ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 470 สอบถาม
“นั่งลงก่อน”อวี่หวังถงเชิญให้ทั้งสองนั่งเก้าอี้สองตัวที่วางฝั่งตรงข้าม จิวโมไป๋และฟงอี้เฟยเดินเข้าไปนั่ง
อวี่หวังถงขยับนิ้วปิดภาพโฮโลแกรม แล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับจิวโมไป๋และเอ่ยแนะนำตัวด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง
“ฉันอวี่หวังถง หัวหน้าหน่วยหมาป่า“
“หัวหน้าอวี่ ผมจิวโมไป๋”จิวโมไป๋แนะนำตัวกลับอย่างกระชับเรียบง่าย เพราะเขารู้ว่าอีกฝ่ายได้อ่านข้อมูลของเขาก่อนมาสอบถามแล้ว
ฟงอี้เฟยไม่แนะนำตัว เพราะเขารู้จักกับอวี่หวังถงก่อนแล้ว
อวี่หวังถงพยักหน้าช้าๆ มองดวงตาสงบนั่งไร้ระลอกของจิวโมไป๋ ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย พลางสงสัยในใจ เด็กหนุ่มตรงหน้าดูสงบกว่าวัยรุ่นทั่วไป สามารถรักษาความสงบได้ในระดับนี้ สภาวะจิตใจแข็งแกร่งไม่ธรรมดาจริงๆ แม้แต่คนที่ถูกเรียงดูมาจากตระกูลระดับสูง ก็หายากที่จะรักษาความสงบได้อย่างนี้
อวี่หวังถงขยับร่างกาย ร่างโน้มมาข้างหน้า ดวงตาพลันเปลี่ยนแหลมคม บรรยากาศในเต็นท์พลันกลายตึงเครียด หนักอึ้งในพริบตา
“ฉันได้รับหน้าที่ให้ตรวจสอบการโจมตีครั้งนี้ นอกจากพวกนายทั้งสองแล้ว ไม่มีผู้โดยสารคนไหนออกจากรถไฟฟ้าความเร็วสูง ทำให้พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการโจมตีด้วยอาวุธร้อนข้างนอกเลย มีเพียงพวกนายสองคนที่ออกจากรถไฟฟ้าเท่านั้น ที่อยู่ด้านนอก และได้ต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้าย ดังนั้นฉันต้องขอความร่วมมือกับพวกนาย ช่วยบอกฉันทุกอย่างเกี่ยวกับการโจมตี รายละเอียดเล็กๆก็ต้องบอกให้หมด”
จิวโมไป๋รักษาความสงบเอาไว้ ราวกับไม่รู้สึกถึงความกดดัน เหลือบมองฟงอี้เฟยเล็กน้อย ฟงอี้เฟยพยักหน้าให้ เขาจึงเป็นคนแรกที่จะพูดก่อน
อวี่หวังถงเห็นว่าจิวโมไป๋ยังคงรักษาท่าทางสงบนิ่งไม่หวั่นไหว เขาก็ผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะเอื่อมมือไปหยิบแผ่นวงรีสีดำสนิท ออกมาวางตรงหน้าของจิวโมไป๋ บนหน้าแผ่นวงรีกระพริบก่อนจะมีตัวเลขสีแดงและเขียวเป็นขีดสองด้าน
“นี้คือเครื่องจับโกหก”อวี่หวังถงชี้ไปที่แผ่นวงรี นิ้วขยับไปที่ขีดสีแดงก่อนจะพูดต่อ
“ถ้าพูดโกหก ขีดสีแดงจะขึ้น 1 ขีด ยิ่งโกหกมากขีดสีแดงจะยิ่งเพิ่ม ถ้าพูดความจริงขีดสีเขียวจะเพิ่ม”
อวี่หวังถงดึงมือกลับ เงยหน้ามองจิวโมไป๋ก่อนจะยิ้มและพูดต่อ
“แม้ว่าจะไม่สามารถจับคำโกหกได้ 100% แต่อย่างน้อยก็สามารถจับคำโกหกได้ 80-90% ดังนั้นอย่าพูดโกหกหรือปั้นคำ มันจะนับเป็นขีดสีแดง”
พูดจบอวี่หวังถงก็กดที่กำไลข้อมือ เปิดการบันทึกวีดีโอและเสียง และพยักหน้าให้จิวโมไป๋ได้พูด
จิวโมไป๋เหลือบมองเครื่องจับโกหกอย่างใจเย็น ก่อนจะหันมามองอวี่หวังถงและพูดถึงเหตุการตั้งแต่แรก ที่รถไฟฟ้าความเร็วสูงทั้งสองคันจะเข้าชนกัน
อวี่หวังถงขมวดคิ้วเล็กน้อย มองขีดสีเขียวที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น เขาพบว่าในเหตุการณ์ที่จิวโมไป๋กำลังเล่าอยู่ มันมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติและน่าสงสัย แม้เขาได้อ่านรายงานให้ปากคำของฟงอี้เฟยมาก่อน แต่เมื่อได้ยินจากจิวโมไป๋ตรงๆ เขารู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้ เขายกมือให้จิวโมไป๋หยุดพูด ก่อนจะถามย้ำด้วยความน้ำเสียงจริงจัง
“นายรู้ได้ยังใง ว่ามีรถไฟฟ้าความเร็วสูงอีกคัน กำลังวิ่งเข้ามาจากรางเดียวกัน กับรถไฟฟ้าที่นายนั่งอยู่ รู้ไหมว่าปกติแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลย ที่รถไฟฟ้าความเร็วสูงจะเปลี่ยนเลนวิ่ง เพราะมันล็อคเส้นทางไว้แล้ว”อวี่หวังถงมองดวงตาของจิวโมไป๋ เขาได้เห็นภาพจากกล้องวงจรติด ในขบวนรถไฟฟ้าที่จิวโมไป๋นั่ง เขาสังเกตเห็นจิวโมไป๋มีท่าทางเหมือนจะ’พบ’อะไรบางอย่าง ก่อนจะเคลื่อนไหว ตะโกนบอกผู้โดยสารคนอื่นๆให้หาที่จับ และใช้่กฎแห่งธาตุไม้ช่วยผู้โดยสารแม่และลูกสาวที่นั่งข้างๆ
ก่อนจะทำลายพนังข้างรถไฟฟ้า และกระโดดออกไปอย่างเด็ดขาด การเคลื่อนไหวของจิวโมไป๋รวดเร็วเฉียบขาด เหมือนจะมั่นใจว่ามีรถไฟฟ้าอีกคัน กำลังพุ่งตรงมาแน่ๆ ทั้งๆที่ในเวลานั้นแม้แต่ผู้ควบคุมรถไฟฟ้าก็ยังไม่พบความผิดปกติด้วยซ้ำ
เขาได้ตรวจสอบจากกล้องหลายมุมมอง ก็ไม่พบอะไรที่ทำให้จิวโมไป๋รู้ได้ ในเวลานั้นจิวโมไป๋กำลังเล่นกับเด็กสาวที่นั่งข้างๆ เขาไม่เปิดกำไลข้อมือด้วยซ้ำ แต่อยู่ๆเขาก็มีท่าทางเหมือนกับว่ารู้ว่า กำลังมีรถไฟฟ้าอีกคันวิ่งเข้ามาในเลนเดียวกัน
เขาได้ดูการต่อสู้ของจิวโมไป๋กับมือสไนเปอร์ ที่ถ่ายจากกล้องดาวเทียมแล้ว แม้ภาพจะไม่ชัดนักเพราะมีฝนตกและมีเมฆปกปิดท้องฟ้า แต่ด้วยเทคโนโลยี่กล้องชั้นสูง ทำให้สามารถมองผ่านฝนและเมฆได้ แต่ภาพที่ได้มันไม่ชัดเจนนัก และเขาก็ค้นพบอะไรบางอย่าง จิวโมไป๋เหมือนสามารถมองหามือสไนเปอร์ได้ในทันที และสามารถระบุตำแหน่งที่ซ่อนได้ด้วย
เขาจึงคาดเดาว่า จิวโมไป๋ได้รับการ’ปลุก’ความสามารถในการมองทะลุ มองไกล หรือความสามารถชั้นสูงอย่างตรวจจับอันตราย
ผู้ปลุกความสามารถประเภทการมองเห็นหรือการรับรู้ ในประเทศมังกรมีหลายคน แต่ละคนมีระดับความแข็งแกร่งของความสามารถไม่เท่ากัน มีตั้งแต่อ่อนแอ มองทะลุได้เพียงแผ่นกระดาษบางๆ ไปจนถึงมองทะลุกำแพงหนาเป็นเมตรได้ หรือมองไกลกว่า 5 กิโลเมตร โดยไม่สูญเสียโพกัส
ความสามารถในการตรวจจับอันตราย เป็นความสามารถหายาก แม้แต่ในหน่วยมังกรซ่อนมีเพียง 3 คน เท่านั้น และผู้ที่มีการตรวจจับอันตรายแข็งแกร่งที่สุด เขาสามารถรู้สึกถึงอันตรายในระยะ 100 เมตรได้
ถ้าจิวโมไป๋มีความสามารถตรวจจับอันตรายได้จริงๆ เขาสามารถตรวจจับได้ไกลกว่าหลายกิโลเมตร มันเป็นความสามารถระดับสูงมากจนน่ากลัว
อวี่หวังถงมองจิวโมไป๋นิ่ง เขาอยากให้จิวโมไป๋ มีความสามารถในการตรวจจับอันตรายจริงๆ เพราะหน่วยลับต้องทำภารกิจเสี่ยงอันตรายตลอดเวลา มีเพื่อนร่วมทีมที่มีความสามารถในการตรวจจับอันตราย จะทำให้ทีมปลอดภัยมากขึ้น
เขาจึงใช้ข้ออ้าง ในการถามถึงความสามารถของจิวโมไป๋ แม้มันจะน่าเกลียดและละลาบละล้วงไปมากก็ตาม
คอมเม้นต์