ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 447
ใบหน้าของจิวโมไป๋ซีดเผือดอย่างรวดเร็ว เขาโบกมือหินกำเนิดปราณที่เขาเคยเก็บไว้และที่เขาพึ่งแลกทั้งหมดถูกนำมากองด้านหน้า ด้านข้างมีขวดโอสถหลายสิบขวด เขาหยิบขวดโอสถขึ้นมาเทใส่ปาก พร้อมกับท่องเคล็ดบ่มเพาะพลังเตาหลอม 9 สุริยัน เพื่อยับยั้งเปลวเพลิงทั้งสอง
ในทะเลสติ เปลวเพลิงผลาญธุลีและเพลิงนิรันดร์ต่อสู้กันอย่างรุนแรง แต่น่าแปลกที่พวกมันเหมือนไม่สามารถทำอะไรกันได้
เวลาผ่านไปหลายนาทีการต่อสู้ของเพลิงทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะจบลง ร่างของจิวโมไป๋แดงก่ำแทบจะกลายเป็นสีเลือด โลหิตมังกรของเขาถูกผนึกทำให้ความอดทนของเขาลดลง เขาทำได้แต่อดทน
จิวโมไป๋มองเปลวเพลิงทั้งสองครู่หนึ่งก่อนจะขบฟันแน่น ในตอนนั้นเอง ในทะเลสติร่างเสมือนของจิวโมไป๋ปรากฏตัวขึ้น กระบี่เลือนเร้นพุ่งเข้ามาหาเข้าอย่างสนิทสนม จิวโมไป๋ลูบมันเบาๆก่อนจะมุ่งหน้าไปยังตำหนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยัน
เมื่อไปถึงร่างเสมือนของเขาสั่นไหวเบาๆ คลื่นความร้อนของเพลิงทั้งสองรุนแรงอย่างมาก แต่ที่มันไม่สามารถตัดสินได้ เป็นเพราะเพลิงทั้งสองมันมีคุณสมบัติต่างกันสุดขั่ว
เพลิงนิรันดร์ เปลวเพลิงที่เผาผลาญพลังชีวิต แต่ไม่เผาไหม้สิ่งของใดๆ
เพลิงผลาญธุลี เผาไหม้ทุกสิ่งเป็นขี้เถ้า แต่ไร้คุณสมบัติพิเศษ
ฝั่งหนึ่งเผาสิ่งที่จับต้องได้ ฝั่งหนึ่งเผาไหม้สิ่งที่จับต้องไม่ได้
ไม่แปลกเลยที่มันจะไม่สามารถจัดการอีกฝ่ายได้
นี้เป็นเหตุผลที่เขากล้าหลอมรวมเพลิงธุลี สมบัติปฐพีระดับ 6 ก็เพราะว่าเขาสามารถหลอกให้พวกมันต่อสู้กันในทะเลสติ โดยที่ร่างกายของเขาจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด รอให้ให้เปลวเพลิงผลาญธุลีอ่อนแรง เขาจะจัดการมันในคราวเดียว
แต่เขาไม่คิดเลยว่าเพลิงธุลีจะรุนแรงขนาดนี้ แม้ว่ามันจะอยู่ในช่วงอ่อนแรงและไม่ได้เผาไหม้ร่างของเขาตรงๆ แต่ความร้อนของมันก็ทำให้ร่างรายของเขาเสียหายอย่างหนัก
เขารอช้าอีกไม่ได้ต้องรีบทำให้มันอ่อนแอลงอีกและดูดซับในคราวเดียว!
จิวโมไป๋โบกมือข่ายอาคมสีทองอ่อน นับไม่ถ้วนกระจายล้อมรอบตำหนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยัน
เปลวเพลิงทั้ง 2 ไม่สนใจสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น พวกมันต่อสู้กันราวกับคู่แค้นจากชาติที่แล้ว ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้
จิวโมไป๋สร้างข่ายอาคมไปเรื่อบๆ ใบหน้าของเขาก็ซีดขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายเนื้อเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำเพราะเลือดถูกความร้อนเผาไหม้
ความสามารถสุดยอดการรักษาพยายามรักษาร่างของเขา
มือของเขาสั่นระริกเริ่มทนไม่ไหว
เปลวเพลิงผลาญธุลีเริ่มแสดงความอ่อนแอลงเล็กน้อย
ข่ายอาคมที่ 80 81 82
เวลาผ่านไปช้าๆ
ร่างของเขาปกคลุมด้วยชั้นขี้เถ้า
เปลวเพลิงผลาญธุลีเริ่มอ่อนแรงลง
ข่ายอาคมที่ 90
ความเร็วของจิวโมไป๋เริ่มช้าลง เขาหยิบโอสถมากรอกปาก เขากินมันนับ 100 เม็ด แต่ดูเหมือนจะสูญเปล่า แต่เขาก็กินไปเรื่อยๆไม่หยุด
หินกำเนิดปราณเริ่มกลายเป็นผุ่นทีละอัน
ข่ายอาคมทีี่ 95 96
เปลวเพลิงผลาญธุลีเริ่มอ่อนแรง ความแข็งแกร่งของมันลดลงมาขันหนึ่ง
ข่ายอาคมที่97
ร่างเหมือนของจิวโมไป๋เริ่มไม่มั่นคง
ข่ายอาคมที่ 98
สติของเขาเริ่มเลือนร่าง
เปลวเพลิงผลาญธุลีเหมือนพึ่งรู้ตัวว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย มันหยุดการต่อสู้กับเพลิงนิรันดร์ ก่อนที่จะสั่นไหวไปมา ราวกับภูเขาไฟกำลังปะทุ
จิวโมไป๋เห็นดังนั้นก็เร่งมือ เหลือเพียงข่ายอาคมสุดท้าย!
แต่เขาช้าไปเพลิงผลาญธุลีหดตัวเตรียมพร้อมที่จะระเบิดออกมา
รูม่านตาของเขาพลันหดลง พร้อมที่จะใช้พลังสุดท้ายต้ามการระเบิด
แต่ในตอนนั้นเองกระบี่เลือรเร้นพลันเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง มันพุ่งแหวกอากาศด้วยความเร็วเหนือเสียงพริบตาเดียวก็พุ่งเข้าใกล้เพลิงผลาญธุลี ก่อนที่ผิวของกระบี่จะมีพลังอะไรบางอย่างเคลือบเอาไว้
เปรี้ยง! กระบี่เลือนเร้นแทงทะลุเพลิงผลาญธุลี ทำให้การระเบิดของมันหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
ในตอนนั้นเองจิวโมไป๋ก็โบกมือสุดแรง ข่ายอาคมที่ 99!
ข่ายอาคม 99 อันพลันเปล่งแสงสีทองอ่อนเจิดจ้าเกิดเป็นตราประทับที่ตรงกลางมีรูปสลักเปลวไฟกำลังลุกไหม้
99 ตราสยบเพลิง!
ตราทั้ง 99 จากรอบทิศทางพุ่งเข้าใส่เพลิงผลาญธุลี
เพลิงนิรันดร์สัมผัสได้ถึงอันตราย มันกลับเข้าไปในตำหนักยุทธอย่างสงบเสงี่ยม
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
เพลิงผลาญธุลีถูกตราสยบเพลิงทุบทำลายอย่างโหดร้าย จนรัศมีพลังอ่อนลงเรื่อยๆ
ตราที่ 80 81 90 91 92
ความแข็งแกร่งของเปลวเพลิงผลาญธุลีลดลงลงใกล้จะถึงจุดต่ำสุด
ตราที่ 99! ตราสยบเพลิงสุดท้ายพลันขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 10 เท่าและกระแทกเพลิงผลาญธุลีไปยังตำหนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยัน
ในตอนนั้นเอง จิวโมไป๋ที่กำลังฟื้นฟูพลังก็ท่องบทดูดซับเปลวเพลิง เพลิงผลาญธุลีกระเด็นเข้าไปชนเงาเสมือนเตาหลอม 9 สุริยันอย่างแม่นยำ ก่อนที่มันจะถูกเตาหลอมดูดซับไปในชั่วอึดใจ!
ดูดซับเพลิง เพลิงผลาญธุลี สำเร็จ!
เปรี้ยง! ตำหนักยุทสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในตอนนั้นเองเตาหลอมทองแดงก็หมุนวนอย่างรวดเร็ว
ทะเลปราณด้านล่างสั่นเป็นระรอกคลื่นเหมือนจะพยายามเลื่อนขั้นการบ่มเพาะพลัง แต่จิวโมไป๋พยายามปราบปรามเอาไว้ก่อน ยังไม่ถึงเวลา เขาต้องเลื่อนขั้นในสภาพร่างกายที่สมบูรณ์
ทะเลปราณค่อยๆกลับมาสงบ ภายในตำหนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยัน เตาหลอมทองแดงกำลังลุกไหม้ไปด้วยเพลิงสีเขียวเข้มและเพลิงสีแดงน้ำตายทอง พวกมันหมุนวนรอบเตาหลอมพยายามแย่งชิงอาณาเขตของกันละกัน แต่พวกมันเหมือนจะไม่สามารถโจมตีกันได้
จิวโมไป๋ยืนดูตำหนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยันที่กลับมาสงบ ก่อนจะก้มลงเห็นกระบี่เลื่อนเร้นที่กลับมาอยู่ในมือเขาเมื่อไหร่ไม่รู้
“ขอบคุณมาก”เขากล่าวกับกระบี่เลือนเร้นและลูบมันเบาๆ
กระบี่เลือนเร้นไถมือของเขาไปมาอย่างมีความสุข ที่ได้รับคำชม
จิวโมไป๋ดึงสติกลับร่าง เขาพ้นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ด้วยความโล่งใจปนตื่นเต้นที่สามารถดูดซับเปลวเพลิง สมบัติปฐพี ระดับ 6 สำเร็จ ตั้งแต่อยู่ระดับพื้นฐาน ถ้าเอาเรื่องนี้ไปพูดในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ไม่มีใครเชื่อแน่
ในตอนนั้นเอง เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่าง หัวใจของเขาเต้นระรัว ไม่รอช้าเขาหลับตาเพ่งสมาธิไปยังความรู้สึกนั้น ไม่นานเขาก็จับความรู้สึกนั้นได้อย่างรวดเร็ว
พริบ แสงสีแดงไหลที่มือ ก่อนจะไหลไปทั่วร่าง ขี้เถ้าสีดำที่ปกคลุมร่างค่อยๆลอกออก ผิวของเขากลับมาเป็นปกติ
จิวโมไป๋ลืมตาขึ้น มองฝ่ามือที่เปล่งแสงสีแดง
ตระหนักกฎแห่งธาตุไฟ!
คอมเม้นต์