World domination system – ตอนที่ 146
146 กระหาย
แดนีลเคยสงสัยเกี่ยวกับความเข้มข้นของพลังงานที่พิเศษในอัญมณีเคอร์
วัสดุพลังงานที่หาได้ยาก สามารถจะปกปิดรูปลักษณ์ของมันได้ และการจัดแบ่งระดับ จะได้รับการพิจารณาจากความเข้มข้นของพลังงานที่อยู่ภายใน
ตัวอย่างเช่น บล็อกอีเธอร์ มันจะมีหมอกหวุนวนจางๆออกมา ซึ่งจะลดลงไปตามการใช้งานในแต่ละครั้ง เมื่อพลังงานหมดแล้ว บล็อกก็จะแตกเป็นชิ้นๆ
สำหรับอัญมณีเคอร์ มันก็เป็นหมอกเช่นกัน เพียงแค่เข้มข้นกว่ามาก จนดูราวกับเป็นของเหลว แต่มันก็ยังคงไม่ใช่
ด้วยเทคนิคการปรับใช้ แดนีลรู้สึกในตอนเริ่มแรกว่า สิ่งต่างๆดำเนินไปเรียบร้อยดี
แต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็ต้องอดทนต่อต้านความอยากจะลุกขึ้นและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
โดยทั่วไปแล้ว ขณะที่เขาดูดซับพลังงานจากอีเธอร์ แดนีลมักจะรู้สึกสงบและสบายอยู่เสมอ
แต่ตอนนี้ เขารู้สึกราวกับว่า เขาถูกเหยียบย่ำภายใต้ฝูงสัตว์ขนาดใหญ่ ความรู้สึกนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งร่างและใต้ผิวหนังของเขา
หลังจากนั้น ก็เป็นอาการคันทั่วทั้งร่าง ราวกับมดนับล้านกำลังไต่ไปทั่วร่างของเขาและกัดเขาทุกที่ตามที่มันต้องการ
สุดท้าย ความรู้สึกเหล่านี้ทั้งหมดถูกบดขยี้โดยความเจ็บปวดที่สุดแสนจะรวดร้าว ซึ่งมันทำให้เขากัดฟันแน่นจนเลือดเกือบจะไหลออกมา
“ระบบ เหตุใดข้าถึงรู้สึก…แตกต่างออกไปเช่นนี้?”
[ตอบกลับโฮสต์ เนื่องจากระบบพลังงานนี้สูงเกินกว่าที่ร่างกายของโฮสต์จะสามารถจัดการได้ มีอากาศเจ็บปวดเล็กน้อยเนื่องจากช่องพลังงานถูกบังคับให้ขยายออก โฮสต์ต้องการปรับใช้เทคนิคเพื่อลดลงพลังงานลงครึ่งหนึ่งหรือไม่?]
“ไม่ ดำเนินต่อไป”
สำหรับแดนีล คำว่าความเจ็บปวดเล็กน้อย มันล้อเลียนเขาเป็นอย่างมาก
หากเขายังไม่สามารถจะรับมือกับความเจ็บปวดเล็กน้อยนี้ได้ แล้วเขาจะเป็นราชาได้อย่างไร?
ดังนั้น ด้วยความมุ่งมั่น แดนีลจึงหลับตาและมีสมาธิกับเทคนิคอีกครั้ง
หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง แดนีลรู้สึกได้ถึงความอิ่มตัวจากภายใน ซึ่งมันได้ปลุกเขาจากการเข้าสมาธิลึกของเขา
[สรุปการวิเคราะห์เบื้องต้น โปรดรดซักครู่]
แม้แดนีลจะรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เขาจะต้องรอผล แต่เขาก็คิดว่า ระบบอาจจะกำลังทำการคำนวณที่ซับซ้อน เกินกว่าที่มันเคยทำเป็นประจำ
นอกจากนี้ การวิเคราะห์พลังงาน ยังเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ใช้ทรัพยากรของระบบมากที่สุด
ดังนั้น แดนีลจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรอให้ระบบวิเคราะห์ทุกอย่างให้เสร็จสิ้น ซึ่งคำตอบที่เขาจะได้รับนี้ มันจะเป็นตัวตัดสินเส้นทางในอนาคตของเขา
ไม่ต้องการจะเสียเวลารอโดยเปล่าประโยชน์ แดนีลตัดสินใจดูดซับพลังงานจากห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงาน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาพยายามดูดซับพลังงานตามปกติ เขารู้สึกราวกับว่า มีบางอย่างในตัวเขากำลังข่มขู่ว่าจะพังทลาย
ทั่วทั้งร่าง เขารู้สึกราวกับมันถูกโซ่มัดเอาไว้ หยุดไม่ให้เขาดูดซับพลังงานอีกต่อไป
รอยยิ้มปรากฎบนใบหน้าของแดนีล ขณะที่เขาตระหนักได้ว่า เขากำลังจะทะลวงขั้น
แม้จะไม่มีการวิเคราะห์ของระบบ แต่เขาก็ตระหนักได้ว่า อัญมณีเคอร์อัศจรรย์อย่างแท้จริง เขาเคยมีระดับความก้าวหน้าอยู่ 81% แต่จากการนั่งสมาธิเพียงครั้งเดียว เขาก็ได้มาถึงช่วงเวลาของการทะลวงเข้าสู่ขั้น 5
รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร เขามุ่งเน้นความสนใจไปยังโซ่ ขณะที่พยายามบังคับให้หมอกที่เขาสูดเข้ามา มุ่งไปในเส้นทางปกติ
ราวกับพลังงานเป็นแม่น้ำที่ถูกขวางกั้นโดยสิ่งที่มองไม่เห็น ซึ่งจะไม่ปล่อยให้สิ่งใดผ่านไปได้ง่ายๆ ในเวลานี้ เขาหลั่งเหงื่อออกมาทั่วหน้าผากของเขา
ในที่สุด หลังจากไม่กี่นาทีของความพยายาม แดนีลคิดว่าเขาได้ยินเสียง แกร๊ก! เล็กน้อยภายในหัวของเขา
ราวกับสายน้ำหลาก พลังงานที่ถูกหยุดเอาไว้ ไหลกวาดไปทั่วเส้นพลังงานและหน่อจอมเวทย์ของเขาอย่างมีชีวิตชีวา
ในที่สุด เขาก็ทะลวงระดับมนุษย์ขั้น 5 แล้ว
หายใจออกมาอย่างโล่งอก แดนีลยิ้มออกมาอย่างผู้มีชัยชนะที่เขาจ้องมองไปยังกำปั้นของเขาที่กำแน่นตั้งแต่เมื่อครั้งที่เขารู้สึกได้ถึงการอุดตันของพลังงานในตัวของเขา
เขาคลายมันออก จากนั้น เขาก็ยืนขึ้นและชกหมัดออกไป ต้องการที่จะทดสอบพลังใหม่ของเขา
ในแต่ละระดับขั้น มันจะมีการเพิ่มขึ้นของระดับความสามารถที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน
หลงไหลไปกับการก้าวกระโดดครั้งใหม่ในด้านพลังและความแข็งแกร่ง แดนีลขยับร่างกายไปทั่วห้องเพื่อสดสอบ ในเวลานี้ เขาเข้าใจแล้วว่า เหตุใดราชาองค์ก่อนถึงได้ถูกอัญมณีเหล่านี้ล่อลวงมากเช่นนั้น
………………………………………………………………………………
ในเวลาเดียวกันนั้น ณ เอลฟาเวน, เมืองหลวงแห่งเอลดินอร์
ในตรอกแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างไกลที่สุดจากพระราชวังเอลดินอร์ สำนักงานโดดเดี่ยวที่มีป้ายขนาดเล็กสามารถจะมองเห็นถึงความทรุดโทรมได้อย่างชัดเจน ราวกับมันไม่ได้เปิดใช้งานมาเป็น 10 ปีแล้ว
‘เสียงแห่งเอลดินอร์’ เป็นชื่อที่ถูกเขียนขึ้นอย่างอาจหาญบนป้าย น่าเสียดายที่ความยิ่งใหญ่ของชื่อดังกล่าวจางหายไปพร้อมกับความทรุดโทรมของป้าย
ชายคนหนึ่งที่มีหนวดเครารกรุงรังและคางสั้น เดินไปตามถนนนี้ พร้อมกับก้าวเดินที่มั่นคงขณะมองไปรอบๆ ราวกับกำลังมองหาบางสิ่ง
แม้จะมีคนจำนวนมากที่เดินผ่านถนน แต่พวกเขาเกือบทั้งหมดเบือนหน้าหนีสำนักงานแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม มันเป็นสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน ที่ชายคนนั้นกำลังมองหา เขาเดินกลับไปในตรอกและเข้าไปในประตูที่ดูเหมือนจะเปิดอยู่
ภายใน เขาเดินผ่านห้องขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกระดาษที่ดูเหมือนจะเป็นแผ่นพับ
‘ราชินีเอลดาราต้องสงสัยว่าทรยศต่อศักดิ์ศรีของเหล่าเอลฟ์ โดยถูกตำหนิเป็นจำนวนมากจากหลากหลายประเทศ’
‘ราชินีเอลดารามีลูกสาว แต่นางเป็นสายเลือดของพระองค์หรือไม่?’
‘ค้นหาให้แน่ใจว่า เหตุใดชายคนนี้ถึงถูกส่งออกไปจากพระราชวังโดยไม่กล่าวใดๆ เมื่อครั้งที่เขาขอพบกับองค์ราชินีอันเป็นที่รักของพวกเรา’
พาดหัวข่าวไร้สาระเช่นนี้ สามารถจะมองเห็นได้จากแผ่นพับที่เต็มไปด้วยฝุ่น ราวกับพวกมันไม่ได้ถูกสัมผัสมาเป็นเวลานาน
เหตุผลเดียวที่พาดหัวข่าวทั้งสามปรากฎขึ้นให้เห็นก็คือ พวกมันถูกใส่กรอบติดไว้บนผนัง
ขณะเดินเข้าไปในห้องถัดไป ชายคนนั้นก็เห็นเอลฟ์ที่มีใบหูคมทู่คนหนึ่ง ที่กำลังมองดูกระดาษแผ่นหนังและถือแก้วไวน์ไว้ในมือ
“ครั้งหนึ่ง เสียงแห่งเอลดินอร์ เคยเป็นที่รู้จักในฐานะองค์กรข่าวที่โดดเด่นที่สุดในเอลดินอร์ แต่ตอนนี้ กลับจมอยู่กับความเวทนาตัวเอง ติดอยู่กับวังวนที่ระลึกถึงความรุ่งเรืองสมัยอดีต และคิดว่ามันจะกลับมาเอง”
หยิบกระดาษจากโต๊ะขึ้นมา ชายคนนั้นอ่านบรรทัดแรกที่ถูกเขียนเอาไว้ เอลฟ์รู้สึกตกใจ เขาไม่ได้สังเกตเลยว่า มีผู้บุกรุกเข้ามาภายในที่พักส่วนตัวของเขา
ลุกขึ้นในฉับพลัน เอลฟ์จับที่หัวของเขาและแสดงความเจ็บปวดบนใบหน้าของเขา ก่อนจะอ้าปากและกล่าวว่า “เจ้าเป็นใคร? นี่เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของข้า ข้าสามารถจะรายงานเจ้าต่อเจ้าหน้าที่ได้”
เขากล่าวของเขาไม่ปะติดปะต่อกัน เนื่องจากความจริงที่ว่า เขากำลังอยู่ในอาการมึนเมา แม้ว่ามันจะเพิ่งเป็นช่วงบ่ายก็ตาม
“โอ้? เจ้าต้องการที่จะโยนข้าออกไป และสูญเสียโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้ชื่อเสียงของเจ้า เป็นที่รู้จักไปทั่วเอลดินอร์อีกครั้ง? ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องเข้าใจ ลองดูสิ่งนี้ ข้าอย่างรู้ว่าเจ้าคิดอย่างไรฃเกี่ยวกับมัน?”
ชายคนนั้นหยิบเครื่องประดับเวทมนต์ออกมาออกมาจากกระเป๋าเสื้อของเขา และส่งให้กับเอลฟ์คนนั้น
รับมันมา เอลฟ์นั่งลงและเปิดใช้งานเครื่องประดับเวทมนต์ ซึ่งมันทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
หลังจากนั้น เขาก็ทรุดตัวลงด้วยความตกใจ ก่อนจะกล่าวว่า “ปป…เป็น..เป็นไปได้อย่างไร? ข้อมูลจากทั่วทั้งแอนแกเรีย..ในที่เดียว? มันเป็นเรื่องจริงหรือ?”
ดวงตาของเอลฟ์คนนั้นที่เคยมืดมัว กลับมาสดใสอีกครั้ง ขณะที่เขาคิดถึงวันเก่าๆที่เขายิ้มและอ้าแขนกว้างด้วยความภาคภูมิใจของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
“เจ้าสามารถจะตรวจสอบ เพื่อค้นหาเกี่ยวกับมันด้วยตัวเองได้ แลืวเพียงแค่เจ้าเข้าร่วมกับข้า พวกเราจะทำให้ชื่อเสียงของเจ้า ดังกระจายไปทั่วทั้งเอลดินอร์อีกครั้ง”
…………………………………………………………………………….
ในเวลาเดียวกันนั้น ราชาแห่งแลนธานอร์ที่กำลังนั่งอยู่ ถึงกับอ้าปากกว้างหลังจากได้ฟังการแจ้งเตือนของระบบที่เพิ่งจะดังขึ้น
[การวิเคราะห์เบื้องต้นเสร็จสิ้น เวลาโดยประมาณที่โฮสต์จะทะลวงเข้าสู่ระดับนักรบ ทั้งในฐานะนักสู้และจอมเวทย์ก็คือ ราว 2 ปี]
มันดูเหมือนว่า ห้องโถงแห่งนี้จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ห้องแห่งความตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสียงแจ้งเตือนจากระบบที่เขาได้ยินในช่วงเวลานี้
แฟนเพจ : WDS แปลไทย
คอมเม้นต์