ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 55

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ ตอนที่ 55 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
โชคชะตาเริ่มบรรจบ

จิวโมไป๋ท่องเคล็ดบ่มเพาะจิตวิญญาณ หัวใจพิสุทธิ์อย่างรวดเร็ว เพื่อสงบจิตใจ

“คุณ… ตำรวจจ้าว ผมเคยพบคุณมาก่อน… เมื่อไม่กี่วันก่อนคุณได้เข้าไปที่หอพักนักศึกษาชายมหาวิทยาลัยเทียนซู และคุณได้พาตัวพี่น้องของของผมสามคน ไปสอบสวนเรื่องเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ ผมติดต่อพวกเขาไม่ได้เลย ตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้างครับ?”จิวโมไป๋รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว แทบไม่ทิ้งจังหวะหายใจ

“ตำรวจจ้าว?”เถ้าแก่จ้าวพูดแทรกขึ้นอย่างงุนงง

หญิงสาวนิ่งเงียบไปคู่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินลงมาถึงชั้นล่าง

“นายเป็นเพื่อนร่วมห้องกับสามคนที่ฉันพาตัวไป? ตอนนี้พวกเขากำลังถูกสอบสวนอยู่ พรุ่งนี้ก็ถูกปล่อยตัวกลับไปได้แล้ว”หญิงสาวใช้ดวงตาคมสบตากับจิวโมไป๋ ก่อนที่จะพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย

“ฉันไม่ได้เป็นตำรวจ อย่าพูดอะไรที่เป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างนั้นอีก”

จิวโมไป๋ก้มหน้าหลบสายตา พร้อมลูบหัวเบาๆ ท่าทางเหมือนเด็กหนุ่มธรรมดาสามัญ

“ขอโทษที่เข้าใจผิดครับ”

หญิงสาวหันหน้าไปอีกทางไม่สนใจเขาอีก เธอเดินไปหาเถ้าแก่จ้าว ก่อนที่จะส่งหยกแกะสลักนกกระเรียนสีขาวบริสุทธิ์ เป็นรูปแกะสลักที่มีลายละเอียดปราณีตบรรจง งดงามกว่าหยกแกะสลักปลาคู่หนึ่งระดับ

“เยี่ยมจริงๆ ฝีมือแกะสลักของหลาน พัฒนาขึ้นอีกขั้นแล้ว ตอนนี้ฝีมือหลานอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญแล้วนะ”เถ้าแก่จ้าวลูบคลำหยกแกะสลักอย่างเบามือ ปากก็เอ่ยชื่นชมไม่ขาด

“คุณปู่ก็พูดแบบนี้มาตลอด หนูยังต้องพัฒนาอีกมาก คุณปู่ชี้ข้อบกพร่องมาตามตรงเถอะ หนูจะได้เอาไปแก้ไข”หญิงสาวส่ายหัวเล็กน้อย ก่อนที่จะขอคำชี้แนะจากเถ้าแก่จ้าว

ทั้งสองคนพูดคุยกันไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจจิวโมไป๋อีก เขาก็ถอนหายใจโล่งอก เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจเขาแล้ว ก็คิดจะขึ้นไปชั้น 2

แต่อยู่ๆก็มีเสียงเปิดประตูจากนอกร้าน เรียกสายตาจากคนทั้งหมดให้หันไปมองอย่างช่วยไม่ได้

เสียงฝีเท้าหนักแน่นมั่นคงดังขึ้น พร้อมเงาร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ

เป็นชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหล่าคมคาย คิ้วคมเข้มดุจกระบี่ ทำให้ชายหนุ่มดูน่าเกรงขามดุจกระบี่อันคมกริบที่กำลังถูกชักออกจากฝัก เสื้อคลุมสีขาวสะอาดตัวยาวโบกสบัดไปมาตามจังหวะการก้าวเดิน ขับเน้นให้ชายหนุ่มดูสูงส่งเหมือนเซียนกระบี่ ในนิยายหรือละครกำลังภายใน

จิวโมไป๋ยืนตะลึงอย่างไม่อาจระงับสติได้ เมื่อเขาเห็นเข็มขัดของอีกฝ่าย เป็นกระบี่สีขาวสะอาดพันรอบเอวจนเหมือนเข็มขัดธรรมดา

กระบี่อ่อนหิมะบิน!

หญิงสาวเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามา เธอก็พยักหน้าเล็กน้อย

“นายพักก่อนก็ได้ เดียวฉันจะออกไปหาคนต่อเอง”

“เฮ้อ หาคนแค่คนเดียว มันยุ่งยากน่าเบื่อจริงๆ”ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับ ก่อนที่จะเดินก้าวยาวๆ ไปนั่งทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ยกสูง ข้างๆเถ้าแก่จ้าว พร้อมหยิบหยกแกะสลักที่วางอยู่ขึ้นมา โยนเล่นสลับไปมา

จิวโมไป๋คิ้วกระตุก สมองดูเหมือนจะลัดวงจรกะทันหัน

“เจ้าเด็กบ้า! วางลงเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะตีแกจนตาย!”เถาแก่จ้าวโกรธจนเคราขาวกระตุก เขาคว้าแย่งหยกกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาใช้ผ้าสะอาดเช็ดหยกอย่างหวงแหน ก่อนตวัดตาดุเดือดส่งไปให้

แต่ชายหนุ่มดูเหมือนจะไม่สนใจ เขานั่งเท้าคางอย่างเบื่อหน่าย พลางห้าวปากกว้าง ตาปรือลงเล็กน้อยเหมือนจะหลับ จากท่าทางของผู้สูงส่ง กลายเป็นชายหนุ่มที่แสนเกียจคร้านไปในพริบตา

จิวโมไป๋ยืนอึ้งเหมือนถูกแช่แข็ง ในใจโห่ร้องอย่างไม่เชื่อสายตา บอกฉันหน่อยเถอะ ว่าคนๆนี้ไม่ใช่ คนในตำนาน จี้หยางเฟย!

แม้อีกฝ่ายจะดูหนุ่มเพราะอายุยังน้อย แต่เขาก็เคยเห็นรูปภาพและรูปปั้นแกะสลักของอีกฝ่าย อยู่บ่อยครั้งตามสถานที่สำคัญในโลกและมิติต่างๆ เพราะมีคนจำนวนมากสร้างอนุสาวรีย์ชื่นชมความสามารถและความดีที่อีกฝ่ายได้สร้างเอาไว้ พร้อมประวัติอันทรงเกียรติที่เขียนบรรยายจนยาวเหยียด จนผู้ที่อ่านรับรู้ว่า จี้หยางเฟย เป็นสุดยอดอัจฉริยะในรอบพันปี ที่มีใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพเซียน และมีบุคลิกของราชัน เขาได้ให้ความช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก ในสถานที่ต่างๆ สมแล้วกับที่ถูกเรียกว่าเป็นตัวเอกในนิยายอย่างแท้จริง

แต่คนที่นอนเฉื่อยแฉะ อยู่นั้นคือใคร?

จิวโมไป๋รีบระงับสติลงอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เขาบ่มเพาะจิตวิญญาณ หัวใจพิสุทธิ์ ทำให้เขาสามารถระงับอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้จิตใจให้สงบได้อย่างรวดเร็ว

ไม่อย่างนั้นเขาคงโห่ร้องออกมาอย่างตื่นเต้นตั้งแต่ได้เห็น จี้หยางเฟยตัวจริง

เพราะอีกฝ่ายเป็นแบบอย่างของเขาและผู้คนบนโลกเลยก็ว่าได้ ในชาติที่แล้วเหมือนโชคชะตาจะไม่ให้เขาได้มีโอกาส พบกับอีกฝ่ายด้วยตัวเองเลยซักครั้ง

เมื่อระงับความตื่นเต้น ตั้งสติได้แล้ว เขาก็ค่อยๆหันหลังและเดินขึ้นไปชั้นที่ 2 โดยไม่มองย้อนกลับไปอีก เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง

ดูเหมือนว่าจี้หยางเฟยและหญิงสาว กำลังมองหาใครบางคน ซึ่งการที่พวกเขามาตามหาคนๆนั้น ที่ตลาดสมุนไพรเทียนไห่ มีโอกาศมากกว่า 90% ที่พวกเขากำลังตามหา นักปรุงยาอัจฉริยะอายุน้อย เตาหลอม 9 สุริยัน…

จิวโมไป๋ลอบหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบ มันเป็นสถานการณ์ที่ย้ำแย่ที่สุด กว่าที่ตัวเขาจะคาดคิด เขาวางแผนจะทำเป็นเนียน ไม่รู้เรื่องรู้ราว แม้จะหลอกใครไม่ได้ แต่ทำให้สับสนก็ยังดี เพราะเขาต้องซื้อเตากลั่นโอสถโบราณ แม้เขาจะไม่อาจซื้อสมุนไพรแบบเปิดเผยให้ใครได้เห็น แต่เขาก็ต้องซื้อเตากลั่นโอสถโบราณมาให้ได้

เพราะเขาต้องออกนอกเมืองไปหาประสบการณ์ต่อสู้ในป่า เมื่อเขาพบสมุนไพรเขาจะสามารถกลั่นโอสถได้ โดยไม่ต้องเสียเวลากลับเข้าเมืองอีก และมันลดความเสี่ยงที่สถานะของเขาจะถูกเปิดเผย

แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะเล่นตลก เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอคนขององค์กรลับ 2 คนที่กำลังตามหาเขาอยู่พอดีที่นี่ได้ และยังเป็นสุดยอดหัวกระทิขององค์กรอีกด้วย

เมื่อเดินขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว ให้เขายอมรับว่าเป็นนักปรุงยาอายุน้อย

เขาอาจจะได้เข้ารวมองคฺ์กรลับในทันที แต่มันเป็นการกระทำที่ดูเหมือนจะดี แต่…เขาไม่อยากเข้าองค์กรลับ ในฐานะนักปรุงยา เพราะเขาเคยเข้าไปในตำแหน่งนั้นมาก่อนในชาติที่แล้ว ทำให้เขารู้ดีว่าถึงแม้สถานะของเขาจะสูงมากในองค์กร

แต่มันทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ นักปรุงยาถือว่าเป็นสมบัติขององค์กรเลยก็ว่าได้ ทำให้พวกเขาไม่อาจออกไปเสี่ยงทำภารกิจนอกองค์กรได้ ทำให้เขาเลื่อนยศได้ช้า และการปรุงยาอยู่ในองค์กรอย่างเดียวมันไม่สามารถเพิ่มประสบการณ์ต่อสู้ให้แก่ตัวเองได้ มันทำให้แผนสร้างความแข็งแกร่งที่เขาวางไว้เป็นการเสียเปล่าอย่างแท้จริง

เขาวางแผนที่จะเลื่อนยศในองค์กรอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างฐานอำนาจให้ตัวเองก่อนที่จะยึดครองมิติต่างๆ จึงยังไม่พร้อมที่จะเข้าองค์กรในตอนนี้ เขายังมีโอกาศอีก 3 เดือนข้างหน้า ถ้าเขาสามารถทำตามแผนได้สำเร็จ เขาจะมีฐานะในองค์กร 2 อย่างคือ ผู้บ่มเพาะอัจฉริยะ และ นักปรุงยาอัจฉริยะ ตำแหน่งของเขาจะสูงขึ้นอย่างน่ากลัว

จิวโมไป๋ก็ค่อยๆสงบสติอารมณ์พร้อมปลอบใจตัวเอง อย่ารีบร้อนค่อยๆทำตามแผน แม้จะเสี่ยงไปบ้างแต่มันจะทำให้อนาคตของเขามั่นคง

ก่อนที่เขาจะคิดขึ้นมาด้วยความสงสัย ว่าทำไมตั้งแต่เขาย้อนเวลากลับมา เขาถึงต้องพบคนตระกูลถังอยู่เสมอ?

เดินหาแร่อยู่พักใหญ่ เขาก็เลือกแร่ที่สามารถเอาไปใช้ได้จนหมดชั้น 2 มีแร่แปลกๆเป็นจำนวนมาก ที่มีประโยชน์ไม่น้อย โดยเฉพาะแร่สะเก็ดดาราห้วงมิติ เป็นหินอุกกาบาตที่ตกลงมาจากฟ้ามาบนโลกเมื่อหลายแสนปีก่อน ทำให้ลักษณะภายนอกของมันเหมือนก้อนหินสีน้ำตาลธรรมดา แต่เมื่อโลกได้มีพลังธรรมชาติหนาแน่นขึ้น มันจึงเกิดการพัฒนาขึ้นและแฝงไปด้วยคุณสมบัติมิติ

แร่สะเก็ดดาราห้วงมิติเป็นอีกเป้าหมายหนึ่ง ที่เขาต้องเสี่ยงกลับมาที่ตลาดสมุนไพรเทียนไห่ เพราะเขาสามารถนำมันไปสร้างแหวนมิติเก็บของได้…

เขามองสำรวจกองแร่ต่างๆ เขาสามารถรู้ได้ว่ามันมาจากทั่วสารทิศ เถ้าแก่จ้าวจะต้องมีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

และหลานสาวของเถ้าแก่จ้าว มีอายุมากกว่า จี้หยางเฟย แค่ประมาณ 1 ปี แต่ระดับการบ่มเพราะอยู่ที่ ขั้นที่ 5 กระดูกกลางเท่ากัน บ่งบอกถึงพรสวรรค์ที่ยอดเยียมของเธอได้เป็นอย่างดี

แต่น่าแปลกที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของเธอมาก่อน หรือว่าเธอได้เสียชีวิตก่อนที่จะแสดงผลงานอันรุ่งโรจน์ให้คนอื่นได้จดจำ ถ้าเป็นอย่างที่คิดก็น่าเศร้า ที่โลกได้สูญเสียผู้มีพรสวรรค์ไปหนึ่งคน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด