ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 288

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ ตอนที่ 288 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
ผู้แข็งแกร่งขั้นที่ 8 ชีพจร!

การพัฒนากฎแห่งจักรวาล จะต้องใช้ความเข้าใจเพื่อดูดซับพลังแห่งกฎ เข้ามาสะสมในร่างกาย ถ้าไม่มีพรสวรรค์ในการเข้าใจกฎหรือมีโชคพิเศษ จะต้องอาศัยช่วงเวลาในก้าวผ่านไประดับปราณกำเนิด ในช่วงเวลานั้นผู้บ่มเพาะพลังจะสามารถดูดซับพลังแห่งกฎได้ แม้ไม่มีความเข้าใจกฎมากนักก็ตาม แต่การใช้วิธีนี้จะเป็นเรื่องยากที่จะพัฒนากฎแห่งจักรวาลในอนาคต

กฎแห่งจักวาลแบ่งระดับพื้นฐานคือระดับเริ่มต้น กลาง สูง ผู้บ่มเพาะพลังส่วนมากจะหยุดอยู่เพียงขั้นพื้นฐาน การพัฒนาต่อไป ผู้บ่มเพาะจะต้องหลอมรวมพลังแห่งกฎที่สะสม เพื่อก่อเกิดเป็นเมล็ดแห่งกฎ เมื่อถึงขั้นนี้ ผู้ใช้กฎแห่งพลังจะเหนือกว่าผู้บ่มเพาะพลังทั่วไป และยังเป็นการเปิดเส้นทางในการเป็นเทพยุทธ

ระดับต่อไปคือ ต้นอ่อนแห่งกฎ ต้นไม้แห่งกฎ การพัฒนาสองระดับนี้ไม่ถือว่ายากนัก แต่ต้องอาศัยโชคในการรวบรวมสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับกฎที่ฝึกฝน ถ้าจะใช้ความพยายามอาจต้องใช้เวลาหลายร้อยปีถึงจะเลื่อนขั้นได้ในแต่ละระดับ

ต้นไม้แห่งกฎเติบโตเต็มที่ มันเริ่มสะสมพลังเพื่อก่อเกิดผลแห่งกฎ เมื่อผลแห่งกฎสุกเต็มที่ ผู้บ่มเพาะพลังสามารถใช้มันเพื่อที่จะสามารถพัฒนาไปเป็นเทพยุทธได้

ลู่หว่านสามารถหลอมรวมเมล็ดแห่งกฎได้ แสดงว่าเส้นทางในการเป็นเทพยุทธได้ของเธอ ได้เปิดออกแล้ว และยิ่งเธอสามารถมีเมล็ดแห่งกฎ ก่อนถึงระดับปราณก่อกำเนิด มันจะส่งผลให้เธอสามารถสร้างกฎแห่งพลังอื่นได้ง่ายขึ้น และยิ่งเธอสามารถฝึกฝนวิชาต่อสู้ถึงขั้นเจตจำนงได้แล้ว

พลังแห่งกฎที่เธอได้รับในระหว่างเลื่อนระดับไปยังปราณก่อกำเนิด จะเหนือกว่าผู้บ่มเพาะคนอื่นๆ มันอาจจะไม่ใช้กฎแห่งธาตุธรรมดา

จิวโมไป๋สูดลมหายใจลึกๆพยายามปลอบใจตัวเอง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉาลึกๆ เขาจึงเดินเข้าประตูไป

ลู่หว่านสัมผัสอารมณ์ผันผวนแผ่วเบาจากร่างของจิวโมไป๋ เธอมองเขาด้วยความสงสัย เห็นว่าจิวโมไป๋กำลังเดินเข้าห้องต่อไป เธอจึงเดินตาม

ห้องต่อๆไปไม่มีผู้คุ้มกัน

ลู่หว่านทำลายผนังเหล็กทั้งหมด จนผ่านไปถึงห้องที่ 10 มันมีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆถึง 3 เท่า

ภายในห้องผู้คุ้มกัน 12 คนยืนอยู่ด้านหลังอวตารสัตว์ แต่ในมือของพวกเขามีอาวุธสีดำถือเอาไว้

ปืน!

จิวโมไป๋ขมวดคิ้ว ปืนในมือของผู้คุ้มกันเป็นปืนกลเบา มันมีแรงยิงพอที่จะสามารถจัดการผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิตปลายได้ แม้แต่ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูก ก็อาจทำให้บาดเจ็บสาหัส

ปืนพวกนี้เขาไม่กังวลอะไร เขามีเกล็ดมังกรทองสามารถป้องกันแรงยิงไม่มีปัญหา แต่…

จิวโมไป๋เหลือบมองลู่หว่านเห็นเธอยืนนิ่งสงบ เขาก็เบาใจลง

แม้เขาจะไม่รู้ระดับการบ่มเพาะพลังของลู่หว่าน แต่เขาก็พอจะคาดเดาได้คร่าวๆ และด้วยเคล็ดวิชาที่เธอมี กระสุนไม่มีทางสร้างปัญหาให้เธอได้

โดยไม่ต้องมีคำพูดอะไร

“ยิง”ผู้คุ้มกันร้องตะโกน

กระสุนนับร้อยยิงปูพรมเข้าหาจิวโมไป๋และลู่หว่าน ไม่ให้พวกเขามีโอกาสได้หลบ

บัง! บัง! บัง! บัง!

ในชั่วเวลาเดียวกันที่มีเสียงร้องออกคำสั่งให้ยิง จิวโมไป๋หยิบแผ่นยันต์สี่แผ่นออกมาและโยนไปข้างหน้า แผ่นยันต์ทั้งหมดพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง ก่อนที่แผ่นยันต์จะถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟสีเขียว

ตูม! แผ่นยันต์ระเปิดเป็นลูกไฟสีแดงส้มสี่ลูก กลืนกระสุนปืนที่ยิงมาและพุ่งเข้าหาสัตว์อวตารที่ขวางอยู่

ลู่หว่านที่กำลังจะขยับหลบกระสุนปืนก็นิ่งชะงัก เธอหันมามองจิวโมไป๋ด้วยดวงตากลมโตหลังหน้ากาก

“ฉันไม่อยากเสียเวลา”จิวโมไป๋ดัดเสียงพูด ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปจัดการผู้คุ้มกัน โดยไม่สนใจอวตารสัตว์ที่บาดเจ็บ

ลู่หว่านเก็บความอยากรู้และตามไปช่วย ไม่นานพวกเขาก็สามารถจัดการผู้คุ้มกันได้ทั้งหมดอย่างง่ายดาย

พวกเขาผ่านประตูไปพวกเขาก็เห็นหน้าจอนับไม่ถ้วนเรียงยาวเป็นแถวๆนับไม่ถ้วน บนหน้าจอมีภาพจากกล้องวงจรติดที่กระจายอยู่ทั่วเมืองต่างๆ

“1 นาที 30 วินาที พวกเราทำเวลาได้ดีกว่าทีคิด”ลู่หว่านพูด ก่อนจะนึกถึงยันต์ระเบิดเพลิงที่จิวโปไป๋ใช้ ถ้าไม่มีมันอาจเสียเวลาเพิ่มขึ้น

จิวโมไป๋พยักหน้าเบาๆ ก่อนที่จะตรงไปยังเครื่องเซิฟเวอร์ที่อยู่ตรงกลางห้อง มันเป็นเครื่องสั่งงานหลัก เขากดกำไลข้อมือและเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว

กดไม่กี่ครั้งเขาก็เข้าใจการทำงานของมัน ระบบการรักษาความปลอดภัยล้ำยุคกว่าปัจจุบันไป 10 ปี แต่จิวโมไป๋เคยแฮ็ก ระบบการรักษาความปลอดภัยที่ล้ำหน้าไปไกลกว่า 80 ปีมาแล้ว ระดับระบบการรักษาความปลอดภัยแค่นี้ไม่มีปัญหา

จิวโมไป๋พรมนิ้วไปที่โฮโลแกรมด้วยความเร็วสูง

ลู่หว่านเดินเข้ามายืนข้างๆและพูด”ข้อมูลพวกนี้ไม่สำคัญเท่าไหร่ เป็นแค่ธุระกิจแหล่งการเงินผิดกฎหมาย มีสถานที่ซ่อนตัวของอาชญากรรมสำคัญ ข้อมูลที่สำคัญที่สุดก็แค่รายชื่อคนขององค์กรระดับล่างๆที่แฝงตัวอยู่ในรัฐบาลเท่านั้น”

“อย่าเสียเวลาเลยกว่านายจะแฮ็กข้อมูลได้ เวลาจะหมดก่อน ถ้านายต้องการข้อมูลพวกนี้จริงๆ ฉันจะโอนไปให้ ฉันขโมยข้อมูลพวกนี้ไปก่อนหน้า…”

“เสร็จแล้ว”จิวโมไป๋หยุดมือ ลู่หว่านอ้าปากค้าง เมื่อครู่เธอเห็นจิวโมไป๋โหลดข้อมูลจากเครื่องเซิฟเวอร์จริงๆ

“นายทำได้ยังไง”ลู่หว่านถามด้วยน้ำเสียงตกตะลึง แค่ 15 วินาที ก็สามารถแฮ็กระบบรักษาความปลอดภัยที่ก้าวหน้าไปกว่า 10 ปีได้ นายเป็นตัวประหลาดหรือไง

จิวโมไป๋ยักไหล่ไม่ตอบ เขากดบนหน้าจอโฮโลแกรมอีก 2 ครั้ง ข้อมูลในเครื่องเซิฟเวอร์ทั้งหมดถูกลบ รวมถึงภาพจากกล้องวงจรติดทั้งหมดด้วย

“ไปกันเถอะ”

ลู่หว่านได้แต่พยักหน้างุนงง เดินตามจิวโมไป๋ไปที่ลิฟท์ลงชั้น 3

“ระวังด้วย ด้านล่างมีผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ไขกระดูก 2 คนเฝ้าอยู่”ลู่หว่านเตือนด้วยความเสียงนิ่งเงียบ

จิวโมไป๋ไม่พูดอะไร พวกเขาทั้งสองลงลิฟท์ครู่เดียวก็ถึงชั้นที่ 3

เมื่อประตูลิฟท์เปิด พวกเขาก็เห็นห้องกว้างมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีสิ่งของล้ำค่ามากมาย เหมือนห้องโถงโรมแรมชั้นสูง

กลางห้องมีโซฟาหนังตัวยาวดูเรียบหรูสีน้ำตาล ฝั่งตรงข้ามมีหน้าจอทีวีโฮโลแกรมขนาดเท่าผนังห้องติดผนังอยู่ บนหน้าจอกำลังแสดงภาพยนต์รักน้ำเน่าอยู่

บนโซฟามีชายวัยกลางคนและหญิงวัยกลางคน 2 คนกำลังนั่งพูดคุยอย่างสบายอารมณ์ ในมือของพวกมีแก้วใส่ไวน์สีแดงสดราวทับทิม

“มันนานแล้วนะที่มีหนูตัวเล็กๆหลุดมาถึงที่นี่ได้”หญิงวัยกลางคนพูดกับชายวัยกลางคน ก่อนจะจิบไวน์ในมือ เธอไม่แม้แต่จะเหลือบมองผู้บุกรุกเลยสักนิด

ราวกับไม่เห็นจิวโมไป๋และลู่หว่านอยู่ในสายตา

“ช่วยไม่ได้ ผู้คุ้มกันชั้นบนมีแต่พวกขยะไร้ค่า ขยะพวกนั้นฉันสามารถฆ่าได้ด้วยนิ้วเพียงนิ้วเดียว”ชายวัยกลางคนพูดอย่างเย่อหยิ่ง

พวกเขาทั้งสองพูดไปเรื่อย พวกเขายังไม่สนใจจิวโมไป๋และลู่หว่านอยู่ดี

“พวกเขากำลังถ่วงเวลา”ลู่หว่านพูดขึ้นพลางส่งสัญญาณโจมตี

จิวโมไป๋พยักหน้า ไม่รอช้าเขาพุ่งเข้าไปทันที

ชายวัยกลางคนเห็นดังนั้นก็ยิ้มเยาะพลังกดดันมหาศาลแผ่กระจายออกจากร่าง ก่อนที่ค้อนสีเงินขนาดใหญ่จะพุ่งเข้าหาจิวโมไป๋ด้วยความเร็วสูง เกิดเสียงแหวกอากาศดังกระหึ่ม

จิวโมไป๋เคลื่อนตัวหลบอย่างรวดเร็ว ค้อนสีเงินพุ่งผ่านร่างของเขาไปเพียงเล็กน้อย จิวโมไป๋พลันเร่งความเร็วขึ้น หายวับไปจากสายตา

ค้อนสีเงินกระแทกลงพื้นเกิดเสียงดังสนั่น ใบหน้าของชายวัยกลางคนและหญิงวัยกลางคนพลันเปลี่ยนไป พวกเขาผุดลุกขึ้นและกระโดดออกจากโซฟาด้วยท่าร่างอันรวดเร็ว

เปรี้ยง! เท้าของจิวโมไป๋เตะโซฟาหักเป็นสองส่วน หนังที่คลุมชั้นนอกไม่ขาดจนหมด มันรั้งโซฟาที่หักให้เข้าหากัน จิวโมไป๋ส่งพลังไปที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง ก่อนจะตบออกไปอย่างรุนแรง หนังที่รังโซฟาขาดออก โซฟาสองส่วนพุ่งเข้าหาชายและหญิงวัยกลางคนที่แยกกันคนละด้าน

“บัดซบ”ชายวัยกลางคนรู้ตัวว่าไม่สามารถหลบได้ เขาจึงต้องชกหมัดเข้าใส่โซฟาหัก

ทางด้านหญิงวัยกลางคนเธอโบกมือ กฎแห่งธาตุน้ำก่อตัวขึ้นปัดโซฟาหักที่พุ่งเข้ามา

แต่ในช่วงเวลานั้นเอง ไม้ด้านในโซฟาก็แตกกิ่งก้านใบสีเขียว มันขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว และพุ่งเข้าพันร่างของทั้งสองไว้

ทั้งสองคนตกตะลึง ก่อนที่จะใช้กำลังฉีกไม้ที่รัดร่าง

แต่ในเวลานั้นเองลู่หว่าน ก็ปรากฎตัวขึ้นอย่างไร้สุ้มเสียง ก่อนจะใช้ฝ่ามือฟาดร่างของชายวัยกลางคน คลื่นพลังอันรุนแรงระเบิดออก ร่างของชายวัยกลางคนกระเด็นไปกระแทกกับพนังด้านหลังอย่างรุนแรง หน้าอกของเขาฉีกขาดเลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาอย่างน่ากลัว

จิวโมไป๋ก็พุ่งเข้าไปหาหญิงวัยกลางคน ที่กำลังจะเรียกอวตารเงาออกมา เขาไม่เปิดโอกาสให้หญิงวัยกลางคนทำได้สำเร็จ เขาใช้กำลังทั้งหมดชกร่างของหญิงวัยกลางคน

ปัง! ร่างของหญิงวัยกลางคนหมุนควงกลางอากาศ ลอยไปกระแทกเข้ากับพนังอย่างรุนแรง เลือดสีแดงสดทะลักออกจากปากและหมดสติไปในทันที

จิวโมไป๋ส่ายหน้าเล็กน้อย ทั้งสองประมาทเกินไป ร่างกายก็ไม่พร้อมที่จะต่อสู้อยู่แล้ว ถ้าเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ตั้งแต่แรก อาจจะทำให้เขาคงตึงมือมากกว่านี้

“ไปกันเถอะ ยังมีเวลาอีก 3 นาที”ลู่หว่านเดินเข้ามาข้างๆจิวโมไป๋ แววตาที่อยู่หลังหน้ากากครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

จิวโมไป๋พยักหน้าเดินไปที่ประตูเข้าไปด้านใน แต่ในขณะที่กำลังจะเดินไป ลู่หว่านคอยๆผ่อนฝีเท้าอย่างช้าๆจนแทบจะไม่สังเกตเห็น

จิวโมไป๋ที่คอยระวังตัวอยู่แล้วสังเกตเห็นความผิดปกตินี้ได้ แต่เขาก็ยังเดินไปต่อ พร้อมกับรวมพลังเกล็ดมังกรทองปกคลุมทั่วร่าง

แต่ยังไม่ทันทีจะเดินไปถึง ประตูก็เปิดออกพร้อมกับ ชายในชุดสีขาวใบหน้าหล่อเหลาไร้ความรู้สึกเดินออกมา

จิวโมไป๋หยุดชะงักขมวดคิ้วสำรวจชายตรงหน้า

ลู่หว่านหยุดอยู่ด้านหลังจิวโมไป๋เล็กน้อย

โดยไม่มีใครได้พูดอะไร ชายในชุดขาวก็หายวับไป ก่อนที่จะปรากฎตัวที่หน้าของจิวโมไป๋และชกหมัดออกมา

ปัง!

จิวโมไป๋ยกมือสองข้างยกขึ้นมาในชั่วพริบตาก่อนที่จะถูกโจมตี ร่างของเขากระเด็นถอยไปข้างหลังเกือบสิบก้าว ก่อนที่เขาจะประคองตัวเอาไว้ได้

จิวโมไป๋วัดระดับการบ่มเพาะพลังของชายตรงหน้าได้ทันที ขั้นที่ 8 ชีพจร!

ชายชุดขาวเคลื่อนไหวอีกครั้ง เขาเข้าโจมตีลู่หว่านที่อยู่ข้างๆ

ลู่หว่านเคลื่อนตัวหลบด้วยความเร็วสูงไม่แพ้กัน ทั้งสองต่อสู้กันเกิดเป็นภาพเงาวูบผ่านไปมา

จิวโมไป๋ก็รู้แล้วว่าลู่หว่านอยู่ขั้นที่ 8 ชีพจรจริงๆ เขาลอบยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นลู่หว่านต่อสู้กับชายชุดขาวไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้

เธอจะใช้เขาเป็นเหยื่อล่อจริงๆ แต่โชคร้ายที่ชายชุดขาวไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

ฝ่ามือของลู่หว่านเคลือบด้วยกฎแห่งธาตุทอง ฝ่ามือคมกริบรวดเร็วฉับไวเข้าโจมตีชายชุดขาวด้วยความเร็วสูง

รอบร่างของชายชุดขาวมีกฎแห่งธาตุน้ำ แผ่กระจายเป็นวงกลมระยะ 2 มตร วงกลมสีฟ้าสามารถดักจับทุกการโจมตีได้ ทำให้เขาสามารถหลบการโจมตีทั้งหมด โดยไม่เกรงกลัวการโจมตีอันรวดเร็วของลู่หว่าน เขาเหมือนเหมือนสายน้ำที่ไหลลื่น ไม่อยู่นิ่งเขาสามารถหลบการโจมตีได้ทั้งหมด

แต่ยิ่งต่อสู้ระยะการโจมตีเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อย ใบหน้าเรียบเฉยก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเหงื่อเริ่มไหลไปทั่วร่าง พลังกดดันอันแข็งแกร่งพันประทุออกจากร่าง ก่อนที่จะมีมีดสีฟ้าอ่อน เหมือนถูกสร้างจากน้ำ 2 เล่มปรากฎที่มือทั้งสองข้าง

พลังอันแข็งแกร่งก็ระเบิดออกจากร่าง คมมีดสีฟ้าฟันทั้งสองฟันกวาดออกไป กฎแห่งธาตุน้ำที่อยู่รอบๆกลายเป็นเหมือนคมมีดแผ่ขยายออกเป็นกว้าง เฉือนทำลายทุกสิ่งที่วาดผ่าน สิ่งของที่วางอยู่ถูกตัดออกเป็นชิ้น

ลู่หว่านมองคลื่นกฎแห่งธาตุที่ฟันเข้ามาอย่างนิ่งเฉย รัศมีพลังวงกลมแผ่ออกไปปะทะ

เมื่อพลังทั้งสองปะทะกัน ก็กวาดทำลายสิ่งของที่เสียหายแล้วให้เสียหายหนักขึ้นไปอีก

จิวโมไป๋ถอยออกมาอยู่ห่างๆ พร้อมกับขยับไปทางปะตูอย่างช้าๆ

—-

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด