ห้องรอปี 4 พื้นที่ห้องอาบน้ำ

เซียวหนานจิ้นยืนหลับตา ปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวด้านบน ไหลลงมาชำระล้างร่างกายที่สมบูรณ์แบบ เขายืนนิ่งอยู่ท่านี้มาหลายสิบนาที โดยไม่มีใครเข้ามาเรียก เพราะกลัวกระทบความรู้สึกของเซียวหนานจิ้น ที่เขาแพ้การประลองตั้งแต่รอบแรก หมดสิทธิ์ได้ไปประลองระหว่างมหาวิทยาลัยเมืองเทียนซู

ในตอนนี้เองเสียงกำไลข้อมือก็ดังขึ้น

เซียวหนานจิ้นลืมตาขึ้นมองลงไปยังกำไลข้อมือ ข้อความโฮโลแกรมก็ฉายขึ้น

‘นายน้อย จิวโมไป๋สามารถเอาชนะหลิงหวงเทียน และเข้าไปประลองรอบที่สาม’

แววตาของเซียวหนานจิ้นเต็มไปด้วยจิตสังหารวูบหนึ่งก่อนที่จะสงบลง เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกดกำไลข้อมือและส่งข้อความไปกลับไป

‘ติดต่อองค์กรโลหิตนิรันดร์ ส่งรายชื่อทุกคนที่เข้าร่วมประลองภายในมหาวิทยาลัยรวมถึงชื่อของฉันไปด้วย สัญญาจ้างสังหาร เป็นแบบกำหนดเวลาสังหาร 1 ชั่วโมง หลังจบการประลองรอบสุดท้าย ถ้ามีปัญหาให้ติดต่อไปที่ผู้อาวุโสไห่ เขาจะรู้ความต้องการของฉัน’

ผ่านไปครู่หนึ่งก็มีข้อความส่งกลับมา

‘นายน้อย ถ้าคนขององค์กรโลหิตนิรันดร์ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมันจะ…’

‘ไปทำตามที่ฉันสั่งก็พอ’เซียวหนานจิ้นกดส่งข้อความไปทันที

‘รับทราบ…’ข้อความส่งมาครั้งสุดท้าย

เซียวหนานจิ้นปิดกำไลข้อมือ และกดปิดปุ่ม น้ำจากฝักบัวหยุดไหล เขาเดินออกจากห้องอาบน้ำ หยิบผ้ามาเช็ดใบหน้า ใบหน้าหลังเช็ดหน้าปรากฏความเย็นเยือก

สนามประลอง

จิวโมไป๋เดินเข้าห้องรอปี 1

“ดีมากน้องเล็ก ฉันคิดว่านายจะถอดใจไปซะก่อน พวกเราไม่คิดว่านายจะเอาชนะหลิงหวงเทียนได้”เฉินหูตบไหล่จิวโมไป๋พร้อมกล่าวด้วยความดีใจ

“นายอย่าพูดไร้สาระ นายคิดว่าน้องเล็กจะแพ้จริงๆเหรอ”หวังเสี่ยวเปากล่าว เฉินหูชะงักก่อนจะยิ้มเจือนๆ พวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของน้องเล็กดี เมื่อตอนใกล้จบการฝึกนรก โครงกระดูกดำที่พวกเขาต้องร่วมมือกันกว่าจะเอาชนะได้ น้องเล็กชกเพียงหมัดเดียวก็สามารถทำลายโครงกระดูกดำเป็นชิ้นๆ

ความแข็งแกร่งของน้องเล็ก เหนือกว่าพวกเขาทั้งสามร่วมกันไปไม่รู้เท่าไหร่

ไม่แปลกเลยที่น้องเล็กจะสามารถเอาชนะที่ 1 ของการประลองได้

“น้องเล็ก นายเอาชนะหลิงหวงเทียนแบบนั้น ไม่กลัวหลิงหวงเทียนจะตามมาแก้แค้นเหรอ”อูเหวินที่นั่งเงียบอยู่พูดขึ้น เขาเป็นห่วงกลัวหลิงหวงเทียนจะสร้างความลำบากให้น้องเล็กหลังจากจบการประลอง

“ไม่ต้องห่วง ฉันได้คุยกับหลิงหวงเทียนแล้ว เขาไม่ถือสาอะไร”จิวโมไป๋ตอบด้วยรอยยิ้มบางๆ แต่แววตาครุ่นคิด หลิงหวงเทียนเขาไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะมาหาเรื่อง แต่ตระกูลหลิงเขาไม่แน่ใจ เขายังคงสงสัยว่าตระกูลหลิงคิดยังไงกับหลิงหวงเทียนกันแน่

เมื่อถึงเวลานัด เขาอาจจะได้คำตอบ

ในระหว่างพวกเขากำลังพูดกัน การจับคู่ประลองคู่ที่ 2 ก็ประกาศออกมา เป็นหวังเสี่ยวเบา ต่อสู้กับจางเฮอ ที่พวกเขาเคยต่อสู้กันมาก่อน

เมื่อเห็นชื่อคู่ต่อสู้แววตาของหวังเสี่ยวเปาก็เปลี่ยนไป

เฉินหูและอูเหวินตบไหล่หวังเสี่ยวเปาเบาๆ จิวโมไป๋เงียบไม่พูดอะไร

หวังเสี่ยวเปาถือหอกไม้เดินขึ้นไปบนสนามประลอง จางเฮ่อถือดาบไม้ยาวรออยู่ก่อนแล้ว

ใบหน้าของจางเฮ่อยังคงเฉยชาราวกับไร้ความรู้สึก แต่แววตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น จนสัมผัสได้ถังความรู้สึกคุกคามที่ส่งออกมา

หวังเสี่ยวเปาจ้องมองจางเฮ่อด้วยดวงตาดุร้ายเช่น เขายังจำได้ดีว่าจางเฮ่อได้ทำอะไรกับเหยาติงติง ในการต่อสู้ครั้งที่แล้ว เขายังทำร้ายจางเฮ่อไม่ได้มากนัก แต่ครั้งนี้พลังชีวิตมีถึง 1000 เขาสามารถสร้างความเจ็บปวดให้จางเฮ่อไม่มากก็น้อย

ทั้งสองยืนประจันหน้ากันกลางสนามประลอง พลังกดดันของทั้งสอง โหมกระหน่ำเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งๆที่ยังไม่เริ่มการประลอง

ผู้ชมที่ดูอยู่ก็รู้สึกแปลกใจ การแสดงออกของทั้งสองมันชัดเจนจนเห็นได้ชัด พวกเขาไม่คิดเลยว่าทั้งสองจะเป็นศัตรูกัน

“เริ่มการประลอง”

ทันทีที่เสียงเริ่มการประลองดังขึ้น

หวังเสี่ยวเปาก็ควงหอกไม้หันปลายแหลมชี้ไปที่จางเฮ่อ คลื่นพลังกดดันหลอมรวมที่ปลายหอก ก่อนที่เขาจะแทงหอกตรงออกไป คมหอกฉีกอากาศจนเกิดเสียงดังอืออึง พลังกดดันอันแหลมคมพุ่งทะยานเข้ากลางอกจางเฮ่อ

จางเฮ่อหรี่ตามองคมหอกที่พุ่งเข้ามา ในตอนนี้เขาอยู่ขั้นที่ 4 อวัยวะภายในกลาง ในตอนที่เขาพ่ายแพ้หวังเสี่ยวเปา เขาได้ฝึกฝนความแข็งแกร่งของกำลังแขนเพิ่มขึ้น หลังจากเสียเปรียบหวังเสี่ยวเปาในด้านความแข็งแกร่งร่างกาย

จางเฮ่อสัมผัสได้ถึงพลังกดดันอันรุนแรงที่พุ่งเข้ามา เขาใช้ดาบไม้ฟันเข้าปะทะตรงๆเพื่อทดสอบพลัง

เปรี้ยง! ดาบไม้ถูกกระแทกอย่างแรง จนมือของเขาสั่นชา จางเฮ่อกัดฟันแน่นสายตามองไปยังหวังเสี่ยวเปาอย่างไม่เชื่อสายตา

“ทำไมแกถึงบ่มเพาะพลังเร็วแบบนี้”จางเฮ่อคาดเดาว่าหวังเสี่ยวเปาต้องอยู่ขั้นที่ 4 อวัยวะภายในต้นแล้ว ทั้งๆที่เมื่อเดือนก่อนที่พวกเขาประลองกัน หวังเสี่ยวเปาอยู่ขั้นที่ 2 กล้ามเนื้อปลายเท่านั้น

ความแข็งแกร่งของหวังเสี่ยวเปา ทำให้เขานึกถึงการประลองของเฉินหูและอูหนิว เขาก็สถบในใจ

พวกสัตว์ประหลาด!

หวังเสี่ยวเปายิ้มเย็นชา เขารู้ว่าจางเฮ่อเป็นสายตอบโต้ วิเคาะห์จุดอ่อนเพื่อโจมตีกลับเหมือนกับเขา แต่เขาก็ยังเลือกที่จะโจมตีสุดกำลัง ไม่ยืดเยื้อการต่อสู้

หวังเสี่ยวเปาใช้ท่าร่างพุ่งไปด้านหน้า พลังกดดันหลอมรวมที่ปลายหอกจนมันสั่นระริก หวังเสี่ยวเปาแทงหอกไม้แทงออกมาอีกครั้งพลังไม่น้อยไปกว่าเดิม พริบตาเดียวหอกเขาประชิดฝั่งตรงข้าม หอกนี้ใช้กำลังแทงออกถึงขีดสุด ไม่มีทางย้อนกลับ

จางเฮ่อรู้สึกถึงอันตรายของหอกนี้ เขาเกร็งกำลังแขนจนกล้ามเนื้อปูดโปน เขาใช้สายตามองไปยังจุดอ่อนของหวังเสี่ยวเปาในชั่วพริบตา และฟันดาบตรงไปยังมือที่กำหอกของหวังเสี่ยวเปา

ฟังดาบแหวกอากาศเสียงดังจนน่ากลัว มันพุ่งตรงไปที่มืออย่างแม่นยำ ก่อนที่หอกจะปะทะร่างของจางเฮ่อ

ถ้าหวังเสี่ยวเปาไม่ดึงหอกกลับ มือของเขาจะได้รับพลังโจมตีที่รุนแรง พลังชีวิตจะลดลงอย่างมาก พร้อมกับมืออาจได้รับความเสียหายอย่างหนัก ความสามารถในการต่อสู้จะลดลง

จางเฮ่อเชื่อว่าหวังเสี่ยวเปาจะต้องดึงหอกกลับ เมื่อหวังเสี่ยวเปาดึงหอกกลับ เขาจะได้รับผลของการฝืนดึงหอก กล้ามเนื้อจะได้รับบาดเจ็บ แม้จะเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้ร่างกายบอบชำ ความเคลื่อนไหวจะช้าลง

เปิดโอกาสให้จางเฮ่อได้เปรียบในการปะทะกันครั้งต่อไป!

ในชั่วเวลาที่คมดาบใกล้จะถึง หวังเสี่ยวเปาไม่ดึงหอกกลับ เขายิ้มออกมาอย่างแผ่วเบาราวคาดเดาเอาไว้ก่อนหน้า เขากระแทกเท้าลงที่พื้นเพิ่มความเร็วในการพุ่งทะยานไปอีกหนึ่งขั้น เพราะแรงถีบทำให้มือจับหอกยาวพุ่งต่ำลงเล็กน้อย ปลายหอกเปลี่ยนเป็นแทงไปที่กลางท้องของจางเฮ่อ

จางเฮ่อสัมผัสได้ถึงอันตราย ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาไม่คิดว่าหวังเสี่ยวเปาที่แทงหอกสุดกำลังจะใช้วิธีนี้เปลี่ยนกระบวนท่า

ดาบที่เขาฟันไปครึ่งทางพลาดฟันผ่านด้ามหอกไป

จางเฮ่อได้แต่จ้องไปที่หอกไม้กระแทกเข้ากลับร่างของตัวเอง

ปัง! พลังชีวิตของจางเฮ่อลดลงทันที 300 เหลือพลังชีวิต 700/1000

จางเฮ่อถูกหอกกระแทกกระเด็นไปอย่างแรง ร่างของจางเฮ่อกลิ้งไปตามพื้นสลายพลังปะทะก่อนที่เขาจะกลับมายืนได้ แต่ร่างของเขาโซเซเล็กน้อย เขาได้รับบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด

จางเฮ่อถือดาบไม้แน่น มืออีกข้างจับตรงท้องด้วยความเจ็บปวด เขาแค่นเสียงไม่พอใจ เขาลืมไปว่าหวังเสี่ยวเปาเป็นสายมองหาจุดอ่อนและโจมตีสวนกับในการต่อสู้เหมือนกัน หวังเสี่ยวเปาเปลี่ยนจากรอจังหวะและค่อยโจมตีเป็นโจมตีไปพร้อมมองหาโอกาสไปพร้อมกัน

เขาประมาทไป

จางเฮ่อข่มความเจ็บปวดยกดาบไม้ขึ้น สายตาจับจ้องไปยังหวังเสี่ยวเปา พลังสมาธิถูกใช้งานเต็มกำลัง

สายตาของหวังเสี่ยวเปากลายเป็นแหลมคมเหมือนหอก ทิ้มแทงไปทั่วร่างของจางเฮ่อ

ก่อนบาดเจ็บจางเฮ่อทำอะไรหวังเสี่ยวเปาไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อได้รับบาดเจ็บ ไม่มีทางเลยที่จางเฮ่อจะสามารถต้านทานหวังเสี่ยวเปาได้

หวังเสี่ยวเปาต่อสู้กับจางเฮ่ออย่างไม่กินแรง ทุกครั้งที่หวังเสี่ยวเปาโจมตี เขาจะแทงหอกไปที่ท้องของจางเฮ่อย้ำจุดเดิมที่ได้รับการโจมตี เมื่อแทงไปครั้งที่ 4 พลังชีวิตของจางเฮ่อก็เหลือ 0 แพ้ไปทันที

“จำไว้อย่าทำผู้หญิงแบบนั้นอีก”หวังเสี่ยวเปาจ้องมองไปยังจางเฮ่อที่กุมท้องด้วยใบหน้าขาวซีด ก่อนที่เขาจะหันหลังเดินจากไป

พลังชีวิตของหวังเสี่ยวเปายังเต็ม 1000

เมื่อหวังเสี่ยวเปาไปที่ห้องพักปี 1

เฉินหูก็เดินมาแสดงความดีใจ ก่อนที่ทั้งสี่จะพูดคุยไปพร้อมกับดูการประลอง

การประลองคู่ที่ 3 เป็นจูหวังเฉินประลองกับนักศึกษาหญิงปีที่ 3

เมื่อจูหวังเฉินเดินขึ้นสนามประลอง ก็มีเสียงร้องตะโกนเชียร์ชื่อจูหวังเฉินดังขึ้น แม้จะไม่มากนัก แต่ก็สามารถสัมผัสได้ว่า จูหวังเฉินเริ่มสร้างชื่อเสียงของตัวเองในการประลองแล้ว

เมื่อนักศึกษาหญิงคู่ต่อสู้ของจูหวังเฉิน มาถึงสนามประลอง เธอก็ประกาศยอมแพ้ทันที

ผู้ใช้กฏแห่งธาตุเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เธอไม่สามารถต่อสู้ได้ และจูหวังเฉินเป็นผู้ใช้ไฟ เธอไม่กลาเสี่ยงต่อสู้กับเขา มันอาจทำให้เธอเสียโฉมได้

จูหวังเฉินแสดงสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ที่ไม่ได้ต่อสู้ เขามองไปยังหญิงสาว ก่อนจะหันหลังกลับด้วยท่าทางเหย่อหยิ่ง

การประลองคู่ต่อไปผ่านไปเรื่อยๆ จนมาถึงการประลองคู่ที่ 10 เหยาติงหลง ต่อสู้กับ อูถงจวิน ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 4 อวัยวะภายในต้น ปี 1 อีกคน

ทั้งสองใช้ดาบ มันยิ่งแสดงความต่างชั้นได้อย่างชัดเจน เหยาติงหลงได้เปรียบอูถงจวินเกือบทุกด้าน อูถงจวินเป็นถึงอัจฉริยะที่บ่มเพาะพลังได้รวดเร็ว แต่โชคร้ายที่พบกับเหยาติงหลงที่เป็นอัจฉริยะเช่นกัน เหยาติงหลงมีอายุมากกว่า และประสบการณ์ต่อสู้ก็มากกว่าอย่างเทียบไม่ติด

เหยาติงหลงสามารถเอาชนะอูถงจวินไปได้ในเวลาไม่นาน และเขาได้ชักชวนอูถงจวินเข้าร่วมกลุ่มหัวใจเหล็กกล้า

อูถงจวินลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มหัวใจเหล็กกล้า

การประลองรอบที่ 15 เฉินหู ต่อสู้กับนักศึกษาชายปี 4

เฉินหูใช้หมัดชกกระบี่ไม้ของนักศึกษาชายปี 4 อย่างแรง จนกระบี่ไม้กระเด็นในหมัดเดียว จากนั้นเขาก็จับล็อคนักศึกษาชายปี 4 ขยับตัวไม่ได้ และใช้หมัดชกจนพลังชีวิตหมด

เฉินหูใช้กำลังเพียงอย่างเดียวเอาชนะนักศึกษาชายปี 4 ไปได้อย่างไม่กินแรงนัก

ถ้าไม่ใช้ผู้บ่มเพาะพลังสายร่างกายเหมือนอูหนิว ยากที่จะมีใครเอาชนะเฉินหูได้ด้วยกำลัง

การประลองคู่ที่ 18 เซี่ยลี่เยว์ต่อสู้กับนักศึกษาชายปี 3 เธอใช้กระบี่ไม้เอาชนะไปได้อย่างง่ายดาย โดยไม่เสียพลังชีวิตอีกครั้ง แทบจะเหมือนภาพซ้อน คู่ต่อสู้ทำอะไรไม่ได้เลย

ภายในห้องรอปี 1

กลุ่มจิวโมไป๋ที่อยู่กันครบพูดคุยกันเบาๆ อูเหวินที่ยังไม่ได้ประลองไม่มีท่าทางกระสับกระส่ายแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆสามารถเอาชนะไปได้อย่างง่ายดาย อูเหวินก็มั่นใจว่าจะสามารถเข้ารอบไปได้อย่างแน่นอน

จนกระทั้งรายชื่อคู่ประลองรอบที่ 21 ประกาศ ทุกคนในห้องที่กำลังทำธุระของตัวเองอยู่ต่างก็ชะงักตกใจ หันหน้ามองไปยังอูเหวินที่นั่งนิ่ง ก่อนจะหันไปยังหลานซูเมิงที่กำลังหันมองไปยังอูเหวินพอดี

การประลองรอบที่ 21 หลานซูเมิง ปี 1 ต่อสู้กับ อูเหวิน ปี 1

—