ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 472 การค้นพบที่น่าตกตะลึง! แก้ไขเคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ! (2418 คำ!)
“โอ้วววว ฟงอี้เฟย ทำไมนายสุภาพอย่างนี้ล่ะ ไม่สมกับเป็นตัวนายเลยนะ”เนี่ยฟูหานพูดลากเสียงยาวอย่างจงใจ สายตาก็ลอบมองจิวโมไป๋ เขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ ดวงตาของเขาเป็นประกายวูบหนึ่งก่อนจะหายไปในพริบตา
ฟงอี้เฟยยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใดๆราวกับรูปปั่น
“อะไรกัน คุณชายฟง กลายเป็นท่อนไม้ไปแล้วเหรอ”เนี่ยฟูหานเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจ ท่าทางของเขาราวกับอันธพาล
ฟงอี้เฟยนิ่งเงียบไม่ตอบ เนี่ยฟูหานก็เดินผ่านจิวโมไป๋มาหยุดหน้าฟงอี้เฟย ก่อนจะเอียงตัวไปข้างหน้า และขยับหัวไปทางซ้ายและสลับไปทางขวา สายตากวาดมองไปทั่วร่างของฟงอี้เฟย เหมือนกำลังสำรวจอะไรบางอย่าง ก่อนจะหยุดและดึงตัวกลับมายืนเผชิญหน้ากับฟงอี้เฟย เขายกมือขึ้นลูบคาง
“ก็คนไม่ใช่เหรอ? ทำไมแข็งทื่อแบบนี้”เนี่ยฟูหานยังคงพูดกวนโมโหไม่หยุด ในตอนนี้เนี่ยฟูหานเหมือนกลับไปเป็นคุณชายเสเพลแห่งเมืองหลวง
จิวโมไป๋เห็นว่าเริ่มมีคนมามุงดู เขาจึงหันมาหาเนี่ยฟูหานและถาม
“ทั้งสองคนรู้จักกันด้วยเหรอ?”
เนี่ยฟูหานนิ่งไปเล็กน้อย
ฟงอี้เฟยมองเนี่ยฟูหานด้วยหางตาก่อนพูด ด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ตระกูลของผม และตระกูลฝั่งแม่ของเนี่ยฟูหาน เป็นพันธมิตรกันมาหลายชั่วอายุคน ทำให้พวกเราเคยพบกันหลายครั้งในงานฉลองประจำปี”ฟงอี้เฟยพูดเพียงแค่นั้นไม่อธิบายต่อ
จิวโมไป๋ที่ได้ยินก็พยักหน้าช้าๆ ไม่ถามต่อ แต่สมองพลันคิดอะไรบางอย่างได้
ตระกูลฝั่งแม่ของเนี่ยฟูหาน คือตระกูลลู่ไม่ใช่เหรอ?
แต่เมื่อนึกดูดีๆ ในอดีตเนี่ยฟูหานหลบหนีจากการตามล่า ไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลฝั่งแม่ และย้ายไปประเทศเกาะ และได้รับโอกาสฝึกฝนเคล็ดลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิฉบับสมบูรณ์
ตระกูลลู่ไม่มีอำนาจถึงขนาดนั้นได้
แสดงว่าตระกูลฝั่งแม่ของเนี่ยฟูหาน ที่ช่วยเนี่ยฟูหานหลบหนี จะต้องเป็นฝั่งแม่ของแม่เนี่ยฟูหาน หรือก็คือยายของเนี่ยฟูหาน เพราะแม่ของเนี่ยฟูหานน่าจะใช้ชื่อตระกูลฝั่งพ่อของเธอ
เมื่อร่วมกับที่ฟงอี้เฟยบอกว่าตระกูลของพวกเขาเป็นพันธมิตรกันกันมาหลายชั่วอายุคน มีเพียงไม่กี่ตระกูลเท่านั้น ที่สามารถเป็นพันธมิตรกับตระกูลฟงได้
เขาคาดเดาได้ว่า ตระกูลฝั่งแม่ของเนี่ยฟูหานที่ฟงอี้เฟยพูดถึงก็คือ ตระกูลเล่ย!
หนึ่งในตระกูลผู้พิทักษ์เช่นเดียวกับตระกูลฟง
เมื่อรู้ว่าเนี่ยฟูหานมีสายเลือดของตระกูลเล่ย อะไรหลายๆอย่างก็เริ่มปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน เคล็ดวิชาที่เนี่ยฟูหานใช้ คงเป็นเคล็ดวิชาของตระกูลเล่ย และตระกูลเล่ยนั้น ก็มีอำนาจเพียงพอที่จะช่วยเนี่ยฟูหานหลบหนีออกจากประเทศ โดยที่ไม่ถูกนายกรัฐมนตรีฉิน ที่บ้าคลั่งตามฆ่า
เขาไม่แปลกใจที่ทำไมตระกูลผู้พิทักษ์สองตระกูลของประเทศมังกร ถึงมีตระกูลในประเทศเกาะ เพราะในอดีตการที่ตระกูลใหญ่จะย้ายถิ่นฐาน มันมีให้เห็นหลายครั้ง เหตุผลในการย้ายประเทศอาจเพราะต้องการแยกตระกูล หรือถูกขับไล่จากประเทศ ทำให้มีหลายตระกูลมีกิ่งก้านสาขาในหลายๆประเทศ
ไม่แปลกเลยที่ตระกูลฟงและตระกูลเล่ย จะมีตระกูลหลักหรือตระกูลสาขาที่ประเทศเกาะ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ก็เกิดประกายบางอย่างขึ้นในใจ สีหน้าของจิวโมไป๋พลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะซ่อนมันอย่างรวดเร็ว
เป็นไปไม่ได้!
จิวโมไป๋คิดอะไรบางอย่างที่สุดโต่งขึ้นมา
สมองของเขารู้สึกเจ็บจากการใช้ความคิดมากเกินไป เขาสงบอารมณ์ให้เย็นลง ก่อนจะคิดทบทวนดีๆ ยิ่งเขาคิดมากเท่าไหร่ เขาก็ต้องตกตะลึงมากกว่าเดิม
เป็นไปไม่ได้! จิวโมไป๋ปฏิเสธอีกครั้ง เขาไม่อยากจะเชื่อความคิดของตัวเอง แต่สุดท้ายเขาค่อยๆปะติดปะต่อ เขาก็ยิ่งรู้สึกถึงความเป็นไปได้อันน่าตกตะลึง
เขาเข้าใจแล้ว ว่าทำไมเมื่อเขาเห็นเคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ เขาถึงมีความรู้สึกแปลกๆ
เพราะมันมีบางส่วนคล้ายกับเคล็ดบ่มเพาะพลังตาพายุของตระกูลฟง!
ถ้าเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ เคล็ดบ่มเพาะพลังตาพายุ น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของเคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ เหมือนกับเคล็ดบ่มเพาะพลังของเนี่ยฟูหาน
แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ ก็จะมีถึง 4 ธาตุ!
นี่เป็นเหตุผลที่เขาปฏิเสธที่จะเชื่อ ก็เพราะว่าเคล็ดบ่มเพาะพลัง 4 ธาตุ เป็นเคล็ดวิชาระดับตำนาน!
ในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ผู้ที่มีเคล็ดบ่มเพาะพลัง 4 ธาตุ มีแต่ตระกูลเทพยุทธชั้นสูงเท่านั้น!
แม้แต่ตระกูลเทพยุทธชั้นสูงเอง ก็ยากที่จะครอบครองเคล็ดบ่มเพาะพลัง 4 ธาตุ
เคล็ดวิชาระดับนี้จะปรากฎขึ้นที่มิติโลกได้ยังไง!
ถ้าเรื่องถูกพูดออกไป มิติโลกจะถูกโจมตีทันที แม้จะมีพลังของสวรรค์และโลกคอยปกป้องมิติโลกอยู่ ก็ไม่อาจป้องกันพลังของเทพยุทธชั้นสูงได้เลย!
จิวโมไป๋รู้สึกใจเต้นรัวเร็ว เขาอยากจะรีบกลับไปทดสอบในทันที แต่ต้องพยายามห้ามใจเอาไว้
เนี่ยฟูหานพยายามยั่วโมโหฟงอี้เฟยจนเบื่อ เพราะอีกฝ่ายไม่ตอบโต้อะไรเลย พวกเขาพากันออกจากสถานนีรถไฟฟ้า
ฟงอี้เฟยตามหลังจิวโมไป๋อย่างเงียบๆ
เนี่ยฟูหานยังคงหันมาล้อเลียนฟงอี้เฟยในระหว่างทาง เขาทำตัวราวกับคุญชายนิสัยเสียของตระกูลใหญ่ เขารักษาบุคลิกคุณชายเสเพลแห่งเมืองหลวงเอาไว้
แต่โชคร้ายฟงอี้เฟยไม่สนใจเนี่ยฟูหานแม้แต่น้อย
พวกเขาออกจากสถานนีรถไฟฟ้า ท้องฟ้าก็มืดพอดี พวกเขาจึงไปที่พักโรงแรม IL และทานอาหารกันบนห้องอาหาร
“น้าลู่มีธุระ เธอจะกลับมาพรุ่งนี้เช้า และไปประชุมหินพนันเลย”เนี่ยฟูหานพูดถึงลู่หว่าน น้าสาวของเขา
“คุณลู่จะมาที่นี่เหรอ?”ฟงอี้เฟยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างไม่อาจควบคุม
เนี่ยฟูหานหันไปมองฟงอี้เฟย ก่อนจะเหยียดยิ้มเยาะ”นายจะจีบน้าของฉันเหรอ หึ ฝันไปเถอะ”
ฟงอี้เฟยใบหน้าแดงก่ำไม่รู้ว่าโกรธหรืออาย เขาไม่พูดกับเนี่ยฟูหานอีก
พวกเขาทานอาหารจนเสร็จ ก็แยกย้ายเข้าห้องพัก ฟงอี้เฟยอยู่ห้องติดกับจิวโมไป๋
จิวโมไป๋เข้ามาในห้อง เขาก็ตรงไปอาบน้ำเป็นอย่างแรก เมื่อร่างกายสะอาดสดชื่น สมองปลอดโปร่ง เขาก็มานั่งบนพื้นโล่ง ก่อนจะหลับตาเข้าไปในทะเลสติ
เมื่อเข้าไปในทะเลสติ กระบี่เลือนเร้นก็พุ่งออกมาจากตำหนักของมัน ตรงเข้ามาพัวพลันร่างของเขาอย่างออดอ้อน เขาลูบตัวกระบี่ มองไปยังตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น ก็พบกรรมชั่วมากมาย กรรมชั่วพวกนี้มาจากปู๋จิงคง แสดงให้เห็นว่า ปู๋จิงคงสังหารผู้คน ทำความชั่วร้ายไปมากมายขนาดไหน
จิวโมไป๋บังคับร่างวิญญาณ ลอยไปยังตำหนักยุทธลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ เขามองไปที่ลูกพลังงานสีม่วงแดงและมีกระกายสีเขียวเข้มใจกลางตำหนักยุทธ
ก่อนจะลอยเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าลูกพลัง ก่อนจะเอื้อมมือออกไป ในตอนนั้นเองตำหนักยุทธลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
จิวโมไป๋ท่องเคล็ดบ่มเพาะ ทำให้มันสงบลงเล็กน้อย ไม่เสียเวลาเขาวาดฝ่ามือบนลูกพลังงาน ก่อนที่ตัวอักษรสีแดง ม่วง และเขียวเข้ม เคล็ดวิชาประมาณสามแสนคำ ปรากฏขึ้นเหนือลูกพลังงาน
จิวโมไป๋กวาดตามองอย่างตั้งใจ ก็พบว่าความคิดของเขาถูกต้อง เคล็ดบ่มเพาะพลังตาพายุของตระกูลฟง มีบางส่วนคล้ายกับเคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิจริงๆ
ส่วนที่ทับซ่อนกันถูกดัดแปลงแก้ไข นี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เขาถึงมองว่าเคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะดูยุ่งเหยิง ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่จะสร้างขึ้นมาได้ เพราะมันถูกตัดส่วนสำคัญออกไปหลายส่วน!
“เคล็ดบ่มเพาะพลัง 4 ธาตุ! จริงๆ”จิวโมไป๋รู้สึกตื่นเต้นจนเกือบจะโหร้องออกมา ในตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าต้นฉบับของเคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะ คือเคล็ดบ่มเพาะพลัง 4 ธาตุจริงๆ
เขาพยายามสงบอารมณ์และศึกษาตัวอักษร หาจุดที่ถูกตัดออก
ยิ่งดู เขายิ่งมั่นใจ
ผู้สร้างเคล็ดวิชาลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ อาจได้รับเคล็ดบ่มเพาะพลังโบราณที่ไม่สมบูรณ์มา และด้วยพรสวรรค์หรือโชคดี เขาได้แก้ไขและสร้างเคล็ดวิชาลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิจนสำเร็จ แต่มันก็ไม่มีใครสามารถฝึกได้
แต่ทำไมในเคล็ดวิชาลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ จึงมีแค่ร่องรอยของกฎแห่งธาตุไฟ สายฟ้า และไม้เท่านั้น ทำไมไม่มี กฎแห่งธาตุลม?
เพราะไม่มีร่องรอยของกฎแห่งธาตุลม ทำให้เขาไม่คิดมาก่อนว่า เคล็ดวิชาลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิและเคล็ดบ่มเพาะพลังตาพายุ จะมีต้นกำเนิดเดียวกันจริงๆ
เขานิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะสลัดความคิดนั้นทิ้งไป คิดมากไปก็ไร้ประโยชน์
ดวงตาของจิวโมไป๋เต็มไปด้วยประกายเจิดจ้า เขาตระหนักกฎแห่งธาตุไฟ สายฟ้า ไม้ และลม เหมือนกับเคล็ดบ่มเพาะพลัง 4 ธาตุ ถ้าเขาสามารถแก้ไขมันได้ เคล็ดบ่มเพาะพลังนี้จะเป็นเคล็ดวิชาที่เหมาะกับเขามากที่สุด
จิวโมไป๋สูดลมหายใจก่อนจะแบ่งสมาธิ นึกถึงเคล็ดบ่มเพาะพลังตาพายุ ก่อนจะวาดมือซ้าย ตัวอักษรสีเขียวอ่อน จากเคล็ดบ่มเพาะพลังตาพายุ จำนวนตัวอักษรเกือบแสนลอยขึ้นกลางอากาศ
จิวโมไป๋มองเคล็ดวิชาทั้งสองก่อนจะวาดสองมือ ตัวอักษรของเคล็ดบ่มเพาะพลังตาพายุแถวหนึ่งแยกออกมาหนึ่งบรรทัด พวกมันลอยออกมาก่อนจะตกลงไปบนเคล็ดวิชาบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ
ตัวอักษรสีเขียวอ่อนพยายามแก้ไขข้อความทั้งประโยคอย่างช้าๆ
ใบหน้าของจิวโมไป๋เคร่งเครียด เขาใช้เพ่งสมาธิใช้พลังจิตใจสูงสุด การแก้ไขวิชาไม่ใช้เรื่องง่าย แม้ว่าเคล็ดวิชาทั้งสองจะมีต้นกำเนิดเดียวกัน มันก็ยังยากลำบากอยู่ดี ไม่ต้องพูดถึงการแก้ไขเคล็ดบ่มเพาะพลัง 4 ธาตุยิ่งยากเป็นเท่าทวีคูณ!
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ข้อความค่อยๆแก้ไขทีละประโยค จำนวนตัวอักษรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 4 แสนคำ
ความเร็วในการแก้ไขเคล็ดบ่มเพาะพลังก็เริ่มช้าลงเรื่อยๆ
ใบหน้าของจิวโมไป๋เริ่มซีด เม็ดเหงื่อไหลอาบใบหน้า ความเร็วลดลง เขาแก้ไขไปได้เพียง 1 ใน 20 ของเคล็ดบ่มเพาะพลังเท่านั้น สมองของเขาก็ส่งเสียงกรีดร้องเพราะความเหนื่อยล้า
จนในที่สุดก็ถึงขีดกำจัด
เปรี้ยง! ตำหนักยุทธลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ตัวอักษรในเคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิ ระเบิดออกอย่างรุนแรง ผลักตัวอักษรสีเขียวอ่อนของเคล็ดบ่มเพาะพลังตาพายุ ก่อนจะเกิดพายุอันรุนแรงพันร่างของจิวโมไป๋กระเด็นออกไปจากตำหนัก
เขาพยายามประคองร่างวิญญาณ ไม่ให้ตกลงไปในทะเลปราณ
คลืนนนน ตำหนักยุทธลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ลูกพลังงานหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง
ในชั่วเวลาเพียงเสี่ยววินาที ก่อนที่ตัวอักษรทั้งหมดจะหายไป
จิวโมไป๋มองเห็นเงาเสมือนสีเขียวอ่อนบนลูกพลังงาน มันพริ้วไหวเหมือน ผ้าคลุมคล้องไหล่ของเทพประเทศเกาะ!
ดวงตาของจิวโมไป๋เป็นประกาย ผ้าคลุมคล้องไหล่ มีลักษณะคล้ายเงาอวาตารของเคล็ดบ่มเพาะพลัง อาภรณ์สายลม ที่เขาสร้างให้กับอู่เหวิน!
ตัวอักษรสีเขียวอ่อนถูกกำจัดจนหมด ตำหนักยุทธลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิจึงกลับมาสงบ
จิวโมไป๋พ้นลมหายใจออกมาอย่างหนักและหลับตา พยายามฟื้นฟูความเหนื่อยล้าทางจิตใจ ความเหนื่อยล้าของจิตใจ ฟื้นฟูได้ยากกว่าร่างกาย
1 ชั่วโมง จิวโมไป๋ก็ลืมตา แม้จะยังมีความรูสึกปวดที่สมองอยู่บ้างก็ตาม
เขามองตำหนักยุทธลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิด้วยความผิดหวัง เขาใจร้อนเกินไป แม้แต่ในช่วงเวลาที่เขามีความแข็งแกร่งที่สุด ก็ไม่สามารถสร้างหรือแก้ไขเคล็ดบ่มเพาะพลัง 4 ธาตุได้
จิวโมไป๋ครุ่นคิดถึงความผิดพลาดของตัวเอง และวิเคราะห์กระบวนการแก้ไขเมื่อครู่ เขาก็พบอีกอย่างคือ แม้จะแก้ไขรวมเคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิและเคล็ดบ่มเพาะพลังตาพายุแล้ว ยังมีบางส่วนขาดหายไป และมันก็เป็นส่วนสำคัญอีกด้วย!
พูดได้ว่าแม้จะแก้ไขจนสำเร็จ ก็ไม่ใช่เคล็ดบ่มเพาะพลัง 4 ธาตุที่สมบูรณ์อยู่ดี
จิวโมไป๋ถอนหายใจพลางนึกถึงบางอย่างได้ เมื่อครู่ในตอนที่เคล็ดบ่มเพาะพลังลมหายใจแห่งเทพฟุสึโนะจิผลักเคล็ดบ่มเพาะพลังตาพายุออก เขามั่นใจว่ามันมี เงาเสมือนคล้ายกับ เงาอวตาร อาภรณ์สายลมอย่างแน่นอน
ลักษณะของเงาเสมือนที่เขาเห็น คล้ายกับผ้าคลุมคล้องไหล่ของเทพประเทศเกาะ
ดวงตาของจิวโมไป๋พลันส่องประกาย
เขาลืมไปได้ยังไง
เคล็ดบ่มเพาะพลังของเนี่ยฟูหาน!
วงแหวนเทพเจ้า!
จิวโมไป๋อยากจะวิ่งไปที่ห้องของเนี่ยฟูหาน และถามเคล็ดบ่มเพาะพลังของอีกฝ่ายทันที แต่เขาต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้
“ยังก่อน ยังไม่ถึงเวลา”จิวโมไป๋ดึงสติออกจากทะเลสติ ก่อนจะทิ้งตัวนอนกับพื้นอย่างหมดแรง
คอมเม้นต์