ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 410 เข้ารับการสืบทอด!
แต่มันก็ไม่มีการตอบสนอง เหมือนกับอิโทวะและคนอื่นๆที่เป็นศิษย์ของสำนักดาบสายฟ้าคำรณ
จิวโมไป๋ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหลับตา เข้าภายในทะเล กระบี่เลือนเร้นสัมผัสได้ว่าเขาเข้ามา มันพุ่งเข้ามาออดอ้อน จิวโมไป๋แตะมันเบาๆ ก่อนจะมองไปยังตำหนักยุทธ์ว่างเปล่าหลังหนึ่ง เขาก็เริ่มท่องเคล็ดวิชาต้องห้าม ลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ ที่เขาได้รับจากการตรวจสอบร่างของทาเคยูชิ
ไม่นานสำนักยุทธ์หลังนั้นก็สั่นสะเทือน ก่อนที่ใจกลางของตำหนักจะคลื่นพลังไหลทะลักออกมา เขาค่อยๆสร้างตำหนักยุทธ์อย่างช้าๆ เวลาผ่านไปไม่นาน ใจกลางตำหนักยุทธ์ก็มีแสงสามสีปรากฎขึ้น พวกมันหมุนวนราวพายุแยกกันคนละด้าน แสงสีแดงและแสงสีม่วงม่วงต่างพุ่งเข้าต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทำให้ตำหนักยุทธ์สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
จิวโมไป๋รู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่าง
ตำหนักยุทธ์เตาหลอม 9 สุริยัน เหมือนจะตอบสนองต่อพายุสีแดงที่พึ่งถูกสร้างไหม้ มันระเบิดพลังออกมาอย่างรุนแรง เพลิงนิรันดร์พลันลุกท่วมตำหนัก
ทะเลปราณด้านล่างเริ่มปั่นป่วนบ้าคลั่ง
เลือดในร่างของจิวโมไป๋พลันเดือดพล่าน ผิวหนังค่อยๆแดงก่ำ ไอสีขาวผุดออกจากรูขุมขน ปกคลุมทั่วร่างกาย
เขาสูดลมหายใจ ก่อนจะเผลอยิ้มออกมา สมาธิแบ่งเป็นสองทาง ทางหนึ่งพยายามปราบปรามตำหนักยุทธ์เตาหลอม 9 สุริยัน อีกทางค่อยๆสร้างตำหนักยุทธ์ลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะ
พายุสีเขียวเข้มซ่อนตัวเงียบๆไม่เข้าไปปะทะกันกับพายุสีม่วงและสีแดง
จิวโมไป๋ควบคุมพวกมันให้สงบลงอย่างช้าๆ พายุสีแดงและสีม่วงแยกออกจากกัน ไม่ปะทะกันอีก
ทางด้านตำหนักยุทธ์เตาหลอม 9 สุริยัน เขาก็ทำให้มันสงบลงได้ในที่สุด
จิวโมไป๋พ้นลมหายใจที่เต็มไปด้วยไอขาวออกมา ก่อนที่ผิวของเขาจะค่อยกลับมาเป็นปกติ
สมาธิของเขากลับที่ตำหนักยุทธ์ลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิเคล็ดวิชาลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ มันค่อยๆก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เสาทั้งสี่เริ่มมีอักขระที่อ่านไม่ออกปรากฏขึ้นและมีเงามังกรเลือนลางพันรอบเสา แต่ก่อนที่ตำหนักยุทธ์จะสมบูรณ์ จิวโมไป๋ก็หยุดลง ก่อนที่มันจะเสร็จสมบูรณ์
ทำให้พายุทั้งสามใจกลางตำหนัก เริ่มไม่มั่นคงใกล้จะสลายหายไป
จิวโมไป๋เพ่งสมาธิประคองมันเอาไว้ เขารู้เคล็ดวิชาลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ จากการสำรวจร่างของทาเคยูชิเท่านั้น เขาไม่มีเคล็ดวิชาที่สมบูรณ์ ถ้าเขาฝืนสร้างตำหนักยุทธ์ด้วยวิชาไม่สมบูรณ์ แม้เขาจะสามารถแก้ไขวิชาได้ในอนาคต แต่มันอาจจะส่งผลกระทบถึงรากฐานของเคล็ดวิชาได้ เขาจึงยังไม่สร้างมันจนเสร็จ เขาเพียงวางโครงสร้างของเคล็ดวิชาเท่านั้น
จิวโมไป๋ดึงสติออกจากทะเลสะติ ดวงตาประกายคมกล้า เขาท่องเคล็ดวิชาลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิที่ไม่สมบูรณ์ ลมหายใจของเขาร้อนขึ้น ไม่รอช้าเขาวางมือลงบนแท่นหินทดสอบ
ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน แท่นหินทดสอบส่องแสงสีม่วงตอบสนอง
ดวงตาของจิวโมไป๋เป็นประกายด้วยความตื่นเต้น
แท่นหินทดสอบตรวจสอบคัดแยกระหว่างศิษย์ในสำนักกับคนนอก จากเคล็ดบ่มเพาะพลังอย่างที่คิดจริงๆ
เคล็ดวิชาลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ มีลักษณะคล้ายกับวิชาบ่มเพาะพลังของอิโทวะและศิษย์คนอื่นๆ เขาจึงคิดว่าเคล็ดวิชาลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ เป็นวิชาที่ดัดแปลงมาจากวิชาบ่มเพาะพลังหลักของสำนักดาบสายฟ้าคำรณ ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ
จิวโมไป๋มองไปรอบๆ ก็พบว่ามีป้ายสุสานเพียง 2 แห่งเท่านั้นที่ตอบสนอง แห่งหนึ่งคือป้ายสุสานที่ทาเคยูชิกำลังได้รับการสืบทอดอยู่ อีกแห่งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อยบ่งบอกว่า มันมีความแข็งแกร่งน้อยกว่าวีรชนในสุสานของทาเคยูชิ
แต่จิวโมไป๋ไม่สนใจ เขาเดินไปยังป้ายสุสานแห่งนั้น เมื่อเขาเดินเข้าไป ม่านพลังก็ปกคลุมร่างของเขาเอาไว้ เขานั่งลงท่าทำสมาธิ จากนั้นสติของเขาก็ถูกดึงออกจากร่างเข้าไปในสุสาน
วูบ เมื่อลืมตาขึ้น เขาก็พบว่าตัวเองมาอยู่ในถ้ำหิน ปกคลุมไปด้วยหมอกสายฟ้าหนาแน่น ยากที่จะมองไปได้ไกล พื้นเป็นหินเรียบเหมือนกับพื้นของสนามประลองของ
โดยไม่มีการร้องเตือนใดๆ เสียงแหลกอากาศก็ดังขึ้นจากด้านหน้า จิวโมไป๋เงยหน้าขึ้นก็เห็น คลื่นพลังสายฟ้าที่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีส้ม พุ่งมายังร่างของเขาด้วยความเร็วอันน่าตกใจ!
จิวโมไป๋ตอบสนองอย่างรวดเร็ว กระบี่เล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ รัศมีกระบี่วงกลมแผ่ขยายออกจากร่าง ก่อนที่เงากระบี่จะฟันไปที่คลื่นพลังสายฟ้าที่ลุกไหม้
เปรี้ยง! คลื่นพลังทั้งสองปะทะกันก่อนจะสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย มันไม่สร้างความเสียหายใดๆให้กับพื้นที่โดยรอบ
จิวโมไป๋หรี่ตาลงเล็กน้อย เนตรแห่งจิต ทำให้เขามองผ่านหมอกสีม่วง ตรงหน้าของเขามีชายวัยกลางคนร่างกายกำยำสูงเกือบ 3 เมตร เขามีความสูงที่ผิดปกติอย่างมาก ใบหน้าของชายวัยกลางคนไร้ความรู้สึก ราวกับหุ่นไม่มีชีวิต
ชายวัยกลางคนไม่พูดอะไร เขายกดาบคาตานะที่ยาว 3 เมตร ฟาดฟันคลื่นดาบสายฟ้าที่ลุกไหม้ออกมา
คลื่นพลังอันหน้าหวาดหวั่น พุ่งแหวกหมอกสายฟ้าตรงเข้ามา
จิวโมไป๋ขมวดคิ้วก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ กระบี่ในมือของเขาหลุกจากมือ ก่อนจะแยกตัวออกเป็นสิบเล่ม ร้อยเล่ม พันเล่ม พริบตาเดียวกระบี่นับไม่ถ้วนลอยอยู่เต็มถ้ำ
กระบี่นับไม่ถ้วนส่งกลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวออกมา สะกดข่มอาณาเขตทั้งหมด!
คอมเม้นต์