อัจฉริยะเขย่าโลก (重生之最强人生) – บทที่ 54 ลิขสิทธิ์ต้องอยู่ในมือผม
ตอนที่ 54 ลิขสิทธิ์ต้องอยู่ในมือผม
จางอี้หนี่พูดซ้ำสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไปเมื่อครู่ด้วยใบหน้าที่แดงเล็กน้อย
“ผมมีวิธีแล้ว” หลินปู้ฟานพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือกฎหมายที่เรียกว่ากฎหมายคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชน
ไม่ว่าจะเป็นสถานสงเคราะห์เด็ก บ้านพักคนชราหรือบ้านพักคนพิการ ล้วนอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชนทั้งสิ้น
เงิน 400 ล้านหามาตอนนี้ไม่ได้แน่นอน แต่ตามกฎหมายและข้อบังคับตามโครงการสวัสดิการสาธารณะนั้นอาจจะสอดคล้องตามระเบียบการบริหารกองทุนพัฒนาศักยภาพที่ดินได้
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หลินปู้ฟานสามารถพัฒนาพื้นที่รกร้างนั้นให้กลายเป็นโครงการสวัสดิการสาธารณะได้ และสิ่งนี้ก็ไม่ต้องใช้เงินถึง 400 ล้านอีกด้วย แถมยังสามารถเอาชนะใจคนในพื้นที่ได้อีกด้วย
หลินปู้ฟานเล่าความคิดของเขาให้จางอี้หนี่และลุงซูฟังอย่างตื่นเต้น
หลังจากได้ยินเรื่องทั้งหมด ทั้งสองก็ร้องอุทานออกมา
“ป้าจาง ป้าช่วยบอกให้แผนกธุระการเงินร่างแผนพัฒนาสวัสดิการสาธารณะออกมาทีครับ เรากำลังจะสร้างบ้านพักคนชราในที่รกร้างว่างเปล่าแห่งนั้นกัน มีกลุ่มผู้สูงอายุที่เข้าเกณฑ์อยู่ในกุ้ยซานมากมายและพวกเขาก็จะเป็นกลุ่มแรกที่เข้าร่วมโครงการกับเรา”
“ลุงซู ลุงช่วยไปหาผู้สูงอายุที่ผ่านเกณฑ์มาสัก 50 คนทีครับ”
เพราะสถานพยาบาลที่จะสามารถลงทะเบียนเป็นองค์กรสวัสดิการสาธารณะได้ต้องมีจำนวนคนที่อยู่ในโครงการอย่างน้อย 50 คน
เมื่อถึงกำหนด 3 วันของสำนักงานเศรษฐกิจ บริษัทเชิ่งชี่ก็ส่งโครงการพัฒนาสวัสดิการสาธารณะไปด้วยเงินลงทุนจำนวน 10 ล้านหยวน
โครงการ: บ้านพักคนชรา
ขนาด: มากกว่า 50 คน
สิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับ: อาคารหลัก โรงอาหารและสวนอีก 3 แห่ง
ค่าใช้จ่าย: ฟรีทั้งหมด
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับผู้สูงอายุจะมาเข้าร่วมโครงการนี้
ในไม่ช้าคนจากสำนักงานเศรษฐกิจก็จะได้รับแผนงานนี้
การใช้ที่ดิน 200 เอเคอร์เพื่อสาธารณประโยชน์นี้จะทำให้พวกเขาประหลาดใจ
เรื่องนี้ไม่สามารถทำในเชิงเศรษฐกิจได้ ดังนั้นเขาจะส่งเรื่องนี้โดยตรง
หลังจากนั้น หลินปู้ฟานก็ขอให้ลุงซูจัดงานแถลงข่าวเพื่อประกาศโครงการการกุศลทันที
จางอี้หนี่กังวล “หนังสือโครงการยังไม่ได้รับการอนุมัติ ถ้าเราจัดงานแถลงข่าวออกไปมันจะไม่ทำให้คนข้างบนรำคาญเหรอ?”
“ไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่ครับ เพราะเราจะประกาศเรื่องนี้ออกไปเพื่อสร้างเสียงจากประชาชนให้ดังก่อน ตราบใดที่ความคิดเห็นของประชาชนอยู่ข้างเรา โครงการนี้จะต้องผ่านการอนุมัติแน่นอน” หลินปู้ฟานมั่นใจ
จางอี้หนี่ถามอีกครั้ง “ในโครงการนี้เราจะต้องลงทุนหลายล้านหยวนทุกปี หลังจากที่เรื่องทุกอย่างผ่านไป เรายังต้องทำต่อไหม?”
หลินปู้ฟานยิ้ม “อีกไม่กี่ปีข้างหน้าเมื่อเขตพัฒนาเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง เราก็แค่ย้ายบ้านพักคนชราไปที่อื่น แค่นั้นเราก็จะสามารถพัฒนาที่ดินผืนนั้นขึ้นมาใหม่ได้แล้วครับ และในอนาคตเรายังสามารถรายงานเรื่องนี้ได้อย่างเปิดเผย เพราะสังคมจะช่วยเป็นเสียงให้เรา นอกจากนี้ป้ายังสามารถทำโครงการใหม่ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือแบบตัวต่อตัวได้อีกด้วยครับ และมันก็จะช่วยให้ชื่อเสียงของป้าดีขึ้นมากไปอีก”
ในอนาคตจะมีคนทำความดีมากขึ้นเรื่อยๆ และโครงการสวัสดิการสาธารณะเช่นสถานพยาบาลก็จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล
ลุงซูคัดเลือกนักข่าวจากหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์ผ่านทางรายชื่อของเขา หลังจากคัดมาได้บางส่วนก็จะจัดงานแถลงข่าวในวันรุ่งขึ้นทันที
สถานที่จัดงานแถลงข่าวอยู่ในย่านธุรกิจของโรงแรมตุนหวง
นักข่าวทั้งหมดมาจากสื่อกระแสหลัก โครงการนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากประชาชน
หลังจากออกอากาศทางทีวี กระแสตอบรับทางสังคมก็เป็นไปในทางที่ดีมาก
จางอี้หนี่ตอบรับคำเชิญไปสัมภาษณ์ทางหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์อย่างรวดเร็ว
สำนักงานประธานเถิงเฟยกรุ๊ป
เซี่ยเถิงเฟยขยำหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือ ใบหน้าโกรธของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว “ไอ้พวกบัดซบ ไม่คิดว่าพวกมันจะคิดแผนแบบนี้ออกมาได้”
“พ่อ พวกมันจัดงานแถลงข่าวทั้งที่หนังสือโครงการของพวกมันยังไม่ได้รับการอนุมัติ ถ้าเรารายงานเรื่องนี้ให้เบื้องบนรู้ พวกมันจะต้องเจอปัญหาอย่างแน่นอน” เซี่ยเสียงเผิงกัดฟัน
“มันไม่มีประโยชน์ สิ่งที่พวกมันทำทำให้เสียงของประชาชนทั้งหมดอยู่ข้างพวกมัน เฮ้อ… ฉันประเมินพวกมันต่ำเกินไป” เซี่ยเถิงเฟยรู้แล้วว่าเขาพลาดไป
อีกไม่นานหนังสือโครงการจะได้รับการอนุมัติ
ผู้นำระดับสูงรู้สึกว่าการสร้างบ้านพักคนชราเป็นสิ่งที่ดีต่อสังคม ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อสวัสดิการสังคมได้ เนื่องจากทั้งหมดถือเป็นพื้นฐานของความดี และหลังจากสร้างโรงเรียนชั้นหนึ่งแล้วเด็กเหล่านี้ก็ยังสามารถไปที่บ้านพักคนชราเพื่อทำความดีได้อีกด้วย
ดอกไม้แห่งมาตุภูมิต้องได้รับการศึกษาที่ดี และต้องมีคุณธรรมรู้จักดูแลผู้สูงอายุควบคู่ไปด้วย
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ทีมก่อสร้างได้ไปที่กุ้ยซานและเริ่มสร้างบ้านพักคนชรา
นอกจากนี้ยังพบผู้สูงอายุชุดแรกมากกว่า 50 คน
เมื่อนักข่าวไปสัมภาษณ์คนชราเหล่านั้น คนชราเหล่านั้นก็หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความดีใจ “บริษัทเชิ่งชี่ช่างเป็นคนดีเหลือเกิน พวกเขาห่วงใยคนแก่ที่ไร้ลูกหลานอย่างเรา”
ก่อนที่จะยื่นข้อเสนอโครงการ สำนักข่าวหางโจวเคยรายงานข่าวว่ามีชายชราที่โดดเดี่ยวได้เสียชีวิตลงที่บ้านของเขาเพราะอาการเจ็บป่วยและไม่มีใครคอยดูแล
หลังจากนั้น 1 เดือนก็มีการรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้อีกครั้งว่าชายชราที่เสียชีวิตนั้น หลังจากที่ลูกๆ ของเขาเสียชีวิตไปก็ไม่มีใครคอยดูแลเขาอีกเลย จนเป็นเหตุให้เขาต้องตายอย่างโดดเดี่ยว
รายงานนี้ก่อให้เกิดการตอบโต้อย่างรุนแรงจากสังคม และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานที่มั่นคงของโครงการบ้านพักคนชราอีกด้วย
นอกจากจะผ่านแรงกดดัน 400 ล้านไปได้ ตอนนี้เขายังได้สร้างความดีให้กับสังคมอีกด้วย
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
หลังจากนี้ เถิงเฟยกรุ๊ปจะไม่กล้ายั่วยุบริษัทเชิ่งชี่ไปอีกสักพัก
หลังจากสำนักพิมพ์ฉางเจียงตีพิมพ์ “ตำนานเก้ากระบี่” ที่เขียนโดยหลินปู้ฟาน นิยายได้สร้างยอดขายอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนจนไต่ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของยอดขายในร้านหนังสือใหญ่ๆ ได้สำเร็จ ด้วยยอดขายมากกว่า 2 ล้านเล่มทำให้ตอนนี้สำนักพิมพ์ต้องเร่งตีพิมพ์เพิ่มอีก 1 ล้านเล่ม และคาดว่ายอดขายทั้งหมดจะน่าอยู่ที่ 4 ล้านเล่ม นอกจากนี้ยังมีการขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และโทรทัศน์อีกด้วย ครั้งนี้สำนักพิมพ์ฉางเจียงทำเงินได้มากมายจริงๆ
วันนี้บรรณาธิการฟางเจี้ยงหนานโทรหาหลินปู้ฟานและบอกว่าอยากจะพบเขาอีกครั้ง เพื่อจะพูดคุยเกี่ยวกับการตีพิมพ์ “โคมไฟเป่าผี”
คราวนี้จากยอดขายของงานเขียน ทำให้สำนักพิมพ์ฉางเจียงตระหนักได้ว่าหลินปู้ฟานนั้นเป็นเหมือนเหมืองทองคำสำหรับพวกเขา
ทำให้หยูไห่หัวหน้าบรรณาธิการได้ออกคำสั่งเป็นการส่วนตัวว่าต้องมีการหารือเกี่ยวกับลิขสิทธิ์การเผยแพร่ “โคมไฟเป่าผี” อย่างด่วนที่สุด
หลินปู้ฟานขอให้ฟางเจี้ยงหนานไปเจอกันที่โรงแรมจุนหัว
ฟางเจี้ยงหนานมาถึงโรงแรมจุนหัวในช่วงบ่ายก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง
หลินปู้ฟานกำลังพักผ่อนในห้องชั้นบนสุดของโรงแรม เขาบอกบริกรไว้ว่าหลังจากที่บรรณาธิการฟางเจี้ยงหนานมาถึงให้เขาขึ้นมาพบเขาที่ห้องนี้
ฟางเจี้ยงหนานเข้ามาในห้อง “ไม่เจอกันนานเลยนะครับคุณนักเขียนหลิน คุณเป็นยังไงบ้าง?”
“ผมสบายดี แล้วคุณล่ะ? ดูเหมือนว่าตอนนี้”ตำนานเก้ากระบี่”กำลังลดราคาอยู่ใช่ไหม?” หลินปู้ฟานอ่านหนังสือพิมพ์แล้ว เขารู้ว่าครึ่งหลังของ “ตำนานเก้ากระบี่” ได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในการจัดอันดับหนังสือขายดี
“ทั้งหมดต้องขอบคุณคุณ”
“ไม่ต้องคุยเรื่องอื่นให้อ้อมค้อม ว่าข้อเสนอของคุณมา” หลินปู้ฟานตรงไปตรงมา
“สำนักพิมพ์ของเราต้องการเผยแพร่ “โคมไฟเป่าผี” ของคุณนักเขียนหลิน ผมหวังว่าคุณนักเขียนหลินจะอนุญาตให้เราเผยแพร่มันได้ครับ”
“ผมยังไม่ได้เขียนมันออกมาเลย”
“คุณสามารถลงนามในสัญญาก่อนได้ ส่วนงานเขียนไม่จำเป็นต้องรีบร้อน” ฟางเจี้ยงหนานดูพอใจ
“แล้วคุณจะให้ผมเท่าไหร่?”
“ปกติแล้วราคาจะอยู่ที่ 20% ของรายได้จากการเผยแพร่หนังสือเล่มนั้นๆ เราเองก็จะเสนอให้คุณ 20% ด้วยเหมือนกัน คุณมีความเห็นว่ายังไงครับ?” ฟางเจี้ยงหนานถามอย่างไม่แน่ใจ
“ได้ แต่…” หลินปู้ฟานกล่าวต่อด้วยรอยยิ้ม “แค่สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายเท่านั้นนะครับ”
นอกจากสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายหนังสือแล้ว หนังสือยังมีสิทธิ์ในการดัดแปลงสำหรับทำภาพยนตร์และโทรทัศน์ แอนิเมชั่นการ์ตูนและอื่นๆ อีกมากมายอีกด้วย ลิขสิทธิ์สำหรับพัฒนาเป็นเกมออนไลน์อาจจะมีมูลค่าหลายสิบล้าน และตราบใดที่คุณถือลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ไว้ในมือ คุณก็จะสามารถต่อรองเงื่อนไขกับนักลงทุนภาพยนตร์และโทรทัศน์ได้ มันจะทำให้คุณได้รับส่วนแบ่งรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศอีกด้วย
ฟางเจี้ยงหนานเลิกคิ้ว
รอบนี้ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และโทรทัศน์ของ “ตำนานเก้ากระบี่” ขายได้ 5 ล้าน สิทธิ์การจัดจำหน่ายในต่างประเทศอีก 3 ล้าน และอื่นๆ อีก 7 ล้าน
ถ้าหลินปู้ฟานไม่ขายลิขสิทธิ์เหล่านั้นมาด้วย สำนักพิมพ์ก็จะไม่สามารถทำเงินเป็นจำนวนมากได้
คอมเม้นต์