ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 46 ยอดฝีมืออาวุธลับ

อ่านนิยายจีนเรื่อง ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ ตอนที่ 46 ยอดฝีมืออาวุธลับ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 46 ยอดฝีมืออาวุธลับ

เจ้าหมอนี่ที่แท้ก็พักอยู่ที่เมืองลั่วหยาง ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกกลับไม่พบ ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย[1]!

เยี่ยเว่ยหมิงหัวเราะหึหึ แล้วเรียกอาหวงเดินตามไปอย่างเงียบเชียบ

เจ้าหมอนี่แหละที่หลอกเขาเข้ารังหมาป่าอย่างสำนักมือปราบเทพ ถึงแม้ตอนหลังจะพบว่าสวัสดิการของรังหมาป่านี้ก็ไม่เลว ได้อาศัยทักษะที่เรียนจากสำนักมือปราบเทพมาสร้างความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วอยู่ในเกมนี้ก็ตาม

แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่อาจทำให้เขาละทิ้งความแค้นที่มีต่อเสี่ยวไป๋น้ำเต้าหู้ไปทั้งหมดได้

เจ้าเตี้ยเอ๊ย นายคิดจะขายน้ำเต้าหู้[2]สินะ?

NPC จอมหลอกลวงอย่างนายน่ะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคุณภาพน้ำเต้าหู้ที่นายขายจะไม่มีปัญหา!

ตอนนี้ฉันเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายของราชสำนัก ทางที่ดีอย่าให้ฉันเจอจุดอ่อนอะไรก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นนายแก้ตัวไม่ออกแน่ วันนี้ฉันจะตรวจสอบปัญหาเรื่องคุณภาพกับอนามัยในอาหารของนายสักหน่อย

หึหึหึ…

ขณะกำลังแอบคิดอย่างสะใจ เยี่ยเว่ยหมิงก็เดินตามหลังเสี่ยวไป๋น้ำเต้าหู้ออกนอกประตูเมืองไปแล้ว เขาพบว่าเสี่ยวไป๋น้ำเต้าหู้เดินไปได้สักระยะแล้วเลี้ยวเข้าทางแยกทางหนึ่ง พอดูแผนที่ ก็พบว่ามันคือทางไปหมู่บ้านโบตั๋น

เยี่ยเว่ยหมิงจำได้ว่าหมู่บ้านโบตั๋นก็เหมือนกับหมู่บ้านตู้คัง ล้วนเป็นหนึ่งในหมู่บ้านมือใหม่ที่อยู่ใกล้ลั่วหยาง

เจ้าหมอนี่ไปหมู่บ้านโบตั๋น นี่เตรียมจะไปขายน้ำเต้าหู้คุณภาพต่ำของตัวเอง หรือเตรียมจะไปหลอกผู้เล่นที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่คนอื่นเข้ารังหมาป่าอย่างสำนักมือปราบเทพอีก

จะว่าไปตอนนี้เกมก็ดำเนินมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ยังมีผู้เล่นใหม่เอี่ยมที่ไม่ได้กราบอาจารย์เข้าสำนักอยู่อีกหรือ

ตอนนี้ เสี่ยวไป๋น้ำเต้าหู้ที่อยู่ข้างหน้าเดินเข้าไปบนทางเล็กในป่าแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงที่ตามอยู่ข้างหลังรีบเร่งฝีเท้า แต่กระทั่งตอนที่เขาเข้าไปในป่า กลับไม่เห็นเงาของเจ้าหมอนั่นแล้ว

ขณะมองป่าที่กว้างโล่ง เยี่ยเว่ยหมิงก็อดขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้

เจ้าหมอนั่นวิ่งเร็วแฮะ!

ขณะเยี่ยเว่ยหมิงกำลังพิจารณาว่าจะดักรอที่หมู่บ้านโบตั๋นเลยดีหรือไม่

ทันใดนั้น!

มีสัญญาณเตือนกะทันหัน

พอรู้สึกได้ว่าอันตรายใกล้เข้ามา ปลายเท้าของเยี่ยเว่ยหมิงก็พลันแตะพื้น ชั่วพริบตาเดียวร่างกายก็ไถลเลื่อนออกจากจุดเดิมไปตามแนวขวางประมาณหนึ่งจั้ง

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!…

ขณะที่เยี่ยเว่ยหมิงเคลื่อนไหวหลบหลีก อาวุธลับนับไม่ถ้วนตกลงมาตรงหน้า ในจำนวนนั้นมีชิ้นหนึ่งที่แฉลบผ่านร่างกายเขาไป เกือบทำให้เขาได้รับบาดเจ็บคาที่

หลังจากยืนตั้งหลักได้แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็รีบชักกระบี่และหันตัวกลับมา พอเงยหน้ามองตามทิศทางที่อาวุธลับยิงออกมา สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาก็คือแสงเย็นนับไม่ถ้วนครอบคลุมไปยังจุดลมปราณสำคัญรอบกายของเยี่ยเว่ยหมิง อาวุธลับพวกนี้พุ่งมาอย่างดุดัน รวดเร็วมาก เป็นองศาที่คาดเดาไม่ได้ แม้จะเทียบกับหน้าไม้เทพจูเก๋อไม่ได้ แต่มือธนูหน้าไม้ทั่วไปอย่างโหยวโหยวก็เทียบไม่ติดเลย!

เยี่ยเว่ยหมิงไม่กล้าเมินเฉย ใช้กระบี่ชิงจู๋ในมือกวาดแนวขวางแล้วฟันในแนวตั้ง ดูเหมือนรวดเร็วร้ายกาจ แต่ความจริงกลับป้องกันรอบกายเขาอย่างแน่นหนาจนลมฝนมิอาจลอดผ่าน กอปรกับตัวกระบี่ชิงจู๋ที่มีสีเขียวมรกตเหมือนไม้ไผ่ หลังจากโบกกระบี่ขึ้นมาแล้ว มันก็ดูเหมือนตะกร้าไม้ไผ่สานใบหนึ่งที่ครอบร่างกายเขาไว้ตรงกลาง ไม่ว่าอาวุธลับของอีกฝ่ายจะกลับกลอกคาดเดายากสักแค่ไหน แต่กลับถูกคมกระบี่ของเขาโจมตีร่วงหมด ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่มีอาวุธลับกล้ำกรายแม้แต่ชิ้นเดียว!

แกร๊ง! แกร๊ง! แกร๊ง!

อาวุธลับต่างๆ ร่วงระนาวราวกับหยดฝน แต่เมื่ออยู่ภายใต้ท่าป้องกันอย่างมังกรร่อนล่อหงส์ กลับไม่มีสักชิ้นที่เข้าใกล้ร่างกายได้ เยี่ยเว่ยหมิงอาศัยพลังป้องกันจากมังกรร่อนล่อหงส์ต้านอาวุธลับไว้เอาไว้ พร้อมพุ่งไปยังใต้ต้นไม้เล็กต้นหนึ่งที่อีกฝ่ายใช้ซ่อนตัว ตามด้วยอาศัยช่องโหว่จากต้นไม้บังมุมโจมตีของอีกฝ่าย พลันเปลี่ยนจากฝ่ายป้องกันเป็นฝ่ายโจมตี กวาดกระบี่ชิงจู๋ออกมาฟันต้นไม้เล็กขนาดเท่าปากชามจนขาดเป็นสองท่อน!

แต่อีกฝ่ายเหมือนจะคาดเดาได้ตั้งแต่แรกว่าเขาจะลงมือแบบนี้ ชั่วพริบตาที่กระบี่ยาวของเขาโจมตีออกมา กลับเห็นเงาดำถลันขึ้นต้นไม้ แล้วกระโดดจากพุ่มไม้ของต้นที่ถูกเยี่ยเว่ยหมิงฟันขาดไปยังกิ่งไม้ของอีกต้นแล้ว

จากนั้นก็มีอาวุธลับยิงลงมาในแนวเฉียงอย่างหนาแน่นราวกับห่าฝนอีกครั้งทันที

วิชาตัวเบาอย่างเท่! ทักษะอาวุธลับโคตรเจ๋ง!

ต่อสู้กันมานานขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเยี่ยเว่ยหมิงยังไม่ได้เห็นว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นอย่างไรด้วยซ้ำ เห็นได้ว่าอีกฝ่ายเป็นตัวละครที่พัวพันได้ยากสุดๆ คนหนึ่ง

แต่หารู้ไม่ ว่าตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงตกตะลึง ในใจอีกฝ่ายกลับตกตะลึงยิ่งกว่า!

ผู้ที่ลอบโจมตีคิดว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในยอดฝีมือของเกมนี้เหมือนกัน แม้จะไม่เคยยอมรับกับปากตัวเองว่าเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งของสำนักถังเหมิน แต่ในใจเขาก็คิดอย่างนี้จริงๆ ต่อให้ช่วงนี้จะมีเด็กสาวที่ชื่อว่าโหยวโหยวผงาดขึ้นมาก็ตาม แต่เขาก็คิดว่าอีกฝ่ายก็แค่บังเอิญโชคดีทำภารกิจลับสำเร็จเท่านั้น หากพูดถึงความสามารถที่แท้จริง จะต้องเทียบเขาไม่ติดแน่นอน

ทว่าด้วยทักษะอาวุธลับอันยอดเยี่ยมของเขา ใช้เวลาโจมตีไปนานขนาดนี้แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าตนจะฝ่าวงล้อมกระบี่สามฉื่อของเจ้าหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าที่ไม่ได้

เจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่ แล้วที่เขาใช้คือเคล็ดกระบี่อะไร

อาศัยแค่เคล็ดกระบี่คุ้มกายที่หนาแน่นจนลมฝนมิอาจลอดผ่านของเขา หากจะกล่าวว่าเขาคือดาวอริของผู้เล่นสำนักถังเหมินทุกคนก็ไม่ถือว่ากล่าวเกินไป!

ดูท่าแล้ว การต่อสู้ของวันนี้คงจะต้องระวังตัวให้มากๆ!

ขณะครุ่นคิด ผู้ลอบโจมตีก็เปลี่ยนทักษะอาวุธลับใหม่ไปเรื่อยๆ แต่กลับถูกเยี่ยเว่ยหมิงต้านไว้ได้หมด ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ต้านอาวุธลับต่างๆ จนมาถึงด้านข้างต้นไม้เล็กที่อีกฝ่ายซ่อนตัวอยู่ ทว่ายังไม่ทันรอให้เขาโบกกระบี่ เงาดำบนต้นไม้ก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดไปหาต้นไม้อีกต้นแล้ว

แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็คาดเดาได้นานแล้วว่าอีกฝ่ายจะมาไม้นี้ กระบี่ชิงจู๋ในมือที่ชูขึ้นยังไม่ทันฟันลงมา เขาใส่พลังไว้ที่สองเท้า แทบจะพุ่งออกไปพร้อมอีกฝ่าย อาศัยความได้เปรียบด้านการเคลื่อนที่ไวบนพื้นราบของท่า ‘แปดก้าวไล่ทันคางคก’ นำไปอยู่ใต้ต้นไม้อีกต้นก่อนที่อีกฝ่ายจะมาถึง จากนั้นโบกกระบี่ชิงจู๋ฟันต้นไม้ขาดครึ่งท่อน

ผู้ลอบโจมตีนึกไม่ถึงว่าจู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงจะใช้วิธีคาดคะเนศัตรู หากเขาคือยอดฝีมือบู๊ลิ้มที่แท้จริง ต่อให้ต้นไม้ถูกฟันขาด ก็ยังคงอาศัยแรงกระโดดย้ายไปที่อื่นได้อยู่ดี แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นในปัจจุบันจะทำได้ แม้แต่เก็บค่าประสบการณ์จากตัวศพอย่างเยี่ยเว่ยหมิงก็ยังทำไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับเขาล่ะ

เท้ายังยืนได้ไม่ได้มั่นคง ผู้ลอบโจมตีร่วงลงมาจากต้นไม้ทันที ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็เตรียมตัวไว้ตั้งแต่แรกก็พุ่งกระบี่ไปยังจุดที่อีกฝ่ายกำลังจะตกลงมา แทงตรงไปยังหัวใจของอีกฝ่ายทันที

เขาใช้ท่าไม้ตายที่ร้ายกาจที่สุดของ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ไซซีกุมดวงใจ!

ทว่าผู้ลอบโจมตีคนนั้นก็ย่อมไม่ใช่ไก่อ่อนเช่นกัน ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เขาพลันโบกมือสองข้างพร้อมกัน โจมตีอาวุธลับสิบชิ้นมาที่เยี่ยเว่ยหมิงรวดเดียว ในจำนวนนั้นมีสองชิ้นที่เล็งมาทางจุดสำคัญอย่างคอหอยและหว่างคิ้วของเยี่ยเว่ยหมิง

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงเผชิญหน้ากับหนึ่งทางเลือก หากกระบี่นี้แทงออกไปโดยไม่เปลี่ยนท่า แม้จะสามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามบาดเจ็บหนัก และภายใต้การซ้อนทับค่าสเตตัสของสกิลกระบี่ชิงจู๋ เคล็ดกระบี่วีรสตรี ไท้ซัวเป็นไฉนและการคำนวณ จะต้องโจมตีจนอีกฝ่ายเกิดดาเมจคริติคอลแน่นอน แต่หากทำอย่างนั้น เขาก็จะต้องถูกอาวุธลับของอีกฝ่ายแทงเข้าอย่างจังเช่นกัน ในจำนวนนั้นยังรวมดามเจคริติคอลสองครั้งด้วย

จะชักกระบี่กลับแล้วป้องกัน หรือจะเจ็บหนักด้วยกันทั้งคู่ดีล่ะ

นี่ก็เป็นปัญหาหนึ่งเหมือนกัน!

เพียงแต่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้ เขาก็ไม่ได้มีความลังเลใดๆ กระบี่ชิงจู๋ในมือแทงไปทางหัวใจของอีกฝ่ายโดยไม่เปลี่ยนแปลง

เจ็บตัวทั้งคู่ก็เจ็บตัวทั้งคู่ เยี่ยเว่ยหมิงมีความมั่นใจกับพลังโจมตีของตัวเองมาก

ใช้ดาเมจแลกดาเมจ สุดท้ายคนที่ตายจะต้องไม่ใช่เขาแน่นอน!

[1] ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกกลับไม่พบ ยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย 真是踏破铁鞋无觅处,得来全不费工夫 หมายถึง พยายามหาแทบตายหาไม่เจอ พอเลิกสนใจกลับเจอง่ายๆ

[2] ขายน้ำเต้าหู้ 卖豆浆 มีอีกความหมายถึงก็คือผู้ชายที่ขายบริการทางเพศ

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด