ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 435 พลังแห่งโชค
เวลาก่อนหน้านั้นเล็กน้อย
ฮิโรกิ บรรพบุรุตสำนักดาบทลายฟ้ากำลังพักฟื้นฟูพลัง หลังจากโจมตีด้วยเพลิงทลายฟ้า(เพลิงผลาญธุลี) เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ทั่วร่างกลับไปในโคมไฟที่มือซ้าย อากาศโดยรอบกลับมาเป็นปกติ เขาจึงสามารถหายใจได้สะดวก เขามองไปยังที่ๆอายาเสะเคยยืนอยู่ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจด้วยความเสียใจ
“ข้าขอโทษอายาเสะ ข้าก็ไม่อยากทำอย่างนี้ แต่สำนักของข้าเลือกเส้นทางนี้ไปแล้ว ข้าไม่สามารถหยุดได้ ข้าได้แต่ต้องก้าวต่อไปเท่านั้น”ฮิโรกิกล่าวด้วยความรู้สึกผิดที่ฆ่าสหายที่เป็นคู่แข่งกันมานาน ด้วยสิ่งของนอกกาย ไม่ใช่ความสามารถของเขาเอง
แกร๊ก เสียงบางอย่างดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ฮิโรกิชะงัก ก่อนจะพลิกตัวไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
ฉึก! ดาบคาตานะแทงขึ้นมาจากพื้นดินตรงจุดที่เขาเคยยืนอยู่ ฮิโรกิหันไปมองก็เห็นใบดาบคาตานะที่บิดงอมีรอยตะปุ่มตะป่ำ จากการโดนความร้อนละลาย
ตูม! พื้นดินระเบิดอย่างแรง ก่อนที่ร่างสีดำจะพุ่งออกมาจากพื้นดินและฟันลงไปที่ฮิโระกิ คลื่นดาบสายฟ้าฟันลงมาราวกับสายฟ้าฟาด
ฮิโรกิยกดาบขึ้นป้องกัน
เคร้ง! ดาบทั้งสองถูกหยุดไว้ตรงกลาง
สุดท้ายเขาก็เห็นคนลอบโจมตี อายาเสะที่อยู่ในสภาพน่ากลัว ร่างกายส่วนบนถูกเผาไหม้จนกลายเป็นสีดำ ผมหนวดเคราหายไปจนหมดเหลือแต่คาบสีดำทั่วร่าง
“อายาเสะ!”ฮิโรกิตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
“ฮ่าๆ ฉันบอกแล้วว่า แกไม่สามารถจบการต่อสู้ของพวกเราในโจมตีเพียงครั้งเดียว”อายาเสะกล่าวช้าๆ แม้ร่างกายจะบาดเจ็บสาหัส แต่น้ำเสียงของเขายังเต็มไปด้วยพลัง
ฮิโรกิกำด้ามดาบแน่น ด้ามจับที่สร้างจากวัตถุทนไฟถูกเผาไปแล้ว ทำให้เขาถือแทงเหล็กโดยตรง มือของเขาถูกด้ามจับบาดจนเลือดไหลออกมา
ในตอนนั้นเองกำไลข้อมือของเขาสั่นเบาๆ เขาลงดู ใบหน้าพลันเปลี่ยนไป
ฮิโรกิถอนหายใจ พูดแผ่วเบาราวกระซิบ
“ไม่น่าเลย…”
อายาเสะที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถาม
“ฮิโรกิ แกพูดว่าอะไรนะ? ฉันไม่ได้ยิน”
ฮิโรกิเงยหน้าขึ้น ก่อนที่เพลิงผลาญธุลีจะลุกไหม้อีกครั้ง
“ฉันพูดว่า แกไม่น่ารอดจากการโจมตีก่อนหน้าได้เลย”ฮิโรกิชักดาบออกมาถือ โคมไฟส่องแสงเปลวเพลิงสีแดงน้ำตาลทองลุกไหม้ทั่วร่างของฮิโรกิ คลื่นความร้อนจะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เปลวเพลิงเผาไหม้ท้องฟ้า ขี้เถ้าสีดำตกลงมาราวหิมะสีดำ คลื่นความร้อนครั้งนี้ มันน่ากลัวกว่าครั้งที่แล้วอีก
ต้นไม้ สิ่งของที่ติดไฟได้พลันลุกไหม้ อาคารในสำนักเริ่มติดไฟ ไม่นานภูเขาสำนักฝั่งด้านหลังของภูเขาสำนัก ก็กำลังลุกไหม้
เพราะอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น ทำให้ความแข็งแกร่งของกฎแห่งธาตุไฟโดยรอบพลันเพิ่มขึ้น พลังของศิษย์สำนักดาบเพลิงทลายฟ้าที่ตระหนักกฎแห่งธาตุไฟพลันเพิ่มขึ้นไปหนึ่งขั้น พวกเขาเริ่มได้เปรียบศิษย์สำนักดาบสายฟ้าคำรณมากขึ้น
ทางด้านเคนซูกุ กฎแห่งธาตุไฟที่ลุกไหม้ทั่วร่างของพวกเขาพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
อิโทซะ คิยูมิ อิซาชิและทาเคยูชิต่างเหงื่อไหลออกท่วมตัว
จิวโมไป๋ไม่ได้ผลกระทบจากคลื่นความร้อนแม้แต่น้อย เขายังชอบซะด้วยซ้ำ
เตาหลอม 9 สุริยัน ในร่างหมุนวนด้วยความตื่นเต้น มันดูดซับคลื่นความร้อนอย่างตะกละตะกลาม
พวกเขามองไปยังทิศทางที่เปลวเพลิงอันร้อนแรงกำลังลุกไหม้ ถ้าบรรพบุรุษสำนักดาบสายฟ้าคำรณไม่สามารถรับการโจมตีนี้ได้ ฝั่งของสำนักดาบสายฟ้าคำรณก็จึงจุดจบ
ฮิโรกิชูดาบขึ้น เปลวเพลิงผลาญธุลีหลอมรวมกับพลังกดดันขยายใหญ้ขึ้นเป็นดาบเพลิงยักษ์ อุณภูมิพลันพุ่งสูงขึ้นอีก คลื่นความร้อนเผาไหม้ทุกสิ้งโดยรอบ แม้แต่พื้นดินเริ่มแตกระแหงราวกับแผ่นดินที่ฝนไม่ตกมาหลายสิบปี
อายาเสะเงยหน้ามองดาบเพลิงยักษ์ใบหน้าของเขามืดลง เขายกดาบที่ไม่เหลือสภาพสมบูรณ์ขึ้น ก่อนจะถอนหายใจ เขาไม่สามารถรับการโจมตีนี้ได้ เขาได้แต่ยืนรอความตายอย่างไม่ยินยอม
ขณะที่กำลังรอรับชะตากรรม
เสียงตะโกนอันทรงพลังก็ดังขึ้น
“หยุด!”
วูบบบ บนท้องฟ้า เครื่องบินล่องหนสองลำปรากฏขึ้น ชายวัยกลางคนใบหน้าหล่อเหล่าในชุดสีเทาของหน่วยเงา กระโดดออกมายืนบนเครื่องบินล่องหน เขามองลงไปที่ฮิโรกิด้วย พลังกดดันอันทรงพลังแผ่กระจายออกจากร่างของเขา
ขั้นที่ 9 กำเนิดปราณ!
ฮิโรกิมองชายวัยกลางคนผู้มาใหม่ด้วยความตกตะลึง
นี่…คนของหน่วยเงา พวกเขามาถึงที่นี่เร็วอย่างนี้ได้ยังไง แม้จะใช้เครื่องบินล่องหน แต่ก็ไม่น่าจะถึงเร็วขนาดนี้
หรือว่าเป็นเพราะพลังของแมวปีศาจ เขาได้รับข้อความว่าแมวปีศาจออกจากโบราณสถานไม่ถึง 30 วินาที ยังไม่ทันทำอะไร ก็มีตัวช่วย พลังแห่งโชคช่างแข็งแกร่งจริงๆ
ฮิโรกิตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ถ้าเขาไม่ทำอะไร เขาจะต้องถูกเจ้านายฆ่าตายแน่ๆ
“นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างสำนัก คนนอกไม่มีสิทธิ์เข้ามาขัดขวาง”ฮิโรกิตะโกนดังก้อง ก่อนจะฟันดาบเพลิงยักษ์ไปที่เครื่องบินล่องหน ทุกคนที่เห็นต่างตกตะลึง พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่าฮิโรกิจะกล้าโจมตีคนของหน่วยเงา
คอมเม้นต์