World domination system – Chapter 10 ปรมาจารย์โถงฝึกอบรม
ในเวลาไม่ถึงนาที ร่างหนึ่งที่สวมชุดสีขาวสง่างามก็บินลงมาจากท้องฟ้า
นอกเหนือจากการตกตะลึงที่เห็นคนบินลงมาจากบนท้องฟ้าแล้ว แดนีลยังตกตะลึงในความงดงามของหญิงสาวที่ปรากฎตรงหน้าอีกด้วย
หญิงสาวในชุดขาวคนนั้นมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น ตาโตและจมูกคมตรง ริมฝีปากอันน่ายั้วยวนของเธอยิ้มเล็กน้อยขณะที่เห็นใบหน้าของเอเลนาฟ
“วิลด้า! ขอบคุณที่มา! ข้าไม่ได้ทำให้ทุกคนในสำนักฝึกอบรมเป็นกังวลใช่หรือไม่?” เขากล่าวพร้อมกับชี้ไปที่แดนีล
แดนีลเข้าใจคำใบ้และเขาไม่ได้กล่าวอะไรออกไป หญิงสาวก็ไม่กล่าวอะไรเช่นกัน เธอบินมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และสัมผัสที่ไหลของทั้งเอเลนาฟและแดนีล
แดนีลรู้สึกไร้น้ำหนักเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา ซึ่งมันน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก ขณะที่เขาลอยอยู่เหนือพื้นไม่กี่เซนติเมตร เขารู้สึกราวกับว่า เพียงลมเบาๆ ก็สามารถจะพัดพาร่างของเขาไปไหนมาไหนได้
เอเลนาฟส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดขนะที่ลอยขึ้นในอากาศ ได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวก็หันกลับไปมองและใบหน้าของเธอก็กลายเป็นกังวล
ในขณะที่แดนีลยังคงรู้สึกอัศจรรย์กับการบินอยู่นั้น เสียงของระบบก็ดังขึ้นในหัวของเขา
[มีเครื่องมือใหม่สามารถซื้อขายได้ในร้านค้า : PAM-1]
[ราคา : แต้มประสบการณ์ 20 แต้ม]
[คำอธิบายเครื่องมือ : เครื่องมือนี้เป็นเครื่องมือสำหรับใช้รวบรวมข้อมูลปรากฎการณ์ที่โฮสต์สังเกต และจัดทำมันขึ้นเป็นเทคนิคหรือคู่มือการฝึกฝน ซึ่งโฮสต์สามารถจะฝึกได้ มันเป็นเครื่องมือที่สามารถอัพเกรดได้ โดยความต้องการการสังเกตจะยิ่งน้อยลงเมื่ออัพเกรดมันสูงมากขึ้น]
[โอสต์ได้สังเกตแล้ว 2 รายการ : การต่อสู้ระหว่างนักสู้ และการบินโดยใช้การควบคุมแรงโน้มถ่วง นี่เป็นพารามิเตอร์ที่ดีพอ ระบบจึงปลดล็อกเครื่องมือนี้จากในร้านค้า โปรดสังเกตและเรียนรู้ให้มากขึ้น เพื่อปลดล็อกรายการอื่นๆเพิ่มเติม]
‘ซื้อ!’ แดนีลตะโกนภายในหัวของเขา
[ซื้อและติดตั้งเครื่องมือเสร็จสิ้น ขอบคุณสำหรับการซื้อกับระบบ!]
[แต้มประสบการณ์ที่ยังเหลือ 10 แต้ม]
กลับไปที่ 10 แต้มอีกครั้ง มันดูเหมือนว่า การจะได้รับแต้มมานั้นมันยากเป็นอย่างมาก กลับกัน การที่จะใช้จ่ายแต้มออกไปนั้น มันกลับง่ายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเครื่องมือนี้ มันมีประโยชน์มากเกินกว่าที่เขาจะปล่อยผ่านไปได้ ใครบ้างที่ไม่ต้องการจะได้รับคู่มือการฝึกฝนจากการเพียงแค่มองดูผู้ใช้
ทั้งสามบินขึ้นไปบนอากาศอย่างช้าๆ และหยุดลงเมื่อถึงยอดสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่ง หญิงสาวคนนั้นหยิบจี้ออกมาจากกระเป๋าที่เอว และบีบมันจนแสงสีเขียวส่องประกายออกมา มันดูเหมือนว่าเธอจะบอกบางสิ่งบางอย่างผ่านแสงนั้น
จากนั้น ทั้งสามก็ลอยต่ำลง และมุ่งหน้าต่อไปทางตะวันตก พวกเขาผ่านสิ่งก่อสร้างและผู้คนมากมาย ก่อนจะมุ่งหน้าเข้าไปใกล้พื้นที่โล่งกว้างที่มีสิ่งก่อสร้างเพียงไม่กี่แห่ง
ในขณะที่บินอยู่นั้น เอเลนาฟชี้ไปที่หญิงสาวและกล่าวว่า “วิลด้าเป็นจอมเวทย์แรงโน้มถ่วงที่เก่งที่สุดในเมืองชั้นนอก นางสอนจอมเวทย์ฝึกหัด และนางก็เป็นคนที่อบอุ่นเป็นอย่างมากกับเด็กเช่นเจ้า อย่าได้ถูกใบหน้าของนางหลอกได้หล่ะ เพราะความเป็นจริงแล้วในตอนนี้ นางคงกำลังโกรธในสิ่งที่ข้าได้ทำลงไปอยู่”
วิลด้าบินมาพร้อมกับวางมือบนไหลของเอเลนาฟ ก่อนที่จะยิ้มให้แดนีล
แม้ว่าในตอนนี้ เขาจะอายุเพียง 12 ปี แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาอายุมากกว่านั้น แดนีลจึงกลายเป็นเอียงอายและก้มหน้าลง แน่นอนว่า นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวผู้งดงามยิ้มให้กับเขา ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ทำให้ใบหน้าของเขาแดงเป็นอย่างมาก ในฉับพลันนั้นเอง เขาก็รู้สึกปั่นป่วนในท้องของเขา การบินอย่างรวดเร็วทำให้ร่างกายของเขาไม่สบายตัว และยิ่งเขาก้มหน้าลง มันยิ่งทำให้สภาพของเขาแย่ลงไปอีก ซึ่งมันทำให้เขาต้องพยายามที่จะควบคุมตัวเองและไม่อวกออกมา
หลังจากนั้นราว 1 นาที ทั้งสามก็ลอยลงสู่พื้นหญ้า ซึ่งห่างออกไปไม่ไกลมีกระท่อมเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่มีคำว่า ‘ปรมาจารย์สำนักฝึกอบรม’ สลักไว้หน้าประตู
อากาศที่นี่สดชื่นเป็นอย่างมาก และหลังจากที่แดนีลสูดลมหายใจเข้าไป เขาก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นในทันที แม้แต่ความปั่นป่วนในท้องของเขาก็สลายหายไป
รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเอเลนาฟ ขณะที่เขากางแขนออกและกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับสู่สำนักฝึกอบรม หมัดแห่งความยุติธรรม”
ช่วงเวลาที่เขากล่าวจบ เขาก็ล้มลงกับพื้นและหมดสติไปในทันที
เห็นเขาล้มลง วิลด้าก็บินไปที่ประตูกระท่อม ก่อนจะรีบเคาะประตู
หลังจากนั้น ชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อกั๊กสีน้ำตาลก็เปิดประตูออกมา เขาดูเหมือนชายวัยกลางคนใจดี จมูกงุ้มเหมือนนกอินทรีย์ และมีเคราสั้น ผิวของเขาเป็นสีแทน และกร้ามเนื้อของเขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนผ่านเสื้อกั๊กหลวมๆของเขา
“อาจารย์ ข้าพาเขามาแล้ว” เธอกล่าวก่อนจะชี้มาที่แดนีลและเอเลนาฟที่กำลังหมดสติ
“ดี ไปเรียกมาเธอร์เฟรย์ด้ามา”
วิลด้าพยักหน้าและรีบบินออกไปในทันที
ชายคนนั้นวิ่งมาหาเอเลนาฟ ก่อนจะจัดแจงให้เขานอนหงาย หลังจากฉีกเสื้อของเขาออกแล้ว ชายคนนั้นก็วางมือลงใกล้หน้าอกซ้ายของเอเลนาฟ ที่มีร่องรอยฟกช้ำอยู่
มือของชายคนนั้นส่องแสงสีขาวออกมาและแสงนั้นได้ซึมเข้าไปในร่างของเอเลนาฟ ซึ่งมันก็ทำให้เขาส่งเสียงครวญครางออกมา กระนั้นเขาก็ยังคงหมดสติอยู่
“เจ้าเป็นคนที่สมัครเข้ามาใหม่หรือ? เหตุใดเจ้าถึงต้องการที่จะเข้าร่วมหมัดแห่งความยุติธรรม?” เขาถามขณะเงยหน้าขึ้นมองแดนีล
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยพลัง ซึ่งมันเป็นดั่งการเตือนไม่ให้แดนีลโกหกเขา
“ข้าต้องการที่จะเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และต้องการที่จะทวงความยุติธรรมให้กับพ่อของข้า” เขากล่าวขณะที่กำหมัดแน่น
คิ้วของชายคนนั้นคลายลงขณะที่เขากล่าวว่า “โอ้? ข้าเข้าใจแล้ว แล้วใครคือพ่อของเจ้า? แล้วเจ้าต้องการความยุติธรรมอะไร?” ขณะนั้น ดวงตาของเขาได้กลับมาเป็นปกติ และแดนีลก็รู้สึกราวกับว่า แรงกดดันได้ถูกยกออกไปจากไหล่ของเขาแล้ว
“พ่อของข้าชื่อโรเบิร์ต เขาเคยอยู่ในกองทัพมาก่อน…”
ชายคนนั้นยกมืออีกข้างขึ้นหยุดแดนีลไว้
“เช่นนั้น เจ้าคงจะเป็นแดนีล โรเบิร์ตเป็นสหายสนิทของข้าคนหนึ่ง พวกเรากระทั่งเคยคุยกันเกี่ยวกับการส่งเจ้ามายังที่นี่ในวันอื่น เรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาช่างน่าเศร้านัก เขาเป็นทหารที่ยอดเยี่ยมและเป็นคนดีอย่างแท้จริง” ชายคนนั้นถอนหายใจออกมา
ในขณะนั้น วิลด้าก็กลับมาพร้อมกับหญิงวัยกลางคนที่อายุราว 40 ปี เธอทำให้แดนีลคิดย้อนกลับไปถึงหญิงชราใจดีที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เพราะทั้งสองมีใบหน้าที่ประกายความปรารถนาดีและการเอาใจใส่เช่นเดียวกัน
เห็นทั้งสองมาถึงแล้ว ชายคนนั้นก็กล่าวว่า “มาเธอร์เฟรย์ด้า ข้าได้รักษาเขาเบื้องต้นแล้ว ซี่โครงของเขาแทงทะลุปอด รักษาซี่โครงให้เขาและส่งเขาไปยังห้องพยาบาล”
หลังจากกล่าวจบ เขาก็ยืนขึ้นแล้วเดินกลับไปที่กระท่อม และยังได้กวักมือเรียกแดนีลให้ตามเขาไปด้วยเช่นกัน
คอมเม้นต์