อัจฉริยะเขย่าโลก (重生之最强人生) – บทที่ 7 แฟน
ตอนที่ 7 แฟน
เมื่อได้ยินอย่างนั้น คิ้วของหวงเจี้ยนเหลินก็กลายเป็นรูป“川”ทันที
เด็กคนนี้ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีสำหรับตัวเอง!
“นักเรียนหลิน เธอยังเป็นแค่เพียงเด็กตัวเล็กๆ ถ้าเธอต้องการที่จะช่วยชีวิตใครก็ต้องมีเงิน อย่าได้ลืมว่าครอบครัวเธอยังเป็นหนี้โรงพยาบาลอีก 200,000 หยวน ถ้าไม่ใช่เพราะครอบครัวโจวต้องการหัวใจแม่ของเธอ ป่านนี้เราไล่แม่ของเธออกจากโรงพยาบาลไปนานแล้ว”
หลินปู้ฟานยิ้มอย่างดูถูก “นี่คุณยังไม่รู้เหรอว่าผมจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่ผมทั้งหมดแล้ว?”
“ไร้สาระ! ครอบครัวจนๆ ของเธอจะมีปัญญาที่ไหนไปหาเงิน 200,000 หยวนมาจ่ายได้ ฉันอุตส่าห์หยิบยื่นโอกาสดีๆ ให้กับเธอแต่เธอกลับไม่รับมัน ช่างเป็นเด็กที่โง่เขลาจริงๆ”
“คุณหวง คุณอย่าคิดว่าแค่พวกเราจนแล้วคุณจะเอาเปรียบเราอย่างไรก็ได้ หากคุณต้องการจะเอาหัวใจไปให้คนตระกูลโจวจริงๆ ทำไมคุณไม่เอาหัวใจของเมียคุณไปแทนละ”
“ไอ้เด็กปากดี! แกเชื่อไหมว่าฉันสามารถเตะแม่ของแกออกไปจากโรงพยาบาลตอนนี้ได้เลย!”
“คุณไม่ได้ยินที่ผมบอกไปเหรอ? ผมบอกว่าผมจ่ายหนี้ค่ารักษาทั้งหมดแล้ว แล้วคุณก็ไม่ต้องรีบร้อนอะไรขนาดนั้น เพราะผมจะทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลให้แม่ภายในไม่เกิน 2 วัน”
“แกไม่ต้องพูด ฉันจะโทรไปถามเอง” หวงเจี้ยนเหลินกดหมายเลขโทรศัพท์ของแผนกการเงิน หลังจากที่เขาได้รับคำยืนยันว่าค่ารักษา 2 แสนหยวนของครอบครัวหลินได้รับการชำระแล้วดวงตาเขาก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที ถ้าเกิดเป็นแบบนี้การที่จะกล่อมให้จางซิ่วเยว่บริจาคหัวใจก็ยิ่งเป็นเรื่องที่ยากขึ้นไปอีก
หลินปู้ฟานมองไปที่ป้ายชื่อที่วางอยู่บนโต๊ะ “คุณนี่ชั่งทำตัวได้สมกับชื่อของตัวเองจริงๆเลยนะครับ” (เป็นการเล่นเสียงระหว่าง(建仁)เจี้ยนเหลิน กับ (贱人)เจี้ยนเหลินที่แปลว่า Bitch)
ใบหน้าของหวงเจี้ยนเหลินเปลี่ยนเป็นสีแดงเต็มไปด้วยความโกรธ เขาต้องการจะพูดบางอย่างแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถพูดมันออกมาได้
หลินปู้ฟานไม่สนใจที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาหัวเราะพร้อมกับเดินออกไปจากห้อง
ระหว่างทางกลับ หลินปู้ฟานคิดไว้แล้วว่าจะรอจนถึงพรุ่งนี้เพื่อตรวจร่างกายแม่ของเขาที่โรงพยาบาลแล้วเขาจะหาหมอที่ดีที่สุดเพื่อมาเป็นหมอส่วนตัวแม่ของเขา
หลังจากกลับมาที่ห้องเช่า หลินปู้ฟานวางสมุดบัญชีเงินฝากไว้ใต้ที่นอน เงินพวกนี้ไม่ได้เป็นแค่ค่าใช้จ่ายในการรักษาของแม่หลังจากนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นทุนเริ่มต้นสำหรับธุรกิจในอนาคตของเขาด้วย
มองไปที่ห้องขนาด 20 ตารางเมตรหลินปู้ฟานก็ครุ่นคิด
หากมีเงินเมื่อไหร่ เขาจะต้องย้ายออกจากที่นี่ให้ได้
ในเวลานั้นเองประตูก็ถูกเปิดออก
“นายกำลังคิดอะไรอยู่?” หลัวเสี่ยวเสี่ยวเดินเข้ามาพร้อมข้าวชามใหญ่ “ฉันเอามาให้นาย”
มีเนื้อชิ้นใหญ่ว่างอยู่บนข้าว นอกจากนี้ยังมีหน่อไม้แห้งและไก่ชิ้นอีกด้วย
“นี่อะไร? พี่กินไม่หมดอีกแล้วเลยเอามาให้ผม?” หลินปู้ฟานหยอก
“ใช่ ถ้าหากฉันกินหมดนี่ฉันจะต้องกลายเป็นหมูแน่ๆ” หลัวเสี่ยวเสี่ยวทำหน้ามุ่ยพร้อมยืนชามให้หลินปู้ฟาน
หลินปู้ฟานกินข้าวพร้อมกับมองไปที่หลัวเสี่ยวเสี่ยวซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามเขา “อืม พี่ดูอ้วนไปหน่อยจริงๆ ด้วย”
“นายสิอ้วน แบบนี้เขาเรียกว่าสมส่วนย่ะ” หลัวเสี่ยวเสี่ยวยืนขึ้นอย่างโกรธๆ และทำท่าทาง “เพอร์เฟ็คบอดี้อย่างฉันเนี่ยนะเรียกว่าอ้วน นายไม่รู้อะไร ฉันจะไปประกวดนางงามในปีหน้าและฉันจะต้องได้เป็นนางแบบ”
รูปร่างของหลัวเสี่ยวเสี่ยวนั้นดีมากจริงๆ และเธอก็เริ่มแสดงเสน่ห์แบบผู้หญิงออกมาบ้างแล้ว
เธอจะได้เข้าสู่แวดวงนางแบบในอนาคต แต่ตอนจบของเธอนั้นไม่ดีนัก
ในชีวิตที่แล้ว หลินปู้ฟานย้ายออกจากที่นี่หลังจากที่แม่เสียได้หนึ่งปี หลังจากที่ย้ายออกไปเขาก็ไม่ได้ติดต่อกับหลัวเสี่ยวเสี่ยวอีกเลย จนกระทั่งเขาได้มาเห็นข่าวที่ทำให้เขาต้องตกตะลึง
ในข่าวนั้นบอกว่า หลัวเสี่ยวเสี่ยวนางแบบสาวชื่อดังถูกสาดน้ำกรดจนทำให้เธอเสียโฉม สาเหตุมาจากเธอแอบไปกิ๊กกั๊กกับนักธุรกิจชื่อดังคนหนึ่งแล้วภรรยาของเขาจับได้
มักจะมีเรื่องเศร้าในทำนองนี้ปรากฏขึ้นในวงการบันเทิงเสมอ
“พี่เสี่ยวเสี่ยว วงการนางแบบมันทั้งยุ่งยากและซับซ้อนมากเกินไป ทำไมพี่ไม่ลองไปทำอย่างอื่นดูล่ะ? จากความสวยและความสามารถที่พี่มี ผมว่ามันต้องไปได้ด้วยดีแน่ๆ” หลินปู้ฟานกล่าวพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ
หลินปู้ฟานขมวดคิ้วและคิดในใจ: วงการบันเทิงเป็นเหมือนกับถังย้อมสีขนาดใหญ่ ในตอนนี้เธอยังคงบริสุทธิ์และใจดีอยู่ แต่ถ้าเธอได้เข้าไปในถังย้อมสีใบนั้นเมื่อไหร่ ทุกๆ อย่างที่เป็นเธอก็จะเปลี่ยนไป… ฉันตัดสินใจแล้ว ในชีวิตนี้ฉันจะต้องมีพลังและอำนาจเพื่อปกป้องเธอและทุกๆ คนให้ได้
“อ่า เกือบลืมไปเลย” หลินปู้ฟานส่งเงิน 500 หยวนที่เตรียมไว้ “300 เป็นค่าเช่าสำหรับ 3 เดือนส่วนอีก 200 เป็นเงินที่ผมติดพี่ไว้”
“นายไปเอาเงินมาจากไหน?” หลัวเสี่ยวเสี่ยวถาม
“พี่จะเชื่อไหม? ถ้าผมบอกว่าผมเก็บได้”
“ไอ้บ้า” หลัวเสี่ยวเสี่ยวปีบคอหลินปู้ฟาน “นายบอกฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะว่านายขายครั้งแรกไปเท่าไหร่? แล้วขายไปตั้งแต่ตอนไหน?”
หลินปู้ฟานรู้สึกขบขัน “พี่จะบ้าเหรอ อย่างผมจะเอาอะไรไปขาย”
หลัวเสี่ยวเสี่ยวใช้มือทั้งสองข้างบีบหน้าหลินปู้ฟานไว้ หลังจากจ้องมองใกล้ๆ เธอก็พูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง “นายไม่รู้อะไร หน้าตาอย่างนายนี่แหละที่เป็นแบบที่พวกผู้หญิงรวยๆ นั้นชอบที่สุด ดวงตาที่คมราวกับหงส์ คิ้วที่ดูเหมือนถักทอมาจากเส้นไหม ปากที่เล็กเหมือนกับผลเชอร์รี่แล้วยังผิวที่ขาวเนียนนี่อีก”
“พี่สาว ปากเล็กนั่นเขาเอาไว้ใช้กับผู้หญิงนะ แล้วอีกอย่าง.. ปากผมเล็กขนาดนั้นเลยเหรอ!?”
“อย่ามาเนียนเปลี่ยนเรื่อง ตอบมาว่านายไปเอาเงินพวกนี้มาจากไหน?” หลัวเสี่ยวเสี่ยวเป็นกังวลมาก เธอกลัวว่าหลินปู้ฟานจะไปทำเรื่องผิดกฎหมายมา
“เงินนี่พ่อของผมให้ไว้”
“ค่อยยังชั่ว นี่ฟังนะ! ไม่ว่านายจะลำบากแค่ไหนนายก็ห้ามทำเรื่องที่ไม่ดีเด็ดขาดเลยเข้าใจไหม? แล้วนายก็เอาเงินนี่ไปคืนพ่อของนายด้วย บอกเขาว่ายังไม่ต้องรีบจ่ายตอนนี้ ฉันรู้ว่าตอนนี้แม่ของนายต้องการใช้เงินจำนวนมาก”
“ผมกลัวว่าแม่ของพี่จะไล่เราออกจากที่นี่ก่อนน่ะสิ”
“ไม่ต้องห่วง ถ้าเกิดว่าแม่กล้าไล่นายออกฉันจะต้องเปิดสงครามกับแม่แน่นอน” หลัวเสี่ยวเสี่ยวพูดพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอ
เมื่อได้ยินแบบนั้น หลินปู้ฟานก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ
..
โรงแรมจุนหัว
ซูชิงยืนอยู่ที่ทางเข้าโรงแรมและมองไปรอบๆ “เขาจะไม่มาจริงๆ เหรอ?”
จางอี้นี่เดินเข้ามา “นี่ก็ใกล้เวลาแล้ว เด็กคนนั้นยังไม่มาอีกเหรอลูก?”
“เขาคงไม่มาแล้วล่ะค่ะแม่” ซูชิงพูดอย่างห่อเหี่ยว
จางอี้นี่ยิ้มเล็กน้อยและดีดหน้าผากของซูชิงเบาๆ “ดูเหมือนว่าลูกแม่จะมีเสน่ห์ไม่พอที่จะดึงดูดเขานะ ไหนลูกบอกแม่ว่าเด็กผู้ชายทุกคนในชั้นเรียนคลั่งไคล้ลูกอย่างมากไงล่ะ?”
ซูชิงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนปฏิเสธคำชวนของเธอ
“ถ้าเขาไม่มา ทำไมหนูไม่ไปลากเขามาเองล่ะ? บางครั้งผู้หญิงอย่างเราก็ต้องเป็นฝ่ายบุกบ้าง ไม่แน่เขาอาจจะชอบที่ต้องตกเป็นรองก็ได้” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจางอี้นี่
แก้มของซูชิงแดงขึ้นมา แม่ของเธอต้องการให้เธอกับหลินปู้ฟานคบกัน?
ความจริงคือจางอี้นี่ต้องการให้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น เธอไปอยู่เซี่ยงไฮ้มานาน เห็นคนมาก็มาก แต่เธอกลับมองหลินปู้ฟานไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียว
“ถ้าอย่างนั้นหนูไปก่อนนะ”
ในห้องเช่า หลินปู้ฟานนอนคิดเรื่องต่างๆ อยู่บนเตียงและเผลอหลับไป
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ตอนนี้หลินเจิ้งตงกลับมาแล้ว
“ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้” หลินเจิ้งตงตะโกนเสียงดัง
เสียงตะโกนทำให้หลินปู้ฟานสะดุ้งตื่นขึ้นมา เขาขยี้ตาของเขาพร้อมส่งเสียงงัวเงีย “พ่อกลับมาแล้วเหรอ?”
“ตอบพ่อมา ว่าลูกไปเอาเงินมากมายมาจากไหน?” ใบหน้าของหลินเจิ้งตงมืดมน
หลินปู้ฟานรู้ได้ทันทีว่าพ่อของเขาต้องไปโรงพยาบาลและรู้ว่าเขาได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดแล้วแน่ๆ
“ผมก็บอกแม่ไปแล้วไงว่าผมถูกหวย หลังจากจ่ายทุกอย่างแล้วผมยังมีเงินเหลืออยู่อีก 5 หมื่น” หลินปู้ฟานหยิบเงินที่เหลือออกมา
“ร้านไหนที่ขายหวยให้กับลูก แล้วใบเสร็จแลกเงินละอยู่ไหน? ลูกคิดว่าพ่อเป็นคนโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ?” หลินเจิ้งตงรู้สึกกลัวขึ้นมา เขากลัวว่าหลินปู้ฟานจะต้องติดคุก “ลูก พ่อรู้ว่าลูกต้องการจะทำเพื่อแม่ แต่ไม่ว่ายังไงลูกก็ไม่สามารถทำสิ่งผิดกฎหมายได้นะ บอกพ่อมาว่าลูกเอาเงินพวกนี้มาจากไหน ยังไม่สายเกินไปที่เราจะเอาไปคืน”
หลินปู้ฟานพูดไม่ออกไปพักใหญ่ เขาไม่คิดว่าพ่อผู้หยาบกร้านของเขาจะเป็นคนที่ใส่ใจถึงเรื่องรายละเอียดขนาดนี้
เขาควรจะตอบพ่อว่าอะไรดี? หรือจะบอกว่าเขากลับมาจากอนาคต?
ถ้าเขาบอกว่าเขาสามารถทำนายอนาคตได้และเขาได้ช่วยใครบางคนไว้จนได้รับค่าตอบแทนมา 5 แสนหยวน ด้วยนิสัยของพ่อของเขา พ่อจะต้องให้เอาเงินทั้งหมดไปคืนแน่นอน
“หนูเป็นคนให้เงินเขาเองค่ะ”
เสียงของซูชิงดังมาจากหน้าประตูบ้าน เธอไปหาหลินปู้ฟานที่โรงพยาบาลมาและก็ได้ที่อยู่ของหลินปู้ฟานมาจากแม่ของเขา หลังจากที่เธอลงมาจากรถเธอก็ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนทันที
“หนูเป็นใคร? ทำไมต้องให้เงินมากมายขนาดนั้นกับลูกชายของลุงด้วย?”
“หนู… หนูเป็นแฟนของปู้ฟานคะ!”
คอมเม้นต์