ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 216
จูหวังเฉินค่อยๆลุกขึ้นยืน หันหน้ามามองจิวโมไป๋และหวังเสี่ยวเปา ด้วยแววตาครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนที่เขาจะถอนสายตากลับและเดินออกจากห้องรอปี 1 ไป
จิวโมไป๋นิ่งไปครู่หนึ่ง หันมามองสบตากับหวังเสี่ยวเปา ที่กำลังมองมาทางเขาด้วยความสับสน ไม่รู้ว่าท่าทางของจูหวังเฉินมันหมายความว่ายังไง
จูหวังเฉินเดิมมายืนบนสนามประลอง ใบหน้าของเขานิ่งสงบไม่มีความเย่อหยิ่งเหลืออยู่แม้แต่นิดเดียว บรรยากาศจากร่างของเขา มีกลิ่นอายลุกไหม้อย่างเงียบงัน เหมือนเปลวไฟที่รอวันปะทุได้ทุกเมื่้อ
เหยาติงหลงเดินมาช้ากว่าจูหวังเฉินเล็กน้อย มือของเขากำด้ามจับดาบไม้แน่น ท่าทางของเขาตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ไม่แปลกที่เหยาติงหลงจะกังวล เพราะคู่ต่อสู้ของเขาคือจูหวังเฉิน แม้ระดับการบ่มเพาะพลังของเขาจะเหนือกว่าจูหวังเฉิน 1 ขั้นใหญ่ แต่อีกฝ่ายเป็นผู้ใช้พลังธาตุไฟ ที่ขึ้นชื่อว่ามีพลังทำลายล้างอันรุนแรงและยากที่จะป้องกัน
แม้ว่าเขาจะใช้อาวุธ และจูหวังเฉินใช้มือเปล่า เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย
การประลองรอบก่อนหน้า หวังเสี่ยวเปาที่มีระดับการบ่มเพาะพลังต่ำกว่าซุนกวนหมิง 1 ขั้นเช่นกัน เขาก็สามารถเอาชนะได้
ผู้ใช้พลังธาตุจะแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป
จูหวังเฉินเหมือนจะเหนือกว่าหวังเสี่ยวเปาเล็กน้อย เพราะความได้เปรียบของกฏแห่งธาตุไฟ เขาเคยแพ้ซุนกวนหมิงมาก่อน ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะคิดเปรียบเทียบ
เหยาติงหลงสูดลมหายใจเฮือก เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อีก แม้ว่าจะต้องพบกับการต่อสู้ที่ยากลำบาก เขาก็จะไม่ยอมแพ้
สายตาของเหยาติงหลงมุ่งมั่นเต็มไปด้วยพลัง
บนที่นั่งผู้ชม ผู้คนต่างให้ความสนใจกับการต่อสู้่ครั้งนี้อย่างมาก เพราะตั้งแต่เริ่มการประลอง จูหวังเฉินไม่ได้พบคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเลย พวกเขาหวังว่าเหยาติงหลงจะสามารถ ทำให้จูหวังเฉินแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาได้
คนของกลุ่มหัวใจเหล็กกล้า ให้กำลังใจหัวหน้าของพวกเขา ร้องเชียร์อย่างสุดพลัง
“การประลองเริ่มได้”เสียงประกาศเริ่มการประลองดังขึ้น
ทันทีที่เริ่มการประลอง ทั่วร่างของจูหวังเฉิน ก็ลุกไหม้ไปด้วยเปลวไฟอันร้อนแรง แต่เสื้อผ้าของเขาไม่ถูกเผาไหม้แม้แต่น้อย
เหยาติงหลงย่นหน้า เมื่อสัมผัสความอุณหภูมิสูงขึ้นฉับพลัน ที่แผ่ขยายออกมา ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดอย่างชัดเจน
ปัง! ร่างของจูหวังเฉินหายวับไปในพริบตา ทิ้งรอยเผาไหม้สีดำบนจุดที่เขาเคยอยู่
ใบหน้าของเหยาติงหลงเปลี่ยนไป เขากวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อหาร่างของจูหวังเฉิน แต่เขาสัมผัสถึงอันตรายจากด้านหลัง เขารีบยกดาบไม้ขึ้นมารับทันที
เปรี้ยง! เท้าที่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิง เตะเข้าใส่ดาบไม้อย่างแรง ใบหน้าของจูหวังเฉินยังคงเรียบเฉย แต่แฝงความเย็นชา
พลังชีวิตของเหยาติงหลงลดลง 150 ทันที
ร่างของเหยาติงหลงกระเด็นออกไปไกล เหยาติงหลงกระอักเลือดสีแดงอกมาเล็กน้อย ผมของเขาถูกเผาไหม้ไปเล็กน้อย บนเกาะป้องกันตรงไหลมีรอยดำเล็กน้อย บนดาบไม้ตรงจุดที่โดนเตะกลายเป็นสีดำเกือบครึ่ง
“แข็งแกร่ง!”
“เมื่อครู่นี้มันอะไร ฉันมองตามไม่ทัน”
ผู้ชมรอบสนามประลองร้องตะโกนด้วยความตกใจ
บนห้องพิเศษดยุกเซราสพยักหน้าเบาๆ แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความชื่นชม
“ท่านพ่อเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น ลูกมองการเคลื่อนไหวของเขาไม่ทัน”เซเรียหันมาตามพ่อของเธอด้วยความสงสัย
อูเหวินที่ยืนอยู่ด้านหลังกับผู้คุ้มกันคนอื่น ตั้งใจฟัง
“ท่าร่างที่ชายหนุ่มคนนั้นใช้ เป็นท่าร่างระดับกลางไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนักหรอก แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ เขาสามารถใช้การระเบิดของธาตุไฟ ให้เกิดแรงกระแทกหลอมรวมกับท่าร่าง เกิดเป็นการเคลื่อนที่ความเร็วสูงยิ่งกว่าวิชาท่าร่างระดับสูงเสียอีก”
เซเรียพยักหน้าฟังด้วยความงุนงง
“ชายหนุ่มคนนั้น เข้าใจกฏแห่งธาตุไฟระดับกลาง แต่สามารถควบคุมธาตุไฟได้ถึงขั้นนี้ได้ แค่ใช้พรสวรรค์อย่างเดียว ไม่ฝึกฝนอย่างหนักทำไม่ได้หรอก”ดยุกเซราสปลายตามองอูเหวินด้วยแววตาลึกซึ่งยากเข้าใจ
อูเหวินยิ้มเจื่อนๆ
บนสนามประลอง
เหยาติงหลงพลิกร่าง ใช้ดาบไม้แทงลงพื้นหยุดการเคลื่อนไหว
เมื่อยืนได้มั่นคงแล้ว เขาก็ใช้พลังกดดันแผ่กระจายออกจากร่างห่อหุ้มดาบไม้และทุกส่วนของร่าง เขาประมาทเกินไป เพราะกลัวใช้พลังมากเกินไป เขาถึงไม่ใช้พลังกดดัน ทำให้การป้องกันของเขาอ่อนแอ
ถ้าเมื่อครู่ ถ้าเขาดึงพลังกดดันออกมาไม่ทัน ดาบไม้จะต้องเสียหายอย่างแน่นอน
เขาไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาถูกการโจมตีเมื่อกี้
จูหวังเฉินมองไปยังเหยาติงหลง ก่อนที่ร่างของเขาหายวับไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เหยาติงหลงคาดเดาเอาไว้ก่อนแล้ว เขาไม่หลบ แต่เลือกที่จะต่อสู้ตรง เหยาติงหลงหลับตาทั้งสองข้างลง
ผู้ชมที่เห็นคิดว่าเขาถอดใจเสียแล้ว
“ทางนั้น!”เหยาติงหลงร้องตะโกนเสียงดัง เขาหมุนตัวฟันดาบไม้ออกไป เป็นเวลาเดียวกับที่ร่างของจูหวังเฉินปรากฏขึ้น
จูหวังเฉินโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า เขาฝาดผ่ามือเปลวเพลิงนับไม่ถ้วนออกมา
เกิดเป็นคลื่นเปลวเพลิงหมุนวนโจมตีเข้าใส่เหยาติงหลง
คลื่นความร้อนปะทะใบหน้า แววตาของเหยาติงหลงเต็มไปด้วยพลัง เขาไม่ยับยั้งการโจมตี เขาเข้าปะทะตรงๆ
ฉัวะ ดาบไม้ฟันผ่านเปลวไฟตัดมันลง เปลวไฟแตกกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ร่างของเหยาติงหลงมีพลังกดดันห่อหุ้มอยู่ ทำให้เขาไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
จูหวังเฉินพุ่งเข้ามา เมื่อเห็นว่าการโจมตีผิดพลาด
“ตาย!”เหยาติงหลงร้องคำราม ร่างของเขาพุ่งไปด้วยความเร็วสูง ดาบในมือของเขาก็ฟาดฟันออกไป
จูหวังเฉินหมุนฝ่ามือเป็นวงกลม เปลวเพลิงบีบอัดเป็นม่านพลัง แต่ดาบของเหยาติงหลงตัดม่านพลังอย่างง่ายดาย เปลวไฟกระจัดกระจายไปทั่วอีกครั้ง
แต่มันก็สร้างความเสียหายให้กับดาบไม้ของเหยาติงหลงไม่น้อย แม้พลังกดดันจะช่วยป้องกันร่างกาย แต่มันก็ไม่ได้เต็มร้อยส่วน และถ้าใช้มากเกินไปก็กินแรง
เหยาติงลงใช้ท่าร่างเคลื่อนร่างเป็นเส้นตรง พุ่งเข้าหาจูหวังเฉินอย่างฉับฟลัน ดาบไม้ฟันออกไปอย่างเด็ดขาด
จูหวังเฉินไม่คิดว่าเหยาติงหลงจะทุ่มสุดตัว ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน
ฉัวะ! ดาบไม้ตัดเขาที่กลางท้องของจูหวังเฉินอย่างรุนแรง พลังชีวิตลดลงไปทันที 100
ใบหน้าของจูหวังเฉินเปลี่ยนไป กลายเป็นโกรธแค้น เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะพลาดท่าได้
เหยาติงหลงหมุนตัวกลับ ดาบในมือแทงออกไปที่ด้านข้างขอจูหวังเฉิน
แต่จูหวังเฉินไม่พลาดอีก ร่างของเขาหายวับไป ปรากกตัวขึ้นด้านหลังเหยาติงหลง
แต่เหยาติงหลงโยกตัวหลบได้อย่างฉับไว
สร้างความตกใจให้กับจูหวังเฉินและผู้ชมอย่างมาก พวกเขาไม่รู้ว่าเหยาติงหลงรู้ได้ยังไง
เหยาติงหลงกระชับดาบไม้แน่น โชคดีที่เขามีประสาทสัมผัสที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาสามารถรู้สึกถึงคลื่นความร้อนได้เร็ว ทำให้เขาคาดเดาการปรากฏตัวของจูหวังเฉินได้ จากความร้อนขากร่างของจูหวังเฉิน
จูหวังเฉินสูดลมหายใจ พลังธาตุไฟรอบร่างกายของเขาดึงพลังของเขาไปอย่างมาก เพียงไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความเหนื่อล้า ถ้าเขายังเสียเวลาอยู่อีก เขาจะต้องหมดแรงก่อนแน่
จูหวังเฉินย่นหน้าแววตาคุณคิดอะไรบางอย่างได้มองดาบไม้ของเหยาติงหลง เขาก็ผุดความคิดอะไรบางอย่างได้
เหยาติงหลงพุ่งเข้ามาต่อสู้ อย่างไม่มีความเกรงกลัวเหลืออยู่แล้ว ความั่นใจของเขาเพิ่มขึ้น ทำให้เขากล้าที่จะบุกตรงๆ
จูหวังเฉิมยิ้มเย็น เขาพุ่งเข้าปะทะอย่างไม่เกรงกลัว ทั้งสองต่อสู้กันหลายสิบกระบวนท่า ไม่มีใครยอมใครห
เหยาติงหลงยิ่งต่อสู้ยิ่งเคร่งเครียด เขาสัมผัสได้ว่าพลังของเขาเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว เขาลอบมองไปที่จูหวังเฉินที่ท่าทางเหมือนจะเหนื่อย แต่ก็ไม่มากเท่าเขา ถ้ายังยืดเยื้อต่อไป เขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
ในชั่วเลาที่เหยาติงหลงเผลอไปเพียงเสี่ยวินาที
ปัง! กลางอกของเหยาติงหลงถูกฟาดมือเพลิงฟาดอย่างแรง ทิ้งรอยเผาไม้กลางหน้าอก เกาะป้องกัน! พลังชีวิตของเหยาติงหลง ลดลงเหลือ 750
“ฉันประมาทเอง”เหยาติงหลงข่มความเจ็บ ยกมือตบๆเปลวไฟบนหน้าอกเพื่อดับไฟ
จูหวังเฉินเดินมาอย่างช้าๆ เปลวไฟรอบร่างของเขาลดลงเหลือยู่เพียงที่มือและเท้า
เหยาติงหลงกัดฟันด้วยความโกรธ ดาบไม้ในมือของเขาเปลี่ยนเป็นดำจากเพลิงเผา เมื่อเขาและจูหวังเฉินต่อสู้กัน
เหยาติงหลงตัดสินใจต่อสู้ แม้จะพ่ายแพ้แต่ก็ต้อง แพ้อย่างมีศักดิ์ศรี
ก่อนที่จูหวังเฉินจะเดิมมาใกล้ เหยาติงหลงเป็นฝ่ายบุกก่อน ดาบไม้ฟันออกไปอย่างรุนแรง พลังกดดันอันมหาศาลหลอมรวมไปในตัวดาบ ไม่มีใครกล้าตั้งรับโดยตรง
จูหวังเฉินใช้ท่าร่างอันรวดเร็วหลบและชกหมัดตอบโต้ เหยาติงหลงก็ไม่ถอย เขาตัดสินใจต่อสู้สุดกำลังทั้งหมดที่มี
ทั้งสองเข้าต่อสู้กันอย่างรุนแรง เหยาติงหลงยากลำบากที่สุด พลังชีวิตของเขาลดลงเรื่อยๆ เพราะพลังความร้อนที่ค่อยๆบั่นทอนพลังของเขา
ทั้งสองต่อสู้กันมาจนถึงขอบสนามประลอง
ร่างของเหยาติงหลงเต็มไปด้วยรอยดำที่เกิดการการเผาไหม แม้จะเจ็บปวด แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ สายตายังคงมุ่งมั่นไม่เปลี่ยน ยิงต่อสู้เหยาติงหลงพบว่ากระบวนท่าของเขายิ่งเรียบง่าย แต่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น
จูหวังเฉินถอนหายใจในความดื้อด้านของเหยาติงหลง แต่เขาก็ไม่มีทางเป็นฝ่ายที่จะพ่ายแพ้ ทั้งสองปะทะกันอยู่นาน ดาบไม้ของเหยาติงหลงกลายเป็นสีดำอย่างสมบูรณ์ และค่อยๆปรากฏร่องรอยอันตราย ราวกับจะแตกหักทุกเมื่อ
เหยาติงหลงเริ่มเร่งการต่อสู้ เขาไม่อยากพลาดแพ้แบบนี้
“สู้ สู้ สู้!”ทุกครั้งที่ฟัน เหยาติงหลงร้องตะโกนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายที่ดูเหมือนใกล้หมดแรง ยังมีแรงฮึดขึ้นมาอีก
จูหวังเฉินเริ่มตึงเครียด เขารักษาจังหวะไม่ประมาท เขาเห็นดาบไม้ของเหยาติงหลงมานานแล้ว แต่เขาไม่มีโอกาสลงมือ จนกระทั้งเหยาติงหลงโจมตีพลาด พุ่งผ่านร่างของเขาไป สังเกตพบโอกาส จูหวังเฉินไม่รอช้า ชกหมัดเปลวเพลิงชกดาบไม้แทบทีจะเป็นร่างของเหยาติงหลง
เปรี้ยง! ดาบไม้ของเหยาติงหลงหักครึ่ง ปลายดาบไม้กระเด็นตกสนามประลองไป
ใบหน้าของเหยาติงหลงเปลี่ยนไปทันที เขารีบถอยเท้ายาวๆ เพื่อลดแรงปะทะ
เขาทิ้งดาบไม้ ตั้งท่าต่อสู้ จากท่าทางของเหยาติงหลง ทักษะมือเปล่าของเขาก็ไม่อ่อนแอเท่าไหร่นัก
จูหวังเฉินเห็นดังนั้น เขาก็ยิ้มเย็นชา เขาตามมาไม่ห่างเหยาติงหลงไม่ห่าง เมื่อเหยาติงหลงเปลี่ยนท่าทางต่อสู้ จูหวังเฉินก็ชกหมัดออกไป หมัดของเขาหลอมรวมกับกฏแห่งธาตุไฟ กลายเป็นเปลวเพลิงยักษ์
เหยาติงหลงน่าซีด เขาจะใช้ท่าร่างเตรียมพร้อมจะหลบหนี แต่ช้าไปเปลวไฟยักษ์พุ่งเข้าใส่เขาอย่างแรง ไม่มีทางหลบหนี เหยาติงหลงใช้พลังกดดันทั้งหมดมาป้องกัน
ตูม! เสียงเหมือนระเบิดดังขึ้น แรงระเบิดของเปลวเพลิงยักษ์อันรุนแรง ร่างของเหยาติงหลงถูกพลังกระแทกตกสนามประลอง จบการประลองทันที
“ผู้ชนะ จูหวังเฉิน ปี 1”
จูหวังเฉินหันหลังเดินจากไปอย่างสงบมาก
เหยาติงหลงผยุงตัวเองขึ้นด้วยความงุนงง ก่อนที่เขาจะออกจากสนามประลอง
กองเชียร์ของกลุ่มหัวใจเหล็กกล้า เห็นหัวหน้าของพวกเขาพ่ายแพ้ พวกเขาก็รีบจากไปทัน
จากนั้นการประลองคู่ที่ 3 จิวโมไป๋ ต่อสู้กับกลุ่มผู้แพ้ หนึ่งในสามคนที่ผ่านเข้ารอบมา
และก็เซี่ยลี่เยว์ ประลองกับต่อสู้กับกลุ่มผู้แพ้เช่นกัน พวกเขาเอาชนะไปได้อย่างไม่ยากเย็น
จบการประลองรอบ 8 คนสุดท้าย
ผู้ชมตื่นเต้นอย่างมาก เพราะคนที่เข้ารอบ เป็นนักศึกษาปี 1 ทั้งสี่คน และเป็นผู้ใช้กฏแห่งธาตุถึงสามคน
การประลองรอบรองชนะเลิศมันน่าจะต้องตื่นเต้นยิ่งกว่าแน่ๆ
เวลาพักก่อนการประลองรอบต่อไป จิวโมไป๋และหวังเสี่ยวเปา พากันไปที่ห้องพักฟื้นของหวังเสี่ยวเปา เพื่อดูอาการ เมื่อไปถึง พวกเขาก็พบอูเหวินยืนรออยู่นอกห้องของเฉินหู
จิวโมไป๋มองด้วยความสงสัย อูเหวินไม่พูด เขารอให้พวกจิวโมไป๋มา เพื่อเข้าไปพร้อมกัน
ทันทีที่เข้าไปในห้องพักฟื้นของเฉินหู จิวโมไป๋หันไปเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง
เย่จื่นปิง!
เธอนั่งอย่างสงบอยู่ข้างห้องสารอาหารของเฉินหู จิวโมไป๋สัมผัสได้ถึงกฏแห่งธาตุน้ำแข็ง อันแข็งแกร่งจากร่างของหญิงสาวโดยที่ไม่ต้องใช้จิตสัมผัส
เขาเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะเขาสัมผัสได้ถึงสายเลือดอันทรงพลังอยู่ภายในร่างของเธอ แต่เขาไม่คุ้นเคยกับสายเลือดนี้เลย
จิวโมไป๋คิดเล็น้อย เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไม กฏแห่งธาตุน้ำแข็งของเย่จื่นปิงถึงดูเหมือน จะปะทุอยู่ตลอดเวลา
สายเลือดในร่างของเธอกำลังตื่นขึ้น ทำให้มันยากที่จะควบคุม
จิวโมไป๋ขมวดคิ้ว
สถานะการณ์แบบนี้ มันอันตรายกับเด็กในท้องของเย่จื่อปิง ถ้าสายเลือดตื่นขึ้น มันอาจจะทำให้เกิดอันตรายกับเด็กในท้องของเย่จื่นปิงได้
จิวโมไป๋ยังไม่พูดอะไร เขารอให้เฉินหูฟื้นก่อน
สามชายและหนึ่งหญิงสาวนั่งแยกกันคนละฝั่ง หวังเสี่ยวเปาและอูเหวินพูดกระซิบกันเบาๆ
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ดวงอาทิตย์ค่อยๆตกลง ความมืดเริ่มปกคลุมท้องฟ้า สนามประลองเปิดไฟให้แสงสว่างทั้งหมด
จนถึงการประลองรอบสุดท้าย
จิวโมไป๋ ปี 1 ต่อสู้กับ เซี่ยลี่เยว์ ปี 1
จิวโมไป๋หันไปมองเซี่ยลี่เยว์ พร้อมกับที่เธอหันมามองจิวโมไป๋พอดี
จิวโมไป๋ยิ้มให้เล็กน้อย และลุกขึ้นและค่อยๆเดินไปที่ประตูทางออก ก่อนจะออกจากห้องรอ เซี่ยลี่เยว์เดินมาหาจิวโมไป๋ก่อนจะกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“นายช่วยเปลี่ยนอาวุธ เป็นกระบี่ได้ไหม ฉันอยากต่อสู้กับนายด้วยวิชากระบี่พื้นฐานอีก”เซี่ยลี่เยว์เดินมาใกล้จิวโมไป๋แล้วกระซิบเสียงเบา ดวงตาของเธอฉายแววมุ่งมั่นเต็มไปด่้วยพลัง
จิวโมไป๋แปลกใจ ก่อนจะพยักหน้า และเดินไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์และหยิบกระบี่ขึ้นมา
ทั้งสองเดินออกไปพร้อมกัน
—
คอมเม้นต์