World domination system – ตอนที่ 163
163 ความเสียใจ
เห็นดวงตาของราชาเปิดออก เคลเลอร์ก็รีบไปช่วยพยุงเขาลุกขึ้นจากเตียง เนื่องจากนั่งอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน เขาจึงควรที่จะสูญเสียความรู้สึกในบางส่วนของร่างกาย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเจ็บปวดจากอาการเหน็บชา แต่เขาก็ยังคงยิ้มออกมา สำหรับโอลแฟกซ์ มันดูเหมือนว่า การแสดงออกเช่นนี้จะหมายถึงความสำเร็จ เรื่องนี้ทำให้เขาสับสน หากมันเป็นไปด้วยดี เหตุใดราชาถึงได้ลืมตาเร็วเช่นนี้
รู้เกี่ยวกับสิ่งนี้ เคลเลอร์ส่ายหัวและกล่าวว่า “พวกเราสามารถหาคนอื่นที่ดีกว่าเอลฟ์หยิ่งผยองคนนี้ได้ องค์ราชา นางไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสมเลย”
แดนีลหัวเราะออกมาขณะที่มองไปยังเคลเลอร์ที่พยายามจะปลอบเขา ก่อนจะกล่าวว่า “ท่านกล่าวถึงเรื่องอะไรกัน? การนัดพบของพวกเราประสบความสำเร็จแล้ว”
“แต่ ไม่ใช่ว่าท่านต้องกลับมาในทันทีที่เข้าไปหรอกหรือ? ขออภัย แต่ข้าไม่เข้าใจว่าท่านสื่อสารกับนางในระยะเวลาสั้นๆได้อย่างไร?”
“ราชินีรู้ถึงการนัดพบในครั้งนี้ นางได้ส่งจอมเวทย์ผู้น่ายกย่องมาจับข้าและข้าหลบหนีมาได้ด้วยการสลายร่างโคลน”
งงงวย เคลเลอร์มองไปและหวังว่า ราชาจะอธิบายให้เขาเข้าใจ ราชินีรู้เรื่องการนัดพบนี้? เอลดร้าไม่ได้เลือกที่จะซ่อนข้อมูลและมาด้วยตัวเอง? หากเป็นเช่นนั้น แล้วการนัดพบจะประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ราชาจะไม่ยอมอธิบาย กลับกัน เขาหันไปหาโอลแฟกซ์และถามว่า “เจ้าสามารถใช้เครื่องประดับเวทมนต์ที่เจ้าซ่อนไว้ในท่อระบายน้ำ สื่อสารกับเอลดร้าได้หรือไม่?”
ได้ยินคำถามของราชา โอลแฟกซ์ก็ตกตะลึง หลังจากคิดเกี่ยวกับมันชั่วครู่แล้ว เขาก็ตอบว่า “ได้ ฝ่าบาท ข้าสามารถส่งมันไปที่ห้องของเธอได้ แต่หากพวกเราทำเช่นนั้น เธอจะรู้ถึงต้นตอ และหากมันเกิดขึ้น พวกเราก็มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียแหล่งข้อมูลเดียวที่พวกเรามีในพระราชวังของเอลดินอร์”
คำตอบนั้นทำให้แดนีลขมวดคิ้วขณะที่เขาคิดย้อนกลับไปถึงการแสดงออกของเอลดร้าที่เขาเห็นในเอลวิช คาร์นิวัล
ถูกต้องแล้ว โดยรวม การนัดพบนี้ถูกมองว่าล้มเหลว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาสุดท้ายที่เอลดร้าวิ่งมาในห้องของเขา เขาสังเกตเห็นความเสียใจอย่างมากในการแสดงออกของเธอ ซึ่งมันทำให้เขาประหลาดใจอย่างมากที่ได้เห็นใครบางคนแสดงออกถึงอารมณ์ที่มากมายเช่นนั้นได้
นี่เป็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังรอยยิ้มของเขา เขารู้ว่าเธออาจจะไม่ตั้งใจให้การนัดพบจบลงเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีทางเลือก เป็นไปได้ว่า ข้อมูลนั้นรั่วไหลไปยังราชินี และเอลดร้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับมันด้วยตัวเอง
หากเป็นกรณีนี้ แดนีลเพียงแค่ต้องหาวิธีการที่แตกต่างออกไปในการเข้าหาเธอ
เห็นได้ชัดว่าข้อมูลทั้งหมดรั่วไหลออกไปเนื่องจากคำกล่าวของเอลฟ์คนนั้น ที่กล่าวหาว่าเขาสมคบการต่อต้านรากฐานของราชอาณาจักร
แม้แดนีลจะเชื่อมั่นในสัญชาตญาณของเขาซึ่งเขาพบว่ามันถูกต้องอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้ มันเป็นการพนันครั้งใหญ่อย่างมาก หากเขาสูญเสียแหล่งข้อมูลเดียวในเอลดินอร์ไป เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะพลาดข้อมูลสำคัญซึ่งอาจจะก่อให้เกิดหายนะในระยะยาว
แน่นอนว่า สามารถจะลองใช้หนทางอื่นได้ อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่เขาคาดการณ์ผิดและเอลดร้าไม่ได้ต้องการที่จะกบฏเหมือนดั่งที่เขาคิด นั่นมันจะมีความหมายว่า การรักษาความปลอดภัยจะหนาแน่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้โอกาสในการได้รับข้อมูลดีๆลดลงอย่างมาก
ขณะที่เขากำลังคิดถึงการตัดสินใจนี้ เคลเลอร์และโอลแฟกซ์ก็เฝ้ามองมายังเขา ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และมองไปในอากาศ คิดถึงการแสดงออกถึงความเสียใจบนใบหน้าของเอลดร้า ซึ่งมันตราตรึงในความทรงจำของเขา
หลังจากนั้นชั่วครู่ ดวงตาของเขาก็กลายเป็นชัดเจน ราวกับเขาได้ตัดสินใจบางอย่าง มองไปยังโอลแฟกซ์ เขากล่าวว่า “ทำมัน ส่งข้อความเกี่ยวกับการนัดพบในสถานที่อื่นไปให้นาง”
มีเพียงการแบกรับความเสี่ยงเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสได้รับรางวัลที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง
………………………………………………………………………………
หลังจากกลับมายังห้องของเธอแล้ว เอลดร้าก็ทรุดตัวลงบนเตียงพร้อมกับจับใบหน้าของตัวเองเอาไว้ พยายามไม่ให้น้ำตาของเธอไหลออกมา
เธอรู้สึกสูญเสียและเธอต้องการที่จะมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตัวเอง ตอนนี้ เธอหวังว่าเธอจะย้อนเวลากลับไปและไม่เปิดแผ่นกระดาษนั้นในทางเดินที่มีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ในความเป็นจริง ในตอนนั้น เธอรู้แล้วว่า เธอไม่สามารถจะซ่อนมันจากแม่ของเธอได้
อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังคงไปที่นั่น เพราะเธอมีเหตุผลที่จำเป็นบางอย่าง เธอรู้ดีว่า เธอเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถพยายามช่วยเหลือเหล่าเด็กๆที่ถูกขายไปเป็นทาสในแต่ละปีได้ จากข้อมูลที่เธอมีและความพยายามอย่างลับๆของเธอ เธอสามารถช่วยเด็กได้ไม่กี่คนด้วยวิธีการต่างๆอย่างการว่าจ้างทหารรับจ้างเพื่อโจมตีคาร์โก้ หรือแม้แต่รายงานไปยังรัฐด้วยวิธีที่ไม่มีใครสามารถตามรอยกลับมาหาเธอได้
บ่อยครั้งที่เธอถามตัวเองว่า เหตุใดเธอถึงไม่สามารถจะทำอะไรได้มากกว่านี้ แม้เธอจะบอกกับตัวเองว่า วิธีอื่นไม่น่าเชื่อถือเท่ากับวิธีที่เธอใช้ในตอนนี้ แต่เธอก็รู้ว่า ลึกๆแล้วมันเป็นเพราะเธอหวาดกลัวแม่ของเธอ ซึ่งมันขัดขวางไม่ให้เธอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง
ตั้งแต่ยังเด็ก เธอค่อยๆคุ้นเคยกับการมีทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตซึ่งก็ล้วนแล้วแต่ถูกควบคุมโดยแม่ของเธอ แน่นอนว่า ความรักที่เธอเคยมีได้ตายไปนานแล้ว หลังจากที่เธอเห็นการกระทำที่น่าหวาดกลัวของแม่เธอในแต่ละวัน แต่ละเดือน และแต่ละปี เพื่อที่จะรักษาบัลลังก์ของตัวเอง
ดังนั้น เมื่อตระหนักได้ว่า เธอเป็นเพียงคนเดียวที่เด็กน้อยเหล่านั้นมี เธอจึงเลือกที่จะไปหาราชินีและรายงานเกี่ยวกับการนัดพบ
แน่นอนว่า ราชินีได้รับการแจ้งเตือนในทันทีที่เธอเปิดกระดาษแผ่นนั้น ดังนั้น เธอจึงรออยู่ในห้องบัลลังก์ เพื่อดูว่าลูกสาวของเธอจะตัดสินใจเช่นใด
ในฐานะคนที่อยู่ในอำนาจมาเป็นเวลานาน เธอรู้ดีว่า ศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอยู่ในบ้านของเธอเอง อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมว่า เธอสามารถจะกำราบและควบคุมลูกสาวของเธอได้ตามต้องการ
แม้ในขณะที่เธอส่งมอบกระดาษให้ เอลดร้าก็ยังคงเห็นถึงความมั่นใจในดวงตาของแม่เธอ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า ทุกการเคลื่อนไหวของเธออยู่ภายใต้การควบคุมของแม่เธอ
ดังนั้น ขณะที่เธอนอนลงบนเตียง เธอก็คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และอดไม่ได้ที่จะสาบแช่งกลุ่มกบฏโง่เขลาที่ติดต่อเธอด้วยลักษณะนี้ แม้เธอจะรู้ว่า พวกเขาไม่สวควรจะถูกตำหนิได้ แต่เธอก็ยังคงตำหนีเพื่อลดความขุ่นเคืองใจของเธอ
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง
ได้ยินเสียงแปลกๆจากในห้องน้ำ เอลดร้าเดินอย่างระมัดระวังเข้าไป และเธอสังเกตเห็นเหรียญบางอย่างวางอยู่บนอ่าง ขณะที่หยิบมันขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอรู้สึกก็คือ กลิ่นเหม็นที่รุนแรงของมัน ซึ่งทำให้มันหล่นจากมือของเธอ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เหรียญกำลังลอยอยู่กลางอากาศ เธอก็ได้สังเกตเห็นบางอย่างที่ทำให้ดวงตาของเธอเบิกกว้าง
มันเป็นเครื่องประดับเวทมนต์ที่กำลังกระพริบอยู่
หยิบมันขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่สนใจกลิ่นใดๆ เอลดร้าหลับตาฟังข้อความขณะที่น้ำตาของเธอหยุดไหล หลังจากข้อความจบลง เธอก็ทำลายเหรียญนี้ด้วยเปลวเพลิงสีเขียวซึ่งกลืนกินมันอย่างสมบูรณ์ ไม่หลงเหลือร่องรอยใดๆไว้
ยิ้มกว้างออกมาหลังจากที่พบว่าตัวเองยังมีโอกาส และเธอเดินออกไปจากห้องของเธอ
คอมเม้นต์