อัจฉริยะเขย่าโลก (重生之最强人生) – บทที่ 39 ผู้หญิงข้า ใครอย่าแตะ
ตอนที่ 39 ผู้หญิงข้า ใครอย่าแตะ
ไม่กี่วันต่อมาลุงซูกับหนิงเทียนหนานก็ไปที่สำนักกิจการพลเรือนเพื่อจดทะเบียนสมรสกัน
จากนั้นลุงซูก็พาหนิงเทียนหนานไปซื้อเตียงและข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน
เมื่อทั้งสองเดินผ่านร้านขายจิวเวลรี่จินต้าฟู๋ ลุงซูก็เอ่ยปากชวน “เราเข้าไปดูกันเถอะ”
หนิงเทียนหนานเม้มริมฝีปากและส่ายหัว “ไม่ค่ะ ยังไงเราก็ไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ ของพวกนี้มันจะทำให้สิ้นเปลืองไปเปล่าๆ”
ลุงซูสังเกตเห็นว่านิ้วหนิงเทียนหนานนั้นไม่มีรอยแหวนอยู่เลย
สามีทั้งสองคนที่ผ่านมาของหนิงเทียนหนานคงจะไม่เคยซื้อแหวนเธอให้เลยสินะ
“เราแต่งงานกันจะไม่มีแหวนได้ยังไง?” ลุงซูดึงหนิงเทียนหนานเข้าไป
นี่เป็นครั้งแรกที่หนิงเทียนหนานได้เข้าร้านอัญมณี มันจึงทำให้เธอทำตัวไม่ถูก
หนิงเทียนหนานงุนงง เธอไม่รู้ว่าจะมองไปทางไหนดี
“คุณกำลังทำอะไรอยู่ มาดูแหวนเพชรนี่สิ” ลุงซูดึงหนิงเทียนหนานไปที่เคาน์เตอร์แหวนเพชร
พนักงานขายเริ่มแนะนำรูปแบบต่างๆ อย่างกระตือรือร้นทันที
หนิงเทียนหนานตกตะลึงเมื่อเห็นราคาของแหวนเพชรแต่ละวง ผู้คนในหมู่บ้านที่แต่งงานกันมีมากสุดก็แค่แหวนและสร้อยคอทองคำไม่กี่บาท ไม่มีภรรยาสาวคนใดได้สวมแหวนเพชรเลยสักคนเดียว
“คุณ… คุณไม่ได้จะหักค่าใช้จ่ายพวกนี้จากรางวัลของฉันใช่ไหม?” หนิงเทียนหนานถามออกมาเบาๆ
หลังจากอาหารค่ำในวันนั้น ลุงซูก็สัญญาว่าจะจ่ายเงินให้หนิงเทียนหนาน 1 แสนหยวนสำหรับการแต่งงานปลอมๆ ครั้งนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า… คุณเห็นลุงซูคนนี้เป็นคนขี้เหนียวขนาดนั้นเลยหรือไง?” ลุงซูยิ้มอย่างเต็มใจและชี้ไปที่แหวนเพชรคู่บนเคาน์เตอร์แล้วบอกพนักงาน “ขอดูแหวนคู่นี้หน่อย”
ดวงตาของหนิงเทียนหนานจ้องมองไปที่แหวนเพชรคู่ที่มีราคา 6 หมื่นหยวน
“คุณชายคุณช่างมีรสนิยมจริงๆ แหวนคู่นี้เป็นแหวนแต่งงานที่ออกแบบโดย”ฟิลลิปส์”ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส นี่เป็นแหวนเพชรที่ได้รับความนิยมที่สุดในตอนนี้…” พนักงานขายพรั่งพรูสรรพคุณออกมา
ลุงซูพยักหน้าเบาๆ
“นี่มันแพงเกินไป” หนิงเทียนหนานไม่สามารถทำใจรับสิ่งนี้ได้
“ความงามของเพชรคงจะอยู่ตลอดไป สิ่งของพวกนี้มันจะเป็นหนึ่งในสิ่งของที่จะสามารถส่งต่อให้ลูกๆ ของคุณในอนาคตได้อีกนะคะ แถมลูกๆ ของคุณก็ยังสามารถส่งต่อพวกมันไปได้ต่อเรื่อยๆ อีกด้วย เมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไปแล้วของพวกนี้คุ้มค่าแน่นอนค่ะ” พนักงานขายพูดพร้อมกับเบะปากเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นานลุงซูก็ปรบมือและตัดสินใจ “เอาแหวนคู่นี้ล่ะ”
“อย่าชื้อคู่นี้เลย ถ้าคุณต้องการซื้อจริงๆ ฉันคิดว่าคู่นั้นดีกว่า” หนิงเทียนหนานชี้ไปที่แหวนเพชรคู่ที่ไม่โดดเด่นอะไรที่ยู่ในมุม
พนักงานขายยิ้มและพยายามเปลี่ยนใจ “เพรชคู่นั้นแค่ 2 กะรัตเองนะคะแถมตัวแหวนยังเป็นเพียงแค่เงิน 18K เพียงเท่านั้นนะคะ แค่มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าสามีของผู้หญิงไม่ใช่คนธรรมดาๆ แน่นอน การซื้อเพชรเพียงแค่ 2 กะรัตมันจะทำให้เขาเสียหน้าเมื่อสวมมันนะคะ”
“แหวนถูกสวมใส่เพื่อตัวคนสวมเองไม่ใช่เพื่อคนอื่น แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จแต่เงินก็ไม่ได้ลอยมากับสายลม” หนิงเทียนหนานยืนกรานที่จะซื้อแหวนเพชร 2 กะรัต
แหวนเพชรสีชมพู 1 คู่ราคาเพียงแค่ 3,000 หยวน
พนักงานขายเริ่มไม่พอใจ เพราะถ้าเธอขายแหวนเพชรราคา 6 หมื่นหยวนได้เธอก็จะได้รับค่านายหน้าจำนวนมาก
“คุณผู้หญิงคุณมีความสวยที่ไม่ธรรมดาคุณควรใช้เงินของสามีของคุณให้มากกว่านี้นะคะ ยิ่งสามีของคุณผู้หญิงใช้จ่ายเพื่อคุณผู้หญิงมากเท่าไหร่มันก็เท่ากับว่าเขาก็ยิ่งรักคุณมากเท่านั้น คุณผู้หญิงคุณไม่ควรตระหนี่มากเกินไปเพราะในชีวิตผู้หญิงอย่างเราแต่งงานแค่เพียงครั้งเดียวนะคะ คุณผู้หญิงควรจะเลือกเครื่องประดับที่สมฐานะมากกว่านี้” พนักงานขายไม่ยอมแพ้
“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร? เงินไม่ใช่สิ่งวัดค่าความรัก แต่มันอยู่ที่ความรักความห่วงใยเพื่อดูแลกันและกันไปจนแก่เฒ่าต่างหาก” หนิงเทียนหนานพูดอย่างบึ้งตึง
คำพูดเหล่านี้ทำให้ลุงซูรู้สึกประทับใจ
อย่าตีจากยามยากจน อย่าทอดทิ้งเมื่อเจ็บป่วย
นี่ทำให้ลุงซูนึกถึงอดีตขึ้นมา ในตอนนั้นลุงซุยังเป็นเพียงคนยากจนคนหนึ่งทำให้ภรรยาเก่าของเขาต้องทิ้งเขาไปหาคนอื่น
ต่อมาเมื่อเขาร่ำรวยขึ้นจนมีผู้หญิงมากมายมาเข้าหาเขา แต่ไม่มีใครเลยที่เป็นเหมือนหนิงเทียนหนาน พวกผู้หญิงเหล่านั้นต้องการให้ลุงซูซื้อทั้งรถและบ้านให้พวกเธอ
เมื่อรู้สึกตัวว่าเขากำลังรู้สึกดีกับหนิงเทียนหนาน เขาก็ตกใจขึ้นมา
“ฉันต้องการซื้อแหวนคู่นั้น ถ้าคุณยังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอีกฉันจะออกไป” หนิงเทียนหนานเริ่มหมดความอดทนและดึงลุงซูให้ออกไป
“ใจเย็นก่อนนะคะคุณลูกค้า”
สุดท้ายเขาก็ซื้อแหวนเพชร 2 กะรัต
หลังจากออกจากประตูหนิงเทียนหนานก็พูดออกมา “คุณสามารถหักเงินค่าแหวนเพชรนี่จากรางวัลของฉันได้นะคะ ฉันไม่ต้องการให้คุณเดือดร้อน”
“ไม่จะเป็น พวกมันคู่ควรสำหรับคุณ” ลุงซูกล่าว
“…” เมื่อเห็นดวงตาที่นุ่มนวลของลุงซู หนิงเทียนหนานก็รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา “เราตกลงกันแล้วว่านี่จะเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ เท่านั้น และฉันจะไม่หลับนอนกับคุณ”
“คุณคิดอะไรอยู่?” ลุงซูยิ้ม
ช่างเป็นผู้หญิงที่น่าสนใจจริงๆ
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง เมื่อทั้งสองเดินผ่านร้านอาหารทะเล”โฮวาร์ด จอร์นสัน” ลุงซูเอ่ยปากชวน “วันนี้ถือเป็นวันแรกของเรา เราเข้าไปหาอะไรดีๆ กินกันเถอะ”
“ทำไมอาหารที่นี่ถึงแพงจัง เราไปหาร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางกันดีกว่า”
“ผมเชื่อฟังคุณตอนซื้อแหวนแล้วรอบหนึ่ง ตอนนี้คุณต้องฟังผมคืนบ้างแล้วนะ” ลุงซูดึงหนิงเทียนหนานเข้าไป
เมื่อเข้ามาถึงห้องอาหาร ข้างในเต็มไปด้วยผู้คน
“ดูเหมือนว่าจะไม่มีโต๊ะว่างเลยนะ” ลุงซูมองไปรอบๆ
ในตอนนั้นก็มีบางคนเรียกลุงซูขึ้นมา
“หัวหน้าซู…” ชายวัยกลางคนร่างผอมสูงสวมแว่นขอบทองโบกมือให้ลุงซู
ชายคนนี้มีชื่อว่าหวังไคผิง เขาเป็นรองประธานของรัฐวิสาหกิจและเขามีการติดต่อธุรกิจกับลุงซู
“ประธานวัง” ลุงซูทักทายอย่างสุภาพ
“ที่นี่ไม่เหลือโต๊ะว่างแล้ว เราไปห้องอาหารที่ผมจองไว้ดีกว่า”
ลุงซูและหนิงเทียนหนานจึงไปที่ห้องของหวังไคผิง
ให้ห้องของหวังไคผิงมีเด็กผู้หญิงในวัย 20 ปีคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอสวมกระโปรงเอวต่ำย้อมผมสีเหลือง สวมต่างหูขนาดใหญ่สองอันและสวมสร้อยจี้คริสตัลที่หน้าอกของเธอ
หญิงสาวแต่งหน้าหนาเตอะ แถมยังฉีดน้ำหอมมากจนฉุนออกมา
ผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสาวที่ทำงานในไนต์คลับแห่งหนึ่ง
หวังไคผิงยังไม่ได้สั่งอาหารอะไร พวกเขาจึงสั่งอาหารพร้อมกัน
หลังจากสั่งอาหารแล้วหวังไคผิงก็จ้องมองไปที่หนิงเทียนหนานด้วยสายตาหยาบคาย “หัวหน้าซู คุณยังมีรสนิยมที่ดีเหมือนเคยเลยนะ”
หนิงเทียนหนานอายุ 32 ปี ในปีนี้ซึ่งเป็นวัยที่อร่อยที่สุดของหญิงสาว และด้วยการทำงานในฟาร์มมาหลายปีทำให้เธอมีผิวที่แข็งแรงและสมบูรณ์บวกกับอารมณ์ที่เป็นธรรมชาติและแข็งกร้าวของเธอ มันจึงทำให้ผู้ชายรู้สึกว่าเธอเป็นม้าป่าที่หยิ่งผยอง
ลุงซูขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้ก็อธิบายอะไร
“สวัสดีครับ ผมหวังไคผิงเป็นรองประธานของฮัวหลงกรุ๊ป”
“สวัสดีค่ะ ฉันหนิงเทียนหนาน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า แค่ชื่อนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับผู้ชาย”
หนิงเทียนหนานรู้สึกอาย เธอไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนและตอนนี้เธอก็กลัวว่าจะทำให้ลุงซูต้องลำบากใจ
“คุณหนิง คุณทำงานที่ร้านไหน? คืนนี้ผมอาจจะไปอุดหนุนคุณบ้าง” หวังไคผิงพูดอย่างมุ่งร้าย
“คืนนี้? อุดหนุนอะไรคะ?” หนิงเทียนหนานไม่เข้าใจ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าไม่อยากบอกก็ลืมมันไปเถอะ”
ไม่นานอาหารและเหล้าก็มาเสิร์ฟ
“หัวหน้าซูกลุ่มลูกค้าของผมจากออสเตรเลียจะมาที่บริษัทของผมเพื่อตรวจสอบบางอย่างในเดือนหน้า ในตอนนั้นเราจะต้องใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 10 คันผมจะให้ค่าเช่ารถคันละ 200 หยวนต่อวันเป็นเวลาหนึ่งเดือน ผมต้องการให้คุณช่วยสักหน่อย” หวังไคผิงกล่าว
ลุงซูคำนวณในใจสำหรับ 10 คันราคา 200 หยวนต่อวันก็เป็นเงิน 5 หมื่นหยวน
“เป็นเกียรติมากครับ” ลุงซูยกแก้วขอบคุณ
“แก้วเดียวจะพอได้อย่างไร?” หวังไคผิงหยิบแก้วสามใบออกแล้วรินเหล้าข้าวจนเต็มทั้งสามใบ
“ตกลง!” ลุงซูกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“นี่ไม่ใช่สำหรับคุณ ผมอยากให้คุณหนิงที่นั่งอยู่ข้างคุณดื่มทั้งหมดนี่” หวังไคผิงหัวเราะอย่างมุ่งร้าย
“ประทานหวังเธอดื่มมามากแล้ว เดี๋ยวผมจะดื่มทั้งหมดนี่ให้เองครับ” ลุงซูกล่าว
“หัวหน้าซู เธอไม่ใช่ภรรยาของคุณทำไมคุณถึงต้องปกป้องเธอขนาดนั้น ผู้หญิงพวกนี้เป็นแค่ของเล่นเท่านั้น อย่าได้จริงจังไปเลย” หวังไคผิงกอดหญิงสาวอายุ 20 ปีที่อยู่ข้างๆ และลูบคลำอย่างไร้ยางอาย
ลุงซูก้มหน้าลง…
“ฉันจะดื่มค่ะ!” หนิงเทียนหนานคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มทั้งสามแก้วอย่างรวดเร็วจนท้องของเธอก็ลุกเป็นไฟ เธอกดคอของเธอเพื่อบังคับไม่ให้มันย้อนกลับออกมาจนน้ำตาของเธอเริ่มไหล
“ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นผู้หญิงที่กล้าหาญจริงๆ” หวังไคผิงผลักเด็กสาวข้างๆ ออกไปและก็ขยับไปนั่งข้างๆ หนิงเทียนหนานแทน
“พี่ซู ฉันจะรินเหล้าให้คุณ” หญิงสาวรินเหล้าอย่างชำนาญ “เราไปดื่มที่บาร์กันเถอะ”
ลุงซูจ้องไปที่หวังไคผิง ไฟในใจของเขากำลังลุกโชน
“หัวหน้าซู มาเปลี่ยนตัวกันเถอะ” หวังไคผิงยิ้มอย่างชั่วร้ายและมองไปที่หนิงเทียนหนานด้วยสายตาเมามาย “คืนนี้ต้องสนุกแน่ๆ”
“ประธานหวัง โปรดอย่าเข้ามาใกล้มากเกินไปค่ะ” หนิงเทียนหนานเอนตัวไปทางลุงซูเพื่อหลีกเลี่ยงหวังไคผิง
“อย่ามาทำเป็นหวงตัว เงินฉันเองก็มีไม่น้อย” หวังไคผิงหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วดึงเงินปึกหนึ่งออกมาตบลงบนโต๊ะ
หนิงเทียนหนานกัดฟันแน่น นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีคนดูถูกเธอเช่นนี้
แต่เพื่อลุงซูและธุรกิจของเขา หนิงเทียนหนานต้องอดทน “คุณหวังฉันไม่รู้ว่าคุณหมายถึงอะไร รีบเก็บเงินของคุณกลับไปเถอะค่ะ”
“นั่งนี่ทำเป็นใสซื่อ” หวังไคผิงชี้ไปที่ลุงซูและพูดอย่างเมามันส์ “หัวหน้าซูคุณจ่ายให้กับผู้หญิงคนนี้ไปมากแค่ไหน? ถ้าคุณยังต้องการทำธุรกิจร่วมกับผมอยู่ก็ส่งตัวผู้หญิงคนนี้ไปที่ห้องของผมคืนนี้!”
“ไอ้หมาเย็*แม่!” ลุงซูยืนขึ้นพร้อมกับตบหน้าหวังไคผิงอย่างแรง
หวังไคผิงถูกตบจนลงกองกับพื้น “หัวหน้าซูคุณกล้าดียังไง?”
ลุงซูรีบวิ่งเข้าไปเตะเข้าที่ท้องของหวังไคผิงด้วยความโกรธและคำรามออก “มึงคิดว่ามึงยิ่งใหญ่มากจากไหนกันวะ มึงกล้าดียังไงมาดูถูกเมียกู!”
คอมเม้นต์