ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 264
จิวโมไป๋ตามหลิวยี้เอินไป 2 วันที่เดินทางด้วยกัน แม้พวกเขาจะไม่ได้พูดคุยกันมากนัก แต่การเคลื่อนไหวผสานกันอย่างลงตัว เหมือนเคยร่วมมือกันทำภารกิจมาอย่างยาวนาน ไม่ต้องพูดแค่ส่งสัญญาณมือก็เข้าใจอีกฝ่าย
พวกเขาทั้งสอง เดินผ่านป่ารกสลับซับซ้อน อย่างช้าๆไม่เร่งรีบ ส่วนที่ 2 เขตเพาะพันธุ์อากาศสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีกลิ่นไอสกปรกแม้แต่น้อย และเขายังสัมผัสได้ถึงธาตุทั้ง 5 อันสมบูรณ์ลอยอยู่ในอากาศ แม้จะไม่หนาแน่นเท่าเกาะโดดเดียว แต่ด้วยวิทยาศาสตร์สามารถทำได้ถึงขนาดนี้ก็สมควรได้รับการยกย่อง ในอนาคตเมื่อข่ายอาคมได้รับการศึกษา เขตเพาะพันธุ์จะได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างก้าวกระโดด
แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา
ในระหว่างทางจิวโมไป๋ก็พบสมุนไพรมากมาย แม้จะเป็นแค่สมุนไพรธรรมดา แต่มันก็มีอายุมาก แตกต่างจากที่เกาะโดดเดียวที่สมุนไพรพึ่งเริ่มเพาะปลูก แม้พลังธรรมชาติจะหนาแน่น แต่เวลาที่ปลูกน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถมีสมุนไพรที่เติบโตสมบูรณ์
เมื่อเห็นสมุนไพรในระหว่าง จิวโมไป๋จึงอดไม่ได้ที่จะแอบเก็บสมุนไพรบางส่วนไว้ในแหวนมิติเก็บของ เพื่อนำกลับไปปลูก
หลิวยี้เอินพาเขาไปจนถึงภูเขาสูง หญิงสาวส่งสัญญาณมือให้ซ่อนตัวเขาก็ทำตาม จิตสัมผัสของเขาตรวจพบผู้บ่มเพาะพลังเกือบ 50 คน ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหน้า พวกเขากำลังเฝ้ามองไปยังสละน้ำตื้น ตรงใจกลางสระมีเกาะเล็กๆที่ปกคลุมไปด้วยวัชพืช กลิ่นอาจธาตุไม้หนาแน่นปกคลุมรอบเกาะจนยากตรวจสอบ
จิวโมไป๋ยังไม่ตรวจสอบสมุนไพรล้ำค่า เขาใช้จิตสัมผัสตรวจสอบคนที่อยู่ที่นี่ก่อน และเขาก็พบคนที่พึ่งแยกตัวไป
เป่ยลั่ว
เขากำลังพูดคุยกับชายคนหนึ่ง ด้วยท่าทางเคารพนอบน้อม
และเขาก็พบหมายเลข 5 และตอนนี้กลุ่มของหมายเลข 5 ขยายใหญ่ขึ้น มีคนเข้าร่วมจากที่เห็น 15 คน ร่วมหมายเลข 5 ก็มี 16 คน
น่าแปลกที่เขาไม่เห็นหยางจูหลง
“เราไม่สามารถเข้าไปใกล้มากกว่านี้ เรารอให้พวกเขาต่อสู้กัน เพื่อหาโอกาสไปแย่งมา”หลิวยี้เอินพูดด้วยความตื่นเต้น แววตาหลังผ้าคลุมเป็นประกาย
จิวโมไป๋พยักหน้าเห็นด้วย เขาตรวจสอบทุกคนแล้ว เขาก็ใช้จิตสัมผัสเข้าไปดูว่าสมุนไพรล้ำค่าคืออะไร และเอ่ยถามไปด้วย
“สมุนไพรล้ำค่าที่พวกเรารอคืออะไรเหรอ?”
หลิวยี้เอินมองไปรอบๆ ก่อนจะกระซิบเสียงเบา
“เจี๋ยวกู่หลานม่วง“
“เจี๋ยวกู่หลานม่วง!”จิวโมไป๋ทวนคำด้วยความตกใจ เขาเพ่งสมาธิไปที่เกาะกลางสระ และเขาก็พบต้นเจี๋ยวกู่หลานม่วงจริงๆ
จิวโมไป๋สูกลมหายใจลึกๆระงับความตื่นเต้น
เจี๋ยวกู่หลานธรรมดาในยุคที่พลังธรรมชาติเพิ่มขึ้น สรรพคุณของต้นเจี๋ยวกู่หลานก็เพิ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิม จนถูกจัดให้เป็นสมุนไพรล้ำค่าอันดับต้นๆ
เจี๋ยวกู่หลานเป็นส่วนประกอบหลักของโอสถฟื้นฟูสภาพ โอสถระดับ 3 ดาว และโอสถเพิ่มอายุขัย โอสถระดับ 4 ดาว
โอสถฟื้นฟูสภาพ ลดความเหี่ยวย่นของใบหน้าและร่างกาย
1 คน สามารถทานโอสถฟื้นฟูสภาพได้ 3 ครั้งเท่านั้น ทานครั้งที่ 1 จะได้รับสรรพคุณเต็ม 100% ครั้งที่ 2 ได้รับ 40% ครั้งที่ 3 ได้รับเพียง 10% ครั้งที่ 4 จะไร้ผล
เจี๋ยวกู่หลาน 100 ปี ช่วยลดความเหี่ยวย่น 5 ปี
เจี๋ยวกู่หลาน 200 ปี ช่วยลดความเหี่ยวย่น 10 ปี
โอสถเพิ่มอายุขัย เพิ่มขีดจำกัดอายุขัย
1 คน สามารถทานโอสถเพิ่มอายุขัย ได้เพียงแค่ 1 เม็ด 1 ครั้งเท่านั้น แม้ว่าโอสถเพิ่มอายุขัยเม็ดที่ 2 นั้นจะเพิ่มขีดจำกัดเท่าไหร่ก็ตาม จะนับเฉพาะเม็ดที่ 1 เท่านั้น
เจี๋ยวกู่หลาน 100 ปี สามารถเพิ่มอายุ 1 ปี
เจี๋ยวกู่หลาน 200 ปี สามารถเพิ่มอายุ 2 ปี
นอกจากโอสถทั้งเจี๋ยวกู่หลาน ยังเป็นส่วนผสมรองเกือบจะทุกๆโอสถล้ำค่า ทำให้เจี๋ยวกู่หลานเป็นสมุนไพรล้ำค่าที่ขาดไม่ได้
และเจี๋ยวกู่หลานม่วง เป็นราชาแห่งเจี๋ยวกู่หลาน มันมีคุณค่าเท่ากับ เจี๋ยวกู่หลาน 1000 ปี ถ้านำไปหลอม โอสถเพิ่มอายุขัย จะได้รับอายุขัย 10 ปี และ ยังสามารถทานครั้งที่ 2 ได้ หลังจากโอสถเพิ่มอายุขัยที่หลอมด้วยเจี๋ยวกู่หลานธรรมดา
หรือก็คือถ้าครั้งที่ 1 ทานโอสถเพิ่มอายุขัยจากเจี๋ยวกู่หลานธรรมดา ครั้งที่ 2 ทานโอสถเพิ่มอายุขัยจากเจี๋ยวกู่หลานม่วง
หรือจะสลับกันทานโอสถเพิ่มอายุขัยจากเจี๋ยวกู่หลานม่วง ก่อนทานโอสถเพิ่มอายุขัยจากเจี๋ยวกู่หลานธรรมดาก็ได้ มันจะไม่ขัดกัน
แต่ในช่วงเวลานี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเจี๋ยวกู่หลานม่วง สามารถหลอมโอสถระดับ 6 ดาว โอสถย้อนอายุ
โอสถย้อนอายุ ลดอายุขัยกระดูก 1 คน ทานได้เพียงครั้งเดียว
การบ่มเพาะพลัง ยิ่งอายุน้อยยิ่งดี ยิ่งอายุมากความเร็วก็จะลดลงไปเรื่อยๆ บางคนอาจพลาดช่วงเวลาสำคัญในการบ่มเพาะไป
โอสถย้อนอายุ ที่หลอมจากเจี๋ยวกู่หลานม่วง จะลดอายุขัยกระดูก 5 ปี
5 ปีเหมือนจะน้อย แต่ถ้าผู้ที่ลดเป็นอัจฉริยะในตำนาน หรืออัจฉริยะปีศาจ 5 ปีนี้ถือว่าเป็นการเพิ่มระยะห่างจากผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นอย่างก้าวกระโดด
และมีบางโบราณสถานที่จำกัดอายุในการเข้าไป ถ้าอายุเกิดไปเพียงเล็กน้อย ก็ไม่สามารถเข้าได้ โอสถย้อนอายุก็จะช่วยให้ได้เข้าไปยังโบราณสถานที่พลาดได้
ในอดีตเมื่อโอสถย้อนอายุออกวางขาย ราคาของมันมากพอๆกับโอสถระดับ 9 ดาวระดับสมบูรณ์แบบ
จิวโมไป๋มองไปยังเจี๋ยวกู่หลานม่วงอีกครั้งก่อนจะถอนสายตาออกจากมัน เขาพบว่ามีผู้บ่มเพาะพลังกำลังพาคนเอามาอีก 10 คน ท่าทางของพวกเขาอหังการไม่เกรงกลัวผู้ใด พวกเขาเดินตรงไปยืนหน้าสระน้ำ ใครที่ขวางโดนซัดกระเด็นออกไปด้านข้าง
ทุกคนมองไปยังผู้มาใหม่ทั้ง 11 ด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าขยับเป็นคนแรก เพราะระดับของทั้ง 11 คน เหมือนไม่ธรรมดา
คิ้วของจิวโมไป๋เลิกขึ้นเล็กน้อย
ขั้นที่ 6 โลหิตต้น!
ในตอนนี้รอบสระน้ำมีผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิตต้นถึง 3 คน!อยู่ที่นี่
หมายเลข 5 ยืนกอดดาบนิ่งไม่ขยับอยู่ใจกลางกลุ่มของเขา แววตาส่องประกายเย่อหยิ่งลึกถึงกระดูก
ชายร่างผอมที่พิงต้นไม้อยู่ใกล้ๆ เขาราวกับภาพวาดฉากหนึ่ง โดดเดี่ยวไม่รวบเข้ากับใคร
และสุดท้ายชายผู้มาใหม่ท่าทางอหังการ ไม่สนใจผู้ใด รัศมีที่แผ่ออกจากร่างเหมือนสัตว์โบราณอันทรงพลัง
จิวโมไป๋ลอบถอนหายใจอีกครั้ง
แม้ทั้ง 3 จะเป็นโลหิตต้น แต่พวกเขายังอายุน้อย อนาคตยังมีโอกาสให้ก้าวหน้าอีกมากมาย
ดูเหมือนว่าโอสถ 12 ชนิด ของเขาจะช่วยพวกคนของตระกูลชั้นสูงจริงๆ
เขาจำได้ว่าในอดีตผู้เข้าทดสอบที่แข็งแกร่งที่สุดก็เพียงแค่ ขั้นที่ 5 กระดูกปลาย และเขายังเข้าทดสอบในปีที่ 10 ปีสุดท้ายก่อนวันที่พลังธรรมชาติพลุ่งพล่าน
ตอนนี้เหลืออีก 1 ปี ประสิทธิ์ภาพของผู้บ่มเพาะพลังเหนือกว่าอดีตอย่างเทียบไม่ติด
จิวโมไป๋สนใจตัวตนของผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิต ทั้ง 3 คน โดยเฉพาะหมายเลข 5 เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
จะถามหลิวยี้เอินก็ไม่ได้ เพราะทุกคนใส่ผ้าคลุม ปิดบังทุกส่วนจนหมด นอกจากตอนที่ต่อสู้ ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
และในช่วงเวลาที่แย่งชิงสมุนไพรล้ำค่า ไม่มีใครอยากจะบอกตัวตนเพื่อให้เป็นเป้าโจมตี
ในขนะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเอง
ชายท่าทางอหังการก็ใช้ท่าร่างพุ่งทะยานไปเกาะกลางสระโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า!
ทุกคนที่เห็นต่างตกตะลึง
“เจ้าโง่ เหลืออีก 2 วัน เจี๋ยวกู่หลานม่วงถึงจะบาน ถ้าไปทำอะไรมันตอนนี้ มันจะเสียสรรพคุณทั้งหมดไป”ใครคนหนึ่งร้องตะโกนด้วยความเดือดดาล
ผู้บ่มเพาะพลัง 2 คน ที่อยู่ใกล้รีบเข้าไปขวาง
พวกเขาทั้ง 2 อยู่ขั้นที่ 5 กระดูกปลายเป็นอัจฉริยะของเมืองระดับ 2 ความแข็งแกร่งไม่มีใครกล้าดูแคลน
“สวะ!”ชายอหังการแค่นเสียงดูแคลน ฝ่ามือยกขึ้นแปรเปลี่ยนเป็นกรงเล็บอันแหลมคม ใช้มือเดียวตะปบทั้งสองคนพร้อมกัน ความยะโสทำให้ผู้คนรู้สึกอับอาย
กรงเล็บมังกรสะบั้น!
เปรี้ยง! ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 5 กระดูกปลายทั้งสอง ยกอาวุธได้เพียงครึ่งทาง กรงเล็บก็ทำลายอาวุธของทั้งสองเป็นชิ้นพร้อมกับเกี่ยวเศษอาวุธด้วยกรงเล็บ ก่อนจะดีดไปกระแทกร่างของทั้งสอง
ปัง!ปัง! ร่างสองทั้งสองคนเหมือนนกปีกหักหมุนควงไปกระแทกหินก้อนใหญ่ด้านหลังและสลบไปในทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นในชั่วพริบตา กรงเล็บหมุนวนเพียงรอบเดียวเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย มีน้อยคนนักที่จะสามารถมองตามทัน!
“อ้าวจินหลง!”
“องค์ชายสี่วังมังกรใต้!”
“เขาได้รับคำเชิญเข้าหน่วยลับได้ยังไง ถึงวังมังกรแดนใต้และประเทศมังกรจะเป็นพันธมิตรกัน แต่หน่วยลับเป็นองค์กรที่ลับที่สำคัญที่สุดของประเทศ ไม่มีทางปล่อยให้คนนอกเข้ามาได้”
เมื่อรู้ตัวตนของชายตรงหน้า ผู้คนต่างตกตะลึงและรับไม่ได้ที่คนนอกได้รับคำเชิญเข้าหน่วยลับ
“สวะ!”อ้าวจินหลงแค่นเสียงดูแคลน เขาพูดสองครั้ง และเป็นคำว่าสวะทั้งสองครั้ง
ผู้คนที่ได้ยินโกรธจนแทบจะบ้าคลั่งแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
อ้าวจินหลงตวัดสายตามังกรมองไปรอบๆไม่มีใครกล้าสบตาเข้าก็ทะยานร่างอย่างเย่อหยิ่งอหังการ ไม่มีใครกล้าหยุด
แต่ในตอนที่อ้าวจินหลงกำลังลอยอยู่นั้นเอง รัศมีวงกลมก็ปกคลุมเบื้องหน้าขวางกันไม่ให้เขาได้ก้าวไปต่อ
“ใคร!”
อ้าวจินหลงเหยียบเท้าลงพื้น แผ่นดินแยกกระจายสายตามังกรเรื่องแสงสีทองเรืองรอง เขาตวัดสายตาไปมองชายร่างผอมที่ยืนอย่างโดดเดียว
“กลิ่นอายดาบ…”ร่างของอ้าวจินหลงเปล่งประกายเจิดจ้าแสงสีทอง ในชั่วพริบตานั้นเอง กรงเล็บมังกรสีทองก็ปรากฏขึ้นอย่างไร้ที่มา ทะลวงผ่านไปนังร่างของชายร่างผอม เสี่ยววินาทีประชิดตัว ไม่มีใครมองตามได้ทัน
แต่ก่อนที่กรงเล็บมังกรจะถึงร่างรัศมีดาบก็ระเบิดพลังออกมา คมดาบใสกระจ่างฟันกรงเล็บมังกรทองขาดสะบั้นสลายหายไปในชั่วพริบตา
ในชั่วพริบตาที่ทั้งสองปะทะกันต่างฝ่ายต่างไม่ได้ขยับร่างกายแม้แต่น้อย
อ้าวจินหลงมองไปยังชายร่างผอมก่อนกล่าวว่า
“สวรรค์สอง เทียนคุนเฟิง“
—
คอมเม้นต์