ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 473 หลังการโจมตี
ดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยวสีเหลืองนวลลอยอยู่กึ่งกลางท้องฟ้า สายลมอันหนาวเย็นพัดผ่าน ภูเขาสีดำจากคราบเขม่าและหลุมระเบิดกว้างกว่าร้อยเมตร พื้นที่ในระยะกว่า 20 ตารางกิโลเมตรถูกปิดกัน ห้ามใครเข้าหรือออก ถ้าไม่ได้รับการตรวจสอบก่อน
แม้จะผ่านไปหลายชั่งโมงแล้ว การตรวจสอบยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
เจ้าหน้าที่ทหารคุ้มกันอยู่ด้านนอก ด้านในคนของหน่วยมังกรซ่อนหลายร้อยคน แยกกันตรวจสอบพื้นที่อย่างถี่ถ้วน พวกเขาเก็บตัวอย่างกระสุนปืนทุกนัด ปลอกกระสุน เศษมีดสั้น แม้แต่ชิ้นส่วนของกิ่งไม้ที่ถูกเหยียบในระหว่างการต่อสู้ ก็เก็บมาจนหมด
ในการโจมตีมีเครื่องบินล่องหนของหน่วยลับและมีการยิงกระสุนระเบิด มันแสดงให้เห็นว่ามีคนของหน่วยลับที่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบจึงต้องเก็บเป็นความลับ และต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด ห้ามปล่อยหลักฐานใดๆหลุดออกไป
ผู้คนที่ได้รับอันตรายจากการโจมตี ต้องลงนามเก็บรักษาความลับ และได้รับค่าชดเชยมหาศาล ก่อนจะถูกพาออกไปจนหมด เหลือเพียงเจ้าหน้าที่หน่วยมังกรซ้อนที่สามารถอยู่ภายในได้
พื้นที่ประสานงาน เต็นท์ด้านในสุด
“รถไฟฟ้าได้ถูกเปลี่ยนรางที่สถานีรถไฟฟ้าเทียนชู และวิ่งผ่าน 3 สถานี ก่อนจะถึงพื้นที่ปะทะ”ชายในชุดคลุมสีฟ้ายืนอยู่หน้าโต๊ะ อ่านรายงานที่เขาได้ตรวจสอบให้กับอวี่หวังถงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ในระหว่างที่รถไฟฟ้าขับสวนรางผ่านสถานีทั้ง 3 มีคนพบความผิดปกติ แต่พวกเขาไม่สามารถแจ้งรายงานได้ พวกเราได้ตรวจสอบแล้ว พบว่ามีการติดตั้งเครื่องรบกวนสัญญาณลวงหน้า 8 จุด ตลอดเส้นทางรถไฟฟ้า และบริเวณที่มีมือปืนซุ้มโจมตี ทำให้ในตอนนั้นไม่สามารถติดต่อใดๆได้ นี้เป็นเหตุผลที่คุณฟง ไม่สามารถขอกำลังเสริมได้”
อวี่หวังถงพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะพูด
“ไปตรวจสอบกล้องวงจรติดหาผู้ต้องสงสัย ดูคนที่อยู่บริเวณห้องควบคุม ในระหว่างเปลี่ยนรางรถไฟ จะต้องออกคำสั่งในห้องควบคุมของสถานีเท่านั้น ไม่มีทางที่จะสั่งงานระยะไกลได้”
“ครับ”ชายชุดคลุมสีฟ้าเดินออกนอกเต็นท์
อวี่หวังถงพิงเก้าอี้ ยกมือขวาขึ้นนวดขมับอย่างเหนื่อยล้า หลังจากใช้พลังสมองทั้งวัน ถ้าเป็นการต่อสู้ เขาจะไม่รู้สึกเหนื่อยแบบนี้เลย
“หัวหน้า”ผ้าใบเต็นท์ถูกเปิด ชายในชุดคลุมสีดำเดินเข้ามาพร้อมกับถุงใสปิดสนิท ภายในถุงมีกำไลข้อมือที่มีลักษณะบิดงอแทบจะเสียรูป จากความร้อน ตัวกำไลยังเปื้อนคราบดำคล้ำสกปรก
อวี่หวังถงเงยหน้าขึ้นมอง
ชายชุดดำวางถุงใสลงบนโต๊ะเบื้องหน้า ก่อนจะกล่าวด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“ผลตรวจมาแล้วครับ ผมได้เปรียบเทียบDNAของของประชากรทั้งหมดที่บันทึกไว้แล้ว ไม่พบDNAที่ตรงกันเลยสักอันเดียว แม้แต่DNAที่ใกล้เคียงก็ไม่พบ มีความเป็นไปได้เพียง 3 อย่าง ที่ทำให้ไม่สามารถตรวจพบDNA คือ หนึ่ง เป็นคนนอก ที่ไม่เคยมีประวัติอาชญากร ทำให้ไม่มีการบันทึกDNAไว้ สอง เป็นอาชญากรซ่อนเร้นที่ไม่เปิดเผยตัวตน”
ชายชุดดำหยุดสูกลมหายใจก่อนกล่าวต่อ“3 เป็นอาชญากรที่ต่างประเทพไม่ส่งตัวอย่างDNA ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย เพราะหลังจากเข้าสู่ยุครุ่งอรุณ ทุกประเทศทั่วโลกต่างออกกฎหมายควบคุมอาชญากรอย่างเข้มงวด เมื่อมีอาชญากรเกิดขึ้น ไม่ว่าประเทศใดประเทศหนึ่ง จะต้องส่งตัวอย่างDNA ของอาชญากรคนนั้นอย่างไม่มีข้อแม้”
“แต่ในเหตุการณ์นี้โอกาสที่จะเป็น 3 ข้อนี้ มีน้อย พวกเราได้ตรวจสอบการเข้าออกของนักท่องเที่ยวหรือผู้ประกอบการที่เข้ามาทำธุรกิจทั้งหมด ไม่พบผู้ต้องสงสัยเลย”
ชายชุดดำเงียบไปเล็กน้อย เขามีท่าทางลังเลก่อนจะพูด
“ดังนั้นความเป็นไปได้สุดท้ายคือ คนๆนั้นจะต้องอยู่ในหน่วยมังกรซ่อน เพราะว่ามีกฎการคุ้มครองสมาชิก ที่จะเก็บความลับทุกอย่างของสมาชิก ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลDNAใดๆปรากฏในฐานเก็บDNA”
เกิดความเงียบไปครู่หนึ่ง
อวี่หวังถงยกมือขึ้นช้าๆ ก่อนที่โฮโลแกรมกระจกใสจะปรากฏขึ้นตรงหน้า
“ยืนยันการใช้อำนาจระดับ 5 ดาว เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลส่วนตัว”เสียงราบเรียบดังขึ้น
ชายชุดดำเดินเข้ามาก่อนจะวาดมือออก โฮโลแกรมก็ปรากฏขึ้น ก่อนจะส่งเข้าไปในโฮโลแกรมเบื้องหน้า
“กำลังตรวจสอบ…”
ผ่านไปเพียง 5 วินาที แผ่นโฮโลแกรมก็ปรากฏหน้าต่างแสดงตัวตน
ปู๋จิงคง นักรบ 5 ดาว…
ใบหน้าของชายชุดดำเปลี่ยนไปเล็กน้อย อวี่หวังถงมองชื่อปู๋จิงคงด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แปลกใจ เขาให้ชายชุดดำออกไป
เขาหลับตาตั้งสติ ก่อนจะกดส่งสัญญาณติดต่อออกไป ไม่นานก็มีภาพโฮโลแกรมของชายหญิง 5 คน ปรากฏขึ้น
“ผลการตรวจสอบยืนยันแล้ว ผู้ที่โจมตีคือ ปู๋จิงคงรองหัวหน้าหน่วยที่ 2″อวี่หวังถงรายงานผลการตรวจสอบ
ทุกคนไม่แสดงอาหารแปลกใจใดๆ เหมือนพวกเขารู้ผลของการตรวจสอบอยู่แล้ว
หญิงสาวใบหน้างดงาม แต่ดวงตาแหลมคมราวคมดาบ ในชุดคลุมสีม่วง หรี่ตาลง ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ความคิดของเด็กคนนั้นไม่ง่าย”
ทุกคนที่ได้ยิน เข้าใจคำพูดของหญิงสาว พวกเขากำลังคิดถึงความฉลาดในการตัดสินใจของจิวโมไป๋
พวกเขาพบกำไลข้อมือวางอยู่ก้นหลุมระเบิด ซึ่งมันผิดปกติอย่างชัดเจน กระสุนระเบิดรุนแรงขนาดไหนพวกเขารู้ดี พลังทำลายของมันสามารถทำลายกำไลข้อมือเล็กๆได้อย่างง่ายดาย
การที่กำไลข้อมือไม่ถูกทำลาย และยังวางอย่างโดดเด่นใจกลางกลางหลุมระเบิด แค่มองก็รู้แล้วว่า จิวโมไป๋จงใจวางเอาไว้ให้พวกเขาตรวจพบ
พวกเขาได้ตรวจสอบกำไลข้อมือแล้ว ข้อมูลด้านในถูกทำลายจนหมด ไม่มีร่องรอยให้ติดตาม พูดได้ว่ากำไลไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง แต่ตัวอย่างคราบเลือดบนกำไล ทำให้พวกเขาสามารถระบุคนที่ใส่มันได้ ทำให้สามารถบีบเป้าหมายในการตรวจสอบได้
ถ้ากำไลข้อมือไม่อยู่ในมือของพวกเขา ที่สามารถตรวจสอบDNA คนของพวกเขาเองได้ กำไลข้อมือมันแทบไร้ประโยชน์
แต่จิวโมไป๋สามารถคิดวิเคราะห์ในชั่วเวลากระชั้นชิดไม่ถึง 5 วินาที และทิ้งกำไลข้อมือให้กับพวกเขา
ความคิดของเด็ก ที่พึ่งเข้ามหาวิทยาลัยได้เพียงครึ่งปี ไม่ธรรมดาจริงๆ
“น่าเสียดายที่เด็กคนนี้ น่าจะเข้ากลุ่มของจี้หยางเฟย”อวี่หวังถงพูดขึ้นด้วยความเสียดาย
ทุกคนเงียบไม่พูดอะไรอีก พวกเขาไม่อยากมีปัญหากับคนบ้าการต่อสู้อย่างจี้หยางเฟย
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีแดง กวาดตามองทุกคนก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจ
“เพราะการโจมตีครั้งนี้ จะมีการประชุม เพื่อออกแบบกฎหมายใหม่ เราไม่สามารถปล่อยให้หนูที่ซ่อนอยู่ฉวยโอกาสเปลี่ยนระบบNuwaได้”
“ด้วยหลักฐานนี้ ว่ามีคนของหน่วยเราเกี่ยวข้อง เบื้องบนคงชะลอเวลาไปได้ซักพัก”หญิงสาวชุดสีเหลืองอ่อนพูด
“น่าเสียดายที่ไม่ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์เลย”ชายหนุ่มในชุดคลุมสีแดงถอนหายใจ
“ใครว่าไม่มี”อวี่หวังถงพูดขึ้น
คอมเม้นต์