World domination system – Chapter 26 แจ๊คพ็อต
WDS Chapter 26 แจ๊คพ็อต
‘แล้ว ชายคนนั้นสามารถจะส่งเสียงหรือทำอะไรตามที่เขาต้องการก็ได้?’
ความคิดเช่นนี้เข้ามาในหัวของแดนีล ขณะที่เขาปิดประตูอย่างระมัดระวัง
ไม่เหมือนกับสิ่งที่เขาคาดหวัง ห้องพักนี้ไม่ได้หรูหรามากนัก พื้นและพนังของมันทำจากไม้ทั่วไปและมีหน้าต่างเล็กๆด้านหน้า เตียงคู่ก็ไม่ได้ดูพิเศษใดๆ และมันมีห้องน้ำเล็กๆอีก 1 ห้องอยู่ภายใน
แดนีลไม่รู้ว่า เหล้ารำของคนแคระมีตัวเลือกในการเช่าห้องพักระยะยาวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เจ้าของผับไม่มีทางเลือกนอกจากส่งมาสเตอร์การ์ดให้กับสมาชิกราชวงศ์คนนั้น
ขณะที่แดนีลเดินบนพื้นกระดาน เขาได้ยินเสียงที่แตกต่างกันในแต่ละก้าวที่เขาเดิน เห็นเช่นนั้น แดนีลก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ความหวาดกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือ การเข้ามาถึงที่นี่แล้ว เขาไม่ได้รับอะไรกลับไป
ใช้กริชงัดแผ่นกระดานออกมา แดนีลเห็นเป้อยู่ด้านในและหยิบมันออกมา
ภายในเป้ เขามองเห็นบล็อกอีเธอร์ที่เขากำลังค้นหาอยู่เป็นจำนวนมาก
“1, 2, 3, …, 10 บล็อกอีเธอร์ 10 ชิ้น!” ครั้งนี้ เขาเจอแจ๊คพ็อตอย่างแท้จริง
นี่เทียบได้กับ 100 แลนทอง ซึ่งคิดเป็นเงินจำนวนมหาศาล แดนีลไม่เคยเห็นของที่มีมูลค่ามากเช่นนี้มาก่อน
พร้อมกับบล็อกอีเธอร์ เป็นแผนที่อีกชิ้นหนึ่ง ที่ทำมาจากวัสดุที่ประกายเงินมันวาว นอกจากนี้ มันยังมีไดอารี่อีก 1 ฉบับ
แดนีลสงสัยว่า เขาได้พบกับเบาะแสเกี่ยวกับเหตุผลที่ว่าเพราะเหตุใด พวกโจรถึงได้เลือกที่จะปล้นบ้านในสลัม ตั้งแต่การปล้นครั้งนั้นเกิดขึ้น มันก็ตะหงิดอยู่ในใจของเขามาโดยตลอด
หลังจากนั้น เขาก็ได้ถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเอเลนาฟ ซึ่งมันกรณีที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก เพราะพวกโจรได้เข้าไปในห้องสมุดของเสนาบดีคนหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเดียวกับพ่อของเอเลนาฟ จากที่เขากล่าว จำนวนทรัพย์สินที่ถูกปล้นไปนั้นน้อยเป็นอย่างมาก ซึ่งมันทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีแรงจูงใจที่จะสืบสวนมากนัก และบางคนถึงกับกล่าวว่า พวกเขาทำผิดพลาดเพราะคิดว่ามันเป็นคลังสมบัติของบ้าน
หลังจากตรวจสอบห้องสมุดแล้ว พวกเขาก็พบว่า ไม่มีสิ่งสำคัญใดๆหายไปเลย
เมื่อครั้งที่เอเลนาฟกล่าวว่า ‘ทรัพย์สินเล็กน้อย’ แดนีลก็ไม่ได้ตั้งความหวังมากนักและคิดว่ามันมีเพียงเล็กน้อยอย่างแท้จริง แต่ในตอนนี้ เขาตระหนักแล้วว่า ตนเองนั้นโง่อย่างแท้จริง น้อยของเขาและน้อยของเอเลนาฟ มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
100 แลนทอง สามารถทำให้ตระกูลหนึ่งสร้างธุรกิจในเมืองชั้นนอกและใช้ชีวิตอย่างฟู่ฟ่าได้ แต่สำหรับนักสู้, จอมเวทย์ และผู้มีอิทธิพลที่แท้จริงแล้ว สิ่งเหล่านี้แทบจะไม่มีค่าอะไรเลย
แดนีลรีบแบกเป้และเดินไปที่ประตูในทันที เขาตัดสินใจที่จะออกไปก่อนจะทำสิ่งอื่น เพราะเขายังจำคำเตือนของนักบวชได้
ขณะที่เขาเปิดประตู เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้น มันเป็นทหารยามที่กำลังวิ่งตรงมาขณะที่รีบสวมกางเกงของตัวเอง
ทันทีที่เขาสังเกตเห็นตราบนเสื้อของแดนีล เขาก็คุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวว่า “ท่านลอร์ด!” ในขณะนั้น กางเกงของเขาได้ล่วงลงกับพื้น ซึ่งมันได้เผยให้เห็นกางเกงในสีน้ำเงิน
แดนีลกลายเป็นแข็งค้าง เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร หากทหารยามเงยหน้าขึ้น เขาอาจจะจำได้ว่าแดนีลไม่ใช่คนชั้นสูง เพราะเหล่าทหารยามจะต้องจำใบหน้าและชื่อของสมาชิกราชวงศ์ทั้งหมดได้อย่างแน่นอน
ด้วยเครื่องประดับกริชในประเป๋าของเขา เขาสามารถที่จะตัดหัวชายที่คุกเข่าต่อหน้าเขาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้มั่นใจว่า เขาจะไม่ประสบปัญหาใดๆ
อย่างไรก็ตาม แดนีลไม่สามารถจะตัดสินใจทำเช่นนั้นได้ หัวของเขาบอกว่านั่นเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผล แต่หัวใจของเขายืนยันว่ามันจะต้องมีวิธีอื่น
สังหารบางคนอย่างโหดเหี้ยมเพื่อหลบเลี่ยงความเสี่ยง? นี่เป็นสิ่งที่แดนีลรู้ว่าตัวเขายังไม่สามารถทำได้ เขาคิดว่าเขาจะโหดเหี้ยมเมื่อมันถึงเวลา แต่ในตอนนี้ เขากลับกลายเป็นแข็งค้าง
ไม่สามารถจะโหดเหี้ยมอย่างที่เขาคิดไว้ได้ สิ่งที่แย่กว่านั้นก็คือ เขายอมรับว่า การสังหารชายตรงหน้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่เขากลับคิดไปอีกว่า ชายคนนี้อาจจะมีครอบครัวให้ดูแล้ว หากเขาตายที่นี่ พวกเขาจะเป็นอย่างไร?
แดนีลตระหนักได้ว่านี่เป็นจุดอ่อนของเขา และหากเขาไม่กำจัดจุดอ่อนนี้ออกไป มันก็ไม่มีทางเลยที่เขาจะสามารถครอบครองโลกหรือเรียกร้องความยุติธรรมให้กับพ่อของเขาได้
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ เขายังคงไม่สามารถจะทำมันได้ เขาจึงพยายามระดมสมองและคิดอย่างหนัก และในที่สุด ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา
“บังอาจนัก เจ้ากล้าทำสายตาของข้าต้องเห็นสิ่งสกปรกหรือ ออกไปจากสายตาของข้าเดี๋ยวนี้” เขากล่าวขึ้นในฉับพลัน
“ขออภัยท่านลอร์ด ขอบคุณที่ปล่อยข้าไป” เขากล่าวออกมา ก่อนจะรีบวิ่งตรงไปที่บันได
เมื่อเสียงฝีเท่าของทหารยามจางหายไปแล้ว แดนีลก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาไม่รู้ว่าเขาตัดสินใจถูกต้องหรือไม่ แต่อย่างน้อย เขาก็รู้ถึงจุดอ่อนของตัวเองแล้ว
เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า ในครั้งนี้ เขาเลือกได้อย่างถูกต้องหรือไม่
คอมเม้นต์