ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 76 ดรอปของบอสแบบจุกๆ

อ่านนิยายจีนเรื่อง ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ ตอนที่ 76 ดรอปของบอสแบบจุกๆ อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 76 ดรอปของบอสแบบจุกๆ

ตอนที่ถังซานไฉ่ถามว่าอวี๋ชางไห่ดรอปอะไรบ้าง สะพานสวรรค์น้อยสุดสวยก็ปรากฏตรงปากซอยแล้ว นางส่งพิกัดในช่องทีมทันทีหลังจากเยี่ยเว่ยหมิงแทงอวี๋ชางไห่ตาย

ในตอนนี้สายตาของเฟยอวี๋ สะพานสวรรค์น้อยและถังซานไฉ่ล้วนไปรวมอยู่บนตัวเยี่ยเว่ยหมิง ชัดเจนว่าสงสัยมาก ว่าเขาที่เป็นกำลังต่อสู้หลักในการชิงฆ่าบอสได้ของดีอะไรบนตัวอวี๋ชางไห่บ้าง

เยี่ยเว่ยหมิงมองแวบหนึ่ง เห็นว่าโหยวโหยวเหมือนยังตามมาไม่ทัน เขาจึงส่งลิงก์ไอเทมที่ดรอปจากตัวอวี๋ชางไห่เข้าไปในช่องทีมเสียเลย

เยี่ยเว่ยหมิง [‘อักษรชิงเก้าโหล’ ‘รองเท้าชิงเหลียง’ ‘บันทึกข้อความสวี่จิ้ง’]

[อักษรชิงเก้าโหล (ระดับกลาง): หนึ่งในสุดยอดทักษะของสำนักชิงเฉิง ทักษะอาวุธลับสุดล้ำ

เงื่อนไขการฝึก: พละกำลัง 80 ความว่องไว 100 ท่าร่าง 80]

[รองเท้าชิงเหลียง (สีฟ้า): รองเท้าคู่หนึ่งที่คุณภาพระดับสุดยอด ทำให้ผู้สวมใส่ฝีเท้าเบาดุจสายลม

ท่าร่าง+30 ความว่องไว+20][บันทึกข้อความสวี่จิ้ง: คัมภีร์เต๋าเล่มหนึ่ง ค่าตระหนักรู้ +1]

เป็นตำราลับอาวุธลับระดับกลางเล่มหนึ่ง ตำราลับทักษะยุทธ์ระดับกลางเป็นสิ่งที่ผู้เล่นต้องการมากที่สุดในเวลานี้ เรื่องมูลค่าไม่ต้องพูดมากแล้ว

ต่อให้เป็นรองเท้าชิงเหลียงคุณภาพสีฟ้า แต่ก็จัดเป็นสินค้าเกรดสูงสุดในบรรดาอุปกรณ์ที่อยู่เลเวลเดียวกับศพ เมื่อเทียบกับอุปกรณ์สีเขียวที่สูงกว่าหนึ่งระดับ ก็ขาดแค่ค่าสเตตัสชุดเซ็ทแล้ว กล่าวได้ว่าเป็นไอเทมเกรดสูงสุดในบรรดาอุปกรณ์คุณภาพสีฟ้า!

เมื่อรวมกับคัมภีร์เต๋าที่เพิ่มค่าตระหนักรู้ วันนี้กล่าวได้ว่าเยี่ยเว่ยหมิงรับทรัพย์แบบจุกๆ

ชั่วขณะนั้น ทุกคนมองไปยังเยี่ยเว่ยหมิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา

เหมือนรู้สึกไม่ยอมที่ได้เห็นเยี่ยเว่ยหมิงโดดเด่นอยู่คนเดียว สะพานสวรรค์น้อยก็รีบแสดงของที่ดรอปได้ให้ทุกคนดูรอบหนึ่งเช่นกัน

สะพานสวรรค์คริสตัล [‘กระบี่ลมสน’ ‘ชุดเต๋าปากว้า[1]’]

[กระบี่ลมสน (ทองคำ): กระบี่พกระดับสูงของสำนักชิงเฉิงที่ทำจากวัสดุไม้ชั้นดี เสริมอานุภาพเคล็ดกระบี่ลมสนให้เด่นชัดขึ้น

โจมตี +140

กำลังภายใน 25%

เลเวลเคล็ดกระบี่ลมสน +1 (หากคุณเคยเรียนมาก่อน)]

[ชุดเต๋าปากว้า (ทองคำ): ชุดนักพรตเต๋าที่มีภาพปากว้าไท่จี๋ เหมือนมีการปลุกเสกพลังลึกลับ

ป้องกัน +100

กำลังภายในสูงสุด +1000

ความเร็วในการฟื้นฟูกำลังภายในเพิ่มขึ้น 10% กฎเต๋า +1]

ได้อุปกรณ์สีทองสองชิ้น กล่าวได้ว่าสะพานสวรรค์น้อยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้ไม่น้อยไปกว่าเยี่ยเว่ยหมิงเลย!

เมื่อเห็นสมาชิกที่เป็นกำลังหลักในการต่อสู้สองคนแสดงของที่ตัวเองได้รับอย่างสง่าผ่าเผย ถังซานไฉ่ก็ยักไหล่เล็กน้อย ส่งลิ้งก์ไอเทมในช่องทีมเช่นกัน

ถังซานไฉ่ [‘เปลี่ยนหน้า’]

[เปลี่ยนหน้า: ตำราที่บันทึกวิชาเปลี่ยนหน้าของงิ้วเสฉวนเอาไว้]

สิ่งนี้ดูเผินๆ เหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไร กล่าวเช่นนี้ไม่ใช่ว่าดูถูกศิลปะดั้งเดิม เพียงแต่คนในทีมของสำนักมือปราบเทพเหล่านี้ไม่ได้มีใจทะเยอะทะยานอันแรงกล้ากับศิลปะดั้งเดิมแขนงนี้

เพียงแต่ในสายตาของเฟยอวี๋ ต่อให้เป็นตำราลับเล่มหนึ่งที่ไม่รู้จักประโยชน์ใช้สอยเลย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี!

เมื่อดูแต่ละคนแสดงของที่ตัวเองได้รับ เฟยอวี๋ก็รู้สึกปวดไข่อยู่พักหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันรอให้เขาระงับความเจ็บปวด โหยวโหยวที่จนป่านนนี้ก็ยังไม่โผล่มา ก็ได้ลงดาบซ้ำเติมในช่องทีมอีกแล้ว

โหยวโหยว [‘เมล็ดโพธิ์’]

[เมล็ดโพธิ์ (สีฟ้า): หนึ่งในอาวุธลับที่เจ้าสำนักชิงเฉิงอวี๋ชางไห่ใช้จนเคยชิน

โจมตี +30 มีเอฟเฟ็กต์เจาะเกราะ เก็บกลับมาได้ จำนวน 100/100]

นอกจากหัวหน้าทีมซานเย่ว์ที่ตายก่อน ก็มีแค่ตัวเองที่ไม่ได้รับไอเทมดรอปอะไรเลย ได้แค่เงินสิบหกเหรียญทองอันน่าเวทนานั่นน่ะหรือ!

เฟยอวี๋ในตอนนี้รู้สึกวู่วามมาก อยากจะล้มโต๊ะเสียเลย!

สภาพจิตใจพังแล้ว!

เยี่ยเว่ยหมิง [โหยวโหยว เจ้าหนีไปไหนแล้ว ทุกคนมารวมตัวกันแล้ว ทำไมเจ้ายังมาไม่ถึงอีก]

โหยวโหยว [ข้าอยู่ที่สำนักคุ้มภัยทงเทียน พวกเจ้าตาม BOSS ไปกันหมดแล้ว ต้องมีคนคอยดูหลินเจิ้นหนานคุ้มภัยส่งหลินผิงจือไปที่สำนักมือปราบเทพสิ ไม่อย่างนั้นหากเขาพาบุตรชายหนีไปจะทำอย่างไร]

สิ่งที่โหยวโหยวกังวลไม่ใช่แค่มีโอกาสเกิดขึ้นเท่านั้น ทั้งยังมีโอกาสมากด้วย

ทว่าพวกเขารู้สึกได้ว่าหลังจากกำจัดอวี๋ชางไห่รวมทั้งสี่ปัญญาชนแห่งชิงเฉิงแล้ว แค่นำศพของบอสเหล่านี้ไปก็รายงานผลการปฏิบัติงานได้เลย

อย่างไรเสียผู้ร้ายที่ฆ่าคนกลางวันแสกๆ ในเมืองฝูโจวก็โดนประหารแล้ว หากเทียบกันหลินผิงจือก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นแล้ว

อย่างไรเสีย หลินผิงจือก็เป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม สังหารอวี๋เหรินเยี่ยนทิ้ง ทำได้เพียงนับว่าเป็นภารกิจรองรายการหนึ่งเท่านั้น

เมื่อไม่ได้บอกสถานการณ์โดยละเอียดเกี่ยวกับภารกิจ เช่นนั้นจะทำก็ได้ หรือจะไม่ทำก็ได้

เมื่อเทียบกันแล้ว แน่นอนว่าหัวของ BOSS เลเวลสี่สิบอย่างอวี๋ชางไห่มีแรงดึงดูดมากกว่านิดหน่อย

ที่สำคัญกว่านั้นก็คืออุปกรณ์!

เพียงแต่ความคิดของโหยวโหยวกลับแตกต่างจากคนอื่น

คนอื่นมีจุดเริ่มต้นจากมุมมองของเกม เลือกที่จะรับหรือไม่รับโดยอิงตามผลประโยชน์สูงสุด แต่ความคิดของโหยวโหยวกลับบริสุทธิ์กว่าคนอื่นเยอะ

เมื่อได้รับมอบหมายจากผู้อื่น ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด!

นี่ก็คือแนวคิดในการทำเรื่องต่างๆ ของโหยวโหยว เมื่อเทียบกันแล้ว นางกลับไม่แยแสรางวัลภารกิจอะไรนั่นเท่าไรนัก

เมื่อเห็นคำตอบของโหยวโหยวในช่องทีม เยี่ยเว่ยหมิงก็อดส่ายหน้ายิ้มไม่ได้ จากนั้นบอกกับเฟยอวี๋ที่มีสีหน้ากลัดกลุ้มว่า “เจ้าดูโหยวโหยวสิ ทั้งที่นางไม่ใช่ศิษย์ของสำนักมือปราบเทพ แต่กลับตั้งใจรับผิดชอบหน้าที่ของมือปราบยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก เมื่ออยู่ต่อหน้าเพื่อนร่วมทีมอย่างนี้ เจ้าไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือ”

เฟยอวี๋ถูกคำถามกะทันหันของเยี่ยเว่ยหมิงทำให้อึ้งไปชั่วขณะ เถียงกลับโดยจิตใต้สำนึกว่า “เจ้าเองก็เป็นมือปราบของสำนักมือปราบเทพเหมือนกัน เจ้าไม่ละอายหรือ”

“ข้าย่อมรู้สึกละอายอยู่แล้ว” เยี่ยเว่ยหมิงตอบอย่างมีเหตุผลเต็มปากเต็มคำ “ข้าก็เลยตัดสินใจจะมอบ ‘รองเท้าชิงเหลียง’ ให้โหยวโหยวชดเชยในฐานะที่นางช่วยพวกเรายกระดับความสำเร็จของภารกิจให้สูงขึ้นอย่างไร”

“ข้า…”

เฟยอวี๋รู้สึกพูดไม่ออกไปพักหนึ่ง มิน่าล่ะ เขาถึงได้รอตนอยู่ที่นี่!

เฟยอวี๋ยักไหล่อย่างจนใจ แล้วกล่าวอย่างโดดเดี่ยวออกมาว่า “ข้าได้แค่สิบหกเหรียญทองเอง หากจำเป็น ก็จะนำส่วนหนึ่งมาชดเชยให้ได้”

“งั้นก็ช่างเถอะ” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า “ที่จริงสาเหตุที่วันนี้สังหารอวี๋ชางไห่ได้ ก็เพราะพวกเราพยายามร่วมกัน ข้ากับสะพานสวรรค์น้อยแม้จะเป็นกำลังต่อสู้หลัก แต่ถ้าไม่มีพวกเจ้าช่วยถ่วงเวลา อาศัยแค่พวกเราสองคนก็สังหารอวี๋ชางไห่ไม่สำเร็จอยู่ดี ถึงขั้นอาจจะโดนอีกฝ่ายโจมตีก่อนที่กระบี่คู่ผนึกรวมจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างก็ได้”

หลังจากชะงักเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็กล่าวสรุปว่า “ดังนั้น ของที่ได้มาวันนี้ควรจะเป็นของพวกเราทุกคน เก็บของไว้ในมือของแต่ละคนชั่วคราว พวกเราไปรวมตัวกับกับโหยวโหยวและหัวหน้าทีมซ่านเย่ว์ที่สละชีพก่อนหน้านี้ที่สำนักคุ้มภัยทงเทียนก่อน ถึงตอนนั้นทุกคนค่อยปรึกษาปัญหาว่าจะแบ่งของกันอย่างไร ดีไหม”

เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงพูดเช่นนี้ แม้เฟยอวี๋จะยังรู้สึกไม่ยอม แต่ก็ต้องนับถือในความตรงไปตรงมาของเขาเช่นกัน

เก็บของทั้งหมดเข้ากระเป๋าสะพายหลังของเยี่ยเว่ยหมิง ต่อให้เขาจะเล่นลูกไม้ไม่นำออกมาแบ่งเป็นครั้งที่สอง แม้ทุกคนจะดูถูกเขา แต่ก็ไม่มีใครคิดหาวิธีการอื่นออกแล้ว

ถึงอย่างไรก็สู้ไม่ไหว

ทว่าภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขากลับเอ่ยเรื่องแบ่งรางวัลอีกครั้งอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย หากไม่ใช่คนที่จิตใจซื่อตรง เกรงว่าคงทำเรื่องที่เยือกเย็นอย่างเขาได้ยาก

เงินกระจุกใจคนกระจาย เงินกระจายใจคนกระจุก

คำสอนของปรัชญาเมธีที่ล่วงลับ จะมีสักกี่คนที่ทำได้จริง

“ข้าเห็นด้วย!”

ตอนที่เฟยอวี๋กำลังทึ่งกับความใจกว้างของเยี่ยเว่ยหมิง ทำให้เขารู้สึกยอมใจเบาๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ เขากลับได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวเห็นด้วยกับเยี่ยเว่ยหมิง

ไม่ต้องหันไปมอง เขาก็เดาออกว่าผู้พูดเป็นใคร

ซานเย่ว์ตายระหว่างต่อสู้ โหยวโหยวอยู่ที่สำนักมือปราบเทพ ในบรรดาสมาชิกทีมสำนักมือปราบเทพที่ตามมาถึงที่นี่ ก็เหลือแค่แม้สาวน้อยสะพานสวรรค์น้อยแล้ว

ขนาดนางยังเห็นด้วยแล้ว คนอื่นๆ ก็ยิ่งแสดงความเห็นคัดค้านไม่ได้แล้ว

เนื่องจากของดีที่ดรอปจากตัวอวี๋ชางไห่แทบจะมากองอยู่บนตัวพวกเขาสองคนหมดแล้ว!

ประโยคที่ฟังดูสบายๆ ของเยี่ยเว่ยหมิงได้ชำระล้างกระบวนการรับรู้ของเขาอีกครั้ง จากนั้นทุกคนก็พูดคุยปนหัวเราะพร้อมเดินทางไปยังสำนักคุ้มภัยทงเทียน

ครั้งนี้ทุกคนไม่เพียงแค่สืบหาตัวคนร้ายในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสำนักคุ้มภัยฝูเวยสำเร็จ แม้แต่ศัตรูที่แทบจะเอาชนะไม่ไหวก็ยังฆ่าตายไปแล้ว โหยวโหยวยังไม่ลืมที่จะส่งตัวหลินผิงจือที่เกี่ยวข้องกับคดีไปยังสำนักมือปราบเทพ

กล่าวได้ว่าพวกเขาทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว

คิดไปคิดมา รางวัลภารกิจระดับหกดาวนี้คงจะเพิ่มโบนัสให้เยอะมากแน่ๆ

คิดไปคิดมาก็ยังตั้งตารออยู่บ้างนิดหน่อย!

[1] ปากว้า (ปา-กว้า) คือ สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเต๋า แสดงถึงสรรพสิ่ง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด