เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 340 ทำไมตัวคุณถึงได้มีแผลเต็มไปหมด

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 340 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เฉินโหยวหลันพูด “ปะ เป็นไปไม่ได้…พี่สาวฉันไม่เคยบอกเรื่องนี้กับที่บ้านมาก่อนเลย เราจัดพิธีดูตัวให้เธออยู่ตลอดเวลา ถ้าพวกคุณสองคนคบกันจริงๆ ละก็ ทำไมเธอถึงไม่เคยบอกเราเลยล่ะ” 

 

 

จัดพิธีดูตัวงั้นเหรอ 

 

 

เฉินอวี่เฉิงเหลือบมองเฉินโยวหรานที่นั่งอยู่ตรงข้าม 

 

 

เฉินโยวหรานรีบตอบว่า “เฮ้ โหยวหลัน นี่เธอพูดเรื่องไร้สาระอะไรน่ะ กลับไปซะเถอะ ที่นี่ไม่มีอะไรเหมาะกับเธอ อย่าทำให้เรื่องมันแย่ลงไปกว่านี้เลยนะ” 

 

 

“ทำไมล่ะคะพี่ ทำไมถึงไม่บอกเราว่ามีแฟนแล้ว หรือเพราะว่าความสัมพันธ์ของพี่กับคุณหมอนี่มันเป็นเรื่องผิดทำนองคลองธรรม…มัน…มันไม่ถูกต้องใช่มั้ย!” 

 

 

เฉินโยวหรานอดทนต่อไปไม่ไหว เธอหันไปมองชายหนุ่มก่อนจะลากตัวน้องสาวออกไปอย่างรวดเร็ว 

 

 

“พี่มาดึงฉันทำไม ฉันพูดอะไรผิดงั้นเรอะ บอกมาสิ ว่าพี่มีอะไรกับเขาหรือเปล่า มีรึเปล่า ว่ายังไงล่ะ นี่พี่ถูกเขาหลอกเอาใช่มั้ย หรือว่าโดนเขาสวมเขาให้ ถ้าเขาไม่ยอมให้พี่พูดถึงความสัมพันธ์ตัวเองแบบนี้ งั้นก็แปลว่าเขากำลังหลอกพี่อยู่ นี่พี่โง่รึไงนะ” 

 

 

“พอที” เฉินโยวหรานผลักน้องสาวออกไปและถามด้วยน้ำเสียงโกรธจัด “พูดพอรึยัง นี่ลงทุนตามมาก่อเรื่องให้ฉันถึงนี่เลยหรือไง หยุดพล่ามอะไรไร้สาระซะทีเถอะ” 

 

 

“หือ แล้วนี่พี่จะรีบไล่ฉันออกมาทำไมล่ะ หรือกลัวว่าฉันจะมาฉกคนรักของพี่ไป” 

 

 

“ฟังตัวเองพูดบ้างเถอะ” เฉินโยวหรานพูดอย่างเหลืออด 

 

 

“ฉันก็แค่พูดความจริงเท่านั้นเอง พี่ ถ้าคราวนี้พี่ไม่ยอมบอกอะไรฉันเลยละก็ ฉันจะกลับไปบอกแม่ว่าพี่เที่ยวนอนกับผู้ชายไปทั่วเวลาอยู่นอกบ้าน” เฉินโหยวหลันทั้งโกรธทั้งอิจฉา เธอมองหน้าพี่สาวแล้วก็นึกสงสัยว่าเฉินโยวหรานมีดีอะไร ทำไมเฉินอวี่เฉิงถึงสนใจหล่อนนัก 

 

 

ต่อให้พวกเขาไม่ได้รักกันแต่แค่ควงกันเล่นๆ ก็เถอะ เฉินโยวหรานไม่เห็นจะสวยน่ามองตรงไหนเลยซักนิด 

 

 

เฉินโยวหรานถามขึ้นว่า “เธอต้องการอะไร” 

 

 

“เงิน” น้องสาวตอบอย่างตรงไปตรงมา “ถ้าพี่ให้เงินฉันมากพอ ฉันจะยอมหุบปากก็ได้ หรือถ้าพี่ไม่มีเงินให้ งั้นฉันก็จะไปขอจากเฉินอวี่เฉิงเองเลย” 

 

 

“กลับมานี่นะ” เฉินโยวหรานดึงแขนน้องสาวเอาไว้ “เอาละ เลิกงี่เง่าซะที ฉันจะให้เงินเธอ ต้องการเท่าไหร่ล่ะ” 

 

 

“ฉันต้องการล้านนึง” 

 

 

“หยุดเลย” เฉินโยวหรานมองหน้าน้องสาว “นี่เธอบ้าไปแล้วรึไง” 

 

 

“เขารวยจะตาย ทำไมถึงจะไม่มีเงินแค่ล้านเดียว” เฉินโยวหลันว่า 

 

 

เฉินโยวหรานดึงกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วหยิบเงินส่งให้หนึ่งพัน “ฉันมีเท่านี้แหละ รับไว้แล้วก็รีบไปซะ” 

 

 

“พี่…นี่มันน้อยจะตาย พี่คบกับผู้ชายรวยขนาดนั้นแต่ให้เงินฉันแค่เนี้ยนะ ไม่ขี้เหนียวไปหน่อยเหรอ” 

 

 

เฉินโยวหรานทำหน้าเยาะๆ “ฉันจะมีเงินเท่าไหร่มันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ อีกอย่าง นี่คือเงินทั้งหมดที่ฉันให้เธอได้ตอนนี้ เฉินอวี่เฉิงกับฉันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิดเลยซักนิด ฉันให้เงินนี่กับเธอก็เพราะว่าเธอเป็นน้องสาว เอาละ ไปได้แล้ว” 

 

 

“แค่นี้ยังไม่พอซื้อรองเท้าฉันเลย” เฉินโยวหลันพูดอย่างดูแคลน 

 

 

“รองเท้าเธอคู่ละพันงั้นรึ เธอ…นี่เธอไปเอาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน เฉินโยวหลัน” 

 

 

เมื่อรู้ว่าตัวเองชักพูดมากเกินไปแล้ว เฉินโยวหลันก็รีบยัดเงินใส่กระเป๋าและเสพูดว่า “ก็ได้ ฉันจะไม่รบกวนพี่กับคุณหมอเฉินอีกก็ได้ เชิญกินข้าวกันต่อให้สบายเถอะ ฉันจะไปก่อนละ อีกอย่างนะพี่…ในเมื่อตอนนี้เขายังสนใจพี่อยู่ ก็ให้รีบๆ กอบโกยจากเขาไว้เยอะๆ ล่ะ แล้วก็ลอกคราบโทรมๆ ของตัวเองซะบ้าง ไอ้ที่ใส่อยู่นี่น่ะยังกับผ้าขี้ริ้ว” 

 

 

เมื่อพูดจบเฉินโยวหลันก็เผ่นแน่บไป 

 

 

“เธอ…กลับมาเดี๋ยวนี้นะ! เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าไปเอาเงินจากไหนมาซื้อรองเท้าแพงๆ” 

 

 

เฉินโยวหรานอยากจะวิ่งตามไปแต่เฉินอวี่เฉิงคว้ามือเธอไว้เสียก่อน 

 

 

“ช่างเถอะ เขาไปแล้ว ถามไปก็ไม่มีประโยชน์ มาเถอะ กลับไปกินข้าวดีกว่า” 

 

 

“แต่ว่า…” 

 

 

“น้องสาวเธอแตกต่างจากเธอมาก” เฉินอวี่เฉิงพูดขึ้นพลางมองหน้าเธอ 

 

 

หญิงสาวรีบตอบ “เวลาอยู่บ้านเขาถูกตามใจมากน่ะค่ะ” 

 

 

“ใช่ นั่นก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ต่อไปครอบครัวเธอคงต้องอดทนกับเรื่องนี้” 

 

 

เฉินอวี่เฉิงพูดขณะที่มองไปตามทิศทางที่เฉินโยวหลันวิ่งจากไป 

 

 

เฉินโยวหรานตวัดสายตามองอีกฝ่าย แต่เธอก็รู้ดีว่าเขาพูดถูก 

 

 

เฉินโยวหลันถูกครอบครัวตามใจจนเสียคน ตอนนี้จึงไม่มีใครสามารถควบคุมน้องสาวเธอได้อีกแล้ว 

 

 

เฉินโยวหลันหันกลับมาเห็นนายแพทย์หนุ่มจูงมือพี่สาวของเธอกลับเข้าร้านอาหาร เธอจึงหันไปมองรถยนต์คันหรูของเขาด้วยความรู้สึกขุ่นข้องใจ หญิงสาวยืนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์และโทรหาใครคนหนึ่ง “พี่สาวฉันจับปลาตัวใหญ่ได้ละ โอ๊ย ไม่ต้องพูดเรื่องที่ว่าเขารวยแค่ไหนหรอก ฉันว่าฉันซื้อกระเป๋าใบที่แกพูดถึงคราวก่อนได้แล้วละ ช่วยจองให้ใบนึงด้วยก็แล้วกัน คราวหน้าฉันจะไปไถเงินพี่สาวมาให้ได้” 

 

 

บาดแผลของกู้จิ้งเจ๋อดูดีขึ้นมาก หลินเช่ออยู่ข้างๆ ช่วยเขาแกะผ้าพันแผลออก แผลเริ่มตกสะเก็ดแล้ว แต่ก็ยังดูน่ากลัวอยู่นั่นเอง หัวใจเธอเจ็บหนึบทีเดียวจนทำให้ยิ่งเบามือกับชายหนุ่มขึ้นไปอีก 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อมองดูท่าทีระมัดระวังของหลินเช่อ ก่อนจะลงมือดึงผ้าพันแผลออกด้วยตัวเอง “ฉันทำเอง เธอน่ะชักช้า” 

 

 

แต่หญิงสาวรีบบอกว่า “เฮ้ ฉันให้คุณทำเองไม่ได้หรอกค่ะ อย่าขยับสิ เดี๋ยวฉันแกะให้” 

 

 

หลินเช่อมองดูบาดแผลบนร่างกายเขาและคิดว่าต่อให้หายดี นี่ก็จะต้องกลายเป็นรอยแผลเป็นใหญ่แน่ๆ และนั่นทำให้เธออดเจ็บปวดใจไม่ได้ แผลเป็นบนร่างกายที่สวยงามขนาดนี้… 

 

 

หลินเช่อพูดขึ้น “นี่จะต้องกลายเป็นแผลเป็นแน่ๆ เลยค่ะ แผลตรงนี้ใหญ่มาก” 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหันมองและพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวแผลเป็นก็จางไปเองนั่นแหละ ฉันฟื้นตัวเร็ว ไม่อย่างงั้นทั้งตัวฉันคงมีแต่แผลเป็นเต็มไปหมดแล้ว” 

 

 

เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น หลินเช่อก็ได้แต่ถอนหายใจและหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น 

 

 

หญิงสาวพูดต่อไป “ที่ผ่านมาคุณคงไม่เคยบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้มาก่อนสินะคะ” 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อตอบ “เคยสิ นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดแผลลึกขนาดนี้ แต่ตอนนี้พวกรอยแผลเป็นของฉันมันจางลงไปหมดแล้ว มาดูสิ” 

 

 

เขาชี้ไปที่รอยเส้นจางๆ รอยหนึ่ง “นี่เกิดจากมีด เห็นรึเปล่า มันไม่ค่อยชัดแล้วละ” 

 

 

หลินเช่อก้มลงมองใกล้ๆ ก็มองเห็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “เห็นค่ะ” 

 

 

แต่…เขาโดนมีดแทงเมื่อไหร่กันน่ะ 

 

 

ชายหนุ่มชี้ต่ำลงไปอีก “ส่วนนี่เป็นแผลถูกยิง เธอจะมองเห็นจุดตรงที่มันทะลุผ่านหัวไหล่ฉันออกไป” 

 

 

หลินเช่อขยับผ้าพันแผลออกดูแล้วก็เห็นจุดหนึ่งจริงๆ 

 

 

สีผิวของเขาสม่ำเสมอกันทั่วทั้งตัวจนเธอไม่สามารถบอกได้ในยามที่มองดูเขาตามปกติ 

 

 

แต่เมื่อเพ่งดูใกล้ๆ แล้ว ร่องรอยพวกนั้นก็ยังคงมองเห็นได้อยู่ 

 

 

หลินเช่อหันมองคนเจ็บ ทำไมเขาถึงได้มีบาดแผลมากมายขนาดนี้นะ 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อสังเกตเห็นว่าถูกอีกฝ่ายจ้องมอง เขาจึงลูบหัวเธอ “เอาน่า ฉันรู้ว่าฉันยังหล่อมากเหมือนเดิม เธอไม่ต้องจ้องฉันเป๋งขนาดนั้นก็ได้” 

 

 

“คนบ้า ใครคิดว่าคุณหล่อกันมิทราบ ให้ตายสิ หน้าไม่อายจริงๆ” หลินเช่อย้อนเข้าให้ 

 

 

คนถามหน้าตึงขึ้นมาทันทีเมื่อมองดูหญิงสาว แล้วถามว่า “นี่ฉันไม่หล่อเหรอ” 

 

 

หลินเช่อมองสายตาตัดพ้อคู่นั้นแล้วก็พูดออกมาได้แค่ว่า “ก็ได้ ก็ได้ค่ะ คุณน่ะหล่อ หล่อสุดๆ เลย เป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมาเลยละค่ะ” 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อได้ยินแล้วก็ฉีกยิ้มกว้าง แต่แล้วเขาก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ จึงถามขึ้นว่า “ฉันหล่อหรือว่ากู้จิ้ิ้งอวี่หล่อ” 

 

 

“…” แล้วจะลากกู้จิ้ิ้งอวี่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทำไมล่ะเนี่ย 

 

 

“คุณกับกู้จิ้ิ้งอวี่ไม่เหมือนกันนี่คะ…” 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด