World domination system – ตอนที่ 151

อ่านนิยายจีนเรื่อง World domination system ตอนที่ 151 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

151 การตัดสินใจ ตอนที่ 3

ใบหูรูปดาบของผู้บัญชาการเอลฟ์ที่รับผิดชอบการจัดการผู้บุกรุกสั่นสะท้านขณะที่เธอสาบแช่งตัวเองที่ปล่อยให้พวกอาลาเฟลเลียนเหล่านี้ ต้อนพวกเขามาอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

โดยปกติแล้ว ราชอาณาจักรอาราเฟลค่อนข้างที่จะเก็บตัว แม้ว่าพวกเขาจะมีทหารที่แข็งแกร่งที่สุดในราชอาณาจักรทั้งหกที่ตอนกลางของแอนแกเรีย แต่เนื่องจากสายเลือดที่พิเศษของพวกยักษ์ มันทำจึงทำให้ประชากรของพวกเขาต่ำ

พวกเขามีประชาชนอยู่เพียง 1.5 ล้านตนเท่านั้น มันเป็นเพราะมรดกที่ถูกส่งผ่านมา ที่ทำให้พวกเขาสามารถจะรักษาอำนาจอธิปไตยของพวกเขาไว้อย่างเป็นกลางในฐานะประเทศขนาดเล็ก

อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำสั่งที่ผ่านเข้ามาในหู ผู้บัญชาการเอลฟ์ก็ผ่านคลายลง ก่อนจะยิ้มให้กับพวกอาราเฟลเลียน

“ยินดีต้อนรับพวกเจ้าเข้ามา”

เธอหันหลังและเดินกลับไปยังสถานที่ที่ค้นพบ

ทุกคนที่อยู่ที่นั่นเห็นการแสดงออกและทัศนคติของเอลฟ์เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

แม้แดนีลจะสงสัยว่า มีบางอย่างเกิดขึ้นซึ่งมันทำให้พวกเขาเปลี่ยนการแสดงออกไป แต่เนื่องจากเขาสามารถจะมองเห็นผ่านแผงหน้าจอได้เท่านั้น เขาจึงไม่สามารถจะค้นหาสิ่งนั้นได้

กองกำลังอื่นๆก็ประหลาดใจเช่นกัน และพวกเขารีบกลับไปยังสถานที่ค้นพบ

เมื่อคฑาถูกยกกลับเข้าไปในอ้อมแขนของยักษ์อีกครั้ง หอกหินก็สลายตัวไปกลายเป็นฝุ่น ราวกับพวกมันไม่เคยคงอยู่

พยักหน้าแคสแซนดร้าพร้อมรอยยิ้ม ยักษ์ชายในชุดสีเขียวแสดงความเป็นมิตรต่อมนุษย์เป็นคนแรกในกลุ่ม ก่อนที่จะรีบวิ่งเหยาะๆออกไป

ผ่านแผงหน้าจอ แดนีลค่อนข้างประหลาดใจที่เห็นว่า พวกยักษ์ที่มีร่างขนาดใหญ่ ก็สามารถจะเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว ราวกับชุดเกราะและร่างกายของพวกเขา ไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ

หลังจากตัดสินใจว่า พวกเขาเป็นกลุ่มที่เขาต้องการที่จะวิเคราะห์แล้ว แดนีลก็รอให้พวกเขาไปถึงสถานที่ค้นพบ

สถานการณ์ยังคงยันกันเนื่องจากความจริงที่ว่า ทางเข้าสู่เหมือนอัญมณีเคอร์นั้นแคบเกินไป กองกำลังใดก็ตามที่พยายามจะเข้าไป พวกเขาะถูกแทงข้างหลังโดยกองกำลังอื่นๆ

สำหรับการเพิ่มช่องทางที่จะเข้าไป มันค่อนข้างจะเป็นปัญหา เพราะเหมืองอัญมณีเคอร์เป็นสถานที่พิเศษ ซึ่งมีความละเอียดอ่อนทางธรรมชาติ

หากมีการก่อตัวผสมผสานของปัจจัยทางธรรมชาติ ที่เป็นการรบกวนใดๆต่อสภาพทางธรรมชาติของพวกมันจากภายนอก มันอาจจะส่งผลให้อัญมณีเคอร์สลายไปได้

วิธีเดียวที่จะดึงพวกมันออกมาได้ก็คือ การส่งบางคนที่มีความสามารถในการใช้เครื่องมือขุดพวกมันเข้าไปด้านใน

หลังจากทั้งอาราเฟลมาถึง ตัวแทนของกองกำลังทั้งห้าก็มารวมตัวกันที่หน้าหลุม

“การแบ่งเท่ากันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด”

ลูเธอร์กล่าวออกมา ซึ่ง 3 คนในนั้นก็พยักหน้ารับ สำหรับเอลฟ์ที่เป็นคนสุดท้าย เขาส่ายหัวอย่างรุนแรงก่อนจะกล่าวอย่างหยาบคายว่า “พวกเจ้ารู้ดีว่า พวกเราต้องจ่ายราคาแพงอย่างมากในการมาที่นี่ พวกเราจึงต้องการอย่างน้อย 60% ของสิ่งที่อยู่ภายใน ที่เหลือพวกเจ้าสามารถจะแบ่งกันเองได้”

ความเงียบปกคลุมพื้นที่ ตัวแทนทั้งสี่ได้มองหน้ากันและกัน ราวกับพวกเขากำลังพิจารณาว่าจะจับมือกันเป็นพันธมิตร แล้วขับไล่พวกเอลฟ์ที่หยิ่งผยองออกไป

น่าเสียดาย พวกเขาไม่เชื่อใจกันและกัน แม้ว่าแลนธานอร์และอาราเฟลจะเป็นพันธมิตรกัน แต่สิ่งนั้นก็ได้ผลักดันให้อีก 3 กองกำลังไปรวมตัวกัน

เห็นการเจรจาเป็นเช่นนั้น แดนีลก็ปรารถนาที่จะไปที่นั่น โดยใช้ระบบ เขาสามารถจะเทเลพอร์ตผ่านได้ดินอย่างปลอดภัยเพื่อไปยังเหมืองอัญมณีเคอร์ได้ จากนั้น เขาก็สามารถจะขุดพวกมันอย่างสงบในขณะที่คนอื่นๆกำลังทะเลาะกันบนพื้นดิน

คำกล่าวของเอลฟ์ได้ดึงดูดความคิดของเขา

“พวกเจ้าไม่เห็นด้วย? เช่นนั้น พวกเจ้าก็เอาทุกสิ่งไป ราชอาณาจักรเอลดินอร์ ขอให้เป็นวันที่ดีสำหรับพวกเจ้า”

พร้อมกับที่แสยะยิ้มบนใบหน้า เอลฟ์หยิบเครื่องประดับเวทมนต์ออกมาจากกระเป๋าของเขา ก่อนที่จะบีบมันอย่างรุนแรง

มิติในพื้นที่รอบๆถูกปิดกั้นเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครสามารถจะเทเลพอร์ตเข้าไปด้านในแล้วทำสิ่งที่ทุกคนต้องตกตะลึงได้

ดังนั้น เมื่อพวกเขาเห็นพวกเอลฟ์หายตัวไปในฉับพลัน ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาก็คือ ความสับสน

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้บัญชาการที่มีประสบการณ์ พวกเขาแต่ละคน สามารถจะฟื้นคืนสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

ในความเป็นจริง มันเป็นลูเธอร์ที่ฟื้นสติเป็นคนแรก เขากระโดดลงไปในรูอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยผู้บัญชาการคนอื่นๆ

เห็นภาพบนแผงหน้าจอมืดลง แดนีลก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

หลังจากพยายามอย่างหนักที่จะยั่วยุคนอื่นๆ พวกเอลฟ์ก็เลือกที่จะจากไป?

เหตุผลเดียวที่พวกเขาเลือกที่จะทำเช่นนั้นก็คือ… อัญมณีเคอร์ถูกขุดออกไปแล้ว

เมื่อลูเธอร์เปิดใช้งานเครื่องประดับเวทมนต์แสง แดนีลก็ตระหนักได้ว่า การคาดการณ์ของเขาเป็นจริง

สามารถจะมองเห็นร่องรอยการขุดบนผนังที่ยังคงส่องแสงสีแดงซึ่งเป็นลักษณะของอัญมณีเคอร์ได้อย่างชัดเจน บนพื้น ก็มีเศษหินเล็กๆเกลื่อนกลาดอยู่รอบๆ ในขณะที่อัญมณีที่มีรูปร่างไม่สมบูรณ์เม็ดหนึ่งสามารถจะมองเห็นได้ ราวกับพวกมันถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลังจากความเร่งรีบ

เอี้ยวตัวลง ลูเธอร์หยิบอัญมณีเม็ดนั้นขึ้นมาและรอชั่วครู่ก่อนที่จะเก็บมันลงไปในกระเป๋าของเขา และทำตัวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เห็นว่าลูเธอร์เก็บมันขึ้นมาโดยที่แดนีลยังไม่ทันจะออกคำสั่ง เขาก็รู้สึกพึงพอใจที่เห็นว่า ผู้บัญชาการของเขามีความเฉียบแหลม

ขณะที่คนอื่นๆเข้ามา ลูเธอร์ก็ชกกำปั้นของเขาไปบนกำแพงหินเพื่อแสดงให้เห็นถึงการระบายอารมณ์ ทำให้ผู้บัญชาการทั้งสามที่เพิ่งเข้ามาคิดว่า ไม่มีอะไรหลงเหลือเลย

……………………………………………………………………………..

ในขณะเดียวกัน เหนือท้องฟ้าด้านบน

หลังจากที่ดูสถานการณ์จนจบลงแล้ว ชายคนนั้นก็ปิดตาลงชั่วครู่ ก่อนจะลืมตาขึ้ามาอีกครั้งแล้วลุกขึ้น

ในขณะที่เขาเดินไปหาผู้หญิงที่กำลังกรน ในแต่ละก้าว เมฆได้มารวมตัวกันที่ใต้เท้าของเขา ซึ่งมันทำให้เขาสามารถจะเดินบนอากาศได้

“ท่านหญิงแดเนียลเล่ ตื่นเถิด เหมืองถูกขุดไปแล้วและกองกำลังต่างๆก็กำลังจะจากไปแล้ว”

ตอนแรก เขาพยายามกล่าวอย่างใจเย็นเพื่อปลุกเธอให้ตื่น

เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้ผล เขาก็เริ่มที่จะเสียงดังมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เสียงตะโกนของเขาก็ถูกบดบังด้วยเสียงกรนของเธอ เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยื่นแขนออกไปสัมผัสที่ไหล่ของเธอ

แม้ว่ามันจะเป็นแค่การสัมผัสเพียงเล็กน้อย แต่ชายคนนั้นก็ถึงกับสะดุ้ง ราวกับเขาถูกไฟดูด

“อา…โอ้? มันจบแล้ว? ข้ากำลังฝันถึงเค้กอยู่เชียว…”

ตื่นขึ้น ผู้หญิงคนนั้นกล่าวคำกล่าวนี้ออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนที่เธอจะหันหลังกลับไปมองสหายของเธอ ที่ตอนนี้กำลังนอนขดตัวอยู่

เธอรีบชี้ไปที่เขา ซึ่งทำให้งูตัวเล็กๆที่ดูเหมือนสายฟ้าสีดำ ออกมาจากร่างของเขาและกลับเข้าร่างของเธอ

“ขอโทษ เจแร็กซ์ เจ้าควรจะเสกบางอย่างเพื่อปลุกข้านะ”

เขาสาบแช่งภายในใจขณะที่จดจำได้ว่า ครั้งล่าสุดที่เขาทำเช่นนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ชายคนนั้นลุกขึ้นก่อนจะกล่าวอย่างสงบว่า “ข้าทำรายงานแล้ว พวกเอลฟ์ได้รับข้อมูลก่อนคนอื่นๆค่อนข้างนาน ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถส่งผู้เชี่ยวชาญลอบเข้าไปอย่างลับๆได้ ต่อมา หลังจากที่ข้อมูลรั่วไหล พวกเขาก็กลับออกมาและกลับเข้าไปใหม่ แสร้งแสดงให้คนอื่นๆเห็นว่า พวกเขาก็เพิ่งจะได้รับข้อมูล ตลอดช่วงเวลานั้น พวกเขาได้ประสบความสำเร็จในการขุดอัญมณี และจากนั้น พวกเขาก็ใช้เครื่องประดับเวทมนต์ ที่เทียบได้กับเครื่องประดับเวทมนต์ที่สร้างขึ้นมาโดยบุคคลระดับผู้ชนะ เพื่อทำลายการปิดกั้นมิติและออกไปจากสถานที่นี้ โดยรวมแล้ว พวกเขาเป็นคนเดียวที่ทำกำไรได้ สมควรที่จะตำหนิงกองกำลังทั้งสี่ที่ไม่ตรวจสอบให้เร็วกว่านี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ไม่สามารถจะไว้วางใจฝ่ายอื่นๆที่ไม่ใช่พวกเดียวกับพวกเขาได้ ความฉลาดของพวกเอลฟ์เองก็สมควรที่จะได้รับการชื่นชมเช่นกัน โดยไม่สนใจเรื่องนี้ จากที่เห็น ไม่มีบุคคลใหม่ๆที่มีศักยภาพน่าสนใจเพียงพอสำหรับบิ๊กโฟร์ และความแข็งแกร่งของกองกำลังต่างๆในตอนกลางของแอนแกเรียก็ยังคงเป็นเช่นเดิม แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำก็ตาม ข้า…”

เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังจะงีบหลับอีกครั้ง ชายคนนั้นก็หยุดการอธิบายของเขาและกล่าวว่า “พวกเราสามารถจะกลับไปได้แล้ว” ในโทนเสียงที่ไม่พอใจเล็กน้อย

“โอ้ เยี่ยมเลย เลยเวลาอาหารกลางวันแล้ว พวกเราทำงานเป็นทีมได้ดี ไปกัน”

ชายคนนั้นทำได้เพียงถอนหายใจออกมาเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเทเลพอร์ตออกไป

……………………………………………………………………………..

ในขณะนั้น แดนีลก็ถือเศษอัญมณีที่ลูเธอร์นำกลับมา

แม้คนอื่นๆในห้องจะผิดหวัง เพราะแลนธานอร์ไม่ได้อะไรเลย แต่ราชากลับยิ้มออกมา ราวกับเขาเป็นคนที่ได้กำไรมากที่สุดจากสถานการณ์นี้

นี่เป็นเพราะเสียงแจ้งเตือนจากระบบในใจของเขา

[พบร่องรอยสัญญาณเศษพลังงานระดับสูงหลงเหลืออยู่ โปรดวางห้องโถงฝึกอบรมกระตุ้นพลังงานไว้ที่จุดกำหนดของสิ่งนี้ เพื่อเพิ่มความเร็วในการผลิตพลังงานระดับอัญมณีเคอร์]

แฟนเพจ : WDS แปลไทย

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด