เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 319 เอาใจนายท่าน ทำให้ทุกคนประหลาดใจ
“เธอ…กู้จิ้งเหยียน!”
“ใช่ ฉันเป็นคนบอกฟู่เฉินซีเองนั่นแหละ ว่าเธอกับฉันเกิดควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วก็เผลอมีอะไรกันตอนที่ไปตั้งแคมป์ เพราะแบบนี้แหละถึงทำให้หล่อนหนีไป แต่คุณกล้าพูดเหรอว่าฉันแค่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาหลอกหล่อนน่ะ ลู่เป่ยเฉิน ยอมรับสิ่งที่ตัวเองทำหน่อย เป็นลูกผู้ชายหน่อยสิคะ!”
“กู้จิ้งเหยียน!” ลู่เป่ยเฉินกระแทกโทรศัพท์ตัดสายทิ้งทันที
กู้จิ้งเหยียนยังคงยืนอยู่ที่เดิม มือกำโทรศัพท์แน่น
ฟู่เฉินซีเคยกลับมาแล้วครั้งหนึ่ง และหล่อนก็ได้พบกับลู่เป่ยเฉิน แต่ตอนนั้นลู่เป่ยเฉินกำลังคบหาอยู่กับเธอ และออกเดตกันมาได้เดือนนึงแล้ว
ฟู่เฉินซีจึงจากไปโดยไม่ล่ำลาอีกครั้ง และตอนนี้ทั้งลู่เป่ยเฉินและฟู่เฉินซีก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง แถมยังได้รู้ถึงเหตุผลที่ทำให้ฟู่เฉินซีต้องหนีไปเป็นครั้งที่สองอีกต่างหาก
อันที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลยซักนิด กลุ่มเพื่อนสนิทกันในโรงเรียน เธอแอบชอบลู่เป่ยเฉิน แต่ก็ทำได้เพียงมองเขาอยู่ห่างๆ เท่านั้น
ลู่เป่ยเฉินและฟู่เฉินซีเดตกันจนกระทั่งเรียนจบ
อยู่ๆ ฟู่เฉินซีก็หายหน้าไปโดยไม่บอกไม่กล่าว ทำให้กู้จิ้งเหยียนมีโอกาสเข้าหาลู่เป่ยเฉิน
แต่ฟู่เฉินซีเกิดย้อนกลับมาและทำลายความสัมพันธ์ที่กำลังผลิบานระหว่างเธอกับลู่เป่ยเฉินลง
เธอจึงบอกกับฟู่เฉินซีว่า เธอและลู่เป่ยเฉินเป็นแฟนกันแล้ว ฟู่เฉินซีจึงจากไปพร้อมด้วยหัวใจที่แหลกสลายอีกครั้ง
และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงได้มีงานแต่งงานในวันนี้เกิดขึ้นได้
แต่เธอไม่คิดเลยว่า…
ฟู่เฉินซีจะกลับมาอีกครั้ง และคราวนี้ ลู่เป่ยเฉินก็ใช้ความจริงที่ยิ่งกว่าจริงข้อนั้นตบหน้าเธออย่างโหดร้าย
เขารักฟู่เฉินซี เขารักหล่อนมาโดยตลอด
ที่เธอมีโอกาสก็เพราะความประมาทไม่ยั้งคิดในช่วงเวลานั้นของลู่เป่ยเฉิน เธอเป็นเพียงตัวแทนของความรักที่หนีหายไปของเขาเท่านั้น…
แต่เรื่องเศร้าที่แท้จริงก็คือ ทั้งเธอและลู่เป่ยเฉินต่างก็เป็นคนที่เหมือนกันอย่างมาก ลู่เป่ยเฉินเป็นคนมุ่งมั่นปักใจในความรัก และเธอเองก็เช่นกัน เขาไม่มีทางที่จะยอมตัดใจจากฟู่เฉินซี เช่นเดียวกันกับที่เธอเองก็ไม่มีทางยอมตัดใจจากเขา
ลู่ชูเซี่ยไม่คาดคิดเลยว่าพี่ชายของหล่อนจะไม่มาปรากฏตัว
ตระกูลกู้นั้นรักกู้จิ้งเหยียนเป็นอย่างมาก เมื่อหญิงสาวอยากจะจัดการงานแต่งงานทุกอย่างด้วยตัวเอง พวกเขาก็ยอมแพ้และปล่อยให้เธอได้ทำตามใจ
แต่ก็อย่างว่า ไม่มีใครในประเทศซีนี้ที่กล้าทำเรื่องลบหลู่ตระกูลกู้ การเล่นตลกล้อเลียนกับตระกูลกู้แบบนี้ก็เท่ากับรนหาที่ตาย ตระกูลมีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะยอมตามใจลูกสาวของพวกเขา
ทุกคนพากันหันมองกู้จิ้งเจ๋อที่กำลังก้มหน้าอยู่เงียบๆ ท่าทางราวกับไม่สะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขายังคงสงบนิ่งไม่ไหวติง จนทุกคนอดไม่ได้ที่จะชื่นชม “สมกับเป็นตระกูลกู้จริงๆ พวกเขาไม่หวั่นไหวอะไรเลย”
พวกเขาไม่ได้กลัวว่าลู่เป่ยเฉินจะสลัดทิ้งกู้จิ้งเหยียน หรือการแต่งงานของกู้จิ้งเหยียนจะล้มเหลว พวกเขามีอำนาจมากพอที่จะมั่นใจได้ว่ากู้จิ้งเหยียนจะไม่มีวันสิ้นเนื้อประดาตัวหรือขาดคู่ครองที่เหมาะสม
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับงานแต่งงานในวันนี้ กู้จิ้งเหยียนก็ยังคงจะเป็นลูกสาวของตระกูลกู้อยู่นั่นเอง
รากฐานอันมั่นคงของตระกูลกู้ไม่มีทางที่จะสั่นคลอนได้เพราะงานแต่งงานในวันนี้
นี่คืออำนาจของตระกูลกู้ เพียงตระกูลเดียวในประเทศซีแห่งนี้เท่านั้นที่สามารถทำเช่นนี้ได้
และแล้ว ประมุขใหญ่ของตระกูลกู้ก็มาถึง
ใครคนหนึ่งประกาศการมาถึงของคุณปู่ตระกูลกู้ สายตาหลายคู่จึงพากันหันมามองโดยพร้อมเพรียง
แต่ด้วยความที่เขาเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง หลายคนจึงไม่ทันสังเกตเห็น มองเห็นก็แต่เพียงกลุ่มคนที่เดินชักแถวกันเข้ามาเป็นขบวนใหญ่ ไม่มีใครมองออกว่ากู้เซียนเต๋ออยู่ตรงไหน
เมื่อเห็นประมุขของตระกูลมาถึง บรรดาคนตระกูลกู้ก็ใจชื้น
แต่เพราะพวกเขาไม่เคยที่จะแสดงอารมณ์ใดๆ มากมาย ทุกอย่างจึงดูเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา ใครที่กำลังรอที่จะได้เห็นดราม่าใหญ่ก็ต้องพลอยหมดความสนใจไปในทันที ทุกคนจึงทำได้เพียงนึกยกย่องตระกูลกู้ที่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างหนักแน่นมั่นคง เรื่องขี้ผงเพียงเท่านี้ไม่ได้มีผลใดๆ ต่อครอบครัวมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่แห่งนี้แม้แต่น้อย ไม่มีเลยจนนิดเดียว
กู้เซียนเต๋อเดินเข้ามา มู่หว่านฉิงจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณพ่อ มาแล้วหรือคะ”
กู้เซียนเต๋อไม่เห็นกู้จิ้งเจ๋อจึงถามขึ้นว่า “แล้วจิ้งเจ๋อล่ะ”
“จิ้งหมิงเพิ่งมาถึงน่ะค่ะ เขาก็เลยออกไปรับจิ้งหมิง”
“โอ้ เสี่ยวเช่อ มาด้วยเหมือนกันรึ”
“ค่ะ”
“แล้วจิ้งเหยียนล่ะ” กู้เซียนเต๋อถามต่อ
มู่หว่านฉิงถอนหายใจ เธอไม่อยากทำให้ชายชราต้องเป็นทุกข์ จึงฝืนยิ้มและตอบว่า
“อยู่ข้างในค่ะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่ทางฝั่งเป่ยเฉินมีปัญหานิดหน่อย จิ้งเหยียนกับเป่ยเฉินคงตกลงกันแล้ว เป่ยเฉินก็เลยไม่มางาน ก็…หนุ่มสาวสมัยนี้น่ะค่ะ งานแต่งงานสำหรับพวกเขาก็เป็นแค่พิธีการเท่านั้น คิดอะไรไม่เหมือนคนรุ่นเราน่ะค่ะ”
กู้เซียนเต๋อพ่นลมออกทางจมูก “ฮึ ฉันรู้จักนิสัยเด็กคนนี้ดี”
มู่หว่านฉิงว่า “ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันค่ะ เป่ยเฉินไม่ใช่คนแบบนั้น ฉันชอบแกมาก แล้วแกก็เหมาะสมกับจิ้งเหยียนมากด้วย คงจะมีเหตุด่วนจริงๆ น่ะค่ะ ก็เลยมาไม่ได้”
“ใช่ ฉันเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” กู้เซียนเต๋อว่า ก่อนจะหันไปเห็นลู่ชูเซี่ยที่กำลังเดินตรงเข้ามาหา
ลู่ชูเซี่ยเห็นกู้เซียนเต๋อมาถึงได้ซักพักแล้ว
หล่อนดีใจมากทีเดียวเพราะโอกาสที่จะได้พบประมุขของครอบครัวนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หล่อนรู้ดีว่าปกติแล้วกู้เซียนเต๋อไม่ค่อยจะชอบหน้าหล่อนนัก
หญิงสาวรีบตรงเข้ามา แต่บอดี้การ์ดพากันขวางทางเธอเอาไว้จนกระทั่งกู้เซียนเต๋อร้องเรียกจากด้านในนั่นแหละว่า
“อ้าว นั่นชูเซี่ยนี่นา เข้ามาสิ เข้ามา”
ลู่ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้นมองบอดี้การ์ดที่กำลังห้อมล้อมเธอด้วยดวงตาเขียวปั้ด
ลู่ชูเซี่ยมองดูกู้เซียนเต๋อและพูดขึ้นอย่างนอบน้อมนุ่มนวลว่า “คุณปู่ ไม่ได้พบกันเสียนานเลยนะคะ”
กู้เซียนเต๋อยิ้ม “ใช่ ก็พวกหนุ่มๆ สาวๆ อย่างพวกนี้ก็เอาแต่งานยุ่งน่ะสิ จะไปมีเวลาเจอกันได้ยังไงล่ะ”
“พวกเราไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของคุณปู่ต่างหากล่ะคะ แต่นี่คุณปู่ยังดูกระฉับกระเฉงอยู่เลยนะคะ เหมือนไม่ได้เปลี่ยนไปเลยซักนิด”
“ฮ่าๆ แม่ชูเซี่ยคนนี้รู้วิธีพูดให้ฉันดีใจเสียจริง มาเถอะ หาเก้าอี้ให้ชูเซี่ยนั่งทีซิ มานั่งคุยกันหน่อย อย่ามัวแต่ยืนอยู่เลย”
สาวใช้รีบยกเก้าอี้มาให้หญิงสาวทันที
ลู่ชูเซี่ยยิ้มก่อนจะเหลียวมองไปรอบด้านอย่างผู้ชนะ
หล่อนมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะสามารถเอาชนะใจชายชราได้อย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงจะเสียชื่อสาวสังคมเบอร์หนึ่งของประเทศซีสิน่า
ประมุขตระกูลกู้พูดคุยกับลู่ชูเซี่ยอย่างเป็นกันเอง
หญิงสาวรู้วิธีพูดจาที่จะทำให้ชายชราต้องยิ้มปากจรดใบหู และเขาก็ฟังหล่อนอย่างตั้งอกตั้งใจเสียด้วย
ผู้คนที่นั่งอยู่โดยรอบพากันนึกอัศจรรย์ใจอยู่ลึกๆ ลู่ชูเซี่ยคนนี้เอาใจคนเก่งจริงๆ
สมแล้วที่หล่อนเป็นลูกสาวของตระกูลกู้ที่บ่มเพาะทักษะการเข้าสังคมมาตั้งแต่ยังเด็กๆ
และตอนนี้ ผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมาก็ชัดเจนแล้ว
ในเวลาเพียงไม่นาน หล่อนก็สามารถเกลี้ยกล่อมประมุขกู้ให้พอใจในตัวหล่อนได้เป็นอย่างดี
ลู่ชูเซี่ยรู้สึกได้ถึงสายตาริษยาที่จ้องมองมายังเธอ หญิงสาวรู้ดีว่ากำลังถูกจับตา เธอจึงยิ้มกราดกลับไปให้ทุกคน ก่อนจะกรีดนิ้วหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมา
“อ้อจริงด้วยค่ะคุณปู่ หนูมีบางอย่างจะมอบให้ค่ะ”
คอมเม้นต์