เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 59

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 59 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
 เขาออกจากบ้านไปแล้วจริงๆ

 

ตกกลางคืน หลินเช่อกลับมาที่ห้องนอนและปิดประตู เธอกะว่าจะไม่ยอมให้กู้จิ้งเจ๋อเข้ามา

 

 

หญิงสาวรออยู่พักใหญ่แต่ก็ยังไม่ได้ยินเสียงอะไร

 

 

เธอค่อยๆ แง้มประตูห้องเงียบๆ และได้ยินเสียงกู้จิ้งเจ๋อที่ดูเหมือนจะกำลังคุยโทรศัพท์

 

 

“ฮุ่ยหลิงเหรอ มีอะไรหรือเปล่า”

 

 

เมื่อได้ยินชื่อโม่ฮุ่ยหลิง หลินเช่อก็ชักอยากรู้และแอบฟังต่อไป

 

 

กู้จิ้งเจ๋อถือโทรศัพท์และรับฟังโม่ฮุ่ยหลิงคร่ำครวญจากปลายสาย

 

 

[จิ้งเจ๋อคะ ฉันทะเลาะกับครอบครัว ฉันไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ให้ฉันไปพักกับคุณสักสองสามวันได้มั้ยคะ]

 

 

กู้จิ้งเจ๋อคิดหนัก “ทำไมเธอถึงทะเลาะกับที่บ้านล่ะ”

 

 

[มันเป็นเพราะ…ช่างมันเถอะค่ะ แต่ตอนนี้ฉันไม่มีที่ไปแล้ว พ่อกับแม่ยึดบัตรเครดิตของฉันไปหมดเลย]

 

 

“ก็ได้ ฉันจะจัดการหาที่อยู่ให้เธอ แล้วก็จะไปรับเธอเอง”

 

 

[ได้ค่ะ ฉันจะรอนะคะ]

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยืนสั่งการ เขาโบกมือเรียกฉินเฮ่าเข้ามา “เตรียมวิลล่าริมหาดไว้ด้วย ฮุ่ยหลิงต้องการที่อยู่ ฉันจะไปรับเธอเดี๋ยวนี้แหละ”

 

 

“ครับท่าน” ฉินเฮ่าเห็นสีหน้าเคร่งเครียดจริงจังของแล้วก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรอีก

 

 

ขณะถอยออกมา คนสนิทของเขาก็มองเห็นเงาของหลินเช่อวูบหนึ่งและอดไม่ได้ที่จะนึกเห็นใจหล่อน อารมณ์ของกู้จิ้งเจ๋อไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะรับมือได้

 

 

หลินเช่อมองดูกู้จิ้งเจ๋อที่เดินออกจากบ้านไป เธออ้อยอิ่งอยู่ที่ประตูพลางแอบก่นด่าเขาเบาๆ อีตากู้จิ้งเจ๋อใจดำ นี่เขากล้าไปพบผู้หญิงอื่นทั้งที่มีภรรยาอยู่แล้วเหรอเนี่ย

 

 

แต่เมื่อคิดได้ หัวใจเธอก็ชาหนึบ

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงต่างหากล่ะที่เป็นรักแท้ของเขา คนที่ไม่ถูกรักคือคนที่ต้องถูกเรียกว่ามือที่สามไม่ใช่เหรอ

 

 

เธอนี่แหละคือมือที่สามสำหรับเขา

 

 

กู้จิ้งเจ๋อออกจากบ้านไปและไม่ได้กลับมาในคืนนั้น

 

 

หลินเช่อได้ยินเสียงเขาพูดบางอย่างเกี่ยวกับวิลล่าริมอ่าวจนพลอยทำให้เธอจินตนาการไปถึงภาพเขากำลังตระกองกอดกับโม่ฮุ่ยหลิงอยู่ที่นั่น

 

 

ขณะเดียวกัน ที่วิลล่าริมอ่าวนั้น

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงวางกระเป๋าสัมภาระลงแล้วมองดูกู้จิ้งเจ๋ออย่างมีความสุข “ขอบคุณมากนะคะ จิ้งเจ๋อ ถ้าไม่ได้คุณ ฉันคงไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อให้สาวใช้จัดการกับข้าวของของโม่ฮุ่ยหลิงในขณะที่ทั้งสองคนนั่งลงบนโซฟา

 

 

“ฮุ่ยหลิง เกิดอะไรขึ้นที่บ้านกันแน่น่ะ”

 

 

โม่ ฮุ่ยหลิงกัดริมฝีปาก “ฉัน…มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ” เธอหลุบตามองพื้น ท่าทางน่าสงสารยิ่ง “พวกเขาไม่เห็นด้วยที่เราสองคนจะคบกันอีกต่อไปแล้วน่ะค่ะ ตอนนี้ที่พวกเขารู้ว่าคุณแต่งงานแล้ว พวกเขาก็เลยพยายามจะหาคนรักให้ พอฉันคัดค้าน เราก็ลงเอยด้วยการทะเลาะกันนี่แหละ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อนั่งลงเคียงข้างเธอแล้วมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งนาน “ฮุ่ยหลิง…”

 

 

เธอต้องเป็นทุกข์เพราะเขาแท้ๆ

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงเงยหน้าขึ้น “ฉันไม่ยอมมีแฟนหรอกนะคะ ฉันอยากจะรอคุณ การแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักน่ะไม่มีความสุขหรอกค่ะ ฉันจะไม่ยอมทนทรมานไปทั้งชีวิตแน่ๆ …”

 

 

เธอกำลังพูดถึงตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันเธอก็เตือนให้เขารำลึกด้วยว่าตัวเขาเองก็ไม่ได้แต่งงานกับคนที่เขารัก และต้องเจอหน้ากันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันด้วยเหมือนกัน

 

 

กู้จิ้งเจ๋อนิ่วหน้าด้วยความไม่ชอบใจนัก

 

 

แต่เมื่อหันไปมองโม่ฮุ่ยหลิง เขาก็ตัดสินใจที่จะระงับอารมณ์เอาไว้

 

 

วันนี้เขาอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ รู้สึกหงุดหงิดหัวใจไปหมด

 

 

แม้แต่โม่ฮุ่ยหลิงก็ยังรู้สึกได้ เพราะตั้งแต่เจอหน้ากัน สีหน้าของกู้จิ้งเจ๋อก็เย็นชาเหมือนน้ำแข็ง ดวงตาคมปลาบราวกับใบมีด ริมฝีปากก็คว่ำลงอย่างคนไม่มีความสุข

 

 

แต่โม่ฮุ่ยหลิงกลับยินดี

 

 

บางทีเขาอาจจะไม่พอใจกับสิ่งที่ครอบครัวของเธอปฏิบัติต่อเธอก็ได้

 

 

เธอรู้ดีว่ากู้จิ้งเจ๋อเป็นคนมุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง เธอคิดว่าเขาคงจะต้องหึงเธอแน่ๆ เมื่อได้รู้เรื่องนี้

 

 

หญิงสาวก็เอนตัวลงพิงซบเขาก่อนเงยหน้าขึ้นมอง “จิ้งเจ๋อคะ ฉันควรจะทำยังไงดีคะ ครอบครัวก็ยังบังคับฉันไม่เลิก ฉันไม่อยากจะกลับบ้านอีกแล้วล่ะ ใครจะรู้ว่าเขาจะหาผู้ชายแบบไหนมาแต่งงานกับฉันละคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหันไปหาเธอแล้วพูดเรียบๆ ว่า “เธอจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนก็ได้ที่เธอต้องการ”

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงดึงแขนเขาแล้วถามว่า “คุณจะอยู่กับฉันด้วยหรือเปล่าคะ…”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อถอนหายใจและตอบโดยไม่ต้องหยุดคิด “ฮุ่ยหลิง ทำแบบนี้มันไม่ถูก ฉันเป็นผู้ชายแต่งงานแล้ว”

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงหน้าเสีย “แต่ฉันกลัวที่จะต้องอยู่ที่นี่คนเดียวนี่นา”

 

 

“ฉันจัดการส่งสาวใช้มาอยู่ที่นี่แล้วห้าคน แล้วก็มีพ่อครัวกับพนักงานรักษาความปลอดภัยอีก ทุกอย่างปลอดภัยดีแน่นอน ฉันจะไม่ยอมให้มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ เธอวางใจได้”

 

 

“ต่อให้มีคนอยู่ด้วยมากแค่ไหนก็เทียบกับคุณไม่ได้หรอกค่ะ” โม่ฮุ่ยหลิงมองเขา “ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว มันรู้สึกไม่ปลอดภัย”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อนั่งนิ่ง ไม่พูดอะไร

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงชักจะหัวเสีย “หรือเพราะว่าคุณคิดจะกลับไปนังเมียคนสวยนั่นของคุณใช่มั้ยละคะ เพราะแบบนี้คุณถึงไม่อยากอยู่ที่นี่น่ะ”

 

 

นังเมียคนสวยงั้นเหรอ

 

 

คิ้วของกู้จิ้งเจ๋อขมวดเข้าหากัน ดวงตาเป็นประกาย เขามองโม่ฮุ่ยหลิง “ช่างเถอะ ฉันจะอยู่ที่นี่”

 

 

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยนอนค้างนอกบ้านหรอก แต่เพราะเขาไม่เคยนอนค้างในห้องเดียวกับเธอต่างหาก เพราะอาการป่วยของเขา ชายหนุ่มจึงไม่เคยใกล้ชิดแตะเนื้อต้องตัวเธอแม้สักครั้ง

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงดีใจยิ่งนัก เธอรีบร้องสั่งให้เตรียมอาหารมื้อค่ำ ใบหน้างามของเธอสดใสแช่มชื่นขึ้นทัน

 

 

ตา

 

 

เมื่อได้เห็นว่าโม่ฮุ่ยหลิงดีใจแค่ไหน กู้จิ้งเจ๋อก็ตัดสินใจได้แน่ชัดว่าจะค้างคืนที่นี่ เขาเป็นหนี้โม่ฮุ่ยหลิงหลายเรื่องแล้ว ถ้าเรื่องเล็กน้อยเพียงเท่านี้จะทำให้โม่ฮุ่ยหลิงมีความสุขได้ มันก็คงจะช่วยลดความรู้สึกผิดในใจเขาได้เช่นกัน

 

 

ทั้งสองนั่งรับประทานอาหารค่ำด้วยกันในเวลาต่อมาก่อนจะกลับไปยังห้องนอนส่วนตัว กู้จิ้งเจ๋อไม่สนใจแม้แต่น้อย เขารู้ดีว่าโม่ฮุ่ยหลิงอยากจะเรียกเขาเข้าไปและหาทางทำให้เขายอมอยู่ในห้องนั้นกับเธอ แต่ชายหนุ่มตัดไฟเสียแต่ต้นลมด้วยการเดินเข้าห้องของตัวเองเสียเลย

 

 

โม่ฮุ่ยหลิงทำได้แค่กระทืบเท้าด้วยความขัดใจและเดินเข้าห้องของตัวเองไป

 

 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อไม่กลับมาบ้านตลอดทั้งคืนนั้น

 

 

หลินเช่อออกมารับประทานอาหารเช้า มีอาหารเพียงจานเดียววางรอท่าอยู่บนโต๊ะในห้องโถงใหญ่ หญิงสาวชักไม่สบอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก

 

 

ถึงแม้จะมีคนรับประทานอาหารเพียงคนเดียว แต่บรรดาคนรับใช้ก็ยังคงเดินกันขวักไขว่เต็มไปหมด ทว่าหลินเช่อกลับรู้สึกว่าบ้านทั้งหลังว่างเปล่าเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป

 

 

ไม่ช้า ทางบริษัทก็โทรมาและแจ้งกับเธอด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นถึงงานโฆษณาที่เข้ามา หลินเช่อรีบตรงดิ่งไปบริษัทในทันที

 

 

เมื่อไปถึง อวี๋หมินหมิ่นก็อธิบายรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับโฆษณาให้ฟัง งานนี้จะมีคนได้เห็นเป็นจำนวนมาก และการจ้างเธอเป็นพรีเซนเตอร์ก็จะทำให้เธอยิ่งโด่งดังมากขึ้นตามไปด้วย

 

 

แต่ที่หลินเช่อไม่รู้เลยก็คือโอกาสอันดีครั้งนี้จะนำพาเธอไปสู่การถูกใส่ร้ายกันน่าเจ็บปวด

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด