ้นราวกับไก่ชนที่พร้อมจะจู่โจมคู่ต่อสู้..
  มังกรสองตัวคำรามเสียงดังใส่กันอย่างน่ากลัวจนสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งผืนน้ำเวลานี้กระแสน้ำภายใต้บ่อมังกรได้เกิดเป็นคลื่นขนาดใหญ่อีกครั้ง แล้วมังกรสองตัวก็พุ่งเข้าต่อสู้รัดรึงกันในทันที!
  นี่คือการต่อสู้ของมังกรทั้งสองตัว..ร่างใหญ่ยาวทั้งสองร่างว่ายเข้าปะทะ และกอดรัดกันอย่างรุนแรง เนื่องจากมังกรทั้งสองมีเกล็ดสีแดงสุกสว่างเหมือนกัน แม้แต่หลิงหยุนเองยังแทบแยกไม่ออกว่าตัวไหนเป็นตัวไหน
  ภายใต้บ่อมังกรเวลานี้..กระแสน้ำหมุนด้วยความเร็ว และเกิดคลื่นขนาดใหญ่หลายลูก แต่เนื่องจากมังกรทั้งสองตัวต่อสู้กันอยู่เบื้องล่างของหลิวเทวะวิญญาณ พื้นผิวน้ำที่มีสีเขียวสว่างเจิดจ้าของหลิวเทวะครอบคลุมอยู่นั้นจึงยังคงสงบนิ่ง และหลิงหยุนก็หลบอยู่ในบริเวณพื้นที่สีเขียวนั้น พร้อมกับจ้องมองมังกรสองตัวต่อสู้กันอย่างออกรสออกชาด
  …..
  ในขณะที่ด้านล่างบ่อมังกรนั้นมีการต่อสู้ของมังกรสองตัวอย่างดุเดือดแต่ผิวน้ำเบื้องบนยังคงสงบนิ่งไร้คลื่น..
  อีกทั้งทันทีที่มังกรทั้งสองตัวต่อสู้กันนั้นท้องฟ้าก็ปรากฏเมฆดำลึกลับรวมตัวกันขึ้นอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนตัวมาบดบังแสงจันทร์เหนือผืนน้ำแห่งนี้ไว้อย่างหนาแน่น ทำให้ผืนน้ำแห่งนี้ยิ่งมืดมิดมากขึ้นกว่าเดิม
  “หลิงหยุนตายไปแล้วงั้นรึ”   หลงเทียนฟางกำลังเหาะอยู่เหนือบ่อมังกรพร้อมกับเปิดจิตหยั่งรู้ขั้นสุดออกสำรวจผืนน้ำเบื้องล่างเพื่อจะดูว่าเกิดอะไรขึ้นภายใต้บ่อมังกรกันแน่ แต่จิตหยั่งรู้ของเขาก็สามารถมองลึกลงไปใต้ผิวน้ำได้เพียงแค่ยี่สิบเมตรเท่านั้น
  อีกทั้งพลังของหลิวเทวะวิญญาณที่บดบังไว้ทำให้จิตหยั่งรู้ของหลงเทียนฟางไม่สามารถมองทะลุลงไปได้..
  ด้วยเหตุนี้หลงเทียนฟางจึงทำได้เพียงแค่คาดเดาจากการเคลื่อนไหวของผิวน้ำเบื้องบนเท่านั้น..
  ทันทีที่ร่างของหลิงหยุนร่วงหล่นลงไปในบ่อมังกรภายในบ่อมังกรก็เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หลังจากนั้นผิวน้ำก็นิ่งสงบ และร่างของหลิงหยุนยังคงไม่โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ
  “ไม่สิ!เจ้าไม่น่าจะตายง่ายๆเช่นนี้”
  จากนั้นหลงเทียนฟางก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา“รออีกสักพักข้าจะลงไปสำรวจใต้บ่อมังกร หากพบทั้งเจ้าทั้งมังกร ข้าจะได้ฆ่าให้ตายทั้งคู่!”
  หลงเทียนฟางใช้วิชามังกรพิโรธจัดการกับหลิงหยุนในครั้งนี้มิได้มีเป้าหมายเพื่อสังหารหลิงหยุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขาตั้งใจซัดให้ร่างของหลิงหยุนตกลงไปในบ่อมังกรแห่งนี้ ก็เพื่อใช้ร่างของหลิงหยุนเปิดทาง ก่อนที่เขาจะลงไปสำรวจด้านล่างต่อ เรียกว่าส่งหลิงหยุนไปตายก่อนนั่นเอง..
  “น้าหญิง..หลงเทียนฟางช่างเจ้าเล่ห์นัก! ปากก็บอกว่าต้องการประมือกับหลิงหยุนตัวต่อตัว แต่แท้จริงแล้วเขาตั้งใจส่งหลิงหยุนลงไปในบ่อมังกรนั่น และดูจากคลื่นที่รุนแรงเมื่อครู่ หลิงหยุนน่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีนัก..”
  เย่เทียนสุ่ยเห็นคลื่นที่ทั้งสูงทั้งรุนแรงภายในบ่อมังกรก็ได้แต่คาดเดาสถานการณ์ของหลิงหยุนที่อยู่เบื้องล่างด้วยเหงื่อที่แตกพลั่ก
  “เจ้าช่างไม่รู้อะไรเลย!ครั้งแรกที่หลิงหยุนตกลงไปในน้ำแล้วเกิดคลื่นขนาดใหญ่ จากนั้นก็เงียบไป ย่อมหมายความว่าเขาต้องพบเจอบางสิ่งบางอยู่ใต้บ่อมังกรเป็นแน่ และเมื่อมีคลื่นเกิดขึ้นอีกครั้ง ย่อมหมายความว่าเขากำลังรับมือกับสิ่งนั้นอยู่..”
  เย่เทียนตูโต้แย้งเย่เทียนสุ่ยด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจแม้เย่ชิงซินจะพยักหน้าเห็นด้วยกับเย่เทียนตู แต่ก็อดที่จะพึมพำออกมาด้วยความสงสัยไม่ได้
  “ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเพียงแต่.. ลักษณะเช่นนี้ดูไม่คล้ายกับการต่อสู้ของหลิงหยุนนัก..”
  “ห๊ะ!”
  หลังจากที่ได้ฟังการวิเคราะห์ของเย่ชิงซินทั้งเย่เทียนสุ่ยและเย่เทียนตูต่างก็ร้องอุทานออกมาเสียงดังพร้อมกันในทันที..
  จากนั้นเย่ชิงซินก็อธิบายต่อว่า“เมื่อครู่พวกเจ้าก็เห็นการต่อสู้ของหลิงหยุนกับหลงเทียนฟางแล้วไม่ใช่รึ ด้วยพลังของพวกเขาทั้งคู่ ย่อมไม่สามารถสร้างคลื่นที่สูงถึงเพียงนี้ได้”   จากนั้นเย่ชิงซินก็ยกมือชี้ไปที่คลื่นสูงใหญ่นั้นพร้อมกับพูดต่อทันที“เจ้าดูคลื่นเหล่านั้นสิ แต่ละลูกทั้งสูงและใหญ่จนสามารถกลืนเรือหนักพันตันให้หายไปได้ในพริบตา คลื่นที่ทั้งสูงและใหญ่ถึงเพียงนี้ ไม่มีทางที่หลิงหยุนจะทำได้!”
  “อีกอย่าง..”
  เย่ชิงซินอธิบายต่อพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปบนท้องฟ้าเหนือศรีษะตนเองที่เวลานี้มีเมฆสีดำปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่น พร้อมกับพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
  “ลักษณะฟ้าดินแปรปรวนเช่นนี้บ่งบอกว่าการต่อสู้เบื้องล่างของบ่อมังกรแห่งนี้นั้น ย่อมไม่ใช่การต่อสู้ดังเช่นธรรมดาทั่วไป..”
  เย่ชิงซินหยุดนิ่งไปเล็กน้อยในขณะที่จ้องมองไปยังบ่อมังกรพร้อมกับเอ่ยต่อ “พวกเจ้าสองคนไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของผิวน้ำในบ่อมังกรบ้างรึ แม้ผิวน้ำจะมีคลื่นรุนแรงมากเพียงใด แต่ในรัศมีวงกลมสิบเมตร ผิวน้ำกลับสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น..”   “จริงด้วย!!”
  เย่เทียนสุ่ยและเย่เทียนตูรีบก้มมองลงไปที่บ่อมังกรเบื้องล่างและถึงกับร้องอุทานออกมาพร้อมกันเสียงดัง
  “หลงเทียนฟางมีพรสวรรค์ที่ล้ำเลิศและแตกต่างจากผู้อื่นอีกทั้งยังเฉลียวฉลาดกว่าหลงเทียนซินมากนัก!”
  “วิชามังกรพิโรธของเขานั้นจะทำให้เขามีพลังเพิ่มขึ้นถึงแปดเท่าอยู่นานราวครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ในสถานการณ์ที่หลงเทียนฟางเป็นฝ่ายได้เปรียบเช่นนี้ แต่เขากลับยังไม่ลงไปในบ่อมังกรทันทีนั้นสันนิษฐานได้ว่า เขาคงคาดว่าหลิงหยุนอาจตายในบ่อมังกรแล้ว หรือไม่ก็กำลังต่อสู้กับบางสิ่งบางอย่างอยู่เบื้องล่าง และคงกำลังรอเวลาที่เหมาะสม จึงค่อยลงไปฉกฉวยเอาชัยชนะ..”
  ระหว่างที่พูดนั้นเย่ชิงซินก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย..
  เย่ชิงซินได้แต่นึกเป็นห่วงเพราะหากหลิงหยุนไม่ขึ้นมาจากน้ำ ต่อให้นางอยากจะช่วยก็คงไม่สามารถช่วยได้!
  ….
  ลึกลงไปในบ่อมังกรราวห้าสิบเมตร…
  นี่ก็ผ่านมาสิบห้านาทีแล้วตั้งแต่ที่หลิงหยุนถูกหลงเทียนฟางชกจนร่างลอยตกลงไปในบ่อมังกรแห่งนี้และเวลานี้มังกรทั้งสองตัวก็ยังคงสู้กันอย่างดุเดือด
  และเวลานี้ภายใต้เนตรหยิน–หยางของหลิงหยุนร่างของดวงจิตมังกรแดนใต้ก็ได้หายไป เหลือเพียงแค่ร่างของมังกรสีแดงเท่านั้น!
  นั่นเพราะดวงจิตของมันกรแดนใต้นั้นได้แทรกซึมเข้าไปอยู่ในร่างของมังกรสีแดงแล้ว เวลานี้สองร่างได้รวมเป็นหนึ่ง ร่างของมังกรสีแดงได้กลายเป็นสีแดงเจิดจ้ายิ่งกว่าเก่า และมังกรร่างใหญ่ก็กำลังดิ้นรนไปมาอยู่ในน้ำ..
  หลิงหยุนรู้ว่าเวลานี้เป็นช่วงเวลาวิกฤติของมังกรทั้งสองตัวดวงจิตมังกรแดนใต้กำลังต่อสู้เพื่อแย่งชิงร่างของมังกรสีแดงมาครอบครอง!
  และไม่ว่าจะเป็นการแทรกซึมดวงจิตเข้าไปในร่างของมังกรสีแดงหรือการกลืนกินร่างของมันกรสีแดงเข้า ก็จะทำให้ดวงจิตของมังกรแดนใต้ได้ครอบครองร่างของมังกรสีแดงอย่างถาวร..
  เวลานี้..คลื่นภายใต้บ่อมังกรค่อยๆเล็กลงเรื่อยๆ และมังกรสีแดงก็ค่อยๆหมดแรง จนในที่สุดบ่อมังกรแห่งนี้กลับสู่ความสงบดังเดิมอีกครั้ง!
  จากนั้นร่างใหญ่ของมังกรสีแดงตั้งแต่หัวจรดหาง ก็กลายเป็นเกล็ดสีแดงเจิดจ้าส่องสว่างไปทั่วทั้งตัว!
  ดวงตาสีแดงนั้นเป็นประกายสุกสว่างยิ่งกว่าเดิมและสามารถทำให้พื้นที่ในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรใต้บ่อมังกรสว่างไสว
  ในที่สุดดวงจิตของมังกรแดนใต้ก็สามารถครอบครองร่างของมังกรสีแดงไว้ได้!
  มันส่ายศรีษะไปมาพร้อมกับว่ายตรงไปหาหลิงหยุนดวงตาสีแดงทั้งสองข้างของมันนั้นจ้องมองหลิงหยุนด้วยความนอบน้อมเชื่อฟัง พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า
  “ข้าชนะแล้วขอบคุณเจ้านาย!”
  หลิงหยุนพยักหน้าด้วยความยินดีพร้อมกับถอนหลิวเทวะวิญญาณกลับไป เพื่อให้มังกรแดนใต้สามารถว่ายเข้าใกล้ตนเองได้
  “เจ้าเก่งมาก!”
  หลิงหยุนเอื้อมมือไปลูบไล้ศรีษะของมังกรแดนใต้พร้อมกับเอ่ยชมในขณะที่มังกรแดนใต้ก็ส่ายศรีษะไปมา ท่าทางของมันดูมีความสุขยิ่งนักเมื่อได้อยู่ใกล้กับหลิงหยุนเช่นนี้
  หลังจากที่ร่างใหญ่ของมังกรแดนใต้สงบนิ่งหลิงหยุนก็เข้าไปลูบไล้เกล็ดทีรอบคอของมัน พร้อมกับหัวเราะออกมา
  “ฮ่าๆๆนี่เจ้ายอมให้ข้าจับด้วยรึ!”
  หลิงหยุนหัวเราะออกมาพร้อมกับแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะเกล็ดมังกรนั้นเสมือนอาวุธสังหารของพวกมัน หากมังกรแดนใต้ไม่ยอมให้เขาสัมผัสเกล็ดของมันแล้วล่ะก็ นั่นย่อมหมายความว่าเขาได้สูญเสียมังกรตัวนี้ไปแล้ว..
  แต่นับว่าโชคดีที่มังกรแดนใต้เพียงแค่ชะงักไปเล็กน้อยเท่านั้นแล้วก็กลับสู่ความเป็นปกติ ทำให้หลิงหยุนรู้สึกโล่งใจ!
  “วิชามังกรพิโรธงั้นรึ”
  หลิงหยุนทำเสียงเย้ยหยันพร้อมกับยิ้มเยาะที่มุมปากจากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นขี่หลังของมังกรแดนใต้พร้อมกับร้องตะโกนสั่งว่า
  “ไปจัดการกับเด็กจองหองผู้นั้นกันได้แล้ว!”
  ครืน…
  บ่อมังกรที่สงบนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ในที่สุดก็เกิดคลื่นใหญ่สูงกว่าสิบเมตรอีกครั้ง แล้วร่างของมังกรสีแดงเจิดจ้าก็พุ่งทะยานขึ้นมาจากบ่อมังกรทันที!
  เวลานี้ร่างของหลิงหยุนยืนอยู่บนศรีษะมังกรอย่างสง่างามและกำลังพุ่งทะยานเข้าหาร่างของหลงเทียนฟาง!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด