ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 164
ฟงอี้เฟยกำลังวิ่งไปตามเหล็กบนผนังเขาวงกต สายตาพบกับร่างจิวโมไป๋ที่อยู่ด้านล่างเข้าพอดี เขาชักดาบออกจากฝักพุ่งตัวไต่ตามกำแพง ลงมาฟันใส่จิวโมไป๋อย่างฉับพลัน
จิวโมไป๋รู้ตัวอยู่แล้วว่าฟงอี้เฟยกำลังเข้ามาหา แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะโจมตีโดยไม่พูดอะไร เขายกพลองผ่านฟ้าป้องกัน แรงปะทะทำให้มือของเขารู้สึกชาเล็กน้อย จิวโมไป๋ดูระดับดับการบ่มเพาะของฟงอี้เฟย อยู่ขั้นที่ 5 กระดูกต้น
“นายมันคนที่บุกรุกเข้ามาในที่ของฉัน และถูกฉันอัดจนสลบไปไม่ใช่เหรอ?”จิวโมไป๋แกล้งถาม ขณะยกพลองผ่านฟ้าฟาดใส่ฟงอี้เฟยอย่างแรง
แววตาของฟงอี้เฟยกลายเป็นดุร้าย เมื่อถูกกระตุ้นความทรงจำที่พยายามจะลืม
ฟงอี้เฟยใช้มือทั้งสองข้าง ยกดาบยาวและฝักดาบขึ้นมารับพลองที่ฟาดลงมาโดยตรง ปัง! มือของเขางอเล็กน้อย ก่อนจะกระแทกพลองออกไปได้ โดยที่ดาบไม่ได้รับความเสียหาย
“ตอนนั้นแกทำร้ายฉันทีเผลอ ถ้าเป็นการต่อสู้ตรงๆ แกไม่สามารถเอาชนะฉันได้แน่”ฟงอี้เฟยทิ้งฝักดาบในมือซ้ายลงบนพื้น และจับดาบยาวด้วยสองมือ สายตาจ้องมองการเคลื่อนไหวของจิวโมไป๋ไม่ละสายตา ก่อนจะพุ่งเข้าหาจิวโมไป๋ แต่เมื่ออยู่ในระยะ 10 เมตร ร่างของฟงอี้เฟยก็หายไป
จิวโมไป๋ไม่ตกใจ เขาหันพลองผ่านฟ้าป้องกันคมดาบได้ทัน ก่อนจะยกเท้าเตะใส่อย่างแรง ฟงอี้เฟยยกเข่าขึ้นป้องกันเอาไว้ได้ แต่ในจังหวะนี้เองจิวโมไป๋ก็หมุนพลองผ่านฟ้าฟาดลงมาอย่างแรง
ฟงอี้เฟยก้าวเท้าฉับพลันหายตัวไปด้านข้าง และหันคมดาบฟันใส่อย่างรวดเร็ว
“ตาย!”ดาบยาวฟันลงมาจากทุกทิศทาง
“ถอยไป!”จิวโมไป๋ตะโกนเสียงดังเขาบิดข้อมือพลิกพลองผ่านฟ้าฟาดใส่ฟงอี้เฟยข้างซ้ายของฟงอี้เฟย ใช้กำลังปะทะตรงๆ โดยไม่สนใจคมดาบที่ฟันลงมา
ฟงอี้เฟยสัมผัสได้ถึงพลังกดดันอันมหาศาลที่ฟาดเข้าใส่ เขาชะงักเล็กน้อยสภาวะดาบสลายหายไป เท้าของเขาเอียงฉีกหลบได้อย่างฉิวเฉียด แต่ในตอนนั้นเอง จิวโมไป๋ยกเท้าเตะไปที่หลังของฟงอี้เฟยอย่างแรง จนเสียหลักพุ่งไปข้างหน้า
ฟงอี้เฟยกระแทกเท้าทรงตัวเอาไว้ได้
“ดูเหมือนว่านายจะอ่อนแอกว่าครั้งที่แล้วนะ”จิวโมไป๋พูดยั่วโมโห เขารู้ดีว่าคนอย่างฟงอี้เฟยเป็นพวก โมโหแล้วโจมตีตรงๆ ไม่คิดหน้าคิดหลัง
และก็เป็นอย่างที่จิวโมไป๋คิด ฟงอี้เฟยพุ่งกลับมาฟันดาบที่หัวของจิวโมไป๋
“หุบปากไปซะ!”
จิวโมไป๋หมุนพลองผ่านฟ้าพร้อมโยกตัวหลบดาบ และฟาดพลองใส่ตัวดาบจนเกิดเสียงดัง
ดาบยาวในมือสั่นระริก ทำให้มือของฟงอี้เฟยชาเล็กน้อย
ในตอนนั้นเองใต้เสื้อคลุมที่ไม่มีใครมองเห็น เกล็ดมังกรทองค่อยๆห่อหุ้มผิวหนัง จิวโมไป๋หมุนพลองผ่านฟ้าฟาดไปที่ใหล่ซ้ายของฟงอี้เฟยอย่างแรง
ฟงอี้เฟยยกดาบยาวขึ้นรับได้ทัน แต่แรงปะทะทำให้ร่างของเขา กระเด็นออกไปชนโครงเหล็กของกำแพงเขาวงกต จนโครงเหล็กงอและหักล้มไปด้านหลัง
เสียงเหล็กล้มดังสนั่น
ฟงอี้เฟย รีบออกมาได้ทันก่อนที่โครงเหล็กจะล้มใส่ แต่ไหล่ซ้ายของเขาหัก เลือดสีแดงสดไหลออกมาตามแขนที่ไร้ความรู้สึกและตกลงบนพื้น
“บัดซบ ฉันไม่เชื่อ!”เฟอี้เฟยร้องตะโกนเสียงดัง เขากัดฟันแน่น แววตาของเขากลายแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธ หมดเย่อหยิ่งไปในทันที เขาไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 2 ปลายได้ มือขวากำดาบแน่นจนเส้นเลือดสีเขียวผุดขึ้น
จิวโมไป๋ยิ้มออกมา และเริ่มบุกเข้าหาฟงอี้เฟย ท่าร่างประกายภูติ ร่างของจิวโมไป๋แยกเป็นสองร่าง และทั้งสองร่างใช้หมัดซ้ายชกเข้าหาฟงอี้เฟย
“แก!”ฟงอี้เฟยรู้สึกเสียหน้า ที่จิวโมไป๋ไม่ยอมใช้พลอง เขาฟันดาบยาวเข้าใส่ร่างด้านซ้าย เมื่อเงากระจายหายไป เขาไม่ได้หยุดชะงัก เขาทิ้งตัวลงและหมุนตัวฟัน เข้าใส่อีกร่างของจิวโมไป๋ แต่ร่างนั้นก็สลายกายไปเช่นกัน ฟงอี้เฟยชะงักตกใจ ในตอนนั้นเอง จิวโมไป๋โผล่มาที่ด้านหลัง ยกเท้าเตะออกใส่ร่างฟงอี้เฟยอย่างแรง จนกลิ้งไปอีกด้าน
“ทำไม…”ฟงอี้เฟยพยายามยันตัวลุกขึ้น แต่ก็ลุกไม่ได้ เขาทิ้งตัวลงนอน สายตามองจิวโมไป๋ ด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะหมดสติไป
จิวโมไป๋ถอนหายใจก่อนจะมองไปด้านบนกำแพง จี้หยางเฟยและจ้างลู่เฟินกำลังกระโดดลงจากกำแพงเขาวงกตอีกด้าน พวกเขาจะมาหยุดการต่อสู้ แต่ไม่ทัน ฟงอี้เฟยหมดสติไปก่อน
“พาตัวไป”จี้หยางเฟยหันไปบอกจ้างลู่เฟิน
จ้าวลู่เฟินพยักหน้า เดินไปเก็บฝักดาบ เดินมาหยิบดาบจากมือของฟงอี้เฟย แต่ก็แกะไม่ออก ฟงอี้เฟยกำดาบแน่นไม่ยอมปล่อย
สุดท้ายจ้าวลู่เฟินก็เอาฝักดาบใส่ดาบทั้งๆที่อยู่ในมือของฟงอี้เฟย และยกร่างของฟงอี้เฟย พาออกไปทันที ก่อนไปเธอหันมามองจิวโมไป๋ด้วยความสงสัย เธอสัมผัสได้ว่าระดับการบ่มเพาะพลังของจิวโมไป๋อยู่ขั้นที่ 2 ปลาย แต่เขาสามารถต่อสู้กับ ฟงอี้เฟยที่อยู่ขั้นที่ 5 ต้นได้
ฟงอี้เฟยเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่ง ในหน่วยนี้เขาเป็นรอง เพียงแค่จี้หยางเฟยเท่านั้น แต่เขากับมาแพ้ให้คนที่ระดับการบ่มเพาะอ่อนแอกว่า นั้นหมายความว่า จิวโมไป๋มีความแข็งแกร่งพอ ที่จะเป็นหัวหน้าหน่วยในอนาคต
ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบจิวโมไป๋กับจี้หยางเฟย
แต่เธอก็ไล่ความคิดนั้นไป จิวโมไป๋ไม่สามารถเทียบกับปีศาจแบบจี้หยางเฟยได้
“น้องชายทำไม นายถึงมาอยู่ที่นี่”จี้หยางเฟยเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม แต่พลังกดดันที่ส่งออกมา ไม่ให้จิวโมไป๋สามารถปฏิเสธได้เลย
ขั้นที่ 6 โลหิต กลาง!
จิวโมไป๋ลอบสูดหายใจ ก่อนจะตอบ
“ไม่มีอะไร ฉันมาที่นี่เพราะอยากจะตรวจสอบเรื่องลี้ลับ…”จิวโมไป๋พูดถึงเหตุการณ์โรงงานร้างนอกเมืองเทียนซู ที่เกิดหมอกประหลาดปกคลุมทั่วโรงงานร้าง ในอตนนั้นเพื่อนของเขาถูกนำตัวไปสอบสวนหลายวัน มันทำให้เขาจึงสนใจเรื่องลี้ลับ ที่เขามาที่นี่เพราะจะตรวจสอบดูว่า มันมีเหตุการณ์ลี้ลับจริงหรือไม่
“ฉันไม่คิดเลยว่าโลกของเรา จะมีผีจริงๆ จากที่ฉันหาข้อมูล เหมือนจะมีเหตุการณ์คล้ายๆกันเกิดขึ้นทั่วโลก…”
จิวโมไป๋พูดแบบกว้างๆ พยายามบอกใบ้ให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลโดยตรงเขาไม่อยากถูกสงสัย มันจะมีเรื่องปวดหัวตามมาทีหลัง
จี้หยางเฟยฟังที่จิวโมไป๋ อย่างเงียบๆไม่พูดขัด สีหน้าเรียบเฉยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
พูดอีกครู่หนึ่งจิวโมไป๋ก็พูดจบ
“น้องชาย นายจะสืบเรื่องลี้ลับแบบนี้ต่อไป ฉันจะไม่ห้าม แต่ต้องระวังตัวให้ดี เมื่อเข้าไปในเหตุการณ์แบบนี้อีก อุปกรณ์จะไม่มีสัญญาณ นายจะไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือใครได้ ก่อนจะทำอะไรต้องคิดดีๆ”จี้หยางเฟยพูดเหมือนจิวโมไป๋เป็นเด็ก
จิวโมไป๋ฟังโดยไม่ตอบโต้อะไร
จี้หยางเฟยมองจิวโมไป๋ เขาอยากจะเชิญจิวโมไป๋เข้าหน่วนลับ ในตอนนี้เลย เพราะมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นทุกวัน กำลังคนของเขาก็น้อย ไม่สามารถตรวจสอบครอบคุมได้ทั้งหมด และเขารู้สึกว่าจิวโมไป๋กำลังปกปิดอะไรบางอย่างอยู่
เขาไม่บีบบังคับให้จิวโมไป๋พูด เขาถอนหายใจออกมา ยังไม่เชิญจิวโมไป๋เข้าหน่วยลับ เพราะต้องทำตามขั้นตอน ไม่สามาถข้ามขั้นได้
“อีก 30 วัน มหาวิทยาลัยของนาย จะประลองภายในมหาวิทยาลัยใช่ไหม?”จี้หยางเฟยถาม
“ใช่”จิวโมไป๋พยักหน้า
“ทำไมไม่เข้าร่วมการแข็งขั้นละ ระดับการบ่มเพาะและความสามารถในการต่อสู้ของน้องชาย สูงพอทีจะได้รับอันดับที่ดีในการแข่งขันแน่”จี้หยางเฟยพูด
“ขอคิดดูก่อน”จิวโมไป๋ยิ้มในใจ ไม่ต้องบอกเขาก็จะเข้าร่วมอยู่แล้ว
จี้หยางเฟยอ่านสีหน้าของจิวโมไป๋ เขาก็พอเดาได้ว่ากำลังคิดอะไร เขายักไหล่ โบกมือไล่
“ออกไปได้แล้ว อีกเดี๋ยวจะมีทีมตรวจสอบ มาตรวจสอบที่นี่ ถ้าไม่อยากถูกถามทั้งวัน ก็รีบๆออกไป”
จิวโมไป๋พยักหน้า ก่อนจะเดินจากไป
จี้หยางเฟยมองตามหลังจิวโมไป๋ เงียบๆ
—
ฝันดีครับทุกคน^^
คอมเม้นต์