ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 382
ตำหนักหลัก ห้องโถงบัลลังก์
บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณนั่งบนบัลลังก์ทองด้วยใบหน้าเรียบเฉย พลังกดดันอันทรงพลังแผ่กระจายออกมาอย่างรุนแรง จนทั้งตำหนักสั่นสะเทือนเป็นระยะ บ่งบอกถึงระดับความโกรธของเขาที่กำลังปะทุออกมาได้ทุกเมื่อ เหมือนภูเขาไฟระเบิด
ด้านล่างเหล่าชนชั้นสูงสำนักดาบสายฟ้าคำรณยืนก้มหน้าตัวสั่นระริกราวลูกนก ความน่าเกรงขามของยอดฝีมือขั้นที่ 7 และ 8 หายไปจนหมดสิ้น
บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณข่มความโกรธ ค่อยๆกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง แต่แฝงไปด้วยพลังกดดันอันรุนแรงทุกคำพูด
“มีใครรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ใบหน้าของทุกคนพลันเปลี่ยนสี มองกันไปมองกันมา ไม่มีใครสามารถตอบได้
“บัดซบ!”บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าสถบออกมา มือตบลงบนที่วางมือทองคำจนแหลกละเอียด พลังกดดันระเบิดออกมาราวพายุ ตำหนักทั้งหลังสั่นคลอนอย่างรุนแรง
ชายชราวัยกลางคนท่าทางน่าเกรงขามที่ยืนอยู่ตำแหน่งรองลงมา โบกมือช้าๆขับไล่เหล่ายอดฝีมือออกไป
เหมือนได้รับอภัยโทษพวกเขาทำความเคารพเสร็จก็ใช้ท่าร่างทะยานหนีด้วยความเร็วสูงสุด พริบตาเดียวในห้องเหลือเพียงสองคน
ชายวัยกลางคนหันมาทำความเคารพและกล่าว
“ท่านบรรพบุรุษ เหตุการณ์แปลกๆนี้ ไม่ได้มีเพียงพื้นที่สำนักของเราเท่านั้น แต่มันเกิดขึ้นทั่วโลก ข้าได้ให้คนไปตรวจตรวจสอบแล้ว เมื่อ 10 นาทีก่อน ทุกคนบนโลกต่างก็ถูกลบความทรงจำไป 10 วินาที”
“ทุกคนบนโลก”บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณได้ยินดังนั้นอึ้ง
“ใช่ ทุกคนบนโลก”
บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณตัวสั่นด้วยความกลัว ก่อนที่เขาจะสงบลงและถามต่อ
“ไม่มีข้อมูลที่มีประโยชน์เลยหรือ”
ชายวัยกลางคนส่ายหน้าช้าๆ ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดอย่างมาก เขานิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าว
“นอกจากความทรงจำของทุกคนบนโลกแล้ว บันทึกข้อมูลต่างๆในช่วง 10 วินาทีถูกลบจนหมด แม้แต่เครื่องเก็บข้อมูลที่ไม่อยู่ในพื้นที่เคลือข่าย ก็ถูกลบหมด”
ใบหน้าของบรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณเปลี่ยนไป
ผู้ที่สามารถลบความทรงจำของคนทั่วโลกได้ ไม่ใช้ตัวตนธรรมดาแล้ว คนๆลึกลับยังสามารถลบบันทึกข้อมูลทั้งหมด ความสามารถระดับนี้ เขาแทบจะเป็นเหมือนพระเจ้าด้วยซ้ำ
บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณสูดหายใจ เขาเป็นผู้ที่ถูกเรียกว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของโลก ยังไม่มีความสามารถระดับนี้ ใครกันที่มีความแข็งแกร่งระดับนี้ได้ หรือโลกนี้มีพระเจ้าอยู่จริงๆ?
บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณส่ายหัวช้าๆขับไล่ความคิดนั้นออกไป ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
“พระหัวโล้นคนนั้นเป็นใคร?”
ชายวัยกลางคนบอกตัวตนของเจ้าอาวาสหงหมิง
“หึ เจ้าเด็กเหลือขอ เคนชิดะคิดอะไรอยู่ ถึงให้คนนอกมีสิทธิ์เข้าไปในโบราณสถานสำคัญของสำนัก!”บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
ชายวัยกลางคนที่ได้ยินก็ยิ้ม
“น้องเล็ก แค่อยากให้เหล่าศิษย์รุ่นใหม่ได้มีโอกาสเห็นอัจฉริยะของประเทศอื่น พวกเขาจะได้ลดความเย่อหยิ่งลงบ้าง”ชายวัยกลางคนส่ายหัวเบา”หลังจากที่พลังธรรมชาติเริ่มฟื้นฟู ความแข็งแกร่งของศิษย์รุ่นใหม่เริ่มไล่ตามเหล่าผู้อาวุโสรุ่นก่อนได้ทัน พวกเขาเริ่มท้าทายผู้อาวุโสรุ่นก่อนโดยไม่สนใจ กฎระเบียบ”ชายวัยกลางคนพูดอย่างไม่พอใจ
“เจ้าเป็นถึงเจ้าสำนัก แต่จิตใจของเจ้าอ่อนโยนเกินไป”บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณกล่าวอย่างไม่พอใจ
“ฮ่าๆ เพราะข้าเป็นแบบนี้ไม่ใช้หรือ ท่านถึงให้ข้าเป็นเจ้าสำนัก”เจ้าสำนักดาบสายฟ้าคำรณกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพ่อของเจ้า บ้าบิ่นเกินไป จนทำให้สำนักเราเกือบล้มลง ข้าคงไม่คิดที่จะให้เจ้า เป็นเจ้าสำนักหรอก!”บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณพูดด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะลุกขึ้นพลังกดดันเก็บกลับเข้าร่าง
“ข้าจะกลับไปปิดตัว เจ้าต้องดูแลสำนักให้ดี ภาระหน้าที่ของเจ้าไม่ง่ายเลย”บรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณมองไปยังเจ้าสำนักดาบสายฟ้าคำรณด้วยแววตาอ่อนลง แฝงไปด้วยความเห็นใจ”ตอนนี้โลกกำลังใกล้เข้าสู่ยุคผลัดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ความโกลาหลกำลังจะเกิดขึ้น”
“จำไว้ที่นี่คือต้นกำเนิดของเรา สำนักดาบสายฟ้าคำรณ! ถ้าเจ้าไม่สามารถทำให้สำนักก้าวตามยุคสมัยได้ทัน เจ้าจะกลายเป็นคนบาปของสำนัก!”จบคำบรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณก็หายวับไป
ในตำหนักเหลือเพียงเจ้าสำนักดาบสายฟ้าคำรณยืนอยู่คนเดียว เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งบนบัลลังก์ดวงตาฉายแววลึกล้ำ
ลานประลองสำนัก
ในตอนนี้มีศิษย์ของสำนักดาบสายฟ้าคำรณประมาณสามร้อยคน ยืนเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ อีกด้านที่นั่งสำหรับแขกเจ้าอาวาสหงหมิง จิวโมไป๋ หงเฟย หงหยุนกำลังนั่งดูอยู่ห่างๆ
บนแทนสูงพันเอกนาคามูระ ยืนมองศิษย์ที่อยู่ด้านล่างก่อนจะกล่าว
“ตอนนี้ผู้อาวุโสคนอื่นๆกำลังเข้าประชุมเรื่องสำคัญ ข้าจะเป็นผู้ดำเนินการแข็งขันชิงสิทธิ์เข้าโบราณสถานทั้ง 3 ตำแหน่งคืน…”
สายตาของศิษย์สำนักดาบสายฟ้าคำรณร้อยกว่าคนมองมายังพวกเขาพร้อมกัน
จิวโมไป๋รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
เจ้าอาวาสหงหมิง หงหยุน และหงเฟย นิ่งสงบเหมือนจะรู้อยู่แล้ว
เขาจึงนั่งเงียบๆไม่พูดอะไร แต่หูฟังที่พันเอกนาคามูระกล่าวอย่างตั้งใจ
จากที่ได้ยิน เขาก็เข้าใจแล้วว่า’รางวัล’ที่เจ้าอาวาสหงหมิงบอกมันคืออะไร
ที่แท้มันก็คือสิทธิ์ในการเข้าโบราณสถานลับของสำนักดาบสายฟ้าคำรณ ปกติแล้วมีเพียงศิษย์ของสำนักดาบสายฟ้าคำรณ เท่านั้นถึงจะเข้าได้
แต่เพราะพันเอกนาคามูระได้เชิญเจ้าอาวาสหงหมิงมาทำภารกิจพิเศษสิทธิ์ทั้ง 3 จึงตกไปอยู่ในมือของ’คนนอก’
แต่ในข้อตกลงมีการกำหนดไว้ว่า คนนอกที่ได้สิทธิ์เข้าโบราณสถานลับ จะต้องรับคำท้าทายของศิษย์ของสำนักดาบสายฟ้าคำรณ ที่ไม่มีสิทธิ์เข้าโบราณสถานและต้องเอาชนะทุกคน เพื่อรักษาสิทธิ์เข้าโบราณที่ตัวเองถือครอง
จิวโมไป๋ตรวจสอบศิษย์สำนักดาบสายฟ้าคำรณสามร้อยกว่าคน ด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจกำลังรุ่มร้อนด้วยความตื่นเต้น
เหตุผลที่เขามาประเทศเกาะนอกจากจะกำจัดวิญญาณแค้น เหตุผลอีกอย่างก็คือต่อสู้เพื่อสะสมประสบการณ์
เขาไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ มันคงเป็นผลจากโชค ที่เขาได้จากการสะสมผลบุญ ทำให้ความปรารถนาของเขาเป็นจริง
ดูเหมือนว่าโชคของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
—
ตอนหน้าขอเก็บเงินนะครับ
คอมเม้นต์