World domination system – Chapter 119 การตัดสินใจ
WDS Chapter 119 การตัดสินใจ
“แดนีล กว่าเจ้าจะได้รับจดหมายฉบับนี้ ข้าคงจะออกจากราชอาณาจักรไปนานแล้ว และอาจจะออกไปจากกระทั่งทวีปแอนแกเรีย เจ้ารู้ว่าข้าได้สาบานตนกับเชิร์ช ทั้งหมดที่ข้าสามารถจะบอกเจ้าได้ก็คือ การสาบานตนนั้นทำด้วยความเกลียดชัง ซึ่งตอนนี้ มันได้บงการชีวิตของข้า ในฐานะอาจารย์ของเจ้า ข้าจะขอให้แนะนำ ซึ่งจะเป็นคำแนะนำสุดท้ายของข้า ระวังการสาบานตนเอาไว้ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นคนสาบานตนหรือให้คนอื่นสาบานตนก็ตาม”
“นี่คือการจากลา ลูกศิษย์ข้า แม้ข้าจะไม่ได้สอนเจ้ามากนัก แต่จงรู้ไว้ว่า ข้าเฝ้ามองเจ้าอยู่เสมอ และทำให้มั่นใจว่าเจ้าจะปลอดภัย ในขณะที่เจ้าสามารถดำเนินตามแผนการของเจ้าได้เป็นอย่างดี ข้าต้องบอกกับเจ้าว่า ข้าภาคภูมิใจอย่างแท้จริงที่ได้เป็นอาจารย์ของราชาที่มีอายุเพียง 16 ปี”
“หากเจ้าต้องการคำตอบ และหากเจ้าคิดว่าเจ้ามีความแข็งแกร่งมากเพียงพอแล้ว ไปยังสถานที่ในแอนแกเรียที่ร็อคเจาะดวงตาของบาซิลิสก์ และตามหาผู้ทำนายผ้าคลุมขาว”
“ลาก่อน”
ขณะที่แดนีลฟังคำกล่าวสุดท้าย เขาแดไม่ได้ที่นะคิดถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่กับโจนาห์
แน่นอน ความผูกพันที่พวกเขาแบ่งปันให้กันนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ต้องกล่าวมากนัก อาจารย์ของเขาดูแลเขาจากในเงามืด ทำให้แน่ใจว่า ทุกการกระทำของเขาจะไม่ถูกสังเกตเห็นโดยคนที่อาจจะทำให้ตัวเขาและแผนการของเขาจบลงอย่างรวดเร็ว
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ แผนการของแดนีลอาจจะล้มเหลวได้ หากเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ขี้เมาคนนี้
อย่างไรก็ตาม ชายนนี้ทรยศเขา และทำลายแผนการสำหรับราชอาณาจักรของเขา
แม้แดนีลจะเข้าใจว่า มันอาจจะเป็นเพราะคำสาบานตน แต่ความเข้าใจก็ไม่ได้ลดความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อได้เห็นคนที่เขาเรียกว่าอาจารย์ทำเช่นนั้น
ในความเป็นจริง ลึกๆแล้วเขารู้ว่า สิ่งนี้อาจจะเป็นไปได้ตั้งแต่วันที่เขาค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างโจนาห์และเชิร์ช
เพียงแค่…. การเห็นมันด้วยตาตัวเองอย่างชัดเจนนั้น มันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเกินกว่าจะยอมรับได้
แดนีลเป็นคนประเภทที่มักจะวางตัวเองในตำแหน่งของฝ่ายอื่นๆ เพื่อหาจุดมุ่มหมายของพวกเขา เขาจึงพอจะคาดเดาได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับโจนาห์ หากคนที่เขารักถูกฆ่าอย่างไร้ปราณี เขาจะทำอะไรหากเขามีพลังเช่นเดียวกันนั้น
ด้วยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เขาตระหนักได้ว่า ตัวเขาคงเลือกที่จะทรมานผู้ที่กระทำผิดไปตลอดกาล
แม้เขาจะได้ข้อสรุปเช่นนี้เพื่ออธิบายการกระทำของอาจารย์เขา แต่ความเจ็บปวดภายในหัวใจของเขาก็ยังคงไม่จางหายไป
‘ข้ามีอารมณ์ความรู้สึกกับคนที่อยู่รอบข้างมากเกินไป?’
เขาถามตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถจะค้นพบคำตอบที่แน่ชัดได้
อย่างช่วยไม่ได้ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะเผชิญหน้ากับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ความเสียหายได้เกิดขึ้นไปแล้ว และตอนนี้ เขาจะต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ในขณะที่เขากำลังพิจารณาทางเลือกทั้งหมดในใจ เสียงร้อนรนของแคสแซนดร้าก็ดังไปทั่วทั้งห้อง ทำลายความคิดของแดนีล
“ฝ่าบาท เขากล่าวอะไรเกี่ยวกับบิ๊กโฟร์หรือไม่?” เธอถาม พร้อมกับความคาดหวังในดวงตา
“ไม่ เหตุใดท่านถึงได้ถามเช่นนั้น?”
“ในฐานะจอมเวทย์ ท่านจะต้องเห็นวิธีที่อนุภาคสะท้อนไปกับคาถาของเขา ฝ่าบาท เทคนิคการร่ายคาถาดังกล่าวถูกกล่าวถึงในตำนานเท่านั้น และเป็นที่รู้กันดีว่า บิ๊กโฟร์มีเทคนิคที่ให้ผลคล้ายๆกันนั้น เทคนิคเหล่านี้จะถูกสอนเฉพาะในหมู่คนชั้นสูงของพวกเขาเท่านั้น และมันเป็นหนึ่งใจเหตุผล ที่พวกเขาสามารถรักษาตำแหน่งของพวกเขาในแอนแกเรียได้เป็นเวลานาน”
ขณะที่แดนีลฟังคำอธิบายจากแคสแซนดร้า เขาก็สังเกตความโกรธจากก่อนหน้านี้ของเธอ ได้เปลี่ยนไปเป็นความปรารถนา
ด้านข้างแคสแซนดร้า เขาเห็นแอรันมองมาที่เธอด้วยความกังวล ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโผงผางเช่นนี้
“แอรัน ท่านคิดว่าอย่างไร?” ได้ยินแดนีลถาม แอรันกลายเป็นตกใจ ทำให้เขาจัดเสื้อเชิ๊ตสีเขียวและกางเกงสีดำของเขาเพื่อพยายามควบคุมสติ
หลังจากนั้น เขาก็กล่าวว่า “โปรดให้อภัยแคสแซนดร้าด้วยฝ่าบาท มันเป็นความปรารถนาของนางที่จะได้รับเทคนิคดังกล่าวมา และที่นางได้เข้าร่วมกับกองทัพ ก็เพราะนางคาดหวังว่า นางจะได้รับเทคนิคดังกล่าวซึ่งมันจะทำให้นางแข็งแกร่งมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้นางจะได้เลื่อนเป็นผู้บัญชาการแล้ว นางก็พบว่ามันไม่มีอยู่ในกองทัพ และนี่เองที่ทำให้นางเริ่มจับตามองบิ๊กโฟร์ ที่มีข่าวลือว่าครอบครองพวกมันอยู่”
ในขณะนั้น แคสแซนดร้าเย็นลงแล้ว และเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ของเธอ ก่อนหน้านี้ เธอมีแรงปรารถนาจากคำกล่าวของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เธอจนเคลื่อนร่างของเธอไปข้างหน้าจนก้นของเธอเกือบจะไม่แตะกับเก้าอี้แล้ว
ขณะที่เธอได้ยินคำกล่าวของแอรัน เธอก็ตระหนักเกี่ยวกับคำกล่าวของเธอ และยิ้มอย่างขอโทษไปที่ราชา
อย่างไรก็ตาม แดนีลไม่ได้สนใจเกี่ยวกับมัน เพราะเรื่องนี้ทำให้เขาได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบิ๊กโฟร์ คิดถึงสิ่งที่อาจารย์ของเขากล่าวในกระดาษ แดนีลถามว่า “เชิร์ชแห่งความเที่ยงธรรมเป็นหนึ่งในบิ๊กโฟร์หรือไม่?”
ครั้งนี้ เป็นแอรันที่ตอบคำถาม
“ไม่ ฝ่าบาท เชิร์ชเป็นกองกำลังที่ค่อนข้างใหม่ และมีข่าวลือว่า พวกเขามาถึงแอนแกเรียผ่านทะเลไม่สิ้นสุดจากสถานที่ที่ไม่รู้จัก ใครก็ตามที่ติดตามพวกเขา จะถูกผูกมัดด้วยคำสาบานตนที่เข้มงวดที่สุด ทำให้มีข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาน้อยมากที่รั่วไหลออกมา การปฏิบัติเพื่อรับผู้ติดตามของพวกเขาก็ คือ การประกาศว่า สามารถจะรายงานความอยุติธรรมใดๆต่อพวกเขาได้ แล้วพวกเขาจะแก้แค้นให้กับทุกคนที่ได้รับความเจ็บปวด หลังจากที่รายงานได้รับการยืนยันแล้ว ท่านคงจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเหตุการณ์ การทำลายเหล้ารัมของคนแคระเมื่อไม่กี่ปีก่อน มันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของพวกเขา จนถึงตอนนี้ พวกเขาเพ่งเล็งมายังกองกำลังขนาดเล็กทั้งหกในทวีปเท่านั้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง บิ๊กโฟร์และเชิร์ชได้เว้นระยะห่างระหว่างกันไว้”
แดนีลตระหนักได้ว่า ในตอนนี้ มันเป็นเวลาที่ดีที่เขาจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดในห้องสมุดพร้อมกับข่าวคราวล่าสุด เพราะมันน่าอายอย่างแท้จริง ที่เขาไม่รู้ถึงข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญเช่นนี้
เขาเพิ่มมันลงในรายการสิ่งที่เขาจะต้องทำ ซึ่งรวมถึงการหาเวลาสำหรับการฝึกฝนให้มากขึ้นด้วย
“แล้วอีกฝ่ายล่ะ? มีเบาะแสใดๆเกี่ยวกับเขาหรือไม่?”
ในครั้งนี้ เคลเลอร์เป็นคนตอบคำถาม
“ฝ่าบาท ข้าอาจจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านคงจะเห็นจงอยปากนกกระเรียนที่ดูเหมือนจะโจมตีโต้กลับกรงเล็บมังกรที่ถูกสร้างขึ้นโดยรูปแบบหัวใจมังกรได้ ซึ่งมันส่งผลให้การปิดกั้นมิติถูกบิดเบื้อน ทำให้พวกเขาสามารถจะหลบหนีออกไปได้ อาจารย์ของเขา จอมเวทย์ราชสำนักใหญ่คนก่อนของแลนธานอร์ เคยบอกกับข้าว่า เมื่อถึงระดับผู้ชนะ เขาหรือเธอจะใช้ชื่อเฉพาะที่ตรงกับสไตน์การต่อสู้ของพวกเขา นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทะลวงสู่ระดับผู้ชนะ ซึ่งมันสอดคล้องกับระดับความเข้าใจ หนึ่งในความเข้าใจจะก่อตัวขึ้นเป็นพื้นฐานสไตน์การต่อสู้ของพวกเขา ไม่เหมือนกับระดับก่อนหน้า ที่ในการใช้คาถาและเทคนิคต่างๆ จะทำได้จากการฝึกฝนเท่านั้น”
“สำหรับจงอยปากนกกระเรียน มันเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่า เป็นเครื่องประดับเวทมนต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยนักสู้ระดับผู้ชนะ ที่รู้จักกันในชื่อ นกกระเรียนฉุนเฉียว แต่กระนั้น มันก็เป็นไปได้ว่า ชายคนนั้นซื้อเครื่องประดับเวทมนต์นั้นมา”
ด้วยก่อนนะ…การโจมตีนั้นเป็นพลังของนักสู้?
ภายในห้อง ทั้งแดนีลและแฟกซัลต่างก็สับสน และมีคำถามเช่นนั้นก่อตัวขึ้นภายในหัวใจของพวกเขา
จงอยปากนั้นดูราวกับมีชีวิต ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากการผสมผสานอนุภาคมูลฐานที่ซับซ้อน ซึ่งมีระดับเกินกว่าที่แดนีลจะสามารถเข้าใจได้ ดังนั้น เขาจึงคาดเดาในก่อนนี้ว่า มันเป็นเวทมนต์ของจอมเวทย์ระดับผู้ชนะ
ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง
เห็นความตกใจบนใบหน้าของเด็กทั้งสอง เคลเลอร์ก็กล่าวว่า “ฝ่าบาท ท่านคงจะยังไม่รู้ว่า ในระยะหลัง นักสู้จะสามารถควบคุมอนุภาคมูลฐานรอบตัวพวกเขา เพื่อเสริมพลังการโจมตีของพวกเขาได้ แต่มันจะเป็นวิธีที่แตกต่างจากจอมเวทย์ ในระดับมนุษย์และนักรบ นักสู้ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพลังของร่างกายเพื่อโจมตีอีกฝ่าย การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจะเกิดขึ้นเมื่อ ร่างกายและจิตใจของพวกเขาไปถึงระดับที่พวกเขาสามารถเริ่มต้นการโต้ตอบกับอนุภาคได้ ในความเป็นจริง เมื่อถึงระดับผู้ชนะ ความได้เปรียบจากการโจมตีระยะไกลที่จอมเวทย์มีขณะต่อสู้กับนักสู้ แทบจะไม่หลงเหลืออีกต่อไป”
ความตกตะลึงแสดงอยู่บนใบหน้าของเด็กทั้งสอง ยิ่งเขาฟังมากขึ้น มันก็ได้ปิดเป่าความคิดเดิมๆของพวกเขาออกไป ส่งผลให้พวกเขาขยายขอบเขตความรู้ออกไป ขณะที่พวกเขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับระดับผู้ชนะในตำนาน ซึ่งเป็นผู้ปกครองเหนือทวีปแอนแกเลีย
คอมเม้นต์