ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 179 มารบูรพา พิษประจิม

อ่านนิยายจีนเรื่อง ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ ตอนที่ 179 มารบูรพา พิษประจิม อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 179 มารบูรพา พิษประจิม

[ติ๊ง! ทีมของคุณโจมตีหวันเหยียนคัง BOSS โหมดปกติเลเวล 45 จนเข้าสู่สภาวะเฉียดตายสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 100000 แต้ม ค่าตบะ 50000 แต้ม!]

[ติ๊ง! เนื่องจากหวันเหยียนคัง BOSS โหมดปกติเลเวล 45 ที่ทีมของคุณโจมตีจนสาหัสจัดเป็น NPC เนื้อเรื่องพิเศษ ขั้นตอนการเก็บอุปกรณ์จะละไว้โดยอัตโนมัติ อุปกรณ์ที่ BOSS ดรอปจะถูกแบ่งไปที่แถบอุปกรณ์ของสมาชิกในทีมอัตโนมัติโดยอิงตามโหมดแบ่งไอเทมตามค่าผลงาน ตรวจดูเองได้]

[ประกาศจากระบบ: ผู้เล่นสำนักดาบโลหิต…]

……

นี่มันสถานการณ์อะไรกัน โจมตี BOSS เข้าสู่สถานะเฉียดตายแล้วหมายความว่าอะไร นี่ยังไม่ตายอีกหรือ

ยังโจมตี BOSS ไม่ตายแต่แจกรางวัลล่วงหน้า นี่เป็นวิธีการทำงานแบบไหนของระบบ

ตอนที่ทุกคนกำลังทำสีหน้างุนงง จู่ๆ กลับเห็นเงาร่างสูงใหญ่แฉลบมายืนอยู่ข้างกายโอวหยางเค่อด้วยความเร็วสูงสุด แล้วเจ้าตัวก็กล่าวเสียงต่ำว่า “ท่านอ๋องน้อยของเจ้าถูกพิษประหลาดจากหุบเขาเย่าหวัง นำสิ่งนี้ให้เขากิน มันถอนพิษได้”

“แล้วก็สิ่งนี้ด้วย ตอนประลองกระบี่ที่หัวซานปีนั้น หลังจากทุกคนสู้กันจนเหนื่อยแล้ว นี่คือยาน้ำค้างหยกเก้าดอกที่หวงเย่าซือแบ่งให้อา ให้เขากินสิ่งนี้ด้วยแล้วกัน”

เข้าร่วมการประลองยุทธ์เลือกคู่ เฉิงเหยาจินโผล่มาสังหารกลางทาง[1]

ถ้าจะถามว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ก็ต้องฆ่าพร้อมกันถึงจะเบาใจที่สุด!

สำหรับเจ้าคนขี้อวดที่กระโดดออกมากะทันหันคนนี้ ทุกคนย่อมไม่ได้รู้สึกดีอะไรกับเขาอยู่แล้ว

แต่ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงกับเพื่อนร่วมทีมของเขาเห็นชื่อปรากฏอยู่บนศีรษะของ BOSS คนนี้ กลับต้องสูดหายใจอย่างตกตะลึง!

[โอวหยางเฟิง]

หนึ่งในห้ายอดฝีมือแห่งใต้หล้า พิษประจิม!

เลเวล: 180

พลังชีวิต: ???/???

กำลังภายใน: ???/???

……

มารดาเจ้าเถอะ ขนาด BOSS ใหญ่เลเวล 180 ที่เป็นห้ายอดฝีมือแห่งใต้หล้ายังออกมาแล้ว ดูท่าทางระบบคงตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะปกป้องหวันเหยียนคังให้ได้

แต่พูดในฐานะผู้เล่น นับว่าระบบชดเชยให้เพียงพอแล้วเช่นกัน ไม่เพียงแค่ให้รางวัลครบ กลับให้มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

ต่อให้ไม่พูดถึงไอเทมดรอปจาก BOSS แค่รางวัลที่เป็นค่าประสบการณ์กับค่าตบะอย่างเดียว ก็สูงกว่า BOSS โหมดปกติเลเวลห้าสิบห้าอย่างโหวทงไห่ตั้งเยอะแล้ว

และถ้าจะให้สอดคล้องกัน ไอเทมดรอปจาก BOSS ก็ควรจะสูงกว่าพื้นฐานเดิมมากกว่าหนึ่งเท่าสิ

หากเป็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้คิดเล็กคิดน้อยแล้ว

อย่างไรเสียสิ่งที่ผู้เล่นสนใจจริงๆ ก็มีแค่ไอเทมดรอปจาก BOSS กับรางวัลภารกิจเท่านั้นเอง ตราบใดที่ได้ของครบ ใครจะไปสนใจว่าหวันเหยียนคังจะเป็น หรือจะตาย…

อย่างไรเสียต่อให้เขาไม่ตาย พวกเราก็ไม่มีอะไรเสียหายอยู่ดีละมั้ง

เป็นแบบนั้นเสียที่ไหนล่ะ!

(╯‵□′)╯︵┴─┴

ศพของหวันเหยียนคังล่ะ

ตำราลับตระหนักรู้ของข้าล่ะ

ค่าประสบการณ์ของข้าล่ะ

ถ้าไม่มีของพวกนี้ชดเชยให้ ความเสียหายของข้าก็ไม่ใช่น้อยๆ นะ

เยี่ยเว่ยหมิงเป็นคนประเภทที่เสียเปรียบแล้วไม่ล้างแค้นอย่างนั้นหรือ

ไม่ใช่อยู่แล้ว!

ดังนั้น เขาจึงมองสัมภาระของตัวเองปราดหนึ่ง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไอเทมดรอปจาก BOSS มีมูลค่าจริงๆ ก็ส่งข้อความในช่องทีมทันที [เฮ้ พวกเจ้าสังเกตเห็นหรือเปล่า ค่าประสบการณ์ ค่าตบะแล้วก็ไอเทมดรอปที่ได้จากการฆ่าหวันเหยียนคัง ล้วนไม่อยู่ในระดับที่ BOSS เลเวลสี่สิบห้าควรจะมี]

หลังจากชะงักไปครู่เดียว เขาก็กล่าวเสริมอีกว่า “ตามที่ข้าวิเคราะห์ รางวัลภารกิจที่ได้จากการกำจัดหวันเหยียนคัง ควรจะตัดสินจากเลเวลของคนที่ปกป้องเขา ก่อนหน้านี้เป็นโอวหยางเค่อเลเวลเจ็ดสิบห้าปกป้องเขา ดังนั้นพวกเราจึงได้รับรางวัลเยอะก็ตอนฆ่าโหวทงไห่ หรือพูดได้อีกอย่างว่าคำนวณรางวัลตาม BOSS โหมดภารกิจ เลเวลเจ็ดสิบห้า”

พอพูดถึงตรงนี้ บนใบหน้าของเยี่ยเว่ยหมิงก็ยิ่งเผยรอยยิ้มสดใสมากขึ้น “ตอนนี้เปลี่ยนเป็นโอวหยางเฟิงเลเวล 180 แล้ว หาก…”

“บัดซบ เจ้านี่ก็โหดเหมือนกันนะ!” เมื่อได้ยินเขาพูด เสวียนเสี่ยวก็สบถคำหยาบออกมาก่อน “ไม่ใช่ว่าพอเจ้าได้เห็นโอวหยางเฟิงแล้ว ยังคิดจะลงมือกับหวันเหยียนคังต่ออีกนะ”

เซียวเหยาถอนใจตกตะลึงเช่นกัน “แม้จะมีคำกล่าวว่า ‘ท้องแตกตายดีกว่าหิวตาย’ แต่ความกล้าหาญของเจ้าจะมากเกินไปหรือเปล่า นั่นคือ BOSS เลเวล 180 เชียวนะ! อีกฝ่ายแค่เป่าทีเดียวก็ทำให้พวกเราตายได้แล้ว เจ้ายังคิดจะแย่งหัวคนจากมือเขาอีกหรือ”

สะพานสวรรค์น้อยกลับไม่มีความลังเลใดๆ “ยาตัดวิญญาณเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว รอฟังคำสั่งทุกเมื่อ!”

น้องสาวคนนี้ไม่เคยคิดอะไรมากขนาดนั้น นางรู้เพียงว่าถ้าทำตามเยี่ยเว่ยหมิง ก็จะไม่เสียเปรียบแน่นอน ต่อให้ในระหว่างนั้นจะพบเจออันตราย ถึงขนาดว่าต้องตายหนึ่งครั้ง แต่เมื่อลองคำนวณแล้ว ตอนสุดท้าย ผลตอบแทนก็จะเยอะกว่าที่ลงทุนไปแน่นอน

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วยังจะคิดมากขนาดนั้นไปทำไม

เชื่อฟังเขาทุกอย่างนั้นถูกแล้ว!

เมื่อเทียบกัน หนึ่งดาบสามเฉือนกลับมีสติปัญญามากกว่า นางไม่ได้รีบแสดงท่าที แต่กล่าวอย่างสงบเยือกเย็นว่า “บอกแผนการของเจ้ามา”

“ข้ามีไพ่ลับใบหนึ่ง ถ่วงเวลาโอวหยางเฟิงได้ชั่วคราว ถึงขนาดว่าถ่วงเวลาโอวหยางเค่อด้วยก็ยังได้” เยี่ยเว่ยหมิงเผยเจตนาสังหารในแววตา “แต่พวกเจ้าก็น่าจะจินตนาการออก ว่าไพ่ลับนี้เป็นของล้ำค่าขนาดไหน ดังนั้นก่อนที่จะลงมือ ข้าต้องบอกเงื่อนไขไว้สามข้อ”

“ข้อแรก ถ้าแผนการนี้สำเร็จ ส่งตำแหน่งหัวหน้าทีมให้ข้า โหมดแบ่งไอเทมดรอปก็ต้องเปลี่ยนเป็นแบ่งโดยหัวหน้าทีม อุปกรณ์ที่ดรอปได้ทั้งหมดล้วนเป็นของข้า พวกเจ้าจะได้ไปเพียงค่าประสบการณ์ ค่าตบะ ค่าชื่อเสียงยุทธภพและค่าผลงานสำนักเท่านั้น

ข้อสอง ปฏิบัติการครั้งนี้อันตรายมาก คาดว่าพวกเจ้าก็ดูออกเช่นกัน ระบบเหมือนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่ให้หวันเหยียนคังตาย ดังนั้น แม้พวกเราจะถ่วงเวลาโอวหยางเฟิงได้ แต่ปฏิบัติการครั้งนี้ก็ยังอันตรายมากอยู่ดี เมื่อเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ก็ต้องเตรียมตัวตายคนละหนึ่งครั้งเอาไว้ทุกเมื่อ

ข้อสาม เกี่ยวกับการวิเคราะห์รางวัลกำจัดหวันเหยียนคัง ข้าก็แค่ใช้ความคิดตัวเองสรุปออกมาตามรางวัลที่ระบบแจกก่อนหน้านี้เท่านั้น ไม่ได้รับรองว่าจะถูกต้องเสมอไป บางทีเมื่อพวกเจ้าดิ้นรนสู้ตายจนถึงตอนสุดท้าย สิ่งที่ได้ไปอาจจะมีเพียงค่าประสบการณ์กับค่าตบะหลังจาก BOSS เลเวล 45 ตายเท่านั้น”

ส่งข้อความไปในช่องทีมอย่างต่อเนื่อง แล้วเยี่ยเว่ยหมิงก็พูดต่อว่า “เอาละ ข้าพูดไปเยอะขนาดนี้ พวกจ้าน่าจะตัดสินใจลงคะแนนได้แล้ว ข้าไม่บังคับใคร ถ้าสี่คนเห็นด้วยก็ทำกันสี่คน ถ้าสามคนเห็นด้วย…เนื่องจากมีโอกาสสำเร็จต่ำเกินไป เช่นนั้นก็ทำได้เพียงยกเลิกแผนการนี้”

ขณะมองเยี่ยเว่ยหมิงส่งข้อความในช่องทีม สะพานสวรรค์น้อยก็ตอบกลับเร็วมาก ชูสองมือแสดงออกว่าเห็นด้วย

ดูจากท่าทางของนาง เหมือนเฝ้าคอยการปฏิบัติการนี้จริงๆ

สำหรับนางแล้ว ประกาศจากระบบที่ดังทั่วทั้ง ‘เกมวีรบุรุษนิรันดร์กาล’ เดิมทีก็เป็นสิ่งยั่วยวนที่ไม่อาจปฏิเสธได้โดยตัวมันเองอยู่แล้ว

สำหรับเรื่องที่น่าเบื่ออย่างการออกทีวี นางมีความหมกมุ่นอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจได้ยาก

เป็นสาวน้อยที่มีเรื่องราวในอดีตคนหนึ่ง!

ส่วนอีกสามคนที่เหลือก็กำลังครุ่นคิดอยู่

ผลได้ผลเสียของแผนนี้ เยี่ยเว่ยหมิงวิเคราะห์ไว้ชัดเจนมากแล้ว

นี่เป็นการดีลธุรกิจผลตอบแทนสูงจริงๆ!

เยี่ยเว่ยหมิงลงทุนในแผนการนี้มหาศาลมาก เช่นนั้นของทุกอย่างที่เขาได้รับก็ใช่ว่าคนอื่นจะยอมรับไม่ได้ ถึงขั้นกล่าวได้ว่าสมเหตุสมผลแล้ว

เพราะอย่างไรเสีย ค่าประสบการณ์ ค่าตบะ ค่าชื่อเสียงยุทธภพและค่าผลงานสำนักที่ได้จากการฆ่า BOSS เลเวล 180 ก็เป็นของล่อใจชิ้นใหญ่ที่ผู้เล่นทุกคนปฏิเสธได้ยากอยู่แล้ว

นั่นคือ BOSS เลเวล 180 เชียวนะ!

จะมีค่าประสบการณ์เยอะขนาดไหน ค่าประสบการณ์เหล่านี้จะทำให้พวกเขาอัปเลเวลได้ต่อเนื่องถึงระดับไหน

แล้วยังจะได้ค่าตบะอีกเท่าไร ค่าตบะพวกนี้ทำให้วิทยายุทธ์ของพวกเขาอัปเลเวลถึงระดับไหน

ไหนจะรางวัลที่เป็นค่าชื่อเสียงยุทธภพกับค่าผลงานสำนักอีก หากย่อยและดูดซับของพวกนี้ได้หมด ก็จะเพิ่มความสามารถพวกเขาให้สูงขึ้นเกินหนึ่งระดับแน่นอน!

แล้วผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดหากแผนนี้ล้มเหลวคืออะไร

ตายหนึ่งครั้ง เสียค่าประสบการณ์วิทยายุทธ์หนึ่งวิชา 10%

หลังจากเปรียบเทียบแล้ว ทุกคนก็พบว่านี่คือการทำธุรกิจที่ผลตอบแทนงดงามจริงๆ ต่อให้แพ้แล้วก็ต้องจ่ายแค่เล็กน้อยเท่านั้น เป็นสิ่งที่รับได้แน่นอน

หลังจากชั่งน้ำหนักดูแล้ว เสวียนเสี่ยวปี่ก็แสดงท่าทีต่อจากสะพานสวรรค์น้อย “ข้าเห็นด้วย ไม่มีข้อโต้แย้ง!”

ตามติดด้วยน้องดาบ วิธีการพูดของแม่นางสุดหล่อคนนี้ก็ยิ่งมีพลังโน้มน้าว “แม้ข้าจะไม่รู้ว่าไพ่ลับที่ใช้ถ่วงเวลาโอวหยางเฟิงได้ตามที่เจ้าบอกคืออะไร แต่ก็จินตนาการได้ถึงความล้ำค่าของสิ่งนั้น เจ้าทุ่มทุนขนาดนี้ จะนำรางวัลไปทั้งหมดก็ไม่ถือว่าหน้าด้าน…

…แต่ขอบอกสิ่งที่ไม่น่าฟังไว้ก่อนล่วงหน้า ข้าต้องการเห็นโอวหยางเฟิงถูกควบคุมก่อนแล้วค่อยลงมือ หวังว่าเจ้าจะเข้าใจ”

น้องสาวคนนี้ถูกเยี่ยเว่ยหมิงวางกับดักจนกลัวแล้ว

สำหรับสิ่งนี้ เยี่ยเว่ยหมิงตอบทันทีว่า “ไม่มีปัญหา”

เมื่อเห็นเพื่อนร่วมทีมสามในสี่คนแสดงท่าทีแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็อดถามซักไซ้ในช่องทีมไม่ได้ว่า “เซียวเหยา แล้วเจ้าล่ะ”

[ข้าเพิ่งตายไปแล้วรอบหนึ่ง ตอนนี้เพิ่งรีบกลับมาจากจุดคืนชีพ] จากข้อความก็มองออกแล้วว่าน้องชายคนนี้ร้อนใจกว่าเยี่ยเว่ยหมิงเสียอีก [รอข้าก่อน กำลังจะถึงเดี๋ยวนี้!]

แผนการนี้มีคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์แล้ว ตามด้วยเปลี่ยนแปลงหัวหน้าทีมและโหมดแบ่งไอเทม

ตอนนี้เซียวเหยาถอนใจแสดงตัวออกมาแล้ว เขาวกจากจุดคืนชีพกลับมายังขอบเขตภารกิจ

ตอนนี้เตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงมองหวันเหยียนคังที่กึ่งเป็นกึ่งตายอยู่บนสังเวียน เรากับหมาป่าหื่นกามกำลังมองสาวงามเปลือยกาย พอเขาพลิกข้อมือ กระบี่ไม้ท้อยาวหนึ่งชุ่นก็ปรากฏอยู่ในฝ่ามือเขาแล้ว

[ประกาศิตกระบี่บุปผาโรย: เครื่องรางของมารบูรพาหวงเย่าซือ เมื่อเปิดใช้ประกาศิตนี้ ก็จะเรียกหวงเย่าซือออกมา แล้วขอร้องเขาได้หนึ่งเรื่อง หวงเย่าซือสัญญาว่า ขอเพียงไม่ใช่เรื่องที่เป็นความผิดร้ายแรงสิบประการ หรือบีบให้เขาทรมานกระดูกและเนื้อตัวเอง ก็จะรับปากทุกอย่าง!]

เป็นห้ายอดฝีมือแห่งใต้หล้าเหมือนกัน ให้หวงเย่าซือถ่วงเวลาโอวหยางเฟิงไว้ก็ไม่น่าจะมีปัญหากระมัง

ถึงขั้นว่าหากถ่วงเวลาได้เพียงตอนนี้ บวกโอวหยางเค่อเพิ่มไปอีกสักคนเขาก็น่าจะทำได้

ทันใดนั้น มือขวาของเยี่ยเว่ยหมิงที่กุมประกาศิตกระบี่บุปผาโรยก็ชูสูงขึ้นเหนือศีรษะ ทำท่าเหมือนจะโยนทิ้ง

หวงเย่าซือ ฉันเลือกนาย! ไป…

[ประกาศระบบ: ภารกิจเนื้อเรื่อง ‘ประลองยุทธ์เลือกคู่’ จบลงอย่างเป็นทางการ ผู้เล่นทุกคนที่เข้าร่วมภารกิจนี้ไปแลกรางวัลภารกิจได้ที่มู่เนี่ยนฉือ ผูู้จัดกิจกรรมนี้]

เพื่อรับประกันผลตอบแทนของบรรดาผู้เล่น ภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากภารกิจจบ เขตนี้จะห้ามการต่อสู้ทุกอย่าง การโจมตีต่อเป้าหมายใดๆ จะไม่มีผล (หากมีผู้เล่นจงใจจะฝ่าฝืนกฎนี้ ก็จะถูกส่งไปลงโทษที่คุก)

เมื่อได้ยินประกาศระบบที่ดังขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย มือขวาของเยี่ยเว่ยหมิงที่กำลังชูประกาศิตกระบี่บุปผาโรยก็ค้างนิ่งอยู่กลางอากาศทันที

ตอนนี้สีหน้าของเขาเป็นแบบนี้ (⊙_⊙)

มารดาเจ้าเถอะ!

นี่มัน…สถานการณ์อะไรกัน!

[1] เฉิงเหยาจินโผล่มาสังหารกลางทาง 半路杀出个程咬金 อุปมาว่าเกิดเหตุไม่คาดคิดจนทำอะไรไม่ถูก

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด