อัจฉริยะเขย่าโลก (重生之最强人生) – บทที่ 2 ชีวิตแม่ของเธอราคาเท่าไหร่

อ่านนิยายจีนเรื่อง อัจฉริยะเขย่าโลก (重生之最强人生) ตอนที่ 2 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 2 ชีวิตแม่ของเธอราคาเท่าไหร่

 

 

“หลินปู้ฟาน….” คนที่เข้ามาคือซูชิง เธอรีบเดินเข้ามาหาหลินปู้ฟานและถามด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ “บอกมาว่านายรู้ได้ยังไง?”

 

 

“ฉันบอกไปแล้วไง ว่าฉันสามารถทำนายอนาคตได้”

 

 

“โกหก ถ้านายทำได้ขนาดนั้นจริง นายคงรวยไปแล้ว”

 

 

“ก็ถูกของเธอ ความสามารถในการทำนายของฉันแปลกมาก ฉันไม่สามารถควบคุมมันได้และในครั้งนี้ฉันก็รู้ว่าแม่ของเธอกำลังจะตาย”

 

 

ซูชิงขมวดคิ้วและนึกถึงสิ่งที่ครูหวังพูดกับเธอ ‘ความรักครั้งนี้จะเป็นความทรงจำที่มีค่า ขอบคุณสำหรับความรักที่เธอมีให้กับครู นักเรียนซูชิง ครูขอโทษด้วยครูมีภรรยาแล้ว ครูเชื่อว่าในอนาคตเธอจะได้พบเจ้าชายของเธอ‘

 

 

“พูดมา พรุ่งนี้แม่ของฉันจะเป็นอะไร?”

 

 

“เธอเคยได้ยินไหมว่าความลับของสวรรค์ไม่สมควรบอกต่อ หากฉันพูดออกไปอายุของฉันจะต้องสั้นลงแน่ๆ.. เธอจะไม่มีค่าตอบแทนอะไรให้ฉันสักหน่อยเหรอ?” หลินปู้ฟานพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

 

 

“นายต้องการเงินเท่าไหร่?” ซูชิงเป็นคนฉลาด

 

 

“เหมือนกับที่ฉันเคยบอกไปก่อนหน้านี้ 5 แสน”

 

 

“ตกลง ฉันสัญญากับนายรีบบอกมาได้แล้ว”

 

 

หลินปู้ฟานแตะคางทำท่าครุ่นคิด “สัญญาของเธอเชื่อถือได้?”

 

 

“เงินแค่ 5 แสนมันไม่ได้มากมายอะไรสำหรับครอบครัวฉัน บอกฉันมาเร็วๆ”

 

 

“แม่ของเธอจะมารับเธอในวันพรุ่งนี้และแม่ของเธอจะตายที่ประตูของโรงเรียน” ตัวตนของหลินปู้ฟานในตอนนี้เป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เด็ก เขาจึงไม่ได้พูดทุกๆอย่างออกไป

 

 

“เป็นไปไม่ได้ แม่ของฉันไปติดต่อธุรกิจที่หยานจิง กว่าจะกลับก็ตั้งสัปดาห์หน้า!” ซูชิงพูดเสียงดัง

 

 

“เป็นไปได้สิ เพราะแม่ของเธอจะมารอเธอที่หน้าประตูโรงเรียนพรุ่งนี้แน่นอน”

 

 

“ถ้านายไม่เชื่อ…” ซูชิงหยิบ Nokia 2110 ออกมา ต้องรู้ก่อนว่าในตอนนี้ราคาของโทรศัพท์เครื่องนี้แพงอย่างมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่คนธรรมดาจะซื้อได้

 

 

ซูชิงโทรหาแม่ของเธอพร้อมกับเปิดโหมดแฮนด์ฟรี ในไม่ช้าก็มีเสียงตอบรับจากอีกด้าน

 

 

“ว่าไงชิงชิง มีอะไรเหรอลูก?”

 

 

“แม่ พรุ่งนี้แม่จะกลับมาไหม?”

 

 

“ตอนนี้แม่อยู่ที่หยานจิง แม่ขอโทษนะปีนี้แม่คงกลับไปงานวันเกิดหนูไม่ได้ยังมีอีกหลายอย่างที่แม่ต้องทำ”

 

 

“ไม่เป็นไรคะแม่ ตั้งใจทำงานนะคะ สู้ๆค่ะ”

 

 

หลังจากพูดอีกไม่กี่คำซูชิงก็วางสาย “หึ! นายได้ยินแล้วใช่ไหม? ไม่มีทางที่แม่ฉันจะกลับมาในวันพรุ่งนี้ได้แน่นอนแล้วแม่ของฉันจะมาตายอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนได้ยังไง? หลินปู้ฟานนายต้องการจะโกงฉัน? ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้แม่ของนายป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลและต้องใช้เงินจำนวนมาก นายคิดว่าฉันเป็นคนรวยที่โง่หรือไง?”

 

 

“ที่แม่ของเธอพูดอย่างนั้นเพราะแม่ของเธอต้องการจะเซอร์ไพรส์เธอ” หลินปู้ฟานตอบกลับ

 

 

“แม่ของฉันเป็นผู้หญิงเก่ง สำหรับแม่งานต้องมาก่อนเสมอ หลินปู้ฟานฉันไม่สนว่านายจะมีความสามารถในการทำนายอะไรนั่นจริงไหม แต่ฉันขอเตือน… อย่าได้มายุ่งกับฉันอีกไม่อย่างงั้นนายได้ตายแน่” ซูชิงจากไปด้วยความโกรธ

 

 

….

 

 

ที่โรงพยาบาล

 

 

“คุณหลิน ค่ารักษาพยาบาลไม่สามารถค้างชำระไปมากกว่านี้ได้จริงๆ ผู้อำนวยการไม่อนุมัติให้เรารักษาคนไข้ต่อแล้ว” หมอจางในชุดคลุมสีขาวพูดกับหลินเจิ้งตงด้วยสีหน้าลำบากใจ

 

 

“หมอจางผมขอเวลาอีกสองสามวันนะครับ ได้โปรด ได้โปรด…” หลินเจิ้งตงคุกเข่าลง “คุณหมอจาง สงสารผมเถอะ….”

 

 

หลินเจิ้งตงพูดพร้อมน้ำตา

 

 

หมอจางพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “ผมให้เวลาคุณได้อีกแค่วันเดียวเท่านั้น”

 

 

“ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ….” หลินเจิ้งตงโค้งตัวให้หมอจาง

 

 

หลินปู้ฟานมองฉากนี้จากระยะไกล เขากำมือแน่นพร้อมสบถในใจ เขาจะต้องช่วยแม่ไว้ให้ได้และจะทำให้ทั้งพ่อและแม่มีชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้

 

 

ในห้องมีเตียงอยู่ 8 เตียง เมื่อปิดม่านกั้นจะเหลือพื้นที่อยู่ไม่มาก

 

 

หลินเจิ้งตงดูผอมแห้งและซีดเซียว เขาเป็นเพียงพนักงานตัวเล็กๆ ในบริษัทเอกชน เงินเดือนแค่ 1500 หยวนต่อเดือนเท่านั้น

 

 

“เธอจะให้ลูกต้องมาลำบากทำไม? โรคนี้มันไม่สามารถรักษาให้หายได้ เธอก็รู้” จางซิ่วเยว่ตำหนิออกมา

 

 

“อย่าพูดอย่างนั้น มันจะต้องหาย เธอจะกลับมาแข็งแรงอีกครั้งแน่นอน” หลินเจิ้งตงพูดออกมาอย่างหนักแน่นพร้อมจับมือของจางซิ่วเยว่ไว้

 

 

“แม่ไม่ต้องกังวล ผมจะหาเงินมาจ่ายค่ารักษาทั้งหมดเอง”

 

 

“เด็กโง่ หน้าที่ของลูกคือตั้งใจเรียนให้หนักเข้าใจไหม?”

 

 

“ผมรู้ครับแม่…” หลินปู้ฟานมองไปที่แม่ของเขา หลังจากที่แม่จากไปทุกๆ ครั้งที่เขาฝันถึงแม่น้ำตาของเขาจะไหลจนเปียกหมอนไปทั้งใบ เมื่อพระเจ้าได้ให้โอกาสส่งเขามาเกิดใหม่ทั้งที เขาจะต้องช่วยแม่ของเขาไว้ให้ได้!

 

 

เช้าวันรุ่งขึ้น หลินปู้ฟานเดินเข้าไปในห้องเรียนและจ้องมองไปที่แบบทดสอบคณิตศาสตร์ที่เขียนไว้บนกระดานดำ

 

 

หลินปู้ฟานนั่งอยู่ที่แถวสุดท้าย ทันทีที่ซูชิงเห็นเขา เธอก็เดินเข้ามาหาเขาทันที

 

 

เมื่อคืนเธอนอนไม่หลับทั้งคืน เธอไม่เข้าใจว่าหลินปู้ฟานรู้เรื่องของเธอกับครูหวังล่วงหน้าได้ยังไง เธอกลัวว่าเรื่องที่หลินปู้ฟานบอกจะเป็นเรื่องจริงแล้วเธอจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต

 

 

ที่สำคัญหลินปู้ฟานยังไม่ได้บอกเธอเลยว่าแม่ของเธอเสียชีวิตจากอะไร

 

 

นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของแม่ของเธอ เธอยังต้องการถามหลินปู้ฟานให้แน่ใจอีกครั้ง

 

 

แต่เมื่อวานเธอรีบกลับ เธอจึงไม่มีโอกาสได้ถามเขา

 

 

“คาบแรกเป็นการทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ หลินปู้ฟานนายเตรียมตัวมาหรือยัง?” ซูชิงอุ่นเครื่องก่อน

 

 

หลินปู้ฟานยิ้ม “ฉันจะไม่สอบ”

 

 

“นายไม่เห็นบนกระดานดำเหรอ?”

 

 

“คาบนี้จะปล่อยฟรี เพราะครูเฉียนป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบกระทันหัน”

 

 

ครูเฉียนคือครูสอนวิชาคณิตศาสตร์

 

 

“จะเป็นไปได้ยังไง? ฉันเพิ่งไปห้องพักครูมาเมื่อ 10 นาทีก่อน ครูเฉียนยังดูแข็งแรงดีทุกอย่าง หึ! ต่อไปนี้ฉันจะไม่เรียกนายว่าหลินปู้ฟานแล้ว ฉันจะเรียกนายว่าหลินป้านเซียน” หลังจากซูชิงพูดจบ เสียงระฆังเริ่มชั้นเรียนก็ดังขึ้นทันที (หลินไม่เต็มบาท)

 

 

ครูเฉียนไม่ได้เข้ามาที่ห้องเรียน

 

 

เวลาผ่านไปช้าๆ เพื่อนในห้องเริ่มซุบซิบพูดคุยกัน ใจของซูชิงเริ่มสั่น ครูเฉียนเป็นไส้ติ่งอักเสบจริงๆ เหรอ?

 

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอกห้อง

 

 

ในที่สุดก็มา ครูเฉียนไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ซูชิงรู้สึกโล่งใจขึ้นมา ตราบใดที่ครูเฉียนเข้ามาในห้องเรียนมันก็จะเป็นการพิสูจน์ได้ว่าเรื่องที่หลินปู้ฟานพูดมานั้นเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมดและเรื่องที่แม่ของเธอจะเสียชีวิตที่ประตูโรงเรียนก็จะเป็นเรื่องไร้สาระเช่นกัน

 

 

‘ครืดด‘ ประตูถูกเปิดออก… คนที่เข้ามาไม่ใช่ครูเฉียน แต่เป็นรองอาจารย์ใหญ่

 

 

“นักเรียนทุกคน ครูเฉียนเกิดไม่สบายกระทันหัน เพราะฉะนั้นคาบนี้ให้นักเรียนทุกคนเรียนด้วยตัวเอง” หลังจากนั้นรองอาจารย์ใหญ่ก็รีบเดินออกไปอย่างเร่งรีบเหมือนว่าเขาต้องไปส่งครูเฉียนที่โรงพยาบาลเอง

 

 

ในตอนนี้ซูชิงทั้งตกตะลึงและหวาดกลัว เธอหันไปมองหลินปู้ฟานที่นั่งอยู่หลังห้องทันที

 

 

เขาทำนายอนาคตได้จริงๆเหรอ?

 

 

ทั้งสองจ้องตากัน

 

 

หลังจากหมดคาบ หลินปู้ฟานเดินมาเคาะโต๊ะซูชิงและถามว่า “เธอต้องการคำทำนายส่วนที่เหลือไหม?”

 

 

“หึ! รองอาจารย์ใหญ่ไม่ได้บอกว่าครูเฉียนเป็นไส้ติ่งอักเสบสักหน่อย”

 

 

“ครูเฉียนจะบอกเรื่องนี้ด้วยตัวเองเมื่อเธอกลับมาสอนใน 3 วันหลังจากนี้ แต่ถึงตอนนั้นแม่เธอก็คงไม่อยู่แล้วและเธอจะต้องเสียใจที่ไม่ยอมเชื่อฉัน” หลินปู้ฟานวางมือบนไหล่ซูชิง “คิดให้ดี เธอมีแม่แค่คนเดียวเท่านั้น ไม่มีใครสามารถกลับมาจากความตายได้ ยังมีเวลาอีกสักพักก่อนจะถึงเวลา คิดดูให้ดี”

 

 

หลังจากพูดเสร็จ หลินปู้ฟานก็กลับไปนั่งที่ของตัวเอง

 

 

ซูชิงทำอะไรไม่ถูก

 

 

เมื่อคาบที่สองหมดลง ซูชิงโทรหาแม่ของเธอแต่แม่ของเธอก็ยังคงบอกกับเธอเหมือนเดิม

 

 

ซูชิงยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น

 

 

เมื่อคาบสุดท้ายมาถึง เธอก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอต้องออกไปดูที่หน้าประตูโรงเรียนให้ได้

 

 

“คุณครูหนูปวดท้องมากเลย” ซูชิงยืนขึ้นพร้อมกับทำท่ากุมท้อง

 

 

ครูที่สอนอยู่ตอนนี้เป็นผู้หญิง เธอจึงคิดว่าซูชิงคงจะปวดประจำเดือนเธอจึงพยักหน้าอนุญาตทันที “ไปขอยาที่ห้องพยาบาล”

 

 

“คุณครู หนูอยากให้หลินปู้ฟานไปกับหนูด้วยขาหนูไม่ค่อยมีแรง” ทันทีที่ซูชิงพูดจบ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความโกลาหลทันที

 

 

เนื่องจากทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างมาก หลินปู้ฟานไม่มีเงินไม่มีรถและแม้แต่บ้านตอนนี้ก็ไม่มี เขาเป็นเหมือนแกะดำของห้องเรียนแทบจะไม่มีใครคุยด้วยมา 2 ปีแล้ว ส่วนซูชิงนั้นเป็นดั่งดอกไม้ที่ทุกๆ คนหมายปองทั้งสวยทั้งรวย งานแต่งงานของอาจารย์หลายๆ คนก็ไปจัดที่โรงแรมของเธอ

 

 

สายตามากมายมองมาที่ซูชิงอย่างประหลาดใจ

 

 

เป็นไปได้ไหมที่หลินปู้ฟานกับซูชิงกำลังคบกันอยู่?

 

 

เพื่อนรวมชั้นหลายคนเริ่มร้อนรน

 

 

หลินปู้ฟานลุกขึ้น เขาเดินเข้าไปโอบเอวและพาเธอออกจากห้องไป

 

 

หลังจากเดินลงมาจากอาคารเรียน ซูชิงก็สลัดหลินปู้ฟานออกและวิ่งไปที่หน้าโรงเรียนทันที

 

 

เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนเธอก็ถอนหายในด้วยความโล่งอก

 

 

“ดีจริงๆ แม่ไม่ได้มาที่โรงเรียน”

 

 

เมื่อเธอมาถึงหน้าโรงเรียนเธอก็สามารถรู้ได้ทันทีเพราะแม่เธอมักจะจอดรถไว้ที่หน้าโรงเรียนในตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุดเพื่อรอรับเธอเสมอ

 

 

“รอดูไปก่อน” หลินปู้ฟานมองไปที่นาฬิกาข้อมือของเขา 16:20 น.

 

 

แม่ของซูชิงเจออุบัติเหตุเวลา 16:45 น.

 

 

เพื่อความแน่ใจซูชิงจึงตกลงที่จะรอดูอีกหน่อย

 

 

เวลาผ่านไป 16:26 น. รถเบนซ์สีดำคันใหญ่ก็ขับมาจอดที่ข้างทางเท้าถัดจากประตูโรงเรียน

 

 

ซูชิงตกใจ “แม่ของฉันมาจริงๆ!?”

 

 

“โชคชะตาไม่เคยผิดนัดเลยจริงๆ” หลินปู้ฟานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “เร็วเข้า! รีบบอกให้แม่ของเธอย้ายรถไปจอดที่อื่น”

 

 

แม่ของซูชิงที่พึ่งจะจอดรถ เธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นลูกสาววิ่งเข้ามาหาเธอ

 

 

ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงมาอยู่หน้าโรงเรียน?

 

 

“แม่ ทำไมมาถึงมาอยู่นี่ได้ แม่ไม่ได้บอกว่าตอนนี้แม่อยู่หยานจิงเหรอ?”

 

 

“ฮิฮิ แม่จะมาเซอร์ไพรส์หนูยังไงล่ะ”

 

 

“ไม่ใช่เรื่องที่จะมาดีใจเลย แม่ต้องรีบขยับรถไปที่อื่นเดี๋ยวนี้!” ซูชิงพูดอย่างร้อนรน

 

 

แม่ของซูชิงรู้สึกสับสน เธอรีบลงจากรถเพื่อมาดูลูกสาวของเธอ “ชิงชิง ลูกเป็นอะไรหรือเปล่า?”

 

 

“แม่กำลังจะตาย แม่ต้องขับรถไปที่อื่นเดี๋ยวนี้เลย ไม่ๆๆ รถไม่สำคัญอีกแล้วแม่มากับหนูเดี๋ยวนี้เลย” ซูชิงพาแม่ของเธอไปที่ประตูโรงเรียน

 

 

เมื่อมาถึงประตูโรงเรียน แม่ของซูชิงก็รีบถามออกมาว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

ซูชิงเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ของเธอฟัง

 

 

แม่ของซูชิงขมวดคิ้วและจ้องไปที่หลินปู้ฟาน “นักเรียนคนนี้หัดโกงตั้งแต่อายุยังน้อย เธอกล้าหลอกเอาเงินลูกสาวฉันตั้ง 5 แสน ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอใหญ่มาจากไหน แต่ฉันไม่เอาเธอไว้แน่ ฉันจะจับเธอส่งเข้าคุกให้ได้ ไป! ไปพบครูใหญ่กับฉัน”

 

 

“แม่ สิ่งที่หลินปู้ฟานบอกก่อนหน้านี้เป็นจริงแล้วทั้งหมด” ซูชิงรีบพูดช่วย

 

 

“ชิงชิง เด็กคนนี้เป็นพวก 18 มงกุฎ ถึงเขาจะหลอกลูกได้แต่เขาไม่สามารถหลอกแม่ได้ ปล่อยให้แม่จัดการเอง”

 

 

“ถึงเวลาแล้ว….” หลินปู้ฟานมองที่ข้อมือ จากนั้นก็มองไปที่ถนน

 

 

มีปอมเมอเรเนียนตัวหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ที่กลางถนนและเมื่อเจ้าของสุนัขตัวนั้นเห็นก็รีบวิ่งตามมาทันที คนขับรถบรรทุกปูนหักเลี้ยวด้วยความตกใจจนทำให้รถเสียการควบคุมไปในทันที

 

 

“ตูมม!” รถโม่ปูนชนเข้ากับรถเบนซ์สีดำที่จอดอยู่ที่ข้างถนนอย่างแรง

 

 

แม่ของซูชิงตกใจกลัวจนตัวสั่น เธอถึงกับหมดแรงทรุดลงกับพื้น

 

 

ใบหน้าสวยๆ ของซูชิงก็ซีดไปเช่นกัน ริมฝีปากของเธอสั่น “แม่… ถ้าแม่ยังอยู่ในรถ…”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด