ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 328
จิวโมไป๋เงยหน้ามองขึ้นไปตามขั้นบันได แม้จะมองไม่เห็นอะไร แต่เขาจำเสียงของศิษย์ของเจ้าอาวาสหงหมิงทั้งสองได้
เขาหันมาพยักหน้ากับพี่น้องนาคามูระ แล้วนำขึ้นไป
เมื่อขึ้นไปได้ครึ่งทางพวกเขาก็พบศิษย์เจ้าอาวาสหงหมิงทั้งสองกำลังต่อสู้กับปีศาจหิมะและโอนิสามตัวอย่างดุเดือด ร่างกายของพวกเขาเหนื่อยล้าใกล้หมดแรงเต็มที แม้จะไม่บาดเจ็บ แต่พวกเขาต้องใช้พลังงานกำนวนมากเพื่อต่อสู้กับผู้ต้องสาปทั้งสี่ ที่เหมือนมีพละกำลังไม่มีวันหมด
จิวโมไป๋เข้าไปช่วยทันที เขาพุ่งเข้าไปและใช่คฑาขักขระฟาดไปที่โอนิที่อยู่ใกล้ที่สุด
ตูม! ร่างของโอนิกระเด็นไปกระแทกเสาโทริอิด้านข้างอย่างรุนแรง จนเสาโทริอิสั่นสะเทือน
การต่อสู้หยุดลง
ศิษย์เจ้าอาวาสหงหมิงเห็นจิวโมไป๋ก็ประหลาดใจ พวกเขามองลงไปก็เห็นสองพี่น้องนาคามูระ พวกเขาถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
ปีศาจหิมะเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามมีคนมาช่วย เธอก็หยุดลงและถอยไปด้านหลังโอนิที่เหลือ
แต่สายตาของเธอก็มาสะดุดที่คฑาขักขระในมือของจิวโมไป๋
“แกมีคฑาประจำตัวของท่านเทพผู้พิทักษ์ขวาได้ยังไง!”ปีศาจหิมะกรีดร้องอย่างตกใจ ใบหน้าที่เรียบเฉย บิดเบี้ยวด้วยความกลัว เพราะคฑาขักขระในมือของจิวโมไป๋ เป็นอาวุธประจำตัวของเทพผู้พิทักษ์คนสนิทของท่านเทพ
มีเพียงเทพผู้พิทักษ์ซ้ายและเทพผู้พิทักษ์ขวาเท่านั้นที่จะมีคฑาขักขระ
การที่จิวโมไป๋สามารถชิงคฑาขักขระจากเทพผู้พิทักษ์ขวามาได้ แสดงให้เห็นว่าเขามีแข็งแกร่งกว่าผู้ต้องสาปทุกคน เป็นรองแค่ท่านเทพเท่านั้น!
เธอที่เป็นเพียงผู้พิทักษย์ธรรมดาไม่สามารถสู้ได้เลย!
โอนิทั้งสอง ก็สังเกตเห็นคฑาขักขระในมือของจิวโมไป๋เช่นกัน พวกมันกระสับกระส่ายอยากจะวิ่งหนีออกไป
นาคามูระ อิโทซะที่ตามมาไม่พูดอะไร เขาฟันดาบออกไปทันที คมดาบตัดเข้าที่ร่างของโอนิทั้งสอง เลือดสีแดงดำไหลทะลักออกมา
โอนิทั้งสองร้องคำรามพลังอันดุร้ายแผ่กระจายออกจากร่าง นัยน์ตากลายเป็นสีแดงเข้าสู่ความคลุ้มคลั่ง พวกมันไม่สามารถรอความตายอยู่เฉยๆได้
จิวโมไป๋เห็นดังนั้น เขาก็พุ่งเข้าไปหมุนควงคฑาขักขระอย่างดุดันฟาดโจมตีโอนิทั้งสอง
นาคามูระ อิโทซะก็เสริมกำลัง โจมตีป้องกันไม่ให้พวกมันได้หลบหนี พวกเขาทั้งสองประสานการโจมตีได้ราวกับต่อสู้ด้วยกันหลายสิบครั้ง
ไม่นานโอนิทั้งสองก็นอนแน่นิ่งไม่ขยับ
โอนิที่ถูกจิวโมไป๋โจมตีตัวแรกก็ได้สติลุกขึ้นมา
หงหยุนและหงฟางก็เข้าไปจัดการ ไม่นานการต่อสู้ก็จบลง เหลือเพียงเจ้าหญิงหิมะที่ถูกล้อมอยู่ตรงกลาง เธอยืนนิ่งไม่ยื่นมือเข้าช่วยโอนิที่ถูกกำจัด
“อิวะ โซตะ ไปไหน?”นาคามูระ อิโทซะเอ่ยถามหงหยุนและหงฟาง
ทั้งสองมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่หงหยุนจะเป็นคนตอบ
“อมิตาพุทธ อาตมาเห็นเขาครั้งสุดท้าย ตอนที่เขากำลังต่อสู้อยู่ข้างล่าง หลังจากอาตมาจะขึ้นมาช่วยศิษย์น้อง ก็ไม่เห็นเอาอีกเลย”
นาคามูระ อิโทซะขมวดคิ้ว อิวะ โซตะหายตัวไปในสถานการณ์แบบนี้ มันไม่ได้เป็นเรื่องดี พวกเขาได้ค้นพบที่ซ่อน ซึ่งน่าจะเป็นต้นกำเนิดของการหายตัวไปแล้ว และได้รู้ข้อมูลระดับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามอย่างคร่าวๆแล้ว
พวกเขาสามารถถอนตัวเพื่อรายงานภารกิจได้
การที่อิวะ โซตะหายไป มันจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะพวกเขาไม่สามารถออกไปก่อนได้
ตระกูลอิวะ ไม่ได้เป็นตระกูลธรรมดา ถ้าตระกูลอิวะ รู้ว่าพวกเขาทิ้งทายาทของพวกเขา ไปในระหว่างทำภารกิจ เรื่องจะไม่จบง่ายๆ แม้ว่าเขาจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของตระกูลตัวเองก็ตาม
จิวโมไป๋เห็นท่าทางเคร่งเครียดของนาคามูระ อิโทซะ เขาก็พูดขึ้น
“ทำไมเราไม่ถามผู้ต้องสาปปคนนี้ก่อน และค่อยคิดหาทางออก”
นาคามูระ อิโทซะได้ฟังก็พยักหน้า เขามองไปยังปีศาจหิมะที่ยืนนิ่งเหมือนรูปปั้น สานตาของเธอมองมายังคฑาขักขระบนของจิวโมไป๋ไม่ละสายตา
จิวโมไป๋ยกคฑาขักขระขึ้นอย่างช้าๆให้ปีศาจหิมะได้เห็น
“เจ้านี้มันสำคัญสำหรับพวกแกสินะ”จิวโมไป๋ถามยังเชิง
แต่ปีศาจหิมะเงียบไม่ตอบ
จิวโมไป๋ยักไหล่ ปล่อยให้คนอื่นถาม แต่ปีศาจหิมะไม่ยอมพูดอะไรเลย
สุดท้ายนาคามูระ อิโทซะก็หันมามองน้องสาวของเขา
“คิยูมิ พี่ต้องพึ่งน้องแล้ว”
นาคามูระ คิยูมิพยักหน้า เธอเดินมาตรงหน้าของปีศาจหิมะอย่างช้าๆ ก่อนที่เธอจะเอื้อมมือมาจับที่ค้างของปีศาจหิมะและยกขึ้นจนดวงตาผสานกัน
“แก…”ปีศาจหิมะดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนที่ดวงตาจะมืดลง
เกิดความเงียบชั่วขณะ
จิวโมไป๋สัมผัสได้ถึงพลังที่คล้ายกับพลังวิญญาณได้อย่างแผ่วเบาจากร่างของนาคามูระ คิยูมิ
คิ้วของจิวโมไป๋ก็เลิกขึ้น องเมียวจิ?
ในตอนนั้นเอง สายลมก็พันเข้ามาอย่างรุนแรง ต้นสนที่ล้อมศาจเจ้าสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ใบหน้าของจิวโมไป๋และนาคามูระ อิโทซะเปลี่ยนไปทันที พวกเขาหันไปมองด้านล่างบันได ก็เห็นร่างของเทนงูเดินมาอย่างช้าๆ ปีกที่หักผิดรูปทำให้ท่าทางแข็งแกร่งทรงพลังลดทอนลงอย่างมาก
ด้านข้างของมัน มีร่างสีดำมีความสูง 2 เมตรครึ่ง ใบหน้าอีกาแฝงไปด้วยความชั่วร้าย ในมือของมันถือคฑาขักขระสีทอง ส่วนหัวเป็นวงรี แตกต่างจากคฑาขักขระในมือของจิวโมไป๋ที่เป็นวงกลม
คาราสุเทนงู!
พลังกดดันที่แผ่ออกมาจากร่างของมันอยู่ขั้นที่ 7 ไขกระดูกปลาย!
ใบหน้าของจิวโมไป๋เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เขาเผลอกำคฑาขักขระแน่นโดยไม่รู้ตัว
—-
เหลืออีก 1 ตอน
มีอะไรก็สามารถติชม แสดงความคิดเห็นได้เลยนะครับ
1 ความคิดเห็นเท่ากับ 1 กำลังใจ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ^ ^
คอมเม้นต์