ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 43
จิวโมไป๋แปลกใจเล็กน้อยที่เห็นหญิงสาวที่นี่ ก่อนที่จะเดินเข้าไป เมื่อเห็นพี่ชายกลับมา จิวเสวี่ยเหม่ยก็ลุกจากที่นั่ง วิ่งมารับน้ำผลไม้ไปดื่มอย่างรวดเร็ว
ถังซื่อเหยาหันมามองชายหนุ่มก่อนจะก้มหัวทักทายอย่างแผ่วเบา จิวโมไป๋จึงพยักหน้าตอบรับ บรรยากาศระหว่างพวกเขาอึดอัดเล็กน้อย เด็กสาวดื่มน้ำผลไม้เสร็จก็เอ่ยปากพูดขึ้น
“พี่ชายนี่ พี่สาวถังซื่อเหยา เมื่อวันก่อนพี่สาวมากินอาหารที่ร้านแล้วถามหาพี่ชายด้วย”
“ฉันขอขอบคุณ อีกครั้งที่นายได้ช่วยชีวิตคุณปู่ และขอโทษด้วยที่ฉันสืบข้อมูลของนายทั้งหมด”ถังซื่อเหยาก้มหัวขอโทษอย่างจริงใจ
“ไม่เป็นไร”จิวโมไป๋นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบรับ เขาไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะเขารู้ดีว่าถ้าอีกฝ่ายตั้งใจจะตามหาเขาจริงๆล่ะก็ ด้วยอำนาจของตระกูลถังมันง่ายนิดเดียว
“ฉันขอเชิญนายไปพบคุณปู่ได้ไหม คุณปู่อยากพูดขอบคุณนายด้วยตัวท่านเองจริงๆ”ถังซื่อเหยาถามขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความคาดหวัง
จิวโมไป๋ส่ายหน้าเบาๆ”ไม่ต้องขอบคุณฉันก็ได้ ฉันแค่บังเอิญไปอยู่ในเวลานั้นเท่านั้นเอง”
เมื่อถูกปฏิเสธอีกครั้ง ถังซื่อเหยาก็นิ่งเงียบไป ปกติเธอจะเป็นคนไม่ค่อยพูดกับคนไม่รู้จัก เมื่อมาพบกับจิวโมไป๋ที่ดูจะไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย ทำให้เธออึดอัดไม่รู้ว่าจะทำอะไร
“พี่สาวมาทำอะไรที่นี่เหรอ”จิวเสวี่ยเหม่ยถามขึ้น เมื่อเห็นว่าบรรยากาศอึมครึม
“พี่มาดูงานของครอบครัว”ถังซื่อเหยายิ้มตอบพลางจัดผมของเด็กสาวให้เข้าที่
เมื่อได้ฟัง จิวโมไป๋ก็เข้าใจทันที ว่าทำไมถังเทียนเหวิน ประมุขตระกูลถังถึงมาเสียชีวิตที่เมืองเทียนซูได้
เพราะว่าประมุขตระกููลถังและทายาทรุ่นหลาน มาร่วมงานทดสอบโลกเสมือนจริงครั้งที่ 5 นี่เอง ตระกูลถังมีบริษัทย่อยเกี่ยวกับโลกเสมือน ชื่อว่าบริษัทถังหยาง เป็นบริษัทโลกเสมือนอันดับที่ 2 ของประเทศ
แต่เมื่อถังเทียนเหวินเสียชีวิต สงครามต่อสู้แย่งชิงมรดกจึงเริ่มขึ้น บริษัทย่อยหลายแห่งได้รับผลกระทบ บริษัทถังหยางก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ต้องล้มสะลายลงอย่างน่าเสียดาย
พวกเขาพูดคุยกันอีกเล็กน้อย แต่ส่วนมากจะเป็นจิวเสวี่ยเหม่ยชวนคุยเสียส่วนใหญ่ ถังซื่อเหยาดูเป็นคนพูดน้อย มีมารยาท สมกับเป็นกุลสตรี เธอพูดยอมรับตรงๆว่าไปสืบประวัติของเขา แสดงว่าเธอรู้ว่าเขาเป็นคนพิการ ไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้
แต่เธอก็ยังมีทีท่าปกติ ไม่มีอาการณ์แสดงออกถึงความเยาะเย้ยดูถูก หรือ รังเกียจ เลยแม้แต่น้อย และยังเป็นคนเอ่ยขอโทษอย่างจริงใจ
“เหม่ยเหม่ย อยากเข้าไปเล่นในโลกเสมือนไหม”ถังซื่อเหยาลูบหัวเด็กสาวขณะถาม
“ไปๆ”เด็กสาวร้องอย่างกระตือรือร้น เธอหันมาขออนุญาติเขาด้วยดวงตากลมโต จิวโมไป๋เห็นแล้วใจอ่อนพยักหน้าเบาๆ ถังซื่อเหยาจึงจะพาพวกเข้าไป ในโซนชั้นในสุดมีพื้นที่ขนาดใหญ่ของบริษัทถังหยาง โดยรอบเต็มไปด้วยผู้คน ถังซื่อเหยาพาเดินผ่านเข้าไปโดยที่ไม่มีใครห้าม
ด้านในแบ่งเป็นส่วนแสดง ส่วนทดสอบ และส่วนต่างๆมากมาย และด้านในสุดมีห้องพิเศษสำหรับการทดสอบโลกเสมือนส่วนตัว ถังซื่อเหยาให้จิวเสวี่ยเหม่ย เข้าไปในโลกเสมือนในห้องส่วนตัว ที่มีแว่นตากระจกสีดำเข้มวางไว้
จิวเสวี่ยเหม่ยเข้าไปก้มหน้ามองด้วยความตื่นเต้น ถังซื่อเหยาเขาไปสอนวิธีใช้อย่างจริงใจ เธอดูเหมือนจะชอบเด็กสาวไม่น้อย
เวลาผ่านไปไม่นานเด็กสาวก็ออกจากโลกเสมือน ใบหน้าเด็กสาวระบายด้วยรอยยิ้มกว้าง แต่เธอก็ยังบ่นปวดหัวเล็กน้อย จิวโมไป๋จึงทั้งสองเดินออกมาจากห้องส่วนตัว
“เหยาเหยา เธอพาคนนอกเข้ามาในห้องทดสอบไม่ได้นะ”เสียงชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดดังขึ้น
จิวโมไป๋เหลือบมองใบหน้าอีกฝ่ายก็จำได้ทันที เป็นชายหนุ่มตระกูลถังที่เขาพบพร้อมกับถังซื่อเหยา
“เขาเป็นผู้มีประคุณที่ช่วยชีวิตคุณปู่ เขามีสิทธิ์ที่จะใช้งานพวกมันได้”ถังซื่อเหยาพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
ถังหมิงหยุนเดินมาด้านข้างถังซื่อเหยา จากนั้นเขาก็เหลือบมองจิวโมไป๋ด้วยหางตาก่อนที่จะทำท่าเหมือนพึ่งจำได้
“หือ…ที่แท้ก็เจ้าขยะนี่เอง”
จิวโมไป๋รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายรู้ประวัติของเขาแล้วว่าเขาไม่สามารถบ่มเพาะได้
“หึ ฉันว่าแล้ว ว่าแกต้องมาเกาะอิทธิพลของพวกเรา ตอนแรกทำเป็นไม่ต้องการอะไรตอบแทนสุดท้ายก็…เหอะ”ถังหมิงหยุนพูดปากพล่อยไม่หยุด
“อย่ามาว่าพี่ชายของฉันนะ!”จิวเสวี่ยเหม่ยทนไม่ได้ที่เห็นพี่ชายของเธอถูกดูถูก เธอร้องขึ้นมาด้วยความโกรธ
“หืม เด็กนี่เป็นใคร น่ารักดีนี่”ถังหมิงหยุนตาเป็นประกาย เมื่อเห็นใบหน้านารักของเด็กสาว เขาทำท่าเอือมมือออกมา
จิวโมไป๋ เอาตัวเข้ามาขวางไว้อย่างรวดเร็ว เขาทำเป็นเมินถังหมิงหยุน หันไปบอกลาถังซื่อเหยา
“ฉันต้องไปแล้ว”พูดจบเขาก็พาเด็กสาวออกทันที ไม่รอให้อีกฝ่ายพูด
“เฮ้! ฉันยังไม่บอกให้แกไปเลย หยุดเดียวนี้!”ถังหมิงหยุนชักสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะร้องออกคำสั่งเสียงดัง
จิวโมไป๋เมินเฉยไม่สนใจเดินหน้าต่อไป แต่ก่อนที่จะเดินออก ยามรักษาความปลอดภัยสองคน เข้ามาขวางไว้เสียก่อน
จิวโมไป๋ยิ้มเย็นชา หันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากับถังหมิงหยุนพร้อมกล่าวเสียงราบเรียบ
“นายต้องการอะไร”
“เหอะ…เป็นแค่ขยะพิการแท้ๆ แต่กล้าเมินฉันคนนี้”ถังหมิงหยุนยิ้มเย็น ก่อนพูดออกคำสั่งกับ ยามรักษาความปลอดภัย
“ตีมันแล้วโยนออกไปข้างนอก”
“ครับนายน้อย”ยามรักษาความปลอดภัยมองจิวโมไป๋อย่างดุร้าย พวกเขาทำท่าจะเข้าไปลงมือทำร้ายจิวโมไป๋
ดวงตาของจิวโมไป๋ส่องประกายวูบหนึ่ง เขากำหมัดแน่นเตรียมลงมือตอบโต้
“หยุดเดียวนี้! หมิงหยุนนายจะทำอะไร ลืมไปแล้วเหรอว่าเขาเป็นคนช่วยชีวิตคุณปู่นะ”ถังซื่อเหยาออกมาห้าม ยามรักษาความปลอดภัยที่กำลังเดินเข้ามาหยุดลง ส่งสายตามองไปทางถังหมิงหยุน
“ช่วยชีวิตคุณปู่แล้วยังไง มันทำเหมือนไม่เห็นหัวฉัน!!!”ถังหมิงหยุนคำรามเสียงดังด้วยความโกรธ
“ปล่อยเรื่องนี้ไปเถอะ”ถังซื่อเหยาพูดประนีประนอม
“หึ ให้มันกราบเท้าขอโทษฉันก่อน ฉันจะให้อภัย”ถังหมิงหยุนส่งสายตาเหยียดหยามไปให้จิวโมไป๋
“นายทำเกินไปแล้วนะ!”ถังซือเหยาพูดด้วยความโกรธ
“เหอะ…เกินไปยังไง เธออย่าลืมว่าพวกเราเป็นใคร พวกเราเป็นคนตระกูลถังอันสูงส่ง! กราบขอโทษพวกเรา มันสมควรที่จะรูสึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำ”ถังหมิงหยุนพูดอย่างมั่นใจ เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งจองหอง
แต่ก่อนที่เรื่องจะเลยเถิด ได้มีชายวัยกลางคนเดินเข้ามา
“ทำอะไรกัน เสียงดังออกไปถึงข้างนอก”
“ผู้อาวุโสกู่/ท่านอา”ถังซื่อเหยาและถังหมิงหยุนก้มหน้าเคารพพร้อมกัน
ผู้อาวุโสกู่โบกมืออย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะมองใบหน้าของจิวโมไป๋
“เธอคือคนที่ช่วยท่านผู้นำตระกูลสินะ ขอบใจเธอมาก นี่ถือว่าเป็นค่าตอบแทน”โดยไม่รอให้จิวโมไป๋ได้ตั้งตัว เขาก็ส่งเช็คเงินใส่มือของจิวโมไป๋ทันที โดยที่จิวโมไป๋ไม่ให้มีโอกาสได้ปฏิเสธ
“หลังจากนี่อย่ามาก่อกวนที่นี่อีก ไปได้แล้ว”ผู้อาวุโสกู่โบกมือไล่เหมือนปัดแมลงวัน อย่างกับว่ากำลังไล่สิ่งที่ไม่ใช่คนออกไป
จิวโมไป๋เงียบนิ่งไม่พูดอะไรออกมา เขาดึงมือจิวเสวี่ยเหม่ยเบาๆ เดินออกจากโซนของบริษัทถังหยาง ตอนนี้ใบหน้าของจิวโมไป๋เรียบเฉยเย็นชาจนหน้ากลัว จนทำให้จิวเสวี่ยเหม่ยต้องเดินตามเงียบๆไม่กล้าพูดอะไร
เดินออกจากงานจิวโมไป๋ฉีกเช็คเงินเป็นชิ้นๆโยนลงถังขยะข้างๆ ในตอนนี้เขากำลังโกรธถึงขีดสุด แต่เพราะความแข็งแกร่งและพื้นหลังของเขาอ่อนแอ ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรได้
เขาต้องก้มหน้ายอมรับการถูกดูถูกดูแคลนเพียงเท่านั้น…
…
“ผู้อาวุโสกู่ ทำแบบนั้นได้ยังไง คุณก็รู้ว่าคุณปู่อยากจะพบตัวเขาเพื่อขอบคุณ”ถังซื่อเหยาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาไร้ความรู้สึก แตกต่างจากหญิงสาวเรียบร้อยอ่อนโยนก่อนหน้านั้นโดยสิ้นเชิง บรรยากาศโดยรอบดูเหมือนจะลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสกู่หลบสายตาไม่กล้ามองตรงๆ ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ
“คุณหนูก็รู้ว่าเขาเป็นแค่คนพิการบ่มเพาะพลังไม่ได้ ที่เขารักษาท่านประมุขได้นั้น เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ ในวันที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินยืนยันแล้วว่าอุปกรณ์ตรวจสอบของพวกเขาเสีย ทำให้ตรวจสอบผิดพลาด และมันเป็นเรื่องบังเอิญที่เด็กหนุ่มคนนั้น เข้าไปทำการช่วยเหลือพอดี ทำให้เขาพบว่าหัวใจของท่านผู้นำตระกูลยังเต้นอยู่”
ถังซื่อเหยานิ่งเงียบครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินออกไปทางประตูหลังโดยไม่พูดอะไร
เหลือผู้อาวุโสกู่และถังหมิงหยุนถอนหายใจโล่งอก
“ท่านอา ท่านไม่น่าจะปล่อยมันไปง่ายๆแบบนั้นเลย อย่างน้อยเราน่าจะข่มขู่ให้มันปิดปากเงียบ”ถังหมิงหยุนกระสับกระส่ายเล็กน้อยขณะพูด
“หึ ขยะแบบนั้นจะสามารถแก้ยาพิษอุดตันโลหิตได้ยังไง ข้าคิดว่า ถังเทียนเหวิน กินยาพิษเข้าไปเพียงเล็กน้อย ทำให้ยาพิษอุดตันไม่ออกฤทธิ์เต็มประสิทธิ์ภาพ เจ้าเด็กนั้นมันบังเอิญตรวจพบการเต้นหัวใจเข้าพอดีเท่านั้นเอง มันไม่มีทางรู้หรอกว่าถังเทียนเหวินถูกวางยาพิษ”ผู้อาวุโสกู่ไม่ยอมรับว่า คนพิการที่ไม่สามารถบ่มเพาะพลังได้ จะสามารถแก้พิษอุดตันโลหิตได้
ผู้อาวุโสกู่นิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้น
“เจ้าพึ่งจ้างแก๊งเล็กๆ ไปทำร้ายพนักงานที่เจ้าพึ่งไล่ออกไม่ใช่หรือ จ้างให้มันไปจัดการเด็กโชคดีนั้นอีกคน และบอกให้มันปิดปากเงียบซะ”
“ครับ ท่านอา”ถังหมิงหยุนตอบรับเสียงเบา
คอมเม้นต์