ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 359
เด็กสาวสีแดงยืนบนโคมไฟ เธอนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะโบกมือ หมอกสีเทาก็หมุนวนอย่างรุนแรงก่อนที่ทะเลสาบเลือดจะหมุนวนตามหมอกสีเทา จากนั้นสิ่งที่น่าประหลาดก็เกิดขึ้น หมอกสีเทาเปล่งแสงสีแดงออกมาก่อนที่มันจะคอยๆกลายเป็นสีแดงเลือด
จากนั้นหมอกสีแดงก็ไหลเวียนไปทั่วร่างของเด็กสาวสีแดง ราวกับสวมเสื้อคลุมสีเลือด บาดแผลทั่วร่างก็สมานกันอย่างรวดเร็ว แต่ก็ช้ากว่าก่อนหน้านั้นหลายเท่า แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยฟื้นฟูบาดแผลได้
จิวโมไป๋เห็นดังนั้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่าหมอกสีเทาคืออะไรกันแน่ มันคือเลือดเสียที่ถูกกลั่นแยกออกจากเลือดสีแดงที่อยู่ทะเลสาบเลือด
และเขาคาดเดาได้แล้วว่า ความสามารถอาณาเขตวิญญาณของเด็กสาวสีแดง คือการใช้เลือดควบคุมสิ่งต่างๆ
เมื่อคิดได้ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เพราะทะเลสาบเลือด เต็มไปด้วยเลือดของผู้คนนับหมื่นคน!
ถ้าเขาปล่อยให้เด็กสาวสีแดงควบคุมเลือดทั้งหมดในทะเลสาบเลือด เขาจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ!
จิวโมไป๋เคลื่อนไหวทันทีกระบี่เลือนเร้นสั่นไหว ก่อนที่ร่างของเขาจะพุ่งทะยานด้วยความเร็ว ราวสายลมกรรโชกพัด ระยะห่างร้อยเมตรเพียงแค่พริบตาเดียว พลังทั้งหมดไปรวมกันที่กระบี่เลือนเร้นเกิดประกายแสงสีเงินสาดประกาย 9 เส้นแทงเข้าจุดตายของเด็กสาวสีแดงอย่างเด็ดขาด!
พลังมังกร!
วิชากระบี่ล้างบาป 9 สังหาร!
เด็กสาวสีแดงมองคมกระบี่ทั้ง 9 ที่ พุ่งเขามา เธอใช้พลังบางอย่างลอยตัวขึ้นหมอกสีแดงไหลไปมาราวกับมีชีวิต ก่อนที่คลื่นพลังอันน่ากลัวจะระเบิดออกปะทะกับกระบี่ทั้ง 9 และอึดใจต่อมาขวานสองคมก็เหวี่ยงไปขวางหน้าเกิดเงาลวงตาของซากศพนับไม่ถ้วนคลานออกมาจากขุมนรก พวกมันพุ่งเข้าปะทะคมกระบี่ทั้ง 9
ฉึก! คลื่นพลังระเบิดออกอย่างน่ากลัว คมกระบี่ทั้ง 9 ทะลวงผ่านทะเลซากศพไม่มีท่าทางว่าจะลดความเร็วลงแม้แต่น้อย
เด็กสาวสีแดงยังคงไร้อาคมณ์เช่นเดิม ในชั่วอึดใจ ก่อนที่จะปะทะกัน คลื่นพลังในร่างของเด็กสาวสีดำก็ระเบิดออกกลิ่นอายแห่งความตายทวีคูณเพิ่มขึ้นอย่างดุเดือด ขวานดำเหวี่ยงเขาปะทะกระบี่ทั้ง 9 พอดี
เปรี้ยง! เสียงปะทะกันดังกึงก้องก่อนที่ร่างของจิวโมไป๋และเด็กสาวสีแดงจะกระเด็นไปคนระด้าน
จิวโมไป๋ใช้กฎแห่งธาตุลมประคองร่างลดแรงปะทะ ก่อนจะกลับไปยืนบนฝั่ง เสื้อคลุมตรงกลางอกมีรอยกรีดยาวลึก จนเห็นเกร็ดมังกรทอง ที่มีรอยแตกร้าวเล็กๆ
ใบหน้าของจิวโมไป๋เปลี่ยนไป เขาย่ามใจเกินไป เกือบเอาชีวิตเขาไปเสี่ยงแล้ว โชคดีที่เขาตอบสนองได้ทัน
ทางด้านเด็กสาวสีแดงร่างของเธอกระเด็นไปไม่ไกลนัก ร่างของเธอล้มลงที่ทะเลสาบเลือด และค่อยๆลอยขึ้นมา เธอนอนนิ่งไม่ขยับเหมือนตาย บนร่างมีรอยแทงทะลุกว่า 9 แห่ง ทุกจุดเข้าจุดตายอย่างน่ากลัว
หมอกสีเลือดพุ่งเขาฟื้นฟูร่างกาย ระดับเลือดของทะเลสาบเลือดลงลงอย่างรวดเร็ว
จิวโมไป๋ลอยขึ้นด้วยกฎแห่งธาตุลม สังเกตเห็นถึงการลดลงของเลือดในทะเลสาบเลือดเขาก็เข้าใจทันที
จิวโมไป๋ขยับกระบี่เลือนเร้นจะเข้าไปจบการต่อสู้ แต่เมื่อเขากำลังจะพุ่งเข้าไป
คลื่นพลังในร่างก็ระเบิดออกอย่างรุนแรง ใบหน้าของจิวโมไป๋แดงก่ำราวกับดื่มยาชูกำลัง
จิวโมไป๋ถอยกลับไปยืนที่ฝั่ง และนั่งสมาธิ ไม่สนใจเด็กสาวสีแดงอีก
ในทะเลสติ ทะเลปราณกลายเป็นบ้าคลั่ง มีพายุหมุนในทะเลปราณนับร้อยลูก บ่งบอกถึงความผิดปกติอย่างรุนแรง
ตำหนักเตาหลอม 9 สุริยันสั่นสะเทือนและเริ่มมีรอยร้าวปรากฏขึ้นบนเสา
จิวโมไป๋รู้ได้ทันทีว่าเขาจะทะลวงผ่านไปขั้นที่ 7 ไขกระดูกต้น
ใบหน้าของเขากลายเป็นเคร่งเครียด มันเร็วกว่าที่เขาคาดไว้ ดูเหมือนว่าโลหิตมังกรพายุอัสนีจะแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิด ทำให้เขาคำนวนพลาดไป
จะโทษเขาไม่ได้ เพราะซุนกวนหมิง เจ้าของโลหิตมังกรพายุอัสนีในอดีต อ่อนแอและเหลวแหลกเกินไป ทำให้โลหิตมังกรพายุอัสนี กลายเป็นโลหิตมังกรระดับทั่วๆไป
จิวโมไป๋กัดลิ้นจนเกิดแผลเรียกสติ ก่อนจะแบ่งสติครึ่งหนึ่งออกไป และขยับมือที่หน้าอกซ้ายเหนือตรามังกรขี่สายลม
“เปิดใช้งาน!”จิวโมไป๋ร้องคำราม รอยสักที่ไร้ชีวิตส่องแสงสีเขียวอ่อนอีกครั้ง
ปราณในทะเลปราณที่บ้าคลั่งก็แตกกระจาย ก่อนที่ร่างของจิวโมไป๋จะสั่นสะเทือนอย่างๆรุนแรง
คลื่นความร้อนราวลาวาไหลผ่านไปทั่วร่าง เส้นเลือดปูดโปนอย่างน่ากลัว
“หึมมมม!”จิวโมไป๋ร้องคำรามราวมังกรก่อนที่เขาจะผุดลุกขึ้น เกล็ดมังกรทองก็ค่อยๆกลายเป็นสีเขียวอ่อนอย่างรวดเร็ว
พลังกดดันอันทรงพลังแผ่กระจายออกจากร่าง ดวงตาของจิวโมไป๋กลายเป็นสีทองเปล่งประกายเจิดจ้า เมื่อแสงสีทองหายไป นัยน์ตาของจิวโมไป๋กลายเป็นสีทองนุ่มลึก เต็มไปด้วยพลังราวกับราชา
เด็กสาวสีแดงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันทรงพลังเธอค่อยๆลุกขึ้นอย่างช้าๆ
ร่างของเธอถูกรักษาจนกลับมาเหมือนเดิม เธอลอยขึ้นไปยืนบนโคมไป ขวานสีดำหายไปอย่างไร้ร่องรอย เธอมองตรงไปยังจิวโมไป๋ที่มองกลับมายังที่เธอพอดี ในตอนนั้นเอง
คลื่นพลังของทั้งสองก็ปะทะกันกลางอากาศจนพื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พนังหินแตกร้าวและถล่มลงมาอย่างน่าสะพรึงกลัว
จิวโมไป๋และเด็กสาวสีแดงจ้องมองกันโดยไม่ละสายตา
และในเวลาเดียวกัน เกล็ดมังกรสีเขียวของจิวโมไป๋ก็ปกคลุมทั่วร่างกาย เขาสองอันแหวกออกจากหน้าผากสองด้าน งอกย้อนไปด้านหลังก่อนจะหยุดลงเมื่อยาวถึง 20 ซ.ม.
สายลมไร้สีหมุนวนไปทั่วร่างของจิวโมไป๋ราวกับมีชีวิต กลิ่นอายราชาอัยน่าเกรงขามแผ่กระจายออกมาจากร่าง สะกดข่มสิ่งมีชีวิตทั้งมวลให้ต้องคุกเข่าด้วยความหวาดกลัว
ทางด้านเด็กสาวสีแดง เลือดในทะเลสาบหายไปจนหมดสิ้น เห็นซากศพนับหมื่นกองอยู่อย่างไร้ค่า
ผิวของเด็กสาวสีแดงค่อยๆปรากฏเส้นอักขระสีเลือดเรียงร้อยกันทั่วร่างขัดกับผิวขาวนวล ทำให้เธอดูน่าหลงไหล แต่กลิ่นอายแห่งความตายอันมืดมิดที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของเธอ มันมืดมิดไร้สีสันใดๆ ไม่มีใครกล้าจ้องมองได้แต่ก้มหน้าตัวสั่นด้วยความกลัว
—
วันนี้มีอีก 5 ตอนครับ จบการต่อสู้พอดี
ผมจะลงประมาณ 3 ทุ่ม นะครับ
คอมเม้นต์