เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 317 ผู้หญิงของกู้จิ้งเจ๋อสวยกว่าลู่ชูเซี่ยซะอีก

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 317 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ลู่ชูเซี่ยรู้ตัวดีว่าตัวเองใช้คำพูดไม่ค่อยเข้าท่านัก จึงรีบฉีกยิ้มและบอกว่า “ใช่ค่ะ ใช่ค่ะ หนูก็แค่สงสัยเท่านั้นเองน่ะค่ะ เพราะพอได้เห็นหลินเช่อแล้ว รู้สึกว่าดูไม่ใช่สเป็กของพี่จิ้งเจ๋อเลย แล้วอยู่ๆ ก็ยังมาแต่งงานกันเงียบๆ อีก”

 

 

มู่หว่านฉิงหัวเราะและบอกว่า “การจะได้เจอคนที่เหมาะสมน่ะมันขึ้นอยู่กับโชคทั้งนั้นแหละจ้ะ ไม่มีใครรู้หรอกว่าคนสองคนจะเข้ากันได้ดีแค่ไหน ดูที่จิ้งเจ๋อหลงรักหลินเช่อเอามากๆ ตอนนี้ซิจ๊ะ แล้วจะบอกว่าเขาไม่ใช่สเป็กจิ้งเจ๋อได้ยังไงกัน”

 

 

ลู่ชูเซี่ยชะงักไปก่อนจะยิ้มอายๆ มู่หว่านฉิงเหลือบมองหญิงสาวแวบหนึ่ง สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเดินออกไป เธอไม่อยากพูดกับเด็กสาวคนนี้อีกต่อไปแล้ว

 

 

เป็นเพราะมู่หว่านฉิงชอบลู่เป่ยเฉิน เธอจึงพยายามที่จะทำตัวสุภาพกับลู่ชูเซี่ย แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าลู่ชูเซี่ยกำลังทำตัวเหมือนคนไร้ความคิด ที่พูดถึงหลินเช่อในแง่ไม่ดีแบบนั้น หล่อนมาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกันนะ นี่หล่อนสนใจในตัวจิ้งเจ๋องั้นเหรอ

 

 

มู่หว่านฉิงคิดถึงเรื่องนี้อยู่เพียงครู่เดียว ก่อนที่จะมีคนมาตาม เธอจึงรีบเดินเข้าไปภายในงาน

 

 

ลู่ชูเซี่ยกัดฟันแน่น เมื่อหันไปเห็นมารดาของตัวเองกำลังมีสีหน้าเป็นกังวลอยู่ ลู่ชูเซี่ยจึงเดินเข้าไปหา

 

 

“แม่คะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”

 

 

คุณนายลู่ตอบ “ก็พี่ชายตัวดีของแกน่ะสิ อยู่ๆ ก็หายตัวไปซะงั้น! ฉันกลุ้มใจจะแย่อยู่แล้ว แกยังจะมีหน้ามาเตร็ดเตร่ไปทั่วอยู่อีก”

 

 

ลู่ชูเซี่ยว่า “แม่คะ พี่เขาไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้วนะคะ เดี๋ยวเขาก็กลับมาเองนั่นแหละ แม่จะกังวลไปทำไม”

 

 

“ก็เพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานของเขาน่ะสิ แกไม่เห็นเหรอว่าในงานมีคนมากมายขนาดไหน แล้วจะไม่ให้ฉันร้อนใจได้ยังไง แล้วนี่แกจะรีบมาทำไมเนี่ย”

 

 

ลู่ชูเซี่ยตอบ “ก็หนูบอกแม่แล้วไม่ใช่เหรอ ว่าหนูสนใจกู้จิ้งเจ๋อ”

 

 

“ฉันว่าแกยอมแพ้ซะดีกว่า แม้แต่ฉันยังรับประกันว่าจะช่วยแกไม่ได้เลย ฉันได้ยินมาว่าลูกสะใภ้เขาแต่งเข้าตระกูลกู้มาได้พักใหญ่แล้ว ถ้าหล่อนสามารถแต่งงานกู้จิ้งเจ๋อได้ทั้งที่ไม่ได้มีฐานะทางสังคมดีเด่อะไร นั่นก็พิสูจน์ว่าพวกเขาต้องมีเหตุผลอะไรซักอย่างนั่นแหละที่ยอมรับหล่อนเข้ามาเป็นสะใภ้ แกไม่ควรจะเข้าไปยุ่งนะ”

 

 

“แม่คะ แม่ไม่รู้อะไร ที่แม่นั่นได้แต่งงานก็เพราะว่าบ้านตระกูลกู้เขาไม่ชอบโม่ฮุ่ยหลิง ก็เลยวางแผนให้กู้จิ้งเจ๋อต้องเลิกกับโม่ฮุ่ยหลิง ในเมื่อพวกเขาเลิกกันแล้ว คนอย่างนังหลินเช่อนั้นจะมาเทียบกับหนูได้ยังไงล่ะคะ หนูไม่เชื่อหรอกว่าจะมีใครในตระกูลกู้ที่ชอบนังหลินเช่อจริงๆ จนถึงกับจะยอมให้แม่นั่นขึ้นเป็นนายหญิงใหญ่ของตระกูลน่ะ หนูจะเข้าไปทำตัวให้เป็นคนโปรดของคุณนายกู้ แล้วก็ปู่ของเขา สุดท้ายแล้วเขาก็คือคนสำคัญที่จะตัดสินใจเรื่องทุกอย่างในครอบครัว ถ้าหนูสามารถเข้าไปเป็นคนโปรดของเขาได้ละก็ หนูก็จะมีโอกาสได้แต่งงานกับกู้จิ้งเจ๋อ ถ้าเป็นแบบนี้ ก็เท่ากับเราชนะศึกไปแล้วครึ่งนึงเลยนะคะ”

 

 

ลู่ชูเซี่ยพูดกับมารดาด้วยความภาคภูมิ “แม่คะ ดูหนูกับดูหลินเช่อสิคะ คนไหนที่คุณปู่ตระกูลกู้จะต้องชอบมากกว่ากัน”

 

 

นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ต้องตอบ

 

 

ลู่ชูเซี่ยมั่นใจในตัวเองอย่างที่สุด

 

 

เมื่อคุณนายลู่เห็นว่าคงไม่มีทางที่จะห้ามปรามบุตรสาว เธอจึงทำได้เพียงส่ายหน้า “ช่างเถอะ ฉันจะไปตามหาพี่ชายแกก่อนละ”

 

 

หลังจากนั้นลู่ชูเซี่ยก็ไม่ได้พูดอะไรกับแม่ตัวเองอีก หล่อนเหลียวมองไปรอบๆ แล้วก็ได้เห็นหลินเช่อกับกู้จิ้งเจ๋อ เขากำลังกุมมือเธอเอาไว้ การได้เห็นหลินเช่อยืนอยู่ข้างกายชายหนุ่มทำให้หล่อนยิ่งโมโห

 

 

ที่น่าหงุดหงิดยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ท่าทางหลินเช่อเองก็ไม่ได้ถูกความมีอำนาจของกู้จิ้งเจ๋อข่มเอาไว้จนดูหงอเมื่อยืนอยู่ตรงนั้นเสียด้วย

 

 

นังหลินเช่อ แกมีสิทธิ์อะไรมายืนอยู่ข้างกู้จิ้งเจ๋อแบบนี้

 

 

ที่ข้างตัวเธอ เธอได้ยินแขกในงานคนหนึ่งพูดขึ้น “คนสวยๆ ที่ยืนอยู่ข้างกู้จิ้งเจ๋อนั่นใครน่ะ”

 

 

“ไม่รู้เหมือนกัน แต่หล่อนสามารถยืนอยู่ข้างเขา แล้วก็พูดคุยกับคุณนายกู้และญาติพี่น้องคนอื่นๆ ได้ ก็แสดงว่าสถานะของหล่อนคงไม่ธรรมดาหรอก”

 

 

“อย่าบอกน่ะว่านั่นคือคนพิเศษของกู้จิ้งเจ๋อน่ะ หล่อนสวยจังเลย ยืนด้วยกันแบบนี้แล้วดูสมกันอย่างกับอะไรดี”

 

 

“ใช่ ชุดสีแดงนั่นดูสวยมาก มีข่าวลือบอกว่ากู้จิ้งเจ๋อกำลังคบหาอยู่กับคุณหนูลู่ จากตระกูลลู่ ตอนนั้นมีคนบอกด้วยซ้ำว่าพวกเขาอาจจะใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่ตอนนี้ดูท่าทางว่าจะไม่ใช่แบบนั้นเสียแล้ว ฉันว่านี่แหละตัวจริงละ”

 

 

“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน จะว่าไป คนนี้ก็ดูไม่ได้แต่งเนื้อแต่งตัวมากมายเหมือนคุณหนูลู่ แต่หล่อนกลับดูสวยกว่าคุณหนูลู่ซะอีกนะ”

 

 

“จริงด้วย หน้าหล่อนดูคุ้นๆ อยู่นะ ฉันว่าฉันเคยเห็นหน้าหล่อนที่ไหนมาก่อน”

 

 

“จริงเหรอ เธอจะบอกว่าเคยเห็นหน้าผู้หญิงที่กู้จิ้งเจ๋อควงมาก่อนน่ะเหรอจ๊ะ ฝันไปเถอะ”

 

 

“แต่จะยังไงก็เถอะ สถานะของเธอคงจะพิเศษไม่น้อยทีเดียวถึงได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นได้ ดูเอาเถอะ ว่าไม่ใช่ใครนอกจากคนในตระกูลกู้เลยที่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นเลยนะ”

 

 

ลู่ชูเซี่ยฟังแล้วร้อนใจ เธอกระแทกแก้วไวน์ในมือลงบนโต๊ะ

 

 

แล้วใครคนหนึ่งก็สังเกตเห็นลู่ชูเซี่ย คนทั้งกลุ่มรีบทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ประหนึ่งว่าพวกเขาไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะหันไปสนทนากันเรื่องอื่นแทน

 

 

ลู่ชูเซี่ยทำท่ารังเกียจ หล่อนเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดีก่อนจะเดินตรงเข้าไป

 

 

พวกนั้นกล้าดียังไงถึงมาบอกว่านังแพศยาชั้นต่ำอย่างหลินเช่อสวยกว่าเธอ

 

 

ตาบอดกันไปหมดแล้วหรือไงนะ

 

 

เมื่อหลินเช่อเห็นว่าเป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว แต่พิธีแต่งงานก็ยังไม่เริ่ม หญิงสาวจึงชักสงสัย

 

 

ผู้คนในงานต่างพากันมองมาที่พวกเธอ กู้จิ้งเจ๋อไม่มีท่าทีอะไร สีหน้าของเขาสงบนิ่งเป็นปกติ ซึ่งยิ่งทำให้แขกในงานยิ่งสับสน ทั้งรู้สึกว้าวุ่นและสงบใจในเวลาเดียวกัน

 

 

หลินเช่อเห็นว่าท่าทางทุกคนดูเหมือนจะกำลังรอดูท่าทีของกู้จิ้งเจ๋อ หญิงสาวจึงอดเป็นกังวลไม่ได้ เธอดึงเอวเขาเบาๆ แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงยังไม่เริ่มพิธีอีกล่ะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหันไปมองด้านนอกและบอกว่า “ไม่มีอะไรหรอก รอก่อนเถอะ”

 

 

หลินเช่อว่า “หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

 

 

“ถ้าลู่เป่ยเฉินกล้าเล่นตลกอะไรละก็ ตระกูลกู้ไม่มีทางปล่อยเขาไว้แน่ เพราะฉะนั้น ตอนนี้เราก็แค่รอก่อนเท่านั้น”

 

 

หลินเช่อได้ยินเช่นนั้นก็อดใจคอไม่ดีไม่ได้ หญิงสาวกัดริมฝีปากแล้วมองสีหน้าอันเย่อหยิ่งดุดันของชายหนุ่ม

 

 

แต่ที่น่าหงุดหงิดก็คือ ไม่ว่าเขาจะทำหน้าแบบไหน ก็ดูจะมีแววเย่อหยิ่งถือดีแบบนี้เป็นปกติอยู่เสมอ

 

 

แล้วมู่หว่านฉิงก็โผล่ออกมาจากด้านใน เธอรีบเดินตรงมา มองหน้ากู้จิ้งเจ๋อและบอกว่า “จิ้งเจ๋อ เกิดเรื่องแล้วละ”

 

 

หลินเช่อรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที

 

 

มู่หว่านฉิงพูดเบาๆ ว่า “พวกตระกูลลู่บอกว่าพวกเขาหาตัวลู่เป่ยเฉินไม่เจอ ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ลูกคิดว่างานแต่งงานคืนนี้…”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อชะงัก เขาดึงหลินเช่อให้เดินตามไปด้วย “มาเถอะ เข้าไปดูกันหน่อย”

 

 

หลินเช่อตกลง เธอรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีเอาเสียเลย จึงได้เพียงแต่พยักหน้าและเดินตามเขาเข้าไป

 

 

มู่หว่านฉิงเดินนำทั้งคู่เข้าไปก่อน กู้จิ้งเจ๋อและหลินเช่อตามหลังไป

 

 

ลู่ชูเซี่ยกำลังมองหากู้จิ้งเจ๋ออยู่พอดี เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้าไปด้านในหล่อนก็เริ่มรู้สึกร้อนใจขึ้นมา หญิงสาวนิ่วหน้า กัดฟันกรอดอย่างเกลียดชัง อยากจะพุ่งตามเข้าไปด้วย

 

 

แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ถึงประตู บอดี้การ์ดหลายคนก็ออกมาขวางเอาไว้เสียก่อน

 

 

ลู่ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้นมองด้วยความโมโห “พวกแก…นี่แกพวกแกจะทำอะไรน่ะ ไม่รู้หรือไงว่าฉันเป็นใคร ฉันลู่ชูเซี่ยนะ ให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้”

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด