ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 261
ชายร่างร่างผอมจ้องมองหลิวยี้เอินด้วยนัยน์ตาเรียบเฉย เขาไม่หลบทางตามที่หญิงสาวบอก และยังแผ่พลังกดดันอันแข็งแกร่งสะกดข่มไม่ให้เธอได้ผ่านไป
ตูม! เสียงระเบิดจากการปะทะดังสนั่นคลื่นพลังพัดกระจายหอบทรายบนพื้นปลิวขึ้นไปบนท้องฟ้า คลื่นพลังอันรุนแรงพัดออกเป็นวงกว้าง ผ่านกลุ่มคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ พวกเขาต้องหยุดชะงักการต่อสู้ ประคองร่างไม่ให้ถูกพายุพัดกระเด็นออกไป เมื่อสายลมสงบพวกเขามองไปยังการปะทะด้วยความตกใจ
ร่างของจิวโมไป๋จมลึกลงไปในทรายครึ่งตัว มือสองข้างจับพลองเหล็กป้องกันหมัดของฮันคงฉาน นอกจากร่างที่จมลงไป เขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย
“ร่างกายบอบบางแบบนี้ รับหมัดของฉันได้ยังไง”ฮันคงฉานไม่อยากจะเชื่อ เขาที่ใช้พลังทั้งหมด แต่ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับอีกฝ่ายได้เลย
จิวโมไป๋ไม่ตอบ เขาเหวี้ยงพลองเหล็กอย่างแรงผลักฮันคงฉานกระเด็นกลับไป ก่อนจะกระโดดขึ้นมาจากหลุมทราย เขาเหลือบตามองไปยังหลิวลี้เอินเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาและฟาดพลองเข้าใส่ฮันคงฉานอย่างรุนแรง คลื่นพลังกดดันจากพลองกดทับราวขุนเขาถล่ม
ฮันคงฉานเร่งเร้ากฎแห่งธาตุลม และใช้ท่าร่างอันรวดเร็วหลบพลองไปได้
ตูม! พลองกระแทกพื้นจนเกิดหลุมทราย ก่อนที่พลองจะหมุนควงกวาดเข้าโจมตีต่อเนื้องอย่างไม่หยุดชะงัก
ฮันคงฉานรวบรวมพลัง กฎแห่งธาตุลมระเบิดออกจากร่าง ก่อนที่เขาจะหายตัวและพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง หมัดที่ห่อหุ้มกฎแห่งธาตุลมนับไม่ถ้วนปกคลุมเบื้องหน้า
หมัดพายุกระหน่ำ!
จิวโมไป๋ฟาดพลองทำลายหมัดสายลมอย่างง่ายดาย ก่อนจะพุ่งทะยานเข้าปะทะ พลองเหล็กส่งกลิ่นอายอันตรายออกมา
ฮันคงฉานไม่ยอมแพ้กล้ามเนื้อตัวร่างพลันขยายขึ้น พลังกดดันอันรุนแรงกระจายออกโดยรอบ สายลมอันเยือกเย็น ถูกดึงดูด โดยมีร่างของฮันคงฉานเป็นจุดศูนย์กลาง เกิดเป็นพายุอันรุนแรงล้อมรอบร่างกาย
“ฉันไม่คิดเลยว่าจะต้องมาใช้พลังทั้งหมดต่อสู้กับคนที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อ!”ฮันคงฉานตะโกนออกมาเสียงดัง กฎแห่งธาตุสีเขียวอ่อนผสานกับพายุ ขนาดของมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ยิ่งพายุใหญ่ขึ้นมากเท่าไหร่ร่างของเขาก็ยิ่งสั่นระริก เขาแทบจะควบคุมพลังเอาไว้ไม่ได้อีกแล้ว แต่เขาไม่ยอมแพ้เร่งเร้าพลังเพิ่มขึ้นไปอีก
ทรายด้านล่างถูกยกขึ้นรวมเข้ากลับพายุ กลายเป็นพายุทะเลทรายอันเย็นยะเยือก พลังทำลายร่างมหาศาล
ต้นไม้รอบโอเอซิสบางส่วน ถูกแรงดึงดูดของพายุถอนออกและลอยเข้าไปในพายุ
กลุ่มคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่ต่างหยุดลงอย่างสมบูรณ์ พวกเขาหันหลังวิ่งหนีทันที ไม่ต่อสู้กันอีก พวกเขาต่างก็ไม่อยากถูกลูกหลงและต้องออกจากการทดสอบ
หลิวยี้เอินเห็นดังนั้นก็วิตกกังวล เธอเร่งเร้าพลังต้านคลื่นพลังของชายร่างผอมที่สะกดเธออยู่ กระบี่เหล็กในมือแทงออกไป กฎแห่งธาตุน้ำระดับกลางหลอมรวมกับเคล็ดวิชากระบี่ เกิดเป็นระลอกน้ำสีฟ้าอ่อนซ้อนทับกันหลายทบ คมกระบี่ฉีกกระชากผ่านระยะทางแทงเข้าใส่ชายร่างผอมอย่างไม่ปราณี
คลื่นวารี 10 ระลอก!
ชายร่างผอมหรี่ตาลงเล็กน้อย ดวงตาของเชาพลันเปล่งแสงสีแดงทองร่อนแรง ก่อนที่ดาบของเขาจะรุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงทอง อุณหภูมิที่พุ่งสูงอย่างฉับพลันทำให้เกิดไอสีขาวกระจายออกโดยรอบ
คมดาบเพลิงยกขึ้นมาฟันออกอย่างเชื้องช้า เข้าปะทะกับระลอกคลื่นกระบี่พอดี
เปรี้ยง! คมดาบเพลิงทำลายคลื่นกระบี่อย่างง่ายดาย ก่อนที่คมดาบจะฟันซ้ำลงมาอีกครั้ง คมดาบเพลิงรุกไหม้ขยายใหญ่ขึ้นกว่า 10 เมตร ฟันลงไปยังร่างของหลิวยี้เอิน
กลิ่นอายทำลายร้างแผ่กระจายจากคมดาบ ใบหน้าของหลิวยี้เอินเปลี่ยนไป เธอใช้ท่าร่างหลบออกด้านข้างในชั่วพริบตา โดยไม่ต้องคิดทบทวนซ้ำ
คลืน! คมดาบเพลิงฟันลงไปบนพื้นทรายลึกลงไปหลายเมตร คลื่นดาบอันร้อนแรงกระจายออกด้านข้าง หลิวยี้เอินเร่งใช้ท่าร่างหลบหลีก ร่างของเธอปกคลุมไปด้วยกฎแห่งธาตุน้ำ ลดความเสียหายจากเปลวเพลิงส่วนใหญ่ไปได้
ใบหน้าของหลิวยี้เอินในตอนนี้ซีดเผือก
เธอไม่คิดเลยว่าเธอจะโชคร้ายพบกับ ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 5 กระดูกปลาย ที่เข้าใจกฎแห่งธาตุไฟระดับปลาย ระดับการบ่มเพาะพลังของเธอต่ำกว่าและการเข้าใจกฎแห่งธาตุก็สู้อีกฝ่ายไม่ได้
ยังโชคดีที่สภาพแวดล้อมในตอนนี้ อุณหภูมิกำลังติดลบ กฎแห่งธาตุไฟจะอ่อนแอ และเธอที่เป็นผู้ใช้กฎแห่งธาตุน้ำจะได้เปรียบเล็กน้อย
เธอสูดลมหายใจสงบสติ ก่อนจะยืดตัวขึ้นและกล่าวถาม
“ฉันหลิวยี้เอิน เมืองเทียนโจว ฉันขอถามชื่อของนายได้ไหม”
แต่สายตาก็กวาดไปยังจิวโมไป๋ที่กำลังเผชิญหน้ากับพายุทะเลทรายอันทรงพลัง นัยน์ตาแฝงความกังวลอย่างมาก
ชายล่างผอมสบัดดาบเบาเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้บนพื้นทรายถูกดับลง ก่อนที่เขาจะมองไปยังหลิวยี้เอินและกล่าวด้วยเสียงนิ่งสงบ
“หยางจูหลง เมืองเทียนโจว”
“เป็นไปไม่ได้”หลิวยี้เอินกล่าวเสียงดัง เธอเป็นนักศึกษาที่แข็งแกร่งอันดับ 6 ของเมืองเทียนโจว เพื่อหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ เธอได้ศึกษานักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั้งหมดของเมืองเทียนโจว โดยเฉพาะนักศึกษาที่ฉายแววอัจฉริยะ เธอจะจดจำรายละเอียดอย่างดี
ในการหาข้อมูล เธอจำได้ว่าไม่มีนักศึกษาชื่อหยางจูหลง!
กฎสำคัญสำหรับการคัดเลือกคนที่จะได้รับคำเชิญเข้าหน่วยลับ ถ้าไม่เคยเข้าประลองเพื่อแสดงพรสวรรค์ให้คนของหน่วยลับเห็น ไม่มีทางที่จะได้รับคำเชิญเข้าหน่วยลับ
ชายตรงหน้าเป็นคนเมืองเดียวกับเธอ ถ้าเขาไม่เข้าประลองระหว่างมหาวิทยาลัย เขาจะได้รับคำเชิญได้ยังไง?
หยางจูหลงยิ้มแผ่วเบาหลังผ้าคลุมหน้า เขารู้ดีว่าหญิงสาวคิดอะไร แต่เขาไม่อธิบายให้หญิงสาวฟัง
ที่หญิงสาวไม่รู้จักเขา เพราะหลังจบการศึกษามัธยม เขาไม่ได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย เขาออกหางานเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวที่บากลำบาก จนกระทั้งเขาได้ทำงานที่โคลอสเซียม และได้รู้ถึงพรสวรรค์ในการต่อสู้ของตัวเอง เขาจึงลงแข่งต่อสู้ที่โคลอสเซียม เขาเอาชนะทุกคนมาได้ และได้รับโอกาสไปต่อสู้โคลอสเซียมใต้ดิน ที่มีจากต่อสู้ถึงตาย แต่สุกท้ายเขาก็เอาชนะมาได้
ทำให้ชื่อเสียงในการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้น จนคนของหน่วยลับเชิญเขาให้ทดสอบ คนที่ให้คำเชิญทดสอบแก่เขา ก็คือคนที่ส่งเขามาจัดการกับจิวโมไป๋
ทางด้านจิวโมไป๋ที่ได้ยินชื่อของชายร่างผอมเขาก็ชะงักไปวูบหนึ่งก่อนจะตั้งสติ จดจ่อกับพายุทะเลทรายที่กำลังก่อตัว
เขาใช้จิตสัมผัสลอบตรวจสอบ หยางจูหลง เขาก็รู้สึกคุ้นเคยกับอีกฝ่าย เมื่อนึกดีๆเขาก็จำรูปปั้นอนุสรณ์รำลึกของอีกฝ่ายในอดีตได้
จิวโมไป๋ลอบถอนหายใจ เขาไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับดาบเพลิงพินาศฟ้า หยางจูหลง หนึ่งในสอง ตำนานผู้ใช้เปลวเพลิงที่ถูกทอดทิ้ง คู่กับหอกผลาญฟ้าเซียวฮั่นหยาง!
ในอดีตหยางจูหลง ไม่ได้เข้าหน่วยลับ แต่เขาร่วมกับกองทัพ แต่เพราะโอสถ 12 ชนิด มันทำให้หยางจูหลงแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จนได้รับคำเชิญเขาหน่วยลับ
เพราะโอสถ 12 ชนิด ทำให้หลายๆอย่างเปลี่ยนไป รวมถึงเส้นทางเดินของคนด้วย
ที่เขาจำได้ หยางจูหลงเป็นบุตรของประมุข ตระกูลโบราณตระกูลหยาง ซึ้งเป็นตระกูลโบราณที่สืบทอกมาหลายพันปี
แต่เพราะเขาเกิดจากแม่ที่เป็นคนธรรมดา ไม่มีพื้นหลัง ทำให้ถูกกีดกันจากตระกูล และได้รับปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรม จนสุดท้ายเขาพาแม่ออกจากตระกูลหยาง และใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
จนสุดท้ายเพราะพรสวรรค์อันแข็งแกร่ง ทำให้ได้รับตำแหน่งแม่ทัพในเวลาไม่นาน
หยางจูหลงได้เข้าร่วมสงครามมากมาย จนกระทั้งเขาได้เสียสละตัวเอง ใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามใช้ตำหนักหยุดและเมล็ดธาตุของตัวเอง จุดระเบิดทำลายนิกายนอกรีดจนพินาศย่อมยับหมดสิ้น
การเสียสละครั้งนั้น ทำให้หลางจูหลงได้รับความเคารพอย่างมาก และมีการสร้างรูปปั้นเหมือนของหยางจูหลงตรงใจกลางจุดที่ระเบิด เพื่อระรึกถึงบุญความดี
เพราะประวัติของหลางจูหลงและเซียวฮั่นหยาง ต่างก็คล้ายกันอย่างน่าประหลาด พวกเขาต่างก็ถูกตระกูลทอดทิ้งอย่างไม่ใยดี พวกเขาเป็นผู้ใช้กฎแห่งธาตุไฟที่แข็งแกร่งอันดับต้นๆของโลก พวกเขาก็ได้เข้ากองทัพและได้รับตำแหน่งแม่ทัพ สร้างคุณความดีมากมาย และสุดท้ายพวกเขาก็ได้เสียสละชีวิตเพื่อคนจำนวนมาก
ทำให้หลางจูหลงและเซียวฮั่นหยาง ถูกเรียกรวมกันว่า 2 ตำนานผู้ใช้เปลวเพลิงที่ถูกทอดทิ้ง …
คอมเม้นต์