ตอนที่ 25 ทางเลือกของลุงซู

 

 

หลินปู้ฟานมองไปที่ลุงซูอย่างสงสัยและถามออกมา “ลุงกำลังรอผมอยู่?”

 

 

“โอ้ท่านบรรพบุรุษ ลุงรอหลานมาตลอดทั้งบ่ายเลยล่ะ ทำไมหลานถึงกลับมาช้าแบบนี้” ลุงซูรอคอยหลินปู้ฟานอย่างใจจดใจจ่อตลอดทั้งบ่าย

 

 

“ลุงมารอผมทำไม?”

 

 

“หลานบอกซูชิงใช่ไหมว่าฝรั่งเศสจะชนะฟุตบอลโลกคืนนี้”

 

 

หลินปู้ฟานขมวดคิ้วแล้วพยักหน้า “ใช่ครับผมบอกเธอเอง”

 

 

“ฝรั่งเศสจะชนะจริงๆเหรอ?”

 

 

“… ” หลินปู้ฟานครุ่นคิดสักครู่ เป็นไปได้ไหมที่ลุงซูพนันฝั่งบราซิล?

 

 

“เสี่ยวหลินตอบลุงเถอะ ตอนนี้ลุงกังวลแทบตายแล้ว” ลุงซูกุมมือของหลินปู้ฟานด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ

 

 

“ใช่ครับ” หลินปู้ฟานตอบ

 

 

“หลา… หลาน… หลานรู้ได้ยังไง?”

 

 

“นี่…” หลินปู้ฟานหลับตาครุ่นคิดสักพัก “สัญชาตญาณน่ะครับ มันเป็นสัญชาตญาณของผม”

 

 

“หึ… มันกลับกลายเป็นแค่สัญชาตญาณ หลานรู้ไหมว่าหลานทำลุงกลัวแทบตายแล้ว” เมื่อลุงซูรู้สึกว่าถ้ามันเป็นแค่สัญชาตญาณเขาก็รู้ผ่อนคลายขึ้นมา ยังไงบราซิลแข็งแกร่งกว่าฝรั่งเศสมาก

 

 

“ลุงซู ลุงลงว่าฝรั่งเศสแพ้ไปเท่าไหร่?”

 

 

“ก็… 2 ล้าน”

 

 

หลินปู้ฟานรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา เขาเล่นลงเงินไปตั้ง 2 ล้าน

 

 

“ตอนนี้ลุงโอเคขึ้นแล้ว ลุงไปก่อนนะไม่รบกวนหลานแล้ว” ลุงซูกำลังจะไปที่สโมสรเล่าหยิ่งเพื่อไปดูเกมกับเพื่อนบางคนที่พนันบอลเหมือนกับเขา

 

 

หลินปู้ฟานหายใจเข้าช้าๆ

 

 

หากลุงซูได้รับความเสียหาย เงินที่จะใช้ลงทุนในเขตพัฒนาก็จะน้อยลงซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับเขา

 

 

“ลุงซูรอผมก่อน” หลินปู้ฟานหยุดลุงซู

 

 

“หลานมีอะไรเหรอ?”

 

 

“ลุงซูครับ ลุงพนันผ่านลอตเตอรีแห่งชาติหรือป่าวครับ?” หลินปู้ฟานถาม

 

 

“ไม่ ลุงแทงผ่านโต๊ะบอล”

 

 

“ลุงซูครับ บราซิลจะไม่มีทางชนะแน่นอนเพราะแทบทุกๆ คนบนโลกพนันว่าบราซิลจะชนะ แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ โต๊ะบอลหลักๆ ทั่วโลกจะเป็นยังไง? ผลของเกมนี้ถูกตัดสินไว้แล้วครับ” หลินปู้ฟานสร้างเรื่องขึ้นมา

 

 

ทันทีที่พูดไปอย่างนั้น ลุงซูกลายเป็นเย็นชาไปทันทีเพราะเพื่อนของเขาเกือบทั้งหมดก็พนันฝั่งบราซิลไว้เหมือนกับเขา และถ้าหากบราซิลชนะโต๊ะบอลที่รับแทงก็จะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมากจริงๆ

 

 

“ถ้าอย่างนั้น… ลุงควรจะพนันฝั่งฝรั่งเศสเหรอ?” ลุงซูถามหลังจากหยุดคิดไปสักพัก

 

 

ในปี 1998 เงินจำนวน 2 ล้านถือว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาลสำหรับคนธรรมดาๆ และมันก็เป็นเงินจำนวนมากสำหรับลุงซูเช่นกัน

 

 

สโมสรเล่าหยิ่ง

 

 

ที่นี่คือบาร์ที่เปิดให้บริการสำหรับสมาชิกเท่านั้น เกมจะเริ่มตอน 1 ทุ่มและที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนก่อนที่บอลจะเริ่ม

 

 

เจ้านายที่มาที่นี่ล้วนไม่ใช่คนธรรมดา บางคนเป็นแฟนบอลตัวจริง บางคนก็เป็นแฟนตัวปลอมที่เรียกว่าตัวปลอมเพราะพวกเขาไม่ใช่พวกที่ชอบฟุตบอลจริงและที่พวกเขามาดูเกมนี้ก็เพียงเพราะพวกเขาพนันไว้ก็เท่านั้น

 

 

ลุงซูพาหลินปู้ฟานเข้าไปในบาร์

 

 

ทีวีสีฉางหงขนาด 29 นิ้ววางอยู่บนเวทีของบาร์ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุดในเวลานี้

 

 

ลุงซูและหลินปู้ฟานพบที่นั่งและนั่งลง

 

 

ไม่นานก็มีสาวบาร์ในวัย 20 เดินเข้ามาข้างๆ ทั้งสองคน เสน่ห์ของเธอไม่ธรรมดาผมสีทองกางเกงหนังรัดรูปพร้อมกับส้นสูง “สวัสดีตอนเย็นค่ะหัวหน้าซู ถ้าชนะคืนนี้หัวหน้าอย่าลืมสาวน้อยคนนี้นะคะ”

 

 

“อืม…” ลุงซูตอบไปแบบผ่านๆ ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะทำอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เขากำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเชื่อสัญชาตญาณของหลินปู้ฟานดีไหม

 

 

สาวบาร์วางขวดเบียร์ไว้บนโต๊ะ

 

 

“แหมมม วันนี้หัวหน้าพาหนุ่มหล่อมาด้วยนะคะเนี่ย” ดวงตาของฮูเม่ยยิ๋งจับจ้องไปที่หลินปู้ฟาน “น้องชาย เธอลงพนันไว้ด้วยหรือเปล่า?”

 

 

หลินปู้ฟานโบกมือ “ผมไม่ได้พนัน”

 

 

“อ่า ถ้าอย่างนั้นเชิญดื่มอะไรไปก่อนนะคะ เกมกำลังจะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมง”

 

 

“ครับ”

 

 

สาวบาร์ยิ้มให้หลินปู้ฟานก่อนจะไปทักทายแขกคนอื่นๆ

 

 

“ลุงซูเชื่อผมเถอะ ถ้าเกิดฝรั่งเศสแพ้จริงๆ ผมจะจ่ายให้ลุงเอง” หลินปู้ฟานต้องการให้ลุงซูช่วยเหลือในอนาคต เขาจึงไม่สามารถเฝ้าดูลุงซูเสียเงินได้

 

 

ลุงซูลืมตาขึ้นและกัดฟัน “เสี่ยวหลินลุงจะเชื่อหลาน หากแพ้ขึ้นมาหลานก็ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก”

 

 

เมื่อลุงซูพูดจบ เขาก็กำลังจะเรียกเพื่อนเข้ามาเพื่อจะพนันอีกครั้ง

 

 

“เดี๋ยวก่อนครับลุงซู” หลินปู้ฟานขัดจังหวะลุงซู “ที่นี่รับเดิมพันผลสกอร์ด้วยหรือป่าวครับ?”

 

 

การเดิมพันผลสกอร์ ถ้าหากพนันถูกจะทำให้ได้รับผลตอบแทนมาถึง 100 เท่า

 

 

“มีสิ!”

 

 

“ฝรั่งเศสจะชนะบราซิล 3-0” หลินปู้ฟานกล่าว

 

 

สมองของลุงซูเหมือนถูกระเบิด

 

 

บราซิลมีกองหน้าที่แข็งแกร่งอย่างมนุษย์ต่างดาวโรนัลโด้ เป็นไปได้ด้วยเหรอที่เขาจะยิงประตูไม่ได้เลยสักลูกเดียว? นี่มันไม่ใช่ตลกระดับโลกเลยหรือไง? ถ้าบราซิลยิงประตูไม่ได้เลยแฟนทั่วโลกต้องกลายเป็นบ้าแน่ๆ

 

 

“หลานกำลังล้อเล่นกับลุงอยู่หรือป่าว?”

 

 

“ลุงซูครับผมไม่ล้อเล่นกับลุงแน่นอน ลุงเชื่อใจผม ผมไม่ทำร้ายลุงแน่นอน” หลินปู้ฟานมองไปที่ลุงซูด้วยความจริงใจ

 

 

“… ” ลุงซูไม่ได้พูดอะไรอีก เขาควรจะเชื่อหลินปู้ฟานหรือไม่นั้นเขารู้แล้วจากเหตุการณ์จัดตั้งเขตพัฒนาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ยังไงเรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันก็ต่างกันอยู่ดี

 

 

ลุงซูเหงื่อออกท่วมหน้าผาก เขากำลังดิ้นรนอยู่ในใจ

 

 

หลินปู้ฟานจิบเบียร์ “ถ้ามันไม่ถูก ผมจะช่วยลุงออกครึ่งหนึ่ง ลุงว่าไงครับ?”

 

 

ลุงซูกลืนน้ำลาย นี่มันเป็นอะไรที่…

 

 

จากคนทั้งโลกที่ลงพนันบอล มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะพนันผลบอลได้ถูกต้อง

 

 

หลังจากนั้นไม่นานลุงซูก็หยิบขวดเบียร์ขึ้นมาดื่มก่อนจะกระแทกลงบนโต๊ะ “ตกลง!”

 

 

ลุงซูพนันตามที่หลินปู้ฟานบอกด้วยเงินจำนวน 1 ล้านและอัตราต่อรองคือ 20 เท่า ถ้าหากเขาชนะเขาจะได้รับเงิน 20 ล้าน

 

 

หลังจากนั้นไม่นาน ชายวัยกลางคนที่มีทรงผมเหมือนหอยเป๋าฮื้อและสวมรองเท้าหนังสีสดใสก็เดินเข้ามา

 

 

“พี่ซู พี่บ้าไปแล้วหรือไง? บราซิลไม่มีทางแพ้เศษฝรั่งแน่นอน” หัวเป๋าฮื้อและลุงซูทั้งสองเป็นเพื่อนกัน

 

 

หลังจากรู้ว่าลุงซูใช้เงินกว่า 1 ล้านลงพนันบ้าๆ แบบนั้น เขาเลยคิดว่าลุงซูต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ

 

 

“ฉันไม่ได้บ้า” ลุงซูกล่าวเบาๆ

 

 

“ถ้าไม่บ้าแล้วพี่เป็นอะไร? มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่บราซิลจะยิงไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว”

 

 

“ฉีซ้งฉันไม่ได้เป็นบ้าอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่เชื่อเราก็มาคอยดูผลลัพธ์กัน” เมื่อมาถึงขั้นนี้ ลุงซูก็ทำได้แค่มั่นใจเท่านั้น

 

 

“เผื่อพี่ซูจะพลาดอะไรไป ผมจะบอกให้พี่ซูรู้ไว้ก่อน เสืออ้วนที่นั่งถัดออกไป 3 โต๊ะนั่นบอกกับผมว่าบราซิลจะเปิดตัวเชอราตันในเกมนี้ด้วย โอกาสที่บราซิลจะแพ้ในเกมนี้นั้นแทบไม่มีเลย แต่ไม่เป็นไรหลังจากที่เกมจบคืนนี้พวกเรามีจะงานเลี้ยงฉลองกันต่อ พี่ซูจะมาร่วมกับเราก็ได้นะ ฮ่าฮ่าฮ่า… ” หลังจากฉีซ้งล้อเลียน เขาก็จากไป

 

 

“เสี่ยวหลิน… ” ลุงซูตื่นตระหนก

 

 

“ลุงจะตกใจอะไร? เกมยังไม่เริ่มเสียหน่อย”

 

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

 

 

ลุงซูกำหมัดแน่นและจ้องไปที่หน้าจอ

 

 

เมื่อประตูแรกถูกยิง ลุงซูก็กระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอย่างมีความสุข “ฮ่าฮ่าฮ่า ชนะแน่นอนๆ”

 

 

ฉีซ้งชำเลืองมอง “พี่จะรีบดีใจไปไหน? เกมเพิ่งเริ่มเท่านั้น บราซิลจะยิงประตูยืนในไม่ช้า”

 

 

หลินปู้ฟานยิ้มเยาะและคิดในใจ: ไม่มีทางที่บราซิลจะทำคะแนนกลับมาได้ เพราะว่าฝันร้ายของบราซิลเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้นเอง