ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 119
ออกจากเขตเศรษฐกิจ จิวโมไป๋โบกรถโดยสารไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
เมื่อไปถึง ยังไม่ทันได้ก้าวลงจากรถ เสียงแหลมสูงดังออกมาจากด้านใน จิวโมไป๋ชะงักเล็กน้อย และเดินเข้าไป เขาเห็นชายหัวล้านและลูกน้องกำลังยืนนิ่งเงียบ แต่มือกำหมัดแน่น ใบหน้าของพวกเขาดูว่างเปล่า
“เงินที่พวกเธอยืมไป ฉันก็ไม่คิดจะทวงหรอกนะ แต่อย่างน้อยเงินดอกเบี้ยพวกเธอก็ต้องจ่าย นี่มัน 4 เดือนแล้ว ที่พวกเธอไม่ได้จ่ายเงินฉัน”
หญิงวัยกลางคนใส่ชุดหรูราคาแพง ด้านข้างมีบอดีการ์ด 4 คนยืนคุ้มกัน
ชายหัวล้านเงียบไม่พูดอะไร
“ฉันก็ไม่เป็นคนใจร้ายอะไร แต่เพราะเงินที่เธอยืมไป เมื่อรวมกับดอกเบี้ยทบต้นแล้ว… มันไม่น้อยเลย ฉันไม่แน่ใจว่าเธอจะสามารถหาเงินมาคืนได้ในเร็วๆนี้”หญิงวัยกลางคนยิ้มที่แฝงความโลภออกมาเล็กน้อย“เอาอย่างนี้เป็นไง ฉันจะช่วยเธอขายที่นี่ให้ ในราคาที่แพงกว่าราคาตลาด เงินส่วนหนึ่งเอามาชดใช้หนี้คืนให้ฉัน อีกส่วนเธอก็ไปหาที่อยู่ใหม่ เงินที่เหลือก็เอาไปลงทุนทำเงินเพิ่ม เป็นยังไง? พวกเธอมีแต่ได้กับได้”
“ผมไม่ขายที่นี่”ชายหัวล้านเงยหน้าขึ้นมาปฏิเสธเสียงแข็ง
ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนแข็งไปครู่หนึ่ง เธอก็ยิ้มเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ อย่าหาว่าฉันใจร้ายเลย”หญิงวัยกลางคนหันไปทางบอดีการ์ดด้านหลัง บอดีการ์ดพยักหน้า ทำท่าจะเดินเข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า“ตามกฎหมายฉันสามารถเอาทรัพยสิทธิของเธอ มาแลกเป็นเงินที่เธอติดหนี้ฉันได้”
ชายหัวล้านทำท่าจะขยับตัวเพื่อป้องกันไม่ให้บอดีการ์ดเข้าไป แต่ก็ต้องห้ามปรามตัวเอง ไม่ใช้เพราะเขากลัว แต่เพราะเขาไม่สามารถห้ามอีกฝ่ายได้ เพราะเขาไม่มีเงินจ่ายค่าดอกเบี้ยอีกฝ่ายจริงๆ
“หยุด! พวกเขาติดหนี้เท่าไหร่ฉันจะจ่ายให้เอง”จิวโมไป๋พูดเสียงดัง ขณะเดินเข้าไปยืนด้านหย้าชายหัวล้าน
หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วไม่พอใจขณะมองจิวโมไป๋
“เธอเป็นใคร? ทำไมต้องเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่น”
“ฉันเป็นใคร มันสำคัญกว่าเงินที่ฉันจะจ่ายหนี้หรือไง?”จิวโมไป๋ยิ้มแผ่วเบา สายตาจ้องมองหญิงวัยกลางคน
หญิงวัยกลางคนชะงักเล็กน้อย ก่อนจะซ่อนสีหน้าอย่างรวดเร็ว เธอหันไปทางชายหัวล้าน แต่ชายหัวล้านทำเป็นมองไปทางจิวโมไป๋ หญิงวัยกลางคนขบฟันไม่พอใจ สุดท้ายเธอก็หันมายิ้มให้จิวโมไป๋
“พวกเขาติดเงินทั้งหมด 765,000เครดิต ถ้าเธอมีเงินพอ เธอสามารถจ่ายเงินชดใช้หนี้ได้เลย”ดวงตาของหญิงวัยกลางคนฉายแววระแวงสงสัย
จิวโมไป๋ไม่เสียเวลาแม้แต่น้อย เขากดกำไลข้อมือไม่กี่ครั้ง โอนเงินให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
หญิงวัยกลางคนซ่อนความไม่พอใจ เธอกดที่สัญญาหนี้สินของเธอ ส่งไปให้ชายหัวล้านที่เป็นลูกหนี้เซ็น
เมื่อเสร็จแล้ว เธอก็จากไปทันที โดยไม่แม้แต่หันกลับมามอง
“เข้าไปพูดกันข้างใน”จิวโมไป๋หันไปพูดกับชายหัวล้าน และเดินเข้าไปในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า
ทางด้านหญิงวัยกลางคน เมื่อเธอกลับมาที่รถหรูของเธอ เธอหันไปทางบอดีการ์ดด้านข้าง
“ไปสืบมาว่าเจ้าเด็กนั้นเป็นใคร!”
“ครับ”บอดีการ์ดพูดรับคำก่อนจะกดกำไลข้อมือของตัวเอง
หญิงวัยกลางคนเข้าไปนั่งในรถแล้วกดโทรออก
“ที่รัก มีคนช่วยชำระหนี้ของบ้านหลังนั้นไป…”
ในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กๆอายุไม่กี่ขวบ หกหรือเจ็ดคน กำลังเล่นกันอยู่ในห้องโถงใหญ่ แม้ว่าจะไม่มีของเล่นมากนักพวกเขาก็เล่นกันอย่างมีความสุข จิวโมไป๋ยิ้มเล็กน้อย
“เด็กที่อายุมากกว่านี้ พวกเขาอยู่โรงเรียนกันหมดครับ”ชายหัวล้านพูดอย่างแผ่วเบาด้านข้าง“เพราะต้องจ่ายค่าเรียน ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมาก พวกเราเลยไม่สามารถเก็บเงิน ชดใช้หนี้ได้”
จิวโมไป๋พยักหน้า
ชายหัวล้านก้มหัวอีกครั้ง และพูดด้วยเสียงอันหนักแน่น“ผมขอบคุณอีกครั้ง ที่คุณช่วยพวกเรา ผมติงซ่งหลี่สัญญาว่าจะชดใช้คืนให้หมด”
จิวโมไป๋หันกลับมามองชายหัวล้าน“หนี้ที่ฉันจ่ายให้ไปนายไม่ต้องชดใช้คืนให้ฉัน เพราะมันเป็นเงินบริจาคช่วยเหลือเด็กๆ”จิวโมไป๋มองไปทางลูกน้องของชายหัวล้าน ที่บางคนยังเป็นวัยรุ่นอายุน้อยอยู่“แม้การหาเงินของนายจะทำผิดกับคนอื่น แต่ฉันเห็นว่านายเป็นคนดีคนหนึ่ง ถ้านายยังอยู่ที่นี่ สุดท้ายก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี่ต่อไป แล้วเด็กๆพวกนี้ในอนาคต จะต้องเดินตามรอยเท้าของนาย ทำไมนายไม่ขายที่นี่ตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอก และย้ายไปที่อื่น”
ชายหัวล้านก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด เพราะเขารู้ว่าที่จิวโมไป๋พูดมานั้นถูกต้องทั้งหมด แต่ที่เขาไม่ยอมจากไปเพราะสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนี้เป็นของ ผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเขามา แม้ท่านจะจากไป เขาก็จะสานต่อเจตนารมของท่านไว้ เขาจะช่วยเหลือเด็กๆที่ถูกทอดทิ้งหรือเด็กที่ไร้ญาติ เขาจะช่วยให้พวกเขาโตมาเป็นคนที่ดี
แต่โชคร้ายสภาพแวดล้อมของที่นี่แย่เกินไป ทำให้เด็กๆได้รับผลกระทบ แม้เขาจะสอนได้ดีแค่ไหนก็ตามแต่สุดท้ายเด็กบางคนก็ออกนอกลู่นอกทาง บางคนโชคดีได้รับอุปการะจากครอบครับที่ดี คนที่เหลือก็กลายเป็นลูกน้องของเขาที่คอยช่วยเหลือเด็กรุ่นต่อๆไป
จิวโมไป๋มองชายหัวล้านเล็กน้อยก่อนพูดชักชวนอีกฝ่าย
“นายสนใจมาช่วยงานฉันไหม? นายไม่ต้องขายที่นี่ เก็บมันไว้อย่างนี้ แต่นายและเด็กๆย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อช่วยงานฉัน”
“งานอะไรเหรอครับ”ชายหัวล้านเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสนใจ
“ฉันจะเปิดโรงฝึกการต่อสู้เล็กๆ ที่หมู่บ้านใบไม้ร่วง แม้ว่ารากฐานของนายจะอ่อนแอ แต่ฉันสามารถช่วยปรับปรุงการต่อสู้ของนายและลูกน้องของนายได้ จากนั้นฉันจะให้พวกเขาเป็นผู้ช่วยในโรงฝึก ส่วนเด็กๆ ที่หมู่บ้านใบไม้ร่วงมีโรงเรียนตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยม ไม่มีปัญหาเรื่องการเรียนของพวกเขาแน่ นอกจากนั้นเด็กๆก็สามารถฝึกการต่อสู้ที่โรงฝึกได้”
ที่หมู่บ้านใบไม้ร่วง จิวโมไป๋ซื้ออาคารจำนวนนวนมาก หนึ่งในนั้นเหมาะสำหรับสร้างเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและเป็นโรงฝึกการต่อสู้
ในอนาคตเมื่อพลังธรรมชาติพลุ่งพล่าน จะมีคนจำนวนมากเสียชีวิต แม้เขาจะช่วยให้คนของประเทศมังกรแข็งแกร่งขึ้น แต่ในช่วงเวลาหายนะ ต้องมีผู้เสียชีวิต เด็กที่สูญเสียครอบครับจะมีจำนวนมาก สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เขาสร้าง เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ
สำหรับโรงฝึกการต่อสู้ เป็นประตูแรกสำหรับการรับเข้าสู้สำหนักที่เขาจะสร้างในอนาคต
แม้ว่าหมู่บ้านใบไม้ร่วงจะมีประตูมิติเปิด 3 แห่ง แต่ในอนาคตจะมีค่ายทหารและบริษัทรักษาความปลอดภัยถูกสร้างขึ้นที่นั้น ทำให้ความปลอดภัยของหมู่บ้านใบไม้ร่วงสูงมาก การสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่นั้นถือว่าเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด
เขาเห็นการกระทำของกลุ่มชายหัวล้านที่รักเด็ก และมีความรับผิดชอบ แม้วิธีหาเงินจะผิด เขาสามารถสอนอีกฝ่ายให้กลับมาอยู่ในระเบียบได้
คอมเม้นต์