เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 191 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 191 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

หลินเช่อแลเห็นใบหน้าของชายหนุ่มยังมีสีระเรื่อ แววตายังฉายชัดไปด้วยความห่วงใยอย่างเต็มเปี่ยม จึงนึกอยากจะแกล้งขึ้นมา เธอเดินเข้าไปยืนประชิดข้างตัวเขาแล้วออดอ้อนว่า “สามีขา ทำไมถึงไม่กล้ามองหน้าฉันล่ะคะ” 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหาทางเลี่ยงด้วยการถามขึ้นว่า “เอาละ ไปเตรียมตัวสิ ไม่ไปเล่นสกีแล้วเหรอ” 

 

 

“สามีขา หันมามองฉันก่อนสิคะ เกิดอะไรขึ้นล่ะเนี่ย นี่ฉันเป็นภรรยาผู้น่ารักของคุณนะคะ นี่ฉันขี้เหร่เสียจนทนดูไม่ได้เลยหรือคะ ทำไมถึงไม่ยอมมองฉันล่ะคะ” หลินเช่อดักหน้าดักหลังไปรอบๆ ตัวชายหนุ่ม พยายามทำให้เขายอมมองหน้าเธอได้จงได้ 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยิ่งหน้าแดงหนักขึ้นไปอีก ทั้งที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกเขินอายนี้เกิดขึ้นจากอะไร 

 

 

ยิ่งคิดกู้จิ้งเจ๋อก็ยิ่งโกรธตัวเอง 

 

 

นี่เขากลายเป็นผู้ชายไก่อ่อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน 

 

 

เมื่อคิดดังนั้น คราวนี้คนตัวใหญ่จึงหันกลับมา ดวงตาดำสนิทสบเข้ากับตาของหลินเช่อ 

 

 

เมื่อเขาเคลื่อนตัวเขามาจนใกล้ในชั่วพริบตานั้นเอง หลินเช่อก็ต้องชะงักตัวแข็งทื่อ 

 

 

แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ขยับตัว ใบหน้าของเขาก็เคลื่อนเข้ามาอยู่ห่างจากหน้าเธอเพียงชั่วนิ้วมือเดียวเสียแล้ว 

 

 

หลินเช่อตกใจจนร่างเกือบจะซวนเซด้วยความประหม่าอาย 

 

 

ชายหนุ่มหัวเราะอย่างมีชัย “ทำไมล่ะ นี่ฉันขี้เหร่เสียจนเธอต้องกลัวขนาดนั้นเลยเหรอ” 

 

 

“เปล่าซักหน่อย! ก็ใครเขาให้พรวดพราดเข้ามาแบบนี้กันล่ะคะ” หลินเช่อพูดทั้งที่ใบหน้าแดงซ่าน 

 

 

ริมฝีปากของชายหนุ่มบิดโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม “นี่เราก็แต่งงานกันมาตั้งนานแล้ว อย่าบอกนะว่ายังไม่ชินอีกน่ะ ฉันคิดว่าเธอปรับตัวได้แล้วกับการเป็นภรรยาฉัน จนไม่ต้องร้องเอะอะดังลั่นเวลาฉันเข้ามาใกล้ๆ แล้วซะอีก” 

 

 

หลินเช่อตะกุกตะกักออกมาไม่เป็นคำพูด ใบหน้ายิ่งแดงหนักขึ้นไปอีก 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อที่เข้ามายืนใกล้จนแทบจะชิดมองหน้าเธอและถามว่า “ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ งั้นฉันก็คงต้องฝึกให้เธอคุ้นเคยกับการมีฉันอยู่ใกล้ๆ สินะ” 

 

 

“ทะ..ทำให้คุ้นเคยยังไงหรือคะ…” 

 

 

“มานี่สิ ฉันจะช่วยสอนให้” เขาพูดพลางขยับตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นอีก 

 

 

แต่ก่อนที่หลินจะทันได้ทำอะไร ริมฝีปากอุ่นจัดก็ประกบลงมาเสียก่อน 

 

 

แล้วชั่วขณะต่อมา หลินเช่อก็หลุดลอยเข้าไปในห้วงแห่งจุมพิตนั้น 

 

 

เมื่อได้เห็นว่าจูบของเขาทำให้หญิงสาวเคลิบเคลิ้มไปได้ กู้จิ้งเจ๋อก็ยิ่งภาคภูมิ 

 

 

และเมื่อเห็นว่าหลินเช่อจวนเจียนจะขาดอากาศหายใจนั่นแหละ เขาจึงยอมปล่อยเธอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความงุนงงหลงใหล 

 

 

หลินเช่อนิ่งไปเนิ่นนานกว่าจะหลุดออกมาจากภวังค์แห่งอารมณ์นั้นได้ เมื่อได้สติเธอก็นิ่วหน้าและแหวใส่เขาเสียงดังลั่นว่า “กู้จิ้งเจ๋อ คุณ…นี่คุณทำบ้าอะไรน่ะ!” 

 

 

ชายหนุ่มหัวเราะและเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ทำไมล่ะ ยังไม่ชินอีกเหรอ อยากลองอีกครั้งมั้ย…” 

 

 

“มะ มะ ไม่ ฉันคุ้นแล้วค่ะ คุ้นแล้ว” หลินเช่อรีบห้าม ยกมือไม้ขึ้นกันเป็นพัลวัน ไม่ยอมให้เขาเข้ามาถึงตัวอีก 

 

 

เนื้อตัวเธอร้อนผ่าว สั่นระริกราวกับว่าเธอไม่สามารถควบคุมมันได้ ตอนที่เขาจูบ เธอก็รู้สึกได้ถึงคลื่นไฟฟ้าที่แล่นเป็นจังหวะอยู่ในร่างกายท่อนล่าง เหมือนกับว่าเธอจวนเจียนจะหลุดร่วงเข้าสู่ห้วงอารมณ์แห่งปรารถนาของเขาอยู่รอมร่อ 

 

 

ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้ หลินเช่อรู้สึกเหมือนโดนเขายั่วเย้าเสียจนเธอแทบจะกลายเป็นผู้หญิงร้อนสวาท นี่เธอกลายเป็นคนร่ำร้องต้องการผู้ชายได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน 

 

 

ยิ่งหันไปมองกู้จิ้งเจ๋อ เธอก็ยิ่งรู้สึกเช่นนั้นหนักขึ้นและหนักขึ้นไปอีก 

 

 

เขาไม่เคยทำตัวแบบนี้มาก่อนเลย 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะหึ “โอเค ในเมื่อเธอคุ้นเคยดีแล้ว…ถ้างั้นเราก็ไปกันเถอะ” 

 

 

หลินเช่อทำตาเขียวปั้ดใส่อีกฝ่าย ใครบอกกันยะ ว่าฉันอยากจะคุ้นเคยกับอะไรแบบนี้น่ะ 

 

 

บอกว่าจะช่วยเธองั้นเรอะ…แบบนั้นเรียกว่าช่วยตรงไหนกันมิทราบ 

 

 

ชายหนุ่มยิ้มอีก เขากำลังอารมณ์ดีถึงขนาด แต่ในขณะที่กำลังออกคำสั่งให้เตรียมรถอยู่นั้นเอง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น 

 

 

เขาหยิบมันขึ้นมาและก็ได้เห็นว่าเป็นสายของโม่ฮุ่ยหลิง 

 

 

ชายหนุ่มนิ่วหน้า ช่วงที่ผ่านมา เวลาที่เขาหายหน้าไปสองสามวัน โม่ฮุ่ยหลิงก็มักจะโทรหาเขาและพูดคุยสนทนากันเพียงสั้นๆ ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติเรียบร้อยดี แล้วคราวนี้จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นได้อีกนะ 

 

 

หลินเช่อเองเมื่อได้เห็นว่าใครเป็นคนโทรมาก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้น เธอก็รีบระงับสีหน้าและบอกกับเขาว่า “รับสายเถอะค่ะ เธอเพิ่งจะผ่านเรื่องเคราะห์ร้ายมา อาจจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจก็ได้” 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าเธอก่อนจะกดรับสาย เสียงของเขาเย็นชาขึ้นมาทันทีโดยไม่ได้ตั้งใจ “ว่าไง” 

 

 

“จิ้งเจ๋อคะ เร็วเข้าค่ะ มารับฉันที่สนามบินหน่อย ฉันอยู่ในลอสแองเจลิสแล้ว” 

 

 

หลินเช่อคิดไม่ถึงเลยว่าอยู่ๆ หล่อนจะมาถึงที่นี่ 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อเองก็ไม่คาดคิดเช่นกัน อาจเป็นเพราะว่าช่วงนี้เขาใช้เวลาอยู่กับหลินเช่อค่อนข้างมาก จนเขาเพิ่งรู้สึกตัวเดี๋ยวนี้เองว่าเขาแทบจะลืมโม่ฮุ่ยหลิงไปแล้ว 

 

 

บางครั้งเขาลืมไปสนิทเลยด้วยซ้ำว่าเธอมีตัวตนอยู่ 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนรักความถูกต้องชอบธรรมอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าความจริงเขาเป็นผู้ชายไร้หัวใจที่หลงลืมคนรักเก่าอย่างง่ายดาย 

 

 

อันที่จริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่อยู่ๆ โม่ฮุ่ยหลิงก็โผล่มาหา 

 

 

เมื่อก่อนนี้ โม่ฮุ่ยหลิงมักจะมาเซอร์ไพรส์เขาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้อยู่เป็นประจำ แต่ตอนนี้เขากลับไม่ชอบใจการมาเยี่ยมเยือนโดยไม่บอกกล่าวของเธออีกต่อไปแล้ว การมาเซอร์ไพรส์ของเธอกลายเป็นเรื่องน่าหวาดหวั่นใจ 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อเลือกที่จะไม่ไปรับ แต่ส่งคนของเขาไปที่สนามบินแทน 

 

 

ซึ่งก็ไม่เป็นที่พอใจของโม่ฮุ่ยหลิงซักเท่าไหร่นัก แต่ถึงกระนั้น เมื่อมาถึงคฤหาสน์ของกู้จิ้งเจ๋อ เธอก็ยังคงฉีกยิ้มอบอุ่นเมื่อก้าวเข้ามาในตัวบ้าน 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อและหลินเช่อนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ทั้งสองผุดลุกขึ้นทันทีที่โม่ฮุ่ยหลิงเดินเข้ามา 

 

 

“จิ้งเจ๋อ ทำไมถึงไม่ไปรับฉันล่ะคะ ให้ตายสิ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ คุณจะต้องมารับด้วยตัวเองเสมอเลยนะ” หญิงสาวตัดพ้ออย่างมีจริตเมื่อเดินเข้ามาเห็นสองหนุ่มสาว 

 

 

แม้ว่าทั้งคู่จะยืนเว้นระยะห่างกันอย่างพองาม แต่ก็มีบางอย่างที่ดูแล้วไม่เป็นที่ชอบใจของเธออยู่นั่นเอง 

 

 

หลินเช่อมองหน้าเธอ แล้วหันไปมองหน้ากู้จิ้งเจ๋อ 

 

 

ส่วนกู้จิ้งเจ๋อเองก็หันมามองหน้าเธอ ก่อนจะหันไปมองหน้าหลินเช่อ 

 

 

ราวกับจะมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้บางอย่างซุกซ่อนอยู่ระหว่างคนทั้งคู่ 

 

 

หลินเช่อยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น แก้มเป็นสีระเรื่อ ริมฝีปากก็แดงก่ำ โม่ฮุ่ยหลิงเห็นแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว อดคิดไม่ได้ว่าริมฝีปากคู่นั้นดูเต่งตึง เย้ายวน ราวกับเพิ่งโดนจูบมาหมาดๆ 

 

 

แต่หญิงสาวก็ปัดความคิดนั้นทิ้ง เธอคงจะรู้สึกไปเองมากกว่า 

 

 

ก็กู้จิ้งเจ๋อถูกเนื้อตัวตัวผู้หญิงไม่ได้ซักหน่อยนี่นา เขาจะแตะต้องหลินเช่อได้อย่างไรกัน 

 

 

เธอคงจะคิดมากไปเอง 

 

 

แต่การได้เห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันก็ทำให้เธอไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ 

 

 

เธอเดินเข้าไปหา และพูดกับหลินเช่ออย่างชดช้อยอ่อนหวานว่า “ต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ อยู่บ้านคนเดียวมันน่าเบื่อเกินไป แล้วคนที่บ้านก็อยากให้ฉันได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกเสียบ้างน่ะ พอดีฉันเห็นในข่าวว่าพวกเธอสองคนอยู่ที่นั่น ก็เลยคิดว่า…อันที่จริง ตั้งแต่เด็กๆ แล้วฉันก็ไม่เคยสนิทกับใครเลยนอกจากกู้จิ้งเจ๋อคนเดียวเท่านั้น ก็เลยมาหาพวกเธอที่นี่นี่แหละจ้ะ” 

 

 

เมื่อชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที หัวใจที่แข็งกระด้างเมื่อครู่จึงเริ่มอ่อนยวบลง 

 

 

เพราะถึงอย่างไร สิ่งที่โม่ฮุ่ยหลิงพูดก็เป็นความจริง 

 

 

ชีวิตวัยเด็กของโม่ฮุ่ยหลิงมีแต่เขา 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อจึงเอ่ยขึ้นว่า “เรากำลังจะเดินทางกลับกันอยู่แล้ว คิดว่าคงจะอยู่ที่นี่กันอีกไม่นานนัก” 

 

 

หลินเช่อรีบขัดขึ้นว่า “พวกคุณสองคนอยู่สนุกกันต่อเถอะค่ะ ไปเถอะ ส่วนฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน เพราะต้องรีบกลับไปถ่ายทำให้เสร็จน่ะค่ะ” 

 

 

หลินเช่อกลัวจับใจว่าโม่ฮุ่ยหลิงจะคิดฆ่าตัวตายขึ้นมาอีก และคราวนี้ถ้าหล่อนทำสำเร็จละก็ พวกเธอคงจะต้องเจอปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด