ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 253
เสียงกรีดร้องทั้งทั่วอาณาเขตตระกูลเซียว อาณาเขตข่ายอาคมห่อหุ่มพื้นที่ทั้งหมด ขีดจำกัดของระดับการบ่มเพาะพลังจากระดับปราณนภาถูกลดลงเหลือเพียงระดับปราณปฐพี
ทำให้ผู้บ่มเพาะพลังระดับปราณนถาที่ลอยอยู่กลางอากาศ สูญเสียความสามารถในการบิน ตกลงมาจากท้องฟ้า ยอดฝีมือสามารถทรงตัวลงพื้นได้ทันท่วงที แต่ก็มีไม่น้อยที่ตกลงมาอย่างหมดรูป แม้ว่าจะไม่บาดเจ็บนักก็ตาม
“ข่ายอาคมนี้มันอะไรกัน!”ผู้ฝึกตนตระกูลเซียวสัมผัสได้ถึงพลังอันน่าเกรงขรามของข่ายอาคมที่กดระดับการบ่มเพาะพลังให้ต่ำลง พวกเขาไม่เคยเห็นข่ายอาคมที่ทรงพลังเช่นนี้มาก่อน
ยอดฝีมือระดับปราณนภาที่ลดระดับลงมาอยู่ระดับปราณปฐพีปลาย พุ่งทะยานเข้าหากำแพงข่ายอาคม 1 ใน 12 ด้าน ดาบเหล็กขาวในมือส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะฟันออกไป คลื่นดาบที่ห่อหุ่มกฎแห่งธาตุน้ำ เกิดเป็นเงามังกรคำรามพุ่งเข้าโจมตีเข้าใส่กำแพงข่ายอาคม
“ยอดเยี่ยม! วิชาดาบมังกรนทีระดับเข้าใจ รัศมีพลังช่างแข็งแกร่งทรงพลังจริงๆ สมแล้วที่ท่านเซียวลู่หานได้รับตำแหน่งผู้อาวุโสนอก ที่อายุน้อยที่สุดของตระกูล พรสวรรค์ของเขาช่างยอดเยี่ยม เป็นรองเพียงคุณชายใหญ่เท่านั้น”
เสียงกรีดร้องชื่นชมดังสนั่น แต่ยังไม่ทันทีพวกเขาจะได้ชื่นชมจนจบ กำแพงข่ายอาคมก็ส่งเสียงดังกระหึ่ม ก่อนที่จะปรากฏเงาเสมือนลิงยักษ์สีทอง รัศมีพลังอันข่มเหงกดทับผู้คนจนหายใจไม่ออก เงาร่างลิงเสมือนพุ่งออกจากกำแพงข่ายอาคม ชกทำลายคลื่นดาบมังกรน้ำแตกกระจาย ก่อนที่ลิงยักษ์จะทะยานมาชกที่ร่างของเซียวลู่หาน หมัดอันทรงพลังชกฉีกกระชากอากาศราวกับกระจก
เซียวลู่หานสัมผัสได้ถึงอันตรายถึงแก่ชีวิต เขาเร่งพลังจากทั่วร่างเกิดเป็นสระอำพันกว้าง 40 เมตรใต้ฝ่าเท้า และฟันดาบออกไป คลื่นดาบเกิดเป็นมังกรหมุนวนคล้ายโล่ป้องกัน
ตูม! เสียงระเบิดดังกึ่งก้อง ร่างของเซียวลู่หายกระเด็นออกไปหลายร้อยเมตร กระแทกทำลายกำแพงทะลุผ่านชนไปที่อาคารบ้านเรือนหลายสิบหลัง อาคารทุกหลังพังทะลายอย่างน่ากลัว ผู้คนที่อยู่แถวนั้นถูกลูกหลงบาดเจ็บสาหัสจนถึงขั้นเสียชีวิต
เซียวลู่หานกลิ้งไปตามพื้นเกิดเป็นรอยลากยาวบนพื้นก่อนที่เขาจะชนไปที่กำแพงกั้นเขตชั้นในของตระกูล
“อัก!”เซียวลู่หานกระอักเลือดออกมากองใหญ่ เขายังไม่หมดสติแต่ดาบในมืิอแตกหักเป็นชิ้นๆ กระดูกทั่วร่างแตกร้าว ไม่สามารถลุกขึ้นได้ในเร็วๆนี้
ผู้ฝึกตนตระกูลเซียวที่เห็นต่างตกใจ เพราะเซียวลู่หานเป็นหนึ่งในยอดฝีมืออันดับต้นๆของตระกูลที่อยู่ตรงนี้ ผู้ที่แข็งแกร่งกว่ากำลังประชุมอยู่ภายในห้องลับ
“ส่งสัญญาณไปให้ผู้อาวุโสในเร็วเข้า!”ผู้อาวุโสนอกกล่าวกับผู้ฝึกตนที่ยืนตกตะลึงอยู่ ก่อนที่เขาจะเดินออกไปและตระโกนเสียงดังสนั่น
“สารเลว! อย่าเอาแต่หลบซ่อน โผล่ออกมาเดียวนี้!”
ผู้ฝึกตนตระกูลเซียวคนอื่นๆเดินมารวมตัวที่ใจกลางอาณาเขต หน้าอาคารหลักของตระกูล เมื่อรวมกลุ่มกัน ความมั่นใจก็เพิ่มขึ้น
พวกเขาร้องด่าทอเสียงดังร้องเรียกให้ผู้ที่กางข่ายอาคมให้ออกมาปรากฎตัว
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ
วูบ! เงาร่างทั้งสิบปรากฎตัวขึ้น สีหน้าของพวกเขาเย็นยะเยือก พลังกดดันแผ่กระจายออกจากร่างอย่างน่ากลัวผู้บ่มเพาะพลังที่อ่อนแอต่างก็ถูกคลื่นพลังกดทับจนหมดสติ
พวกเขาทั้งสิบสวมชุดคลุมไหล่สีดำ ด้านหลังเสื้อคลุมมีหมายเลข 1-10 ปักด้วยด้ายสีทอง พวกเขาเป็นผู้อาวุโสในของตระกูลเซียว เป็นสุดยอดฝีมือที่แข็งแกร่งของตระกูลเซียว
“เกิดอะไรขึ้น!”ผู้อาวุโสใน 1 กล่าวเสียงเย็นยะเยือก สานตากวาดไปยังข่ายอาคมที่ปิดรอบอาณาเขตตระกูล
ในระหว่างที่พวกเขากำลังเข้าร่วมประชุมสมาชิกระดับสูงของตระกูลประจำปี เกี่ยวกับสถานะการณ์ของตะกูล และแผนการในอนาคต การประชุมกำลังเป็นไปได้ด้วยดี แต่อยู่ๆก็มีเสียงสัญญาณฉุกเฉินดังขึ้น และกว่าจะรู้ตัวระดับการบ่มเพาะพลังอยู่ๆก็ถูกลดลงอยู่ปราณปฐพีปลาย
เมื่อพวกเขาออกมาก็ไม่พบผู้บุกรุกสักคนเดียว
หัวหน้าทีมป้องกันใช้ท่าร่างปรากฎตัวเบื้องหน้าผู้อาวุโส
“รายงานผู้อาวุโส 1 อยู่ๆพื้นที่ทั้งหมดของตระกูลก็ถูกปกคลุมด้วยข่ายอาคม ที่ไม่สามารถระบุได้ ในเวลาเดียวกันระดับการบ่มเพาะพลังของผู้ที่อยู่เหนือกว่าระดับปราณนภาทั้งหมดถูกลดลงจนเหลือเพียงปราณปฐพีปลาย และกำแพงข่ายอาคมก็แข็งแกร่งอย่างมาก หัวหน้าผู้อาวุโสนอก ใช้พลังทั้งหมดโจมตี แต่ถูกพลังของข่ายอาคมโจมตีกลับ ตอนนี้เขาหมดสภาพไม่สามารถต่อสู้ได้อีก”
ผู้อาวุโส 1 ที่ได้ยินแววตาของเขาก็มืดครึ้ม เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเซียวลู่หานเป็นอย่างดี ถ้าเปรียบเทียบในระดับเดียวกัน เซียวลู่หานมีระดับฝีมือน้อยกว่าเขาไม่กี่ขั้นเท่านั้น ข่ายอาคมที่สามารถทำร้ายเซียวลู่หายได้ มันจะต้องไม่ธรรมดา ผู้อาวุโส 1 กวาดตามองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พออะไรผิดปกติ
ผู้อาวุโสที่เหลืออีกเก้าคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง พวกเขาก็มองไปรอบๆเช่นกัน แต่ก็ไม่พบอะไรเลย พวกเขาต่างก็เป็นสุดยอดฝีมือชั้นสูง การตรวจจับต่างก็ไม่ธรรมดา แต่พวกเขาก็ไม่สามารถตรวจพบใครได้เลย
“ฮืม!”ผู้อาวุโส 1 ระเบิดพลังกดดันออกจากร่างเกิดเป็นพายุปั่นป่วนน่าสะพรึงกลัว ในมือปรากฎกระบี่ยาวสีขาว เขาใช้ท่าร่างอันแยบยลทะยานร่างลอยขึ้นกลางอากาศ ก่อนที่กระบี่จะแทงออกไปเกิดเป็นเงากระบี่น้ำอันคมกริบ 12 เล่มทะยานออกไปโจมตีเข้าใส่กำแพงแต่ละด้าน
แต่ยังไม่ทันทีคมกระบี่จะไปถึงกำแพงข่ายอาคม
เงาเสมือนสัตว์ยักษ์ 12 ชนิด ก็พุ่งออกจากข่ายอาคมก่อนที่พวกมันจะทำลายกระบี่น้ำ และเข้าโจมตีผู้ที่โจมตีใส่ข่ายอาคม
เห็นเงาเสมือนพุ่งเข้ามา ใบหน้าของผู้อาวุโส 1 ไม่เปลี่ยนสี พลังกดดันรวมไปที่กระบี่ก่อนจะกระเบิดการโจมตีอันรุนแรง เงากระบี่น้ำนับหมื่นทะยานเข้าหาสัตว์เสมือนทั้งหมด
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เสียงปะทะดังติดๆ เงาเสมือนสัตว์ทั้ง 12 ตัวต่างก็เกิดรอยทิ้มแทง นับไม่ถ้วนแต่พวกมันไม่บาดเจ็บหรือไม่มีรอยเลือด มีเพียงแค่ถูกการโจมตีกระเด็นถอยกลับไปเท่านั้น แต่ไม่นานพวกมันก็ตั้งหลักและโจมตีเข้ามาอีกครั้ง
“พวกเจ้ามัวลังเลอะไรอยู่! หาทางทำลายข่ายอาคมเร็วเข้า!”ผู้อาวุโส 1 กล่าวเสียงเย็นชา กระบี่น้ำขยายใหญ่ขึ้นก่อนจะฟาดฟันออกไป คลื่นกระบี่เกิดเป็นคมกระบี่ตัดร่างของสัตว์เสมือน แม้ไม่นานพวกมันจะสามารถรวมร่างใหม่ แต่ในเวลาเพียงเล็กน้อย มันเปิดโอกาสให้เหล่ายอดฝีมือเข้าใกล้กำแพงข่ายอาคม เพื่อหาวิธีทำลายข่ายอาคม
ผู้อาวุโส 1 เข้าต่อสู้ถ่วงเวลากับสัตว์เสมือนทั้ง 12 ตัว การต่อสู้เต็มไปด้วยความดุเดือด คนเดียวสามารถต่อสู้กับสัตว์เสมือนอันแข็งแกร่งได้ถึง 12 ตัว ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโส 1 ไม่ธรรมดาจริงๆ
ผู้อาวุโสในและเหล่ายอดฝีมือเข้าโจมตีกำแพงข่ายอาคม แต่ก็ไม่สามารถทำลายได้ แม้ว่าจะใช้พลังในการโจมตีมากเท่าใดก็ตาม เหล่าปรมาจารย์ต่างก็ใช้ข่ายอาคมแก้เข้าแก้ไข แต่พวกเขาก็ไม่พบเงื่อนงำในการปลดข่ายอาคม
พลังของพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็ว จนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ พวกเขาเริ่มรู้สึกเหน็ดเหนื่อย
เสียงเย็นชาดังขึ้น
“ถ้าอยากออกไป นำตัวเซียวหนานจิ้นออกมา!”เสียงนั้นดังทั่วอาณาเขตตระกูลเซียว
“สารเลว! แกกล้าเอ่ยนามท่านประมุขของพวกเราตรงๆได้ยังใง”เหล่าผู้ฝึกตนของตระกูลเสี่ยวตะโกนด่าทอออกมา ด้วยความโกรธแค้น
พวกเขาไม่รู้จุดประสงค์ของคนที่ขังพวกเขาเอาไว้ อีกฝ่ายเหมือนกำลังเล่นสนุกกับพวกเขาอยู่
“ถ้าไม่นำมันออกมา พวกแกทั้งหมดจะต้องถูกฝั่งอยู่ที่นี่ ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่สามารถหลบหนีออกไปได้”เสียงเย็นชาดังขึ้นอีกครั้ง พลังกดดันอันทรงพลังกดทับผู้คนในอาณาเขคทั้งหมด
“สารเลว! รู้ไหมว่ากำลังพูดกับใคร พวกเราคือตระกูลเซียวอันทรงเกียรติ สารเลวอย่างแกไม่สามารถลบหลู่พวกเราได้!”เหล่าผู้อาวุโสในต่างรู้สึกเหมือนถูกดูแคลนพวกเขาต่างก็แยกกันตามหาไปทั่วอาณาเขต
พวกเขาไม่ยอมรับคำพูดของผู้ที่หลบซ่อนเหมือนหนูขี้ขลาด
เกิดความเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่เสียงเย็นช้าจะกล่าวอีกครั้ง
“ถ้าอย่างนั้น พวกแกก็รับผล ที่พวกแกไม่ยอมนำตัวเซียวหนานจิ้นออกมา”
จบคำเสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น
“พี่รอง!!!”
“หัวหน้า!!!”
“อ๊ากกกก! น้องข้า!!!”
“ไม่จริง! ที่รักลุกขึ้นมา!!!”
คนของตระกูลเริ่มทยอยล้มลง บนร่างปรากฎคมกระบี่แทงเข้าสู่จุดตาย ทุกการโจมตีไร้เงื่อนงำ ไม่มีใครรู้สึกถึงการโจมตี แค่เพียงพริบตาก็สามารถปลิดชีวิตในกระบี่เดียว
เหล่าผู้อาวุโสต่างทะยานไปยังเสียงกรีดร้อง แต่ก็ไม่พบผู้ลงมือ ใบหน้าของพวกเขาเขียวคล้ำ โกรธจัด พลังกดดันทั่วร่างแผ่พุ้งกระจายออกไปโดยรอบอย่างบ้าคลั่ง ราวกับจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
ผู้อาวุโส 1 ที่ต่อสู้กับสัตว์เสมือนอยู่ก็โกรธจัดเช่นกัน พลังที่ใส่ลงไปในกระบี่ตัดสัตว์เสมือนเป็นชิ้นๆ แต่เขาก็ไม่สามารถออกจากวงล้อมไปได้
เพียงชั่วจิบชาก็มีคนล้มลงไปกว่า 100 คน เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วบริเวณ ยิ่งเวลาผ่านไปคนตายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาไม่รู้ว่าผู้ที่จะตายคนต่อไปเป็นตัวเขาเองหรือไม่ จิตใจที่ต้องการต่อสู้ถูกทำลายไปจนหมด
“สารเลว! ออกมา! อย่าทำเป็นหนูขี้ขลาด! ที่ไม่กล้าต่อสู้”ผู้อาวุโส 8 กรีดร้องเสียงดังดาบในมือสั่นระริกพร้มที่จะฟันออกไปทุกเมื่อ
แต่ก็ไม่มีใครตอบรับ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ
สมาชิกตระกูลเซียวทุกคนกว่าหมื่นคน ถูกเรียกให้มาอยู่บนลานกว้าง เขตชั้นใน พวกเขาล้อมวงสอดส่องสายตาไปรอบๆ ระวังการโจมตี
เหล่าผู้อาวุโสในทั้งเก้า แยกกันยืนคุ้มกันรอบนอกป้องกันผู้ฝึกตนของสำนักจะเกิดอันตราย ในตอนนี้ใบหน้าของพวกเขาโหดเหี้ยมอย่างมาก ไม่เหมือนผู้อาวุโสที่น่าเคารพอีกแล้ว นัยน์ตาของพวกเขาแดงก่ำด้วยความโกรธแค้น
ผู้ฝึกตนคนหนึ่งกว่าจะเติบโตจนสามารถใช้งานได้ มันต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายมากมายในการบำรุงเลี้ยงดู การสูญเสียอย่างไร้ประโยชน์ไปหลายร้อยคน ไม่แปลกเลยที่ในตอนนี้ พวกเขาอยากจะฉีกผู้ลงมือเป็นชิ้นๆ
การล่าสังหารหยุดลง ไม่มีใครถูกสังหารอีก
มีเพียงผู้อาวุโส 1 ที่กำลังต่อสู้อยู่กับสัตว์เสมือนทั้ง 12 ตัว
เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างช้าๆ
แต่ไม่มีใครกล้าผ่อนคล้าย ความกลัวยังคงกัดกินพวกเขาอยู่ จนกระทั้ง
วูบ เคลื่อนพลังอันแข็งแกร่งขยายปกคลุมไปทั่วบริเวณ
“อยู่ตรงนั้น!”เหล่าผู้อาวุโสคำรามลั้น ก้อนที่พวกเขาจะทะยานร่างออกไปด้วยความเร็วสูง
ผู้อาวุโส 1 เห็นดังนั้นก็ร้องเตือน
“ระวัง!”
คลืนนนน เสียงคำรามดังสนั่น ก่อนที่คลื่นพลังอันรุนแรงจะระเบิดออก ร่างของเหล่าผู้อาวุโสในทั้งเก้า ถูกกระแทกกระเด็นกลับมา แม้จะไม่บาดเจ็บรุนแรง แต่มันก็ทำให้ทะเลปราณภายในปั่นป่วนอย่างรุนแรง
ห่างออกไปไม่ไกล มีต้นหลิวหยกสูงสีเขียวอ่อนสูง 40 เมตรปรากฎขึ้น ใต้ต้นหลิวหยก มีร่างในชุดคลุมสีดำยืนอย่างสงบนิ่งกระบี่สีเทาในมือชี้ลงไปเบื้องล่าง บนใบกระบี่เงางามไร้สิ่งสกปรก
ใต้เท้าของร่างในชุดคลุมสีดำ มีสระอำพันอันงดงามกว้าง 40 เมตรปกคลุมเศษซากอาคาร
“แกมีเคล็ดบ่มเพาะพลังสระอำพันได้ยังไง!”คนที่เห็นต่างพูดออกมาด้วยความตกใจผสมความโกรธแค้น
ร่างในชุดคลุมไปตอบ ก่อนที่ต้นหลิวหยกและสระอำพันจะผสานกัน ท้องฟ้าอันมืดมิดเกิดเป็นพายุอันรุนแรง รัศมีพลังแผ่ขยายออกไปโดยรอบอย่างน่ากลัว ก่อนที่ใครจะได้ตั้งตัว
ต้นหลิวหยกพลันขยายแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปโดยรอบ ความสูงพุ่งทะยานขึ้นสูงฟากฟ้า ก่อนจะหยุดลงที่ความสูง 100 เมตร ต้นหลิวหยกกลายเป็นสีทองอ่อนทอประกายสีเขียวอ่อนงดงาม
พลังกดดันอันน่าสะพรึงกลัวผลักดันเหล่าผู้อาวุโสให้ถอยร่นกลับไปร่วมกันในเขตชั้นใน
ใบหน้าของพวกเขาในตอนนี้ซีดเผือก
“เคล็ดวิชาผสานยุทธ์!”
—
คอมเม้นต์