ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 129
ร่างกายของจิวโมไป๋สั่นสะท้านเบาๆ ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้น จิวโมไป๋ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เขายืนครุ่นคิดเล็กน้อย ไม่นานก็เข้าใจ แม้ว่าทะเลปราณของตำหนักยุทธแต่ละหลังจะแยกจากกัน แต่ร่างกายของเขามีเพียงหนึ่งเดียว ทำให้บ่มเพาะตำหนักยุทธหลังที่ 2 จะไวกว่าการบ่มเพาะตำหนักยุทธหลังแรก
เมื่อร่างกายได้พัฒนาความแข็งแกร่งขึ้น ตามระดับการบ่มเพาะพลังก่อนหน้า การบ่มเพาะตำหนักยุทธหลังที่ 2 จะเป็นแค่การเพิ่มจำนวนทะเลปราณภายในทะเลสติ มันไม่ได้ช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกายมากนัก
แต่ที่จิวโมไป๋แปลกใจ เพราะการทะลวงผ่านสองขั้นในครั้งเดียว เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก นอกจากจะได้รับโอสถชั้นสูง หรือ สมุนไพรล้ำค่า หรือได้รับโอกาสจากเหตุการณ์เหนือธรรมดา มันยากมากที่จะทะลวงผ่านสองขั้น โดยอาศัยกำลังของตัวเอง และทะเลปราณที่ขยาย จากการทะลวงผ่านของกระบี่เลือนเร้นนั้นสงบมาก แทบจะไร้ร่องรอยกระเพื่อม บ่งบอกถึงรากฐานที่มั่นคงแข็งแกร่ง
ไม่มีผลเสียจากการทะลวงผ่านข้ามขั้นแม้แต่น้อย
“หรือว่าเป็นเพราะการทำความดี?”จิวโมไป๋ครุ่นคิดพลางใช้สำนึกภายใน มองตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้นที่มี ลวดลายมังกรสีเทาบางเบารอบเสาตำหนัก เขารับรู้ได้ถึงพลังของความยุติธรรมที่ถูกปล่อยออกมา ซึ่งเขาก็ไม่แปลกอะไรนัก เพราะในอดีตตำหนักยุทธของเขาก็มีลักษณะแบบนี้ ยกเว้นลวดลายมังกรที่เกิดขึ้นจากสายเลือด
ในอดีตเมื่อเขาสร้างตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับความเร็วในการบ่มเพาะของมัน เพราะเขาคิดว่าที่บ่มเพาะตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้นได้เร็ว เป็นเพราะระดับการบ่มเพาะพลังของเขาสูงอยู่แล้ว
แต่ในตอนนี้ที่เขาสังเกตว่า การทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น อาจเป็นเงื่อนไข ในการเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะพลังตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น
เขาก็ตกใจปนสงสัย
ในอตีด เคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังพิเศษ ที่ต้องใช้เงื่อนไขบางอย่าง ในการเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะพลัง เขาเคยเห็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในตอนที่เขากำลังตามสืบหาคนชั่วร้าย เขาได้รับข่าวสำนักชั่วร้ายแห่งหนึ่งที่ดื่มกินเลือดสดๆ
มันเป็นของสำหนักแห่งหนึ่งที่อยู่ที่มิติระดับสูง เขาเห็นศิษย์คนหนึ่งของสำนัก ดื่มเลือดจากมนุษย์ทั้งเป็น เหมือนผู้มีสายเลือดแวมไพร์ แต่ที่น่าตกใจคือ ระดับการบ่มเพาะของคนๆนั้น เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาสืบจนรู้ว่าเคล็ดบ่มเพาะพลังของสำนักแห่งนี้ ที่ความแตกต่างจากเคล็กบ่มเพาะพลังทั่วไปที่ต้องบ่มเพาะสะสมพลังอย่างช้าๆ
เคล็ดบ่มเพาะพลังที่เขาพบ มันมีเงื่อนไขในการเพิ่มความเร็วบ่มเพาะ คือกลืนการดื่มกินเลือดของสิ่งมีชีวิตสดๆ
จิวโมไป๋ไม่ยังไม่ทันได้สืบลึก สำนักแห่งนั้นถูกทำลายลงไป ในเวลาไม่นาน ข้อมูลของสำนักแห่งนั้นถูกทำลายจนหมด ราวกับไม่เคยมีสำนักแห่งนั้นมาก่อน
ในภายหลังเขาได้ออกตามสืบ หาเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังแบบพิเศษ อยู่หลายสิบปี เขาก็ไม่พบข้อมูล หรือเอกสารอ้างอิงใดๆ ที่บันทึกเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลัง ที่ต้องใช้เงื่อนไขบางอย่าง เพื่อเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะพลังอยู่เลย เหมือนกับว่าไม่เคยมีเคล็ดบ่มเพาะพลังแบบนั้นมาก่อน
ถ้าเขาไม่เคยพบเห็นมาด้วยสองตาของตัวเอง เขาอาจจะคิดว่าเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังพิเศษ อาจไม่มีอยู่จริง
จิวโมไป๋มองตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้นอยู่นาน เขาก็ถอนสำนึกออกจากทะเลสติ
เคล็ดบ่มเพาะพลังกระบี่เลือนเร้น ที่เขาสร้างขึ้นเพื่อสังหารคนชั่วช้า ดูเหมือนจะมีความลับที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้…
อาคารสูงแห่งหนึ่งใจกลางเมืองเทียนซู
บนชั้นดานฟ้าเครื่องบินวงรีล่องหนลงมาจอด ก่อนจะมีร่างสูงในชุดคลุมสีขาวกระโดดออกมา หลิวยี่อิงยืนรออยู่เดินเข้าไปพูดรายงานการพบเจอกับจิวโมไป๋ทันที
“พาฟงอี้เฟยไปไว้ที่ห้องขัง รอการตรวจสอบ”จี้หยางเฟยพูด
“หัวหน้าเป้าหมายคุ้มครอง เข้ามาที่เมืองเทียนซูแล้ว เราต้องเฝ้าคุ้มครองอยู่ไหม”หลิวยี่อิงถาม
“เป้าหมายไม่อยากพบฉัน ฉันก็จะไม่ไป ฉันต้องไปจัดการภารกิจต่อ “จี้หยางเฟยเปิดกำไลข้อมือดูบางอย่างก่อนจะปิดลง และมองหลิวยี่อิง”ถึงแม้ว่าเป้าหมายจะอยู่ในเมือง เราต้องไม่ประมาท ตามที่เธอรายงานฉันไป กลุ่มคนชุดดำ ถูกสะกดจิต พวกเขาไม่มีความทรงจำ ไม่มีร่องรอยหลักฐานให้สืบต่อ คนที่ต้องการฆ่าเป้าหมาย อาจกล้าส่งคนไปฆ่าเป้าหมายในเมืองก็ได้ เธอและม่าฮัวตง ไปคุ้มครองเป้าหมายอยู่ห่างๆ อย่าให้รู้ตัว ถ้าพบปัญหารีบแจ้งมาที่ฉันทันที”
“รับทราบ”
เช้าวันต่อมา
วันที่ 5 เดือน 10 ปีรุ่งอรุณที่ 8
จิวโมไป๋ตื่นแต่เช้ามาทำอาหาร ไม่นานทุกคนก็ลงมาทานอาหาร พ่อของเขานั่งที่หัวโต๊ะ รับประทานอาหารจนเสร็จพ่อ แม่ และคุณหยินลั่วปิง ก็พากันออกไปทำธุระ เขาก็พาจิวเสวี่ยเหม่ยและเตี๋ยเสวี่ยเจียวไปที่สวนสนุก
จิวเสวี่ยเหม่ยเห็นรถที่เขาขับเธอก็ถามด้วยความสงสัย
“พี่ชายซื้อรถคันนี้มาได้ยังไง”
“พี่มีวิธีหาเงิน ไม่ต้องห่วง พี่ไม่ได้หาเงินมาอย่างผิดกฏหมายแน่นอน”จิวโมไป๋ยิ้มขณะพูด
จิวเสวี่ยเหม่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย จิวโมไป๋เปิดประตูหลังให้เด็กๆขึ้นรถและขับออกไป
ในขณะที่กำลังขับรถ จิตสัมผัสของจิวโมไป๋ก็ตรวจสอบ ได้ถึงการติดตามไม่ไกลนัก เขาจพบเครื่องบินล่องหนกำลังติดตามอยู่ไม่ห่าง เขายิ้มเล็กน้อย ก่อนจะขับรถไปที่สวนสนุกโดยไม่ใส่ใจ มีคนที่แข็งแกร่งคอยตามคุ้มครอง เป็นเรื่องดี
สวนสนุกตั้งอยู่ในพื้นที่เขตรอบนอกของเมืองเทียนซู สวนสนุกกินพื้นที่ขนาดใหญ่ มีเครื่องเล่นมากมาย โดยเฉพาะเครื่องเล่นหวาดเสียวที่พัฒนาขึ้น ให้น่าหวาดเสียวกว่ายุคสมัยเดิมหลายเท่า เพราะผู้บ่มเพาะพลังมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ทำให้ความกลัวของพวกเขาน้อยลง ทางสวนสนุกทั่วโลก ต่างก็พัฒนาเครื่องเล่นให้น่าหวาดเสียวขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับผู้บ่มเพาะพลัง
จิวโมไป๋จ่ายเงิน ซื้อตัวสวนสนุกส่วนเครื่องเล่นสวนสนุกดั้งเดิม ที่แยกให้กับกลุ่มเด็กที่ยังบ่มเพาะพลังไม่ได้และผู้ใหญ่ที่ไม่บ่มเพาะพลัง ได้เที่ยวเล่น
จิวโมไป๋รับตั๋ว 3 ใบ เขาพาเด็กทั้งสองเดินเข้าไปในสวนสนุก พื้นที่ด้านในมีร้านขายของมากมาย ให้เลือกซื้อ เช่นลูกโป่ง หมวกหลากสี หน้ากาก หรือแม้แต่เสื้อตัวการ์ตูน หรือเสื้อผ้าย้อนยุค จิวเสวี่ยเหม่ยเข้าไปในสวนสนุก เธอก็ลืมทุกอย่าง เธอจับมือเตี๋ยเสวี่ยเจียว วิ่งไปยังร้านต่างๆเพื่อซื้อของ โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็คือเงินของจิวโมไป๋
จิวโมไป๋ถูกจิวเสวี่ยเหม่ยลากไปเปลี่ยนเสื้อเป็นชุด คลุมรุ่มร่ามเจ็ดสี มีหมวกเจ็ดสีแยกเป็นทรงแหลมเจ็ดทิศทาง จิวเสวี่ยเหม่ยใส่ชุดเจ้าหญิงสีฟ้า เตี๋ยเสวี่ยเจียวใส่ชุดเจ้าหญิงสีชมพู
“ฮ่าๆ เหมาะกับพี่ชายมากเลย”จิวเสวี่ยเหม่ยหัวเราะตัวงอ
จิวโมไป๋อดไม่ได้ ที่จะขยี้ผมบนหัวเด็กสาวจนยุ่ง
“อย่าลูบหัวหนู เดี่ยวหนูไม่สูง”จิวเสวี่ยเหม่ยโยกตัวหลบไปไกล
เตี๋ยเสวี่ยเจียวยิ้มอยู่ข้างๆ จิวโมไป๋มองเด็กสาวเล็กน้อย มือของเขาชี้ไปร้านที่อยู่ด้านข้าง
“เจียวเจียว อยากกินขนมไหม?”
เตี๋ยเสวี่ยเจียวหน้าแดงเล็กน้อย เธอมองไปที่ร้านขายขนมเค้ก เธอพยักหน้าเบาๆ จิวโมไป๋ยิ้มเบาๆ หันไปเรียกจิวเสวี่ยเหม่ยให้ตามไปร้านขายขนมเค้ก
กินขนมเค้กเสร็จพวกเขาก็ทิ้งลงในทั้งขยะ เด็กทั้งสองจับมือกันวิ่งไปทางเข้าไปส่วนกลาง
จิวโมไป๋ยิ้ม เดินตามเด็กๆที่เดินผ่านส่วนขายของ ไปที่ส่วนกลาง
เมื่อเดินผ่านชุ้มประตูหินขนาดใหญ่ พวกเขาพบ เวทียกสูงตั้งอยู่ตรงกลางของพื้นที่ รอบเวทีมีกลุ่มคนหลายพันคน กำลังยืนร้องตะโกนเสียงดังตามจังหวะเพลง เขามองดูก็พบว่า พวกเขากำลังทำกิจกรรมแฟนมีตติ้งละครซีรี่ย์อยู่
“ว้าวพี่ชายนั้น เนี่ยหลิวฟาง นางเอกละครซีรี่ย์เรื่อง ‘เทพยุทธหุบเขาทมิฬ’ ที่กำลังออนแอร์อยู่ เรตติ้งละครซีรี่ย์ เกือบจะถึง 5 แล้ว”จิวเสวี่ยเหม่ยร้องอย่างตื่นเต้น
จิวโมไป๋จำได้ทันที เพราะเมื่อคืนเขาก็นั่งดูละครซีรี่ย์เรื่องนี้กับครอบครัว
จิวโมไป๋มองสาวสวยบนเวทีที่กำลังร้องเพลง เขารู้สึกคุณเคยเล็กน้อย เมื่อนึกดีๆเขาก็แปลกใจ เพราะหญิงสาวเป็นพี่สาวของเนียฟูหาน ในช่วงที่ตระกูลเนี่ยถูกล่าสังหาร เนี่ยหลิวฟางก็ถูกสังหารไปพร้อมตระกูลด้วยเช่นกัน
เขาจำได้ดีเพราะแฟนคลับที่ติดตามหญิงสาว พูดถึงการตายของเธออยู่ แต่ไม่นานข่าวก็ถูกลบออกไป
ในตอนนี้ตระกูลเนี่ยไม่ถูกดึงเข้าสู่วังวน หญิงสาวคงมีความสุขกับอาชีพของเธอ
จิวโมไป๋มองหญิงสาวบนเวที ที่กำลังร้องเพลง ผู้คนร้องเพลงตามอย่างสนุกสนาม เต็มไปด้วยความสุข เขายิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา
เขาจะพาเด็กๆ เดินไปที่ส่วนเครื่องเล่นดั้งเดิม
พวกเขาเที่ยวเล่นกันอย่างสนุกสนาน เมื่อถึงเวลาเที่ยงวัน เขาก็พาเด็กๆไปที่ร้านอาหาร ในพื้นที่หมู่บ้าน ที่สร้างจากธีมการ์ตูนชื่อดังในอดีต ที่ตัวละครเอกอยากเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด
พวกเขานั่งกินที่ร้านอาหาร เป็นอาหารหินสูงเก่าแก่ จิวโมไป๋เลือกนั่งตรงริมหน้าต่าง เมื่อมองจากร้านอาหารลงไป มีกิจกรรมต่างๆตามถนนนอกร้าน ให้ผู้คนได้ชมดู
ในตอนที่เขาและเด็กๆ กำลังกินอาหารอยู่ ก็มีตัวละคร ในเสื้อผ้าของของกองทัพเรือสีขาวหลายสิบคน กำลังสู้กับโจรสลัดผมเขียวที่ใช้ดาบสามเล่ม
การต่อสู้ดูสมจริง เพราะนักแสดงมีระดับการบ่มเพาะพลังที่สูงพอประมาณ คนที่อยู่ในพื้นที่นี้ ส่วนมากจะไม่ได้บ่มเพาะพลัง ทำให้การต่อสู้ดูรุนแรง น่าตื่นเต้น เด็กทั้งสองยืนเกาะน่าต่างมองลงไปด้วยแววตาเป็นประกาย
การต่อสู้ด้านล่างจบลง เมื่อชายสูทดำ หัวทองมาช่วยเหลือชายผมเขียวดาบสามเล่ม
เมื่อกินอาหารเสร็จ จิวโมไป๋ก็พาไปเล่นส่วนอื่นๆ
จนถึงพื้นที่ ธีมเมืองทันสมัย ที่ถูกซอมบี้ยึดครอง ในขณะที่จิวโมไป๋ กำลังจ่ายเงินซื้อตั๋วเข้า ก็มีเสียงร้องทักมาจากด้านหลัง
“เสวี่ยเหม่ย! เธอมาเที่ยวสวนสนุกด้วยเหรอ”
จิวโมไป๋หันไปตามเสียง เขาพบกับกลุ่มเด็กสาว 3 คน เพื่อนของจิวเสวี่ยเหม่ย ที่เขาเคยพบมาก่อน
เด็กสาวผมยาว เดินตรงไปหาจิวเสวี่ยเหม่ย
“ทำไมไม่บอกพวกเราก่อน ว่าจะมาที่นี่ พวกเราจะได้มาด้วยกัน”
จิวเสวี่ยเหม่ยยิ้มดีใจที่ได้พบเพื่อน”ฉันมากับพี่ชายและเจียวเจียว ฉันเลยไม่ได้บอกพวกเธอ”
เด็กสาวผมยาวหันไปพบจิวโมไป๋ เธอก็ร้องทักด้วยเสียงใส”สวัสดีพี่โมไป๋! เจียวเจียว ไม่เห็นตั้งหลายวัน ทำไมน่ารักขึ้นขนาดนี้!”
เตี๋ยเสวี่ยเจียว ยิ้มให้เด็กสาว เพราะจิวเสวี่ยเหม่ย พาเธอไปเล่นกับเด็กสาวหลายครั้ง ทำให้รู้จักกันดี
จิวโมไป๋ยิ้มให้เด็กสาวร่าเริง แต่เมื่อเขามองผ่านไปด้านหลัง แววตาของเขาก็เป็นกลายเป็นสีดำมืดมิด ภายในทะเลสติ ดอกบัวหัวใจพิสุทธิ์ หมุนวนอย่างช้าๆ แผ่กระจายพลังงานบางอย่างออกมา เพื่อปลอบประโลมให้จิวโมไป๋ได้สติ
ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหล่า เป็นที่นิยม กำลังเดินมาอย่างช้าๆ รอยยิ้มมุมปากแฝงไปด้วยความเย่อหยิ่งถือดี รอบข้างของเขา มีกลุ่มเด็กวัยเดียวกันเดินตามไม่ห่าง
ถงเหวย คนที่ในอนาคตเป็นผู้ข่มขืนจิวเสวี่ยเหม่ย จนทำให้เธอต้องฆ่าตัวตาย
คอมเม้นต์