เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 261 เขาชอบที่ได้ยินเธออ้อนวอนและเรียกเขาว่าสามี

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 261 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“เป็นยังไงบ้าง งานเลิกหรือยัง” เสียงของกู้จิ้งเจ๋อทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในความฝันและก้าวออกมายังโลกของความเป็นจริง

 

 

เสียงของเขามักจะสงบเยือกเย็นและปลอบประโลมเช่นนี้เสมอ มันไพเราะนุ่มนวลเสียจนทำให้ใครก็ตามที่กำลังอารมณ์ไม่ดีกลับมาแจ่มใสได้เหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ

 

 

อยู่ๆ หลินเช่อก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าเธอคิดถึงเขามากและอยากเจอหน้าเขาเต็มทีแล้ว

 

 

เธอตอบไปว่า “อืม ค่ะ ฉันใกล้จะเสร็จแล้วละ

 

 

“งานฉันก็จะเสร็จแล้วเหมือนกัน ให้ฉันไปรับมั้ย”

 

 

“ได้ค่ะ โอเคเลย”

 

 

หลินเช่อตอบด้วยความดีใจ เมื่อคิดว่าอีกเดี๋ยวเธอจะได้เจอเขาแล้ว ใบหน้าของเธอก็อดฉีกยิ้มกว้างออกมาไม่ได้

 

 

ฉินหวานหว่านสังเกตเห็นรอยยิ้มของอีกฝ่าย จึงเดินเข้ามาหาและถามว่า “กำลังทำอะไรอยู่เหรอจ๊ะ นี่ฉันยังไม่ได้แสดงความยินดีที่เธอชนะรางวัลเลย คืนนี้เราออกไปฉลองกันดีกว่า”

 

 

หลินเช่อหัวเราะและบอกว่า “ไม่ละ ฉันกำลังจะกลับอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว”

 

 

“ทำไมเร็วจัง นี่จะแอบไปฉลองกับใครเนี่ย” ฉินหวานหว่านถาม สายตาเหลือบไปมองกู้จิ้งอวี่ที่กำลังพูดคุยอยู่กับคนอื่น

 

 

หลินเช่อจึงบอกว่า “ไม่ใช่เขาหรอกจ้ะ เอาเถอะ ฉันไปก่อนละนะ ขอให้สนุกนะจ๊ะ!”

 

 

โดยไม่พูดอะไรอีก หลินเช่อก็ตรงดิ่งไปยังประตูทางออกทันที

 

 

ฉินหวานหว่านมองตามด้วยความฉงน ทำไมหลินเช่อถึงต้องหนีไปอย่างรวดเร็วราวกับกำลังจะรีบไปพบใครอย่างนั้นแหละ

 

 

รถของกู้จิ้งเจ๋อแล่นมาหยุดลงที่ถนน

 

 

หลินเช่อวิ่งเข้าไปหา และได้เห็นชายหนุ่มที่ก้าวลงมาจากรถ

 

 

เขายังคงสวมชุดที่ใส่ไปทำงาน คือชุดสูททางการแบบดั้งเดิม แต่มันกลับดูไม่แก่เชยเลยซักนิดเมื่ออยู่บนตัวของชายหนุ่ม แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เขากลับทำให้เครื่องแต่งกายแบบเก่านี้ยิ่งดูสง่างามเป็นสุภาพบุรุษขึ้นไปอีก เมื่อดูโดยรวมแล้วเขาดูดีมาก

 

 

หลินเช่อเพิ่งรู้ตัวว่าเธอชอบที่จะได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อแต่งตัวเป็นทางการแบบนี้ มันดูเหมือนเครื่องแบบแล้วก็ดูสุขุมลุ่มลึกและเจ้าระเบียบ

 

 

การได้เห็นเขาทำให้อดรู้สึกขึ้นมาอีกไม่ได้ว่าเธอช่างโชคดีเหลือเกิน สำหรับผู้หญิงบ้านๆ อย่างเธอที่จะได้มายืนเคียงข้างผู้ชายอย่างเขา เมื่อลองนึกถึงผู้หญิงอีกมากมายหลายคนที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงผู้ชายคนนี้ต่อให้มายืนเข้าแถวเรียงกันแค่ไหนก็ตาม หลินเช่อรู้สึกถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความหวังเมื่อมีเขาอยู่

 

 

เธอรีบวิ่งเข้าไปหาและถามว่า “วันนี้งานไม่ยุ่งเหรอคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหันมามองเธอและยิ้มให้อย่างชื่นชม เขาดึงเธอขึ้นไปบนรถพร้อมเขา

 

 

“เธอชนะรางวัลหรือเปล่า” เขาถาม

 

 

หลินเช่อทำหน้ามุ่ย “ไม่ค่ะ แต่ฉันได้รางวัลนักแสดงหญิงยอดนิยมจากการโหวตออนไลน์นะคะ นี่ก็ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ เหมือนกัน”

 

 

“ทำไมล่ะ เธอไม่ดีใจเหรอ” เขามองหน้าเธอพลางถาม

 

 

หลินเช่อถอนหายใจและพูดว่า “จะถือว่าเป็นการหยาบคายหรือเปล่าคะ ถ้าฉันจะบอกว่าฉันไม่ดีใจเลยแล้วก็ผิดหวังมากด้วยในตอนนี้น่ะ”

 

 

“ฮ่าๆ นี่เธอยังกังวลว่าตัวเองจะทำตัวหยาบคายอยู่อีกเรอะ” เขาถาม

 

 

“ก็ใช่น่ะสิคะ ถ้าฉันทำตัวไม่ดี คุณซีอีโอใหญ่ก็จะไม่ชอบฉันน่ะสิ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อกลอกตา

 

 

แน่นอนว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงหยาบคาย แต่เขากลับไม่เคยรู้สึกไม่ชอบใจนิสัยหยาบกระด้างของหลินเช่อเลยซักนิด

 

 

หลินเช่อก้มหน้าและพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่รู้สึกเซ็งๆ นิดหน่อยน่ะ ถึงแม้ว่าจะรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่มีหวัง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าบางทีมันอาจจะมีปาฏิหาริย์บ้าง แต่พอมันไม่มี ฉันก็เลยผิดหวังนิดหน่อยน่ะค่ะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อทนเห็นเธอทำหน้าม่อยไม่ได้ แม้ว่าหลินเช่อจะแค่ขมวดคิ้วนิ่วหน้าเพียงนิดเดียว แต่หัวใจเขาก็เจ็บแทนเธอ

 

 

เขาไม่อยากเห็นเธอต้องเจอกับอุปสรรคใดๆ ในชีวิต เขาอยากจะปกป้องคุ้มครองเธอ และทำให้ทุกอย่างในชีวิตของเธอราบรื่น เขารู้หรอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่เขาก็หงุดหงิดที่เห็นเธอไม่มีความสุข

 

 

เขาไม่เคยอ่อนไหวแบบนี้เลยเมื่อเป็นเรื่องของโม่ฮุ่ยหลิง แต่พอเป็นหลินเช่อ เขากลับใส่ใจเอามากๆ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “นี่เป็นเรื่องธรรมดาแหละนะ เดี๋ยวอีกสองสามวันเธอก็ดีขึ้นเอง เอาละ อย่าคิดมากไปเลย ไหนๆ เราก็มีเวลาเหลือเฟือ ไปช้อปปิ้งกันดีกว่า”

 

 

“ช้อปปิ้งเหรอคะ ฉันไม่คิดว่าเวลานี้จะมีที่ให้เราไปซื้อของกันหรอกนะคะ”

 

 

“งั้นลองคิดซิว่าอยากไปไหน”

 

 

หลินเช่อครุ่นคิด “เราไปดูหนังกันได้มั้ยคะ”

 

 

ดูหนังเหรอ

 

 

เขาคิดว่านั่นเป็นกิจกรรมที่น่าเบื่อหน่ายที่สุด

 

 

แต่เมื่อก้มลงมองหน้าหลินเช่อและได้เห็นแววตาเป็นประกายด้วยความกระตือรือร้นแล้ว ชายหนุ่มก็บังคับตัวเองให้ตอบตกลง “โอเค งั้นฉันจะไปดูหนังกับเธอ”

 

 

“ว้าว! จริงเหรอคะ” หลินเช่ออุทานอย่างประหลาดใจ เธอไม่คิดเลยว่ากู้จิ้งเจ๋อจะยอม

 

 

เมื่อเขาได้เห็นเธอกลับมาสดใสอีกครั้ง รอยยิ้มของเธอที่ซึมลึกเข้าไปถึงหัวใจก็ยิ่งทำให้เขาเต็มใจมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม

 

 

ผู้หญิงคนนี้เหมือนกระดาษขาว ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์แบบไหนก็ถูกเขียนระบายเอาไว้บนหน้าทั้งหมดโดยไม่เสแสร้ง เธอมีความสุขได้แม้แต่กับเรื่องเล็กน้อยจนทำให้เขาประหลาดใจมากทีเดียว

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอกว่า “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”

 

 

หลินเช่อยังอยู่ในชุดราตรีซึ่งไม่มีทางสวมเข้าไปในโรงภาพยนตร์ได้

 

 

ทั้งสองจึงจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะขับรถตรงไปยังโรงภาพยนตร์

 

 

เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว แต่ที่โรงภาพยนตร์ยังมีผู้คนเดินกันขวักไขว่

 

 

หลินเช่อสวมหน้ากากอนามัยและหมวกแก๊ปเพื่ออำพรางตัวขณะยืนมองผู้คนที่เดินผ่านไปมา กู้จิ้งเจ๋อก็แต่งตัวใหม่ให้สะดุดตาน้อยลง ความยากลำบากนี้ทำให้หลินเช่ออดรู้สึกผิดไม่ได้ เธอหันไปมองชายหนุ่มและถามว่า “กู้จิ้งเจ๋อคะ บอกหน่อยสิว่านี่ฉันสร้างปัญหาให้คุณอีกแล้วใช่มั้ยคะเนี่ย คุณคงจะไม่ชอบมาโรงหนังหรอกใช่มั้ยคะ”

 

 

ชายหนุ่มก้มลงมองเธอ ถึงแม้ว่าตัวคนพูดจะก่อปัญหาอยู่บ่อยๆ ก็จริง แต่เขาก็อดซึ้งใจกับคำพูดของเธอไม่ได้ เขาคิดว่าถึงหลินเช่อจะยังไม่หยุดก่อเรื่อง แต่ตัวเขาเองตอนนี้กลับไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องรับมือยากตรงไหนเลย

 

 

และไม่ว่าจะยังไง เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธคำขอร้องของเธอได้อยู่นั่นเอง ถึงแม้สมองของเขาจะสั่งว่าอย่า แต่หัวใจเขากลับรับปากเธอด้วยความเต็มใจ

 

 

“ใช่ ฉันไม่ชอบมาที่นี่ งั้นเรากลับกันดีมั้ย” เขาเอียงคอ แกล้งพูดแหย่เธอ

 

 

“ไม่เอานะ นะคะ สามีขา ดูหนังกับฉันเถอะนะคะ ได้โปรด สามีคนอื่นเขาก็ดูหนังกับภรรยาตัวเองเหมือนกัน

 

 

กู้จิ้งเจ๋ออยากหัวเราะแต่ก็พยายามทำหน้าตึงไว้ ตอนนี้เขาอยากจะเพลิดเพลินกับการได้ยินเสียงเธออ้อนวอนและเรียกเขาว่า ‘สามี’ เป็นที่สุด เขาอยากให้เธอพูดแบบนี้อยู่ตลอดเวลา

 

 

“สามีคะ สามีขา เห็นมั้ยคะ คิดซะว่ามันเป็นประสบการณ์ชีวิตสิคะ ถ้าท่านซีอีโอใหญ่ไม่รู้จักก้าวลงมาใช้ชีวิตแบบคนธรรมสามัญ แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงล่ะคะว่าคนทั่วไปต้องการอะไร นานๆ ปลอมตัวมาแบบนี้ซักที จะได้รู้ไงคะว่าคนอื่นเขาทำอะไรกัน”

 

 

ให้ตายสิ นี่มันเป็นตรรกะที่บิดเบี้ยวที่สุดที่เขาเคยได้ยินมาเลย

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยอมแพ้ “ก็ได้ งั้นไปซื้อตั๋วกัน”

 

 

เมื่อหลินเช่อได้ยิน เธอก็เริ่มเลือกภาพยนตร์ที่จะดูอย่างเบิกบานใจ

 

 

“คุณว่าเรื่องไหนดีคะ” เธอก้มหน้าง่วนอยู่กับรายชื่อภาพยนตร์

 

 

“อันที่จริงฉันไม่ค่อยคุ้นกับการดูหนังเท่าไหร่” เขาว่า

 

 

หลินเช่อถาม “คุณไม่ดูหนังเลยเหรอคะ”

 

 

“ฉันก็ชอบดูพวกหนังเก่าบ้าง แต่พวกใหม่ๆ นี่ไม่ได้ดูเลย เธอคิดว่าคนอื่นเขามีเวลาว่างแบบเธอรึไง ฉันไม่มีเวลาทำเรื่องพวกนี้หรอก ขนาดหนังเก่าๆ ฉันยังไม่ได้ดูมาร่วมสองปีแล้วเลย”

 

 

หลินเช่อเงยหน้ามองชายหนุ่ม ในชั่วขณะนั้นเองที่เธอรู้สึกว่าเขาน่าสงสารเหลือเกิน เขาคงจะเหนื่อยมาก

 

 

การจะเป็นซีอีโอใหญ่นี่ไม่ใช่ของง่ายเลยนะ

 

 

หลินเช่ออยากเลือกหนังต่อ แต่เธอเริ่มรู้สึกว่าเริ่มมีคนหันมองมาทางพวกเธอด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็นเสียแล้ว

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด