ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 50 จี้หยกเซินหลัว

อ่านนิยายจีนเรื่อง ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ ตอนที่ 50 จี้หยกเซินหลัว อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 50 จี้หยกเซินหลัว

อาหวงลอบโจมตีสำเร็จ แม้จะไม่ได้สร้างดาเมจต่อเก๋ออ๋างโส่วมากนัก แต่กลับถ่วงฝีเท้าของเขาสำเร็จแล้ว

สำหรับโอกาสที่อาหวงเสี่ยงชีวิตช่วงชิงมาให้ เยี่ยเว่ยหมิงที่ชำนาญเรื่องหาโอกาสตอนต่อสู้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรก็ย่อมไม่พลาดง่ายๆ อยู่แล้ว เขาโคจรกำลังภายในไปที่สองเท้า ร่างกายเคลื่อนตามกระบี่ ชั่วพริบตาเดียวทั้งตัวก็เป็นเหมือยลูกธนูที่พุ่งออกจากสาย แทงตรงไปที่หัวใจของเก๋ออ๋างโส่ว

เขาใช้ท่าที่มีพลังทำลายล้างสูงที่สุดของ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ท่าไซซีกุมดวงใจ!

เก๋ออ๋างโส่วถลันหลบไปด้านข้างด้วยความตระหนกตกใจ แต่เนื่องจากน่องของเขาถูกอาหวงกัดไว้แน่น แม้จะหลบท่าไซซีกุมดวงใจสำเร็จ แต่กลับทำให้การหลบหลีกมีข้อจำกัดจนเกิดช่องโหว่ใหญ่มาก

จากนั้นเยี่ยเว่ยหมิงก็กวาดกระบี่กลับมาทันที หากเก๋ออ๋างโส่วคิดจะหลบอีกครั้ง มีหรือที่จะหลบทัน ถูกกระบี่ชิงจู๋กวาดผ่านหลังคออย่างรุนแรง

เลือดสดสาดกระจาย!

คมกระบี่ตัดผ่านคอหอย หากเปลี่ยนเป็นในชีวิตจริง นี่คือท่าไม้ตายที่ที่ปลิดชีพได้ในครั้งเดียวแน่นอน แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเกม หากสร้างผลโจมตีครั้งเดียวตายได้ง่ายขนาดนั้น แถบค่าพลังชีวิตเหนือศีรษะ BOSS ก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว

ดังนั้นกระบี่นี้ของเยี่ยเว่ยหมิง ค่าดาเมจที่โจมตีได้จึงมาจาก ค่าสเตตัสของตัวเอง+พละกำลังที่เพิ่มขึ้นจากเนื้อหมาป่าย่าง+ระดับความคมของอาวุธทองคำอย่างกระบี่ชิงจู๋+โบนัสโจมตีของเคล็ดกระบี่วีรสตรีขั้นเก้า+โบนัสดาเมจของไท้ซัวเป็นไฉน+ดาเมจคริติคอลจากการโจมตีจุดสำคัญ+โบนัสดาเมจคริติคอลของไท้ซัวเป็นไฉน

-1530!

กระบี่นี้ ไม่เพียงแค่ฟันพลังชีวิตของเก๋ออ๋างโส่วไปได้หนึ่งในสี่ส่วน ทั้งยังติดสถานะพิษด้วย

ด้วยคริติคอลและสถานะทั้งหมดของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ นี่คือพลังโจมตีสูงสุดที่เขาทำได้!

ได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ แม้จะเป็น BOSS อย่างเก๋ออ๋างโส่วก็ทนรับได้ยากเช่นกัน ขณะที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาใช้เท้าเตะทันที สะบัดให้อาหวงที่ห้อยอยู่บนขาเขากระเด็นออกไปโดยตรง หลังจากร่างกายอาหวงกระแทกบนต้นไม้ใหญ่อย่างรุนแรง มันก็ส่งเสียงครางอย่างอ่อนแออยู่พักหนึ่ง

เมื่อเห็นอาหวงได้รับบาดเจ็บหนัก เยี่ยเว่ยหมิงก็ร้อนใจทันที แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาไปจัดการ ถ้าแบ่งสมาธิไปตอนนี้ ก็มีแต่จะส่งอาหวงที่เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อสร้างโอกาสให้เขาลงหลุมศพไปโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น!

เห็นเขาหมุนคมกระบี่ในมือ แทงเข้าไปที่หัวใจของเก๋ออ๋างโส่วอีกครั้ง ในฐานะที่เก๋ออ๋างโส่วเป็น BOSS เลเวลยี่สิบกว่า เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะไม่มีสกิลโจมตีระยะประชิดเลย แต่เมื่อเทียบกับทักษะการใช้อาวุธลับอันเลิศล้ำของเขา กลับดูด้อยกว่าอย่างชัดเจน มิหนำซ้ำยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเยี่ยเว่ยหมิงด้วย

หลังจากผ่านไปเพียงห้ากระบวนท่า ก็โดนเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีต่อเนื่องอีกสองกระบี่ โดนแทงท้องน้อยหนึ่งกระบี่ โดนปาดบนขาขวาอีกหนึ่งกระบี่ ทั้งยังได้ผลตัดเส้นเอ็นอีกด้วย!

เส้นเอ็นขาดถือเป็นสถานะด้านลบแบบหนึ่ง หลักๆ จะเกิดขึ้นบนแขนขาของผู้เล่น หรือ BOSS เมื่อไรที่เกิดเอฟเฟ็กต์แบบนี้ แขนหรือขาข้างที่ได้รับบาดเจ็บก็จะอยู่ในสถานะเคลื่อนไหวไม่ได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง

ตอนนี้ขาข้างขวาของเก๋ออ๋างโส่วตกอยู่ในเอฟเฟ็กต์ด้านลบอย่างเส้นเอ็นขาดแล้ว วิชาตัวเบาที่ดีที่สุดบนตัวถือว่าถูกทำลายโดยสิ้นเชิงแล้ว

เขาในตอนนี้ตกอยู่ในสภาพเดียวกับปลาบนเขียง รอให้เยี่ยเว่ยหมิงฆ่าแกงได้ตามอำเภอใจ!

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงเช่นกัน แสดงทักษะของเคล็ดกระบี่วีรสตรีออกมา เริ่มสังหารเสียตรงนั้นเลย

หลังจากนั้นหนึ่งนาที การสังหารเสร็จสิ้นแล้ว

[ติ๊ง! คุณสังหารเก๋ออ๋างโส่ว BOSS เลเวล 23 สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 2500 แต้ม ค่าตบะ 250 แต้ม]

จากนั้น ก็มีประกาศ ทำเฟิร์สคิล BOSS ต่อเนื่องสามครั้ง

แม้เลเวลของเก๋ออ๋างโส่วจะไม่ได้สูงมาก แต่ทักษะการปกป้องชีวิตตัวเองกลับแข็งแกร่งมาก สาเหตุหลักเป็นเพราะฐานะของเขา ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้านสี่ของค่ายดอกบัว มีพี่ใหญ่สองคนคุ้มกะลาหัวอยู่ ตอนนี้ยังไม่มีผู้เล่นคนไหนพุ่งเป้ามาเล่นงานเขาที่ค่ายดอกบัวได้ กลับทำให้เยี่ยเว่ยหมิงได้โอกาสเหมาะในการทำเฟิร์สคิลกับ BOSS สำเร็จ

เพียงแต่ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงไม่มีอารมณ์มาทำเฟิร์สคิลอะไรนั่นหรอก ตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะคลำศพด้วยซ้ำ หลังจากสังหารเก๋ออ๋างโส่วตายแล้ว ก็ใช้ท่าร่างแปดก้าวไล่ทันคางคกสุดกำลังทันที พุ่งไปถึงข้างกายอาหวงในชั่วพริบตาเดียว แล้วนำยาเสริมพลังชีวิตเม็ดหนึ่งใส่ปากมัน

นี่คือสุนัขตัวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับภารกิจลับเชียวนะ เมื่อครู่ก็เพิ่งสร้างผลงานใหญ่อีก ถ้ามาตายไปอย่างนี้ ก็ถือว่าขาดทุนเกินไปแล้วจริงๆ

อาหวงเข้าใจมนุษย์มาก เมื่อเห็นการกระทำของเยี่ยเว่ยหมิง มันก็อ้าปากกลืนยาเสริมพลังชีวิตทันที

แต่ในฐานะที่อาหวงเป็น NPC ที่มีฟังก์ชั่นต่อเนื่องกัน รฟื้นตัวเร็วเหมือนผู้เล่นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ตอนนี้อวี๋ไต้เหยียนแห่งอู่ตังคงได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญต่อไปอย่างมีชีวิตชีวาแล้ว

ยาจินฉวงและยาเสริมพลังชีวิตของเยี่ยเว่ยหมิงทำได้เพียงดันทุรังรักษาชีวิตไว้ชั่วคราว ไม่ให้ตายในทันทีเท่านั้นเอง ถ้าอยากจะรักษาให้หาย ก็ยังต้องใช้วิธีการอื่น

เยี่ยเว่ยหมิงยื่นมือไปอุ้มอาหวงขึ้นมา หลังจากซ่อนมันไว้ตรงต้นไม้ที่ลับตาคนแล้ว เขาถึงได้หันตัวเดินไปคลำศพของเก๋ออ๋างโส่ว

ตามกติกาการแบ่งสรรค่าผลงาน เก๋ออ๋างโส่วคนนี้ถูกเยี่ยเว่ยหมิงกำจัดทิ้งเองคนเดียว ไอเทมดรอปบนตัวเขาทั้งหมดย่อมเข้ากระเป๋าของเยี่ยเว่ยหมิง ส่วนถังซานไฉ่ที่กำลังไล่ล่า BOSS อยู่อีกด้าน กลับไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะมอง

กวาดตามองผ่านๆ แวบหนึ่ง พบว่าของที่ดรอปได้จากเก๋ออ๋างโส่วมีดังนี้:

[จี้หยกเซินหลัว (ทองคำ): สลักจากหยกงามแบบพิเศษ แฝงไปด้วยพลังธาตุไม้กะ[1]อันอุดมสมบูรณ์ มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย

พลังชีวิตสูงสุด +1000

ความเร็วฟื้นฟูพลังชีวิต +10

ต้านพิษ +20%]

[ขว้างดาราเหิน (ระดับต้น): เดิมทีเป็นหนึ่งในวิชามวยซั่นโส่วของสำนักถังเหมิน แม้จะมีเพียงกระบวนท่าเดียว แต่อานุภาพน่าตกตะลึง เงื่อนไขการฝึก: ท่าร่าง 60 ความว่องไว 60][ปลอกข้อมือชังหลาน (สีฟ้า): ปลอกข้อมือสีน้ำเงินคู่หนึ่ง มีความประณีตงดงาม

ป้องกัน+30

ท่าร่าง+10

เพิ่มความเร็วโจมตีอาวุธระยะไกล 1%]

[กุญแจอายุยืน: กุญแจอายุยืนที่จ้าวหยวนวั่ยแห่งหมู่บ้านโบตั๋นทำให้หลานชาย สร้างจากทองคำบริสุทธิ์ แต่น่าเสียดายที่เหลือเพียงครึ่งชิ้น]

[เงิน 3 เหรียญทอง]

เป็นไอเทมสี่ชิ้นบวกกับเงินสามเหรียญทอง เยี่ยเว่ยหมิงเก็บมันไว้เอง และนำจี้หยกเซินหลัวคุณภาพทองคำชิ้นนั้นใส่ไว้บนสายสร้อยคอ ประเดี๋ยวเดียวก็ทำให้พลังชีวิตของเขาเพิ่มขึ้นแล้วหนึ่งเท่า

สมกับเป็นอุปกรณ์คุณภาพทองคำ!

เมื่อเงยหน้าขึ้นสังเกตการณ์สนามต่อสู้อีกสองแห่ง ก็พบว่าการต่อสู้ระหว่างไป๋จ่านจีกับหลินจื้อเพ่ยยังสูสี กล่าวได้ว่าสู้กันได้เหนือความคาดหมาย ส่วนจีไหลเหย่ คู่ต่อสู้ของถังซานไฉ่ ตอนนี้กลับทิ้งสหายซานไฉ่ที่เป็นคู่ต่อสู้ของตัวเองไปแล้ว กำลังพุ่งไปตรงต้นไม้ใหญ่ที่ซ่อนตัวอาหวง สำหรับการโจมตีด้วยอาวุธลับแบบต่างๆ ของถังซานไฉ่ อีกฝ่ายก็แค่อาศัยฟังเสียงแยกแยะตำแหน่งแล้วหลบหลีก ต่อให้ถูกโจมตีโดนหลายครั้งก็ไม่ได้แยแสแม้แต่น้อย ทำท่าราวกับว่าต้องการจะเล่นงานอาหวงให้ตายถึงจะยอมหยุด

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นดังนั้นก็ตกใจมาก ร้องตะโกนโดยจิตใต้สำนึก “อย่านะ!”

“หึ หึ หึ…” เมื่อได้ยินเสียงร้องตะโกนของเยี่ยเว่ยหมิง จีไหลเหย่กลับหัวเราะลั่นด้วยความลำพองใจที่สุด “ถ้าผู้หญิงบอกว่าอย่านะ นั่นก็แปลว่าเอาเลย!”

แกน่ะสิผู้หญิง พวกแกเป็นผู้หญิงกันทั้งบ้าน!

เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงเห็นเขาดึงดันขนาดนั้น ก็เหยียดกระบี่ขึ้นไปทันที พร้อมกล่าวเสียงเย็นว่า “กลับมา!”

เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงใช้วิธีการแบบนี้หยุดยั้งคู่ต่อสู้ ถังซานไฉ่ที่อยู่ข้างๆ ก็ขำไม่ได้

สหายเยี่ยคนนี้ร้อนรนจนเลอะเลือนแล้วล่ะมั้ง?

อีกฝ่ายเป็น BOSS ผู้สง่าผ่าเผย จะมาเชื่อฟังเจ้าได้อย่างไร

ผ่านไปครู่เดียว เขาก็ค้นพบอย่างตกตะลึงว่า ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงตะคอกด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น ไม่น่าเชื่อว่าจีไหลเหย่นั่นจะเลิกสนใจอาหวงแล้วจริงๆ อีกฝ่ายเปลี่ยนเป้าหมายสังหารมาทางจุดที่เยี่ยเว่ยหมิงยืนอยู่ด้วยดวงตาแดงก่ำ ทำท่าราวกับว่าจะต้องสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง

เป็นฉากที่แปลกพิลึก ถังซานไฉ่มองจนลูกตาแทบหลุดออกจากเบ้า

พอนายสั่งให้ BOSS ไป BOSS ก็ไปจริงๆ แล้ว?

เชื่อฟังขนาดนี้เชียว!

นี่มัน…สถานการณ์อะไรกันแน่!

[1] ธาตุไม้กะ 甲木 คือไม้พลังหยาง เปรียบเป็นไม้ยืนต้น ไม้ใหญ่ มีพลังพุ่งขึ้นสู่ที่สูง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด