ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 219
ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย
นักฆ่าที่ปลอมตัวอยู่ที่นั่งคนดูใต้ห้องพิเศษ เขาเห็นการเคลื่อนไหวผิดปกติ เขาได้ตรวจสอบแผนผังของสนามประลอง มาก่อนปฏิบัติภารกิจ ทางที่กลุ่มเป้าหมายเข้าไป ไม่ได้เป็นห้องตรวจสอบร่างกายเหมือนที่ประกาศ และเขาสังเกตเห็นคนภายในห้องพิเศษ กำลังทำอะไรบางอย่าง
ใบหน้าของนักฆ่าพลันเปลี่ยนไป
แย่แล้ว!
นักฆ่ากดไปที่กำไลข้อมือทันที
กำไลข้อมือของนักฆ่าทั้งหมดสั่นสะเทือนพร้อมกัน เป็นสัญญาณว่าพวกเขาถูกพบตัว นักฆ่าทั้งหมดรีบตรวจสอบรอบข้าง พวกเขาก็พบว่ามีคนกำลังลอบซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ ใบหน้าของเหล้านักฆ่ากลายเป็นโหดเหี้ยม พวกเขาต่างเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีทันที
แต่ในตอนนั้นเอง พื้นที่เหล่านักฆ่าทั้งหมดยืนอยู่ ก็ปรากฎข่ายอาคมวงกลมสีม่วงอ่อน ก่อนจะกลายเป็นโซ่สีม่วงอ่อนพุ่งขึ้นมารัดร่างของนักฆ่าทุกคน
“เกิดอะไรขึ้น!”ผู้ชมที่อยู่ใกล้ๆนักฆ่าต่างก็หันมามองด้วยความตกใจ พวกเขายืนตะลึง ไม่เข้าใจสถานะการว่าเกิดอะไรขึ้น
คนของหน่วยลับเห็นว่านักฆ่ารู้ตัว พวกเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวทันทีเช่นกัน แต่เมื่อเห็นโซ่สีม่วงอ่อนที่รัดร่างของนักฆ่า พวกเขาก็ชะงักร่างหยุดลงด้วยความแปลกใจ เพราะมันไม่เหมือนแผนที่วางเอาไว้
“ขอให้ทุกคนรีบออกจากสนามประลอง ตอนนี้มีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวมาในสนามประลอง เรากำลังเข้าจับกุมผู้ก่อการร้าย เพื่อความปลอดภัยของพวกคุณเอง”คนของหน่วยลับที่ได้สติ ตะโกนเสียงดังเตือนคนในสนามประลอง
ผู้ชมที่ได้ยินต่างก็เต็มไปด้วยความกลัว พวกเขารีบออกจากสนามประลอง อย่างชุลมุนวุ่นวาย
เหล่านักฆ่าที่ถูกจับแม้ว่าจะตกใจ แต่ก็ไม่ลนลาน พวกเขาสังเกตเห็นคนของหน่วยลับที่กำลังเข้ามา ร่างของพวกเขาพลันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
นักฆ่าบางคนกลายเป็นครึ่งสัตว์ บางคนกลายมีเกล็ดขึ้นทั่วร่าง บางคนมีปีกงอกที่กลางหลัง บางคนมีพลังบางอย่างห่อหุ่มร่างกาย
คนของหน่วยลับเห็นท่าไม่ดี พวกเขาพุ่งเข้าไป และใช้อาวุธในมือเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว
นักฆ่าพยายามปัดป้องการโจมตี แต่เพราะถูกโซ่สีม่วงอ่อนรัดทั่วร่าง ทำให้ขยับร่างกายลำบาก พวกเขาถูกโจมตีจนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล
“โฮกกกก ฉันจะฆ่าแก!”นักฆ่าที่มีร่างกายช่วงบนเป็นเสือ ร้องคำรามเสียงดังกล้ามเนื้ออันทรงพลังบูดโบน ก่อนจะใช้พลังทั้งหมดกระชากโซ่สีม่วงแตกเป็นชิ้นๆ สลายหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่
นักฆ่ามนุษย์เสือหันหน้าไปทาง คนของหน่วยลับผู้ใช้ดาบที่พยายามสร้างบาดแผลให้กับร่างของเขาเอง ดวงตาของนักฆ่ามนุษย์เสือกลายเป็นโหดเหี้ยม พลังกดดันอันน่าสะพรึงกลัวโหมกระหน่ำเข้าปะทะร่างของผู้ใช้ดาบ จนตกตะลึง นักฆ่ามนุษย์เสือแยกเขี้ยวพุ่งเข้าไปตะปบกรงเล็บ เข้าใส่ร่างของผู้ใช้ดาบ
ผู้ใช้ดาบเห็นกรงเล็บอันทรงพลังกำลังใกล้เข้ามา เขาไม่มีทางหลบได้ทัน เขาได้แต่ยกดาบในมือขึ้นมาป้องกัน
ในเวลาเดียวกับที่นักฆ่ามนุษย์เสือ ทำลายโซ่สีม่วงอ่อน นักฆ่าคนอื่นๆก็เริ่มทำลายโซ่ได้เช่นกัน เมื่อหลุดออกมาพวกเขาโจมตีคนของหน่วยลับที่อยู่ใกล้ทันที
โถงทางเดิน
จิวโมไป๋เปลี่ยนเป็นชุดดำทั้งตัว เหมือนคนของหน่วยลับ เขาพุ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มกำลัง ระหว่างทางเข้าหยุดการทำงานของกล้องวงจรปิด เพื่อไม่ให้มีภาพบันทึก
ใบหน้าของจิวโมไป๋เต็มไปด้วยความตึงเครียด เขากำลังแข่งกับเวลา ในตอนนั้นเองนักฆ่าขั้นที่ 7 ไขกระดูกกลาง ที่ทำลายโซ่ กำลังวิ่งไปยังห้องพักฟื้นที่เฉินหูกำลังรักษาตัว
ใบหน้าของจิวโมไป๋เปลี่ยนไป
เพราะในห้องไม่ใช่มีแค่เฉินหู แต่มีเย่จื่อปิงที่กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย!
นักฆ่าผู้มีรูปร่างเหมือนลิง มีความสูงกว่า 3 เมตร หลังจากสลัดโซ่สีม่วงออกไปได้ เขาก็พุ่งไปยังห้องที่เป้าหมายพักฟื้นอยู่ แต่เมื่อเข้าใกล้ประตูห้อง เขาก็กระแทกเข้ากับม่านพลังสีม่วงอ่อนอย่างแรง
เปรี้ยง! ร่างของนักฆ่าลิง กระเด็นกลับไปหลายก้าว มันมองไปยังม่านพลังสีม่วงด้วยความมึนงง ก่อนจะยิ้มเหี้ยมพุ่งกลับไปชกหมัดอันทรงพลัง เข้าใส่ม่านพลังอย่างแรง
ตูม! ม่านพลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แต่มันก็ป้องกันหมัดของนักฆ่าลิงเอาไว้ได้
ใบหน้าของจิวโมไป๋ซีดลงไปเล็กน้อย โชคดีที่เขาวางข่ายอาคมป้องกันเอาไว้ก่อนหน้า ทำให้เขาสามารถส่งพลังวิญญาณไปเสริมข่ายอาคมป้องกันได้ แต่มันก็สิ้นเปลืองพลังของเขาไปไม่น้อย
จิวโมไป๋กำลังใกล้จะถึง แต่อยู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังแห่งกฎอันแข็งแกร่งกวาดพื้นที่ทั้งหมด ร่างของเขาก็ชะงักค้างในท่าวิ่ง มีแต่จิตสัมผัสของเขาที่ยังใช้งานได้
เกิดอะไรขึ้น!
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบโดยรอบ เขาก็พบทุกอย่างถูกทำให้หยุดอยู่กับที่เหมือนหยุดเวลา
หยุดเวลา!
เป็นไปไม่ได้ จิวโมไป๋ปฏิเสธความคิดนั้นไปทันที เพราะกฎแห่งเวลา อยู่ระดับสูงกว่ากฎทั่วไปหลายระดับ แม้แต่ในดินแดนแห่งความโกลาหล ก็มีผู้ตระหนักกฎแห่งเวลาเพียง จำนวนนิ้วบนฝ่ามือข้างเดียวเท่านั้น
ไม่มีทางที่โลกของเขาที่พึ่งฟื้นฟูพลังธรรมชาติ จะมีผู้ตระหนักกฎแห่งเวลาได้
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตจรวจสอบ เขาเห็นคนของหน่วยลับในชุดคลุม สามารถเคลื่อนไหวได้ ไม่ถูกหยุดอยู่กับที่ พวกเขาเข้าไปจับกุมนักฆ่า
ทางด้านนักฆ่าลิง ก็มีคนของหน่วยลับสองคน กำลังเข้าไปใส่กุญแจมือ
จิวโมไป๋เห็นดังนั้น เขาอยากจะนิ่วหน้าไม่พอใจ แต่ก็ทำไม่ได้เพราะถูกหยุดอยู่กับที่
ถ้าเป็นเขาจะไม่จับกุมนักฆ่าเหล่านี้ เขาจะสังหารนักฆ่าทันที เพราะนักฆ่าเหล่านี้ไม่มีทางบอกอะไรแน่ แม้จะจับไปทรมานก็ตาม
ในตอนนี้สถานการยังไม่มั่นคง การจับนักฆ่าเฉยๆ มีโอกาสที่นักฆ่าจะหลุดออกจากการจับกุม และโจมตีพวกเขาได้ การสังหารอย่างเด็ดขาด จะเป็นวิธีหยุดนักฆ่าได้อย่างเห็นผลชัดเจน
และเขาไม่เชื่อว่าพลังที่สามารถหยุดทุกอย่าง เหมือนการหยุดเวลาแบบนี้จะสามารถใช้ได้นาน
การจับกุม เป็นการกระทำที่เสียเวลาเปล่า
และก็เหมือนอย่างที่เขาคิด ร่างของจิวโมไป๋อยู่ๆก็สามารถกลับมาขยับได้ เขาวิ่งไปที่ห้องของเฉินหูโดยไม่รีรอ
นักฆ่าลิงที่กลับมาขยับตัวได้ ก็ไม่รอช้าใช้พละกำลังของมัน กระแทกร่างของคนของหน่วยลับที่อยู่ใกล้ๆกระเด็นไปชนกำแพงอย่างรุนแรง นักฆ่าลิงมองไปที่กุญแจมือ มันก็กัดฟันแน่นด้วยความโกรธ ร่างกายกำยำบีบรัดจนเห็นเส้นเลือด
“ย๊าาาก!”
เคร็ง! โซ่กุญแจมือตรงกลางขาดออก นักฆ่าลิงแยกเขี้ยวไปยังคนของหน่วยลับอีกคนที่กำลังยกอาวุธจะโจมตี นักฆ่าลิงไม่รอช้ารีบพุ่งตัวไปทันที
คนของหน่วยลับยกกระบี่ของตัวเองขึ้นมาเพื่อต่อสู้ แต่พลังกดดันอันมหาศาลของนักฆ่าลิง ทำให้ร่างของเขาสั่นระริกด้วยความกลัว ขาของเขาไม่สามารถขยับได้
ในช่วงเวลาใกล้ตาย
ก็มีเงากระบี่แทงทะลุคอของนักฆ่าลิงจากทางด้านหลัง
“อัก!”นักฆ่าลิงกะอักเลือดออกมา ตรงคอที่กระบี่แทงทะลุเลือดสีแดงค่อยๆไหลออกมา ยังไม่ทันที่นักฆ่าลิงจะขยับ กระบี่ก็ตะวัดตัดคอของนักฆ่าลิงหลุดออกมาอย่างง่ายดาย
คนของหน่วยลับที่ใช้กระบี่ ทรุดตัวลงอย่างหมดแรง เพราะเขาพึ่งเฉียดประตูนรกไปหมาดๆ
จิวโมไป๋หันไปห้องของเฉินหู เขาใช้จิตสัมผัสตรวจสอบ ก็พบว่าเย่จื่อปิงกำลังขนของมาค้ำยันประตูห้อง เพื่อป้องกันการบุกรุก เห็นดังนั้นเขาก็ไม่เข้าไป
จิวโมไป๋เดินไปยังร่างคนของหน่วยลับที่ถูกโจมตี ตอนนี้สลบไม่ได้สติ เขาก้มลงไปตรวจสอบร่างกาย เขาก็พบอวัยวะภายในแตกหัก แต่ไม่ถึงขีดอันตราย เขาหยิบโอสถรักษาและโอสถฟื้นฟูพลังออกมา ใส่ปากคนของหน่วยลับ และใช้พลังวิญญาณละลายโอสถให้ไหลลงไปในท้อง
จิวโมไป๋ยันตัวขึ้นใช้จิตสัมผัสไปดูที่สนามประลอง เขาก็ต้องเลิกคิ้วด้วยความตกใจ เพราะนักฆ่าขั้นที่ 8 ชีพจรกลาง กลายร่างเป็นแวมไฟร์ที่ปกคลุมไปด้วยพลังงานสีดำน่าสะพรึงกลัว
แวมไฟร์ลอร์ด!
แวมไฟร์สายเลือดราชวงศ์ เป็นสายเลือดอันดับที่ 4 ของรายชื่อร้อยสายเลือดเทวะ โดดเด่นด้านพลังกายภาพ พละกำลัง ความทนทาน การฟื้นตัว ความเร็ว ความยืดหยุน และการตอบสนอง ทุกด้านล้วนอยู่ในอันดับต้นๆของสายเลือดทั้งหมด และยังสามารถใช้พลังงานความมืดอันทรงพลังได้อย่างง่ายดาย
แวมไฟร์ลอร์ดไม่กลัวแสงสว่างหรือพลังศักดิ์สิทธิ์ แตกต่างจากแวมไฟร์ระดับต่ำลงไป
แวมไฟร์ลอร์ดเป็นผู้ปกครองความมืดอันเป็นนิรันดร์!
แวมไฟร์ลอร์ดถือว่าเป็นผู้อาวุโสขององค์กรโลหิตนิรันดร์ พวกเขาไม่ค่อยยอมที่จะออกไปไหนนัก
ไม่ติดเลยว่าแวมไฟร์ลอร์ดจะมาร่วมภารกิจสังหารในครั้งนี้
ด้านหลังของแวมไฟร์ลอร์ด นักฆ่าขั้นที่ 8 ต้น อีก 3 คน ก็กลายร่างเป็นแวมไฟร์ พลังงานสีเลือดรอบร่างกาย บ่งบอกได้ว่าพวกเขาเป็นสายเลือดแวมไฟร์อัศวิน ที่ต่ำกว่าแวมไฟร์ลอร์ด แม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งไร้เทียมทานเหมือนแวมไฟร์ลอร์ด แต่พวกเขาก็ยังแข็งแกร่งจนน่าหวาดกลัวอยู่ดี
จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสมองไปยังฝั่งตรงข้ามของแวมไฟร์ลอร์ด เขาก็พบคนของหน่วยลับ 5 คน กำลังยืนถืออาวุธพร้อมที่จะต่อสู้ บนหน้าผากของพวกเขาปรากฏรอยสักที่ปล่อยพลังงานอันทรงพลังออกมา
ชายชุดคลุมดำด้านหน้าสุด ถือนาฬิกาทรายสีน้ำตาลที่มีร้าว พลังธาตุดินสีน้ำตาลหมุนวนทั่วร่างของเขา ปล่อยพลังอันทรงพลังกดดันแวมไฟร์ลอร์ดและคนของอีกฝ่ายไม่ให้เคลื่อนไหว
แวมไฟร์ลอร์ดเหยียดตามองไปยังชายชุดคลุมสีดำ ก่อนที่สายตาจะมองไปยังรอยสักสีน้ำตาลรูปนาฬิกาทราย และมองลงไปยังนาฬิกาทรายในมือของชายชุดดำ
“หึ ข้าไม่คิดเลยว่าภารกิจที่ฉันรับในรอบหลายเดือน จะทำให้ฉันได้พบกับอัจฉริยะอันดับ 1 ของประเทศมังกร”น้ำเสียงของแวมไฟร์ลอร์ดแฝงไว้ด้วยความเสียดสีเย้ยหยัน
“ช่างน่าเสียดายที่ต้องมาตายที่นี่”แวมไฟร์ลอร์ดยิ้มให้เห็นฟันเขี้ยวสีขาวอันแหลมคม
“อย่ามั่นใจนักเลย แวมไฟร์ลอร์ด คนของพวกเราล้อมที่นี่เอาไว้หมดแล้ว นายไม่มีทางทำอะไรได้อีกแล้ว ยอมแพ้แล้วปล่อยให้พวกฉันจับ อย่าขัดขืนให้เสียเวลามากไปกว่านี้เลย”ชายชุดคลุมสีขาวด้านซ้ายของชายชุดดำพูดขึ้นเสียงดัง
แวมไฟร์ลอร์ดได้ยินดังนั้น เขาก็เงยหน้าหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่าๆๆๆๆ น่าขัน คนชั้นต่ำที่ฉันสามารถขยี้ทิ้งได้ง่ายๆอย่างพวกแก มีอะไรที่ทำให้ฉันต้องยอมแพ้”
แวมไฟร์อัศวิน 3 คนด้านหลังก็หัวเราะตาม
ใบหน้าคนของหน่วยลับต่างก็เปลี่ยนสี พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมแวมไฟร์ลอร์ดถึงมีมั่นใจแบบนั้น
“แก…”
ชายชุดดำยกมือขึ้นห้ามชายชุดคลุมขาวให้หยุดพูด สายตาของเขามองไปยังแวมไพร์ลอร์ดไม่ละสายตา บนมืออีกข้างนาฬิกาทรายลอยขึ้นอย่างช้าๆ พลังงานบางอย่างแผ่กระจายออกมา
แวมไฟร์ลอร์ดหยุดชะงักการหัวเราะ เขาสามารถสัมผัสพลังงานอันแข็งแกร่งจากนาฬิกาทราย ใบหน้าของแวมไพร์ลอร์ดกลายเป็นจริงจังขึ้น แต่สายตายังคงแฝงความดูแคลนอย่างไม่ปกปิด
จิวโมไป๋ซ่อนตัวดูการต่อสู้ เขาได้ยินคำว่าอัจฉริยะอันดับ 1 ของประเทศมังกร เขาก็นึกถึงจี้หยางเฟย แต่เมื่อเห็นนาฬิกาทรายในมือของชายชุดดำ เขาก็จดจำอีกฝ่ายได้ในทันที
อัจฉริยะอันดับ 1 ของประเทศมังกร คนก่อนหน้าจี้หยางเฟย
ซานคุนหมิง!
ผู้บัญชาการสูงสุดหน่วยลับเขตใต้ และเขายังเป็นผู้สืบทอดของสำนักลึกลับ ที่มีหนึ่งในเคล็ดบ่มเพาะพลังที่ทรงพลังที่สุดของโลก!
—
คอมเม้นต์